Home / รักโบราณ / ดรุณีกลางใจอ๋อง / บทที่ 47 ทุกข์ระทม

Share

บทที่ 47 ทุกข์ระทม

last update Last Updated: 2025-11-01 07:23:10

อวี้หนิงออกจากจวนตระกูลซูตรงไปยังร้านค้าต่าง ๆ ของตน นางไม่อยากจะกลับไปพบกับหลี่หยางเฉิงในเวลาเช่นนี้ จึงทำได้เพียงหลีกหนีการพบหน้าก็เท่านั้น กว่าจะกลับถึงจวนฉินอ๋อง แสงสุดท้ายของวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว หญิงสาวตรงไปยังห้องนอนทว่าพบว่าเจ้าชิงชิง แมวขาวขนปุยตัวอ้วนยังคงนอนอยู่ข้างล่างเตียงนอนของนางเช่นเดิม

อวี้หนิงยอบกายจ้องมองแมวน้อยที่บัดนี้ดวงตากลมโตของมันก็เงยหน้ามาจ้องมองนางเช่นกัน

“เจ้านายของเจ้าไม่คิดตามหาเจ้าเลยหรือ”

ชิงชิงปานรู้ความ เมื่อนางถามเช่นนั้นมันกลับเบือนหน้าหนี ราวคนกำลังเศร้าสร้อย

ร่างบางถอนหายใจ อดสงสารแมวขาวตัวนี้ไม่ได้ ชะตาชีวิตของมันไม่ต่างจากนางในตอนนี้เอาเสียเลย

“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปหาเจ้านาย” นางอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขน ก่อนเดินตรงไปยังเรือนอี้เหยา

ภายในเรือนอี้เหยาเงียบสนิท แม้ไฟถูกจุดทั่วทุกห้อง ทว่าเจ้านายของเรือนกลับไม่อยู่ อวี้หนิงถือวิสาสะเดินตรงไปยังห้องบรรทม ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยขออนุญาตเจ้าของเรือน เสียงร้อนรนของกัวเจียงเฟิงก็ดังลอดออกมา

“ท่านอ๋อง เห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 47 ทุกข์ระทม

    อวี้หนิงออกจากจวนตระกูลซูตรงไปยังร้านค้าต่าง ๆ ของตน นางไม่อยากจะกลับไปพบกับหลี่หยางเฉิงในเวลาเช่นนี้ จึงทำได้เพียงหลีกหนีการพบหน้าก็เท่านั้น กว่าจะกลับถึงจวนฉินอ๋อง แสงสุดท้ายของวันก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว หญิงสาวตรงไปยังห้องนอนทว่าพบว่าเจ้าชิงชิง แมวขาวขนปุยตัวอ้วนยังคงนอนอยู่ข้างล่างเตียงนอนของนางเช่นเดิม อวี้หนิงยอบกายจ้องมองแมวน้อยที่บัดนี้ดวงตากลมโตของมันก็เงยหน้ามาจ้องมองนางเช่นกัน “เจ้านายของเจ้าไม่คิดตามหาเจ้าเลยหรือ” ชิงชิงปานรู้ความ เมื่อนางถามเช่นนั้นมันกลับเบือนหน้าหนี ราวคนกำลังเศร้าสร้อย ร่างบางถอนหายใจ อดสงสารแมวขาวตัวนี้ไม่ได้ ชะตาชีวิตของมันไม่ต่างจากนางในตอนนี้เอาเสียเลย “มาเถอะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปหาเจ้านาย” นางอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขน ก่อนเดินตรงไปยังเรือนอี้เหยา ภายในเรือนอี้เหยาเงียบสนิท แม้ไฟถูกจุดทั่วทุกห้อง ทว่าเจ้านายของเรือนกลับไม่อยู่ อวี้หนิงถือวิสาสะเดินตรงไปยังห้องบรรทม ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยขออนุญาตเจ้าของเรือน เสียงร้อนรนของกัวเจียงเฟิงก็ดังลอดออกมา “ท่านอ๋อง เห

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 46 หลีกหนีไม่พ้น

    ตระกูลซูเป็นเพียงตระกูลเล็กที่มาจากชนบท ป้ายวิญญาณของบรรพชนจึงมีไม่มาก อวี้หนิงจ้องมองป้ายวิญญาณของมารดาผู้ล่วงลับ ภาพสตรีผู้งดงามในความทรงจำของนางผุดขึ้นมาในหัว มารดาของนางเป็นดั่งโพธิสัตว์โดยแท้จริง ชั่วชีวิตของมารดา อวี้หนิงไม่เคยเห็นนางโกรธเกลียดผู้ใดเลย แม้แต่หลินซือเหยียนที่เป็นอนุของบิดา สตรีที่เข้ามาทำลายชีวิตคู่ของนาง มารดายังไม่เคยขุ่นเคือง ซ้ำยังคอยช่วยเหลือไม่ให้สตรีชั่วช้าผู้นั้นได้รับความไม่เป็นธรรมเสียอีก จนวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง อวี้หนิงจึงเห็นความโกรธแค้นในสายตาของมารดาเป็นครั้งแรก “ท่านแม่ อีกไม่นานคนชั่วที่ทำกับท่าน กับตระกูลเหรินก็จะได้รับโทษแล้ว ท่านจะได้ปล่อยวางเสียที” เสียงหวานเจือด้วยความเศร้าเอ่ยกับป้ายวิญญาณเบื้องหน้า ก่อนที่อวี้หนิงจะลุกขึ้นปักธูปลงหน้าป้ายวิญญาณของซูเยว่หลิง น่าเสียดายที่ถึงวันสุดท้าย ท่านแม่ของนางก็ยังรักบุรุษไร้หัวใจเช่นบิดาของนางอยู่ ตอนอยู่ก็เป็นคนตระกูลซู พอตายไปแล้วมารดาของนางก็ยังเป็นผีตระกูลซู หญิงสาวเดินออกจากหอบรรพชนโดยมีเสี่ยวเหม่ยคอยประคอง นางตั้งใจอ้อยอิ่งรอดูจุดจบของหลินซือ

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 45 ความรักใคร่กลมเกลียวที่แสนเปราะบาง

    เมื่ออวี้หนิงออกไป หลี่หานเจี๋ยก็เดินเข้ามาภายใน “ท่านอ๋อง ต้องรีบขับพิษแล้ว” หยางเฉิงกุมหน้าอกของตน ยาพิษทุกข์ระทมภายในกายจากผู้เป็นตาที่มอบให้อย่างไรก็ไม่มีวันขับออกได้ ในยามที่หนาวเหน็บภายในร่างเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับไม่นึกเสียใจที่ขัดคำสั่งผู้นำตระกูลเฟิ่ง คิดช่วยเหลือซูอวี้หนิง เพราะนางเป็นดั่งคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของเขา ด้านอวี้หนิงไม่ได้กลับเรือนของตน แต่ให้คนนำรถม้าออกจากจวน มุ่งหน้าไปยังจวนตระกูลซู ทว่าก่อนจะออกจากจวน กลับมีรถม้าที่ติดตราจวนฉู่อ๋องหยุดเทียบกับรถม้าของนาง บุรุษตัวสูงก้าวลงมาจากรถม้า ทว่าใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความเศร้า หนวดเคราบนใบหน้าที่ไม่ได้ถูกจัดการให้เรียบร้อย บ่งบอกว่าเจ้าของร่างไม่สนใจไยดีกับร่างกายตนเองนัก ทั้งที่แต่ก่อนเขามักจะแต่งกายให้สะอาดสะอ้านเสียยิ่งกว่าสตรีเรือนหลังเสียอีก “คารวะฉู่อ๋อง” หนิงอวี่ยอบกายเคารพเขาตามธรรมเนียม หลี่เยว่ซิงมองนางด้วยแววตาที่ยังอาลัยอาวรณ์ แม้ผ่านมาครึ่งปี เขายังตัดนางออกจากใจไม่ได้ ต่างจากอวี้หนิงที่บั

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 44 เจ้าของหมากกระดานนี้

    อวี้หนิงนั่งลงบนตั่งกลมตรงข้ามเขา นี่คือการร่วมโต๊ะกินข้าวครั้งที่สองของเขาและนาง อาหารแปดอย่างวางอยู่บนโต๊ะ แต่นางที่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนกลับไม่นึกอยากอาหาร เพียงแต่นั่งจ้องมองบุรุษร่างสูงอยู่อย่างนั้น หยางเฉิงยังคงกินอาหารด้วยท่าทางไม่เป็นเดือดเป็นร้อน “เจ้าเอาแต่จ้องข้าก็ไม่มีประโยชน์อันใด หากต้องการทวงความเป็นธรรมให้ตระกูลเหริน เริ่มแรกเจ้าควรกินให้อิ่ม จะได้มีแรงไว้ต่อสู้กับศัตรูตัวจริง” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่มองมายังนางด้วยซ้ำ ได้ยินเช่นนั้น ร่างบางจึงยอมยกตะเกียบขึ้นคีบอาหารเข้าปาก มื้อเช้าของคนทั้งคู่จึงเป็นไปด้วยความเงียบ ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาใดกันอีก ผ่านไปหนึ่งเค่อ อวี้หนิงจึงรวบตะเกียบวางไว้บนโต๊ะ รอให้นางกำนัลยกเครื่องเสวยออกไป ภายในห้องโถงมีเพียงเขาและนาง หลี่หยางเฉิงจึงเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน “ชาที่เจ้าดื่มเมื่อครู่ ข้าใส่ยาพิษลงไป” น้ำเสียงเยือกเย็นไร้ความห่วงใยเอ่ยขึ้น เขาอยากรู้ว่านางจะมีท่าทีเช่นไรเมื่อรู้ว่าตนเองถูกพิษ ทว่าอวี้หนิงกลับไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ยังคงจ้องหน้าเขาอยู่เช่

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 43 ชายเสียสติผู้เยือกเย็น

    หลี่หยางเฉิงรู้ว่าสตรีในรถม้าใคร่รู้เรื่องราวเพียงใด จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เจ้าพักผ่อนเถิด ถึงเจ้าจะจ้องข้าอยู่เช่นนี้ ข้าก็ยังไม่คิดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เมื่อจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ข้าจะบอกกับเจ้าเอง” “ท่าน...” อวี้หนิงยังอยากจะเอ่ยถาม แต่เมื่อเห็นท่าทีไม่สนใจสิ่งใดของบุรุษที่ยังนอนเหยียดกายอยู่ นางจึงกลืนคำถามเหล่านั้นลงท้องไป ต้นยามอู่ รถม้าก็เข้าเขตเมืองฉางเล่อ หยางเฉิงจึงลืมตาตื่นพร้อมกับรถม้าที่หยุดลง “ท่านอ๋องถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เจียงเฟิงเอ่ยทูลจากด้านนอกฉินอ๋องหันมาจ้องมองอวี้หนิงที่ยังนั่งพินิจตนอยู่เช่นเคย “ข้าจะให้คนพาเจ้ากลับจวน อย่าคิดออกไปที่ใด ใช่ว่าคนที่ต้องปิดเรื่องตระกูลเหรินจะลามือ” คำพูดของเขายิ่งทำให้นางตื่นตกใจ “ท่านอ๋องรู้...” “กลับไปรอที่จวน เมื่อข้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะบอกเจ้าเอง” เมื่อทำอะไรไม่ได้ นางจึงเพียงพยักหน้ารับ ก่อนที่รถม้าสลักตราจวนฉินอ๋องจะมุ่งตรงเข้าเมืองไป อวี้

  • ดรุณีกลางใจอ๋อง   บทที่ 42 หลี่หยางเฉิง

    “คุ้มกันท่านอ๋อง!” เสียงเข้มของมู่หรงชิงดังก้อง ทหารคุ้มกันรายล้อมรอบรถม้าทั้งสามคัน เสี่ยวเม่ยรีบเข้ามาในรถม้า คอยปกป้องนายหญิงของตน สองนายบ่าวกอดกันไว้แน่น ภายในรถม้า หยางเฉิงยังเอนกายหลับตา ไม่เดือดไม่ร้อนอันใด ไม่ต่างจากอาจารย์หลี่และเจียงเฟิงที่นั่งอยู่หน้ารถม้า ไร้ท่าทีหวาดกลัว เสียงเหล็กกระทบเหล็กสะท้อนก้อง ผสมเสียงโห่ร้อง และเสียงหอบหายใจรุนแรงกลางความสับสน หิมะที่โปรยปรายยิ่งทำให้การป้องกันนั้นยากลำบากขึ้น ราวกับสวรรค์เป็นใจให้กลุ่มนักฆ่าใช้เป็นเครื่องมือพรางตัว กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเลือด และกลิ่นดินเปียกผสมกันจนแทบแยกไม่ออก นักฆ่าที่ถูกส่งมาไม่คิดละเว้นผู้ใด ดาบแหลมจึงพุ่งไปทั่วทุกสารทิศ ยังดีที่ทหารคุ้มกันต่างมีฝีมือ ใช้เวลาเพียงสองเค่อ นักฆ่าที่ถูกส่งมาครึ่งร้อยก็ล้มตายเกลื่อนพื้น ทว่าคนพวกนั้นกลับไม่คิดให้ผู้ใดเหลือรอด เมื่อเสียงฝีเท้านับร้อยเคลื่อนตรงมายังขบวนของหยางเฉิง บุรุษในอาภรณ์สีเข้ม สวมทับด้วยชุดเกราะสีดำลายพยัคฆ์ เฉกเช่นทหารในกองทัพพยัคฆ์ของแม่ทัพมู่เหอกัง ตั้งขบวนมาหยุดตรงหน้ามู่หรงชิง ดวงตาเข้มหรี่ลงด้วยความสับสน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status