ตอนที่ 8
ชีเหนียงเห็นเจ้าสิ่งนั้นที่ก้นสระก็ตกใจจนดวงตาเบิกโพลง มือที่กำลังปัดไอระเหยอยู่นั้นพลาดไปโดนผิวน้ำจนสั่นไหว เจ้าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ก้นสระก็ลืมตาขึ้นมาสีลูกตาแดงกร่ำ ตัดกับผิวสีขาวระยิบระยับลำตัวใหญ่และยาว คล้ายมังกร ดวงตาสีแดงกร่ำนั้นจ้องมาที่นางชั่วอึกใจมันก็พุ่งขึ้นมาอย่างเร็ว น้ำในสระเกิดคลื่นอย่างแรงจนดึงเอาตัวชีเหนียงตกน้ำไป นางดำผุดดำว่ายเพื่อพยุงตัวไม่ให้จมน้ำ แต่ก็รู้สึกว่าเจ้ามังกรสีขาวนั้นยังคง ว่ายวนอยู่รอบตัวนาง ทำให้เกิดน้ำวนยิ่งดูดให้ตัวนางจมลง และลำลักน้ำกำลังจะขาดอากาศหายใจ ดวงตานางเริ่มเลือนรางและกำลังจะปิดลงนั้น นางเห็นร่างคนผู้หนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ ๆ "เฉาเฟิง" นางพึมพำด้วยสติที่เลือนราง เปลือกตานางค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ มังกรสีขาวนั้น เป็นเฉาเฟิงเอง ซึ่งร่างเดิมของเจาก็คือมังกรน้ำ เป็นสัตว์บรรพกาลชั้นสูงมีปราณพลังสองสายน้ำและไฟอยู่ในร่าง เขามักจะมาแช่ตัวที่สระน้ำแห่งนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อได้กับมายังวังปีศาจในรอบหลายหมื่นปีอีกครั้งเขาจึงต้องมาแช่น้ำที่สระแห่งนี้ เฉาเฟิงเห็นชีเหนียงหมดสติไป หัวใจก็สั้นไหว เขาใช้สองมือประคองหน้าชีเหนียงไว้ และริมฝีปากของเขาก็ประทับลงบนปากจิ้มลิ้มของนาง เขาค่อยๆ เป่าลมเข้าไป ไม่นานนักชีเหนียงก็ลืมตาขึ้นนางมองหน้าเฉาเฟิง ด้วยดวงตาที่ล่องลอยแล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง ราชาปีศาจจึงโอบกอดนางไว้แล้วดันตัวขึ้น เมื่อพ้นน้ำร่างบางที่สลบไม่ได้สติหลับไหลอยู่แนบอกเขา เฉาเฟิงก้มลงมองนาง เกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นมาในหัวใจ เขาก็ยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ ปีศาจหนุ่มกวาดสายตาไปทั่วร่างบางนั้น เพื่อดูว่านางบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ พลันสายตาก็หยุดชะงัก ด้วยเสื้อผ้าที่เปียกแนบไปกับตัว ตรงเจ้าก้อนกลมสองก้อนนั้นที่กำลังเคลื่อนไหวขึ้นลงๆ ตามจังหวะลมหายใจยิ่งทำให้เด่นชัดขึ้น จนตนเองเริ่มหายใจติดขัดขึ้นมา เฉงเฟิงสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดฟุ้งซ่าน รีบอุ่มนางขึ้นเดินตรงไปยังห้องบรรทมของตนเอง เขาวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือและเดินออกจากห้องไป ไม่นานนักนางกำนัลสองคนเดิมเข้ามาเช็ดตัวเปลี่ยนผ้าให้นางจนเสร็จสพรรแล้วเดินออกไป ชีเหนียงที่หลับใหลไม่ได้สติ ในห้วงฝันของนางนั้น เห็นผู้หญิงใส่ชุดโบราณคล้ายชุดทำศึกสงครามมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ยืนอยู่ตรงหน้านาง ด้านหลังของหญิงคนนี้นั้น มีทหารนับแสนนายยืนเรียงรายอยู่ ชีเหนียงจึงเอือมมือไปแตะที่ไหล่หญิงในฝันตรงหน้า เมื่อทันทีที่นิ้วมือมือเตะโดนหญิงคนนั้นก็เกิดประกายสว่างขึ้นร่างของหญิงตรงหน้าก็จางลง กลายเป็นฝุ่นละอองระยิบระยับปลิวไป นางเงยหน้ามองตามฝุ่นละอองนั้นจนมันจางหายไปหมด จึงก้มหน้ากับมาตามเดิมก็พบว่าตัวเองอยู่ในชุดแบบที่หญิงคนนั้นใส่ นางเอามือคลำใบหน้าก็พบหน้ากากอยู่บนหน้าตนเอง ยังกับคือคนคนเดียวกัน นางจึงมองไปยังทหารพวกนั้น แต่สายตาพวกทหารหาได้มองยังนาง พวกนั้นมองยาวไปยังด้านหลัง ชีเหลียงหันกับไปมองตามสายตาของทหารพวกนั้น นางเห็นร่างของคนผู้หนึ่ง รอบกายของคนผู้นั้นแผ่ส่านไปด้วยปราณพลังที่ยิ่งใหญ่ ชั่วพริบตาคนผู้นั้นก็พุ่งกระบี่มามุ่งหน้ามาที่ตัวนางหมายจะแทงหัวใจใช้สิ้นชีพ ชีเหนียงนางตกใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถขยับตัวหนีไปไหนได้เลย เมื่อกระบี่นั้นเข้าใกล้ตัวมากขึ้นจนเห็นผู้ถือได้อย่างชัดเจน "เฉาเฟิง" ชีเหนียงพึมพำขณะหลับไม่ได้สติ เฉาเฟิงที่นั่งเฝ้ามองนางอยู่ได้ยินไม่ค่อยถนัด จึงก้มหน้าลงไปใกล้ๆ จนจมูกของเขาแทบจะชนกับจมูกของนาง ในห้วงฝันนั้นคือเฉงเฟิงเองที่ พุ่งกระบี่หมายจะฆ่านาง ชีเหนียงทั้งตกใจและหวาดกลัวยืนตัวสั้น จวบจนเฉาเฟิงแทงกระบี่เข้าที่หัวใจจนทะลุไปด้านหลัง นางหลับตาลงทุกอย่างมืดสนิท "ชีเหนียง ชีเหนียง" มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อนางดังก้องอยู่ในความมืด นางมองไปรอบ ๆ พบแสงสว่างอยู่ไม่ไกลนัก จึงเดินเข้าไป จู่ ๆแสงนั้นก็สาดไปทั่วจนแสบตา นางหลับตาไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงเรียงชื่อตนเองอีกครั้ง "ชีเหนียง ชีเหนียง เจ้าได้ยินข้าไหม" เฉงเฟิงยังคงเรียกชื่อนางอีกครั้ง นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพใบหน้าลางๆของคนผู้หนึ่งอยู่ตรงหน้าของนาง มันใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของคนนั้น ชีเหนียงกระพริบตาอีกสองสามครั้งใบหน้านั้นชัดเจนขึ้น "เฉงเฟิง" ชีเหนียงเอ๋ยเรียกชื่อคนตรงหน้านั้นออกมา และกระเทิบตัวจะลุกหนี แต่เพราะคนตัวใหญ่ วางสองมือค่อมไว้ที่ข้างตัวนางแถมหน้าเขายังใกล้จนแทบจะติดกันขนาดนี้ ทำให้นางขยับตัวไปไหนไม่ได้ ได้แต่นอนนิ่งใต้ร่างใหญ่ จ้องตากันอยู่แบบนี้ จนนางเองที่เป็นฝ่ายทนสายตาของเฉาเฟิงไม่ไว้จึงหันหน้าหลบ "นี้ ถอยออกไปหน่อยได้ไหม" (สายตาแบบนี้มันอะไรกันนะบางครั้งดูเย็นชาดุดันมองแต่ละทีเหมือนจะใช้สายตามาฆ่ากันตลอด แต่ครั้งนี้มันดูอบอุ่นห่วงหา นี้เขาเป็นอะไรไปหรือเปล่า ) เฉงเฟิงจึงถอยตัวออกมา แต่เขายังคงนั่งอยู่ขอบเตียงข้างๆ นาง "เจ้าเป็นยังไงบ้าง" เขาเอ๋ยถามนาง "ปวดหัวนิดหน่อย คือ ที่สระนั้นข้สเห็นมังกรสีขาวตัวใหญ่ มันคือ" "คือข้าเอง ร่างเดิมของข้าคือมังกรน้ำ " ชีเหนียงดวงตาลุกวาว พยายามลุกขึ้นมานั่งแต่ด้วยการการปวดหัวอยู่จึงเซเล็กน้อย แต่เฉงเฟิงก็รีบประคองนางไว้ ให้นั่งพิงหัวเตียง ชีเหนียงยังคงมองเฉาเฟิงแบบเงียบๆ และนึกไปถึงความฝันเมื่อครู่นี้ ที่เขาใช้กระบี่แทงหัวใจนาง "เป็นอะไร เจ้ากลัวข้าหรือไร ปกติพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด หรือหัวเจ้าไปกระแทกตรงไหน" เขาสังเกตเห็นนางเงียบไปจึงเอ๋ยถามขึ้น "ไม่ได้กลัวแค่ไม่เคยเห็นมังกร ตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้า นี้ถ้าไปเล่าให้ใครฟัง คงคิดว่าเป็นบ้าแน่ ๆ" นางตอบเขาออกไปแต่ไม่ได้พูดเรื่องในความฝันนั้น นางคิดเองว่ามันคงเป็นแค่ความฝัน จึงอยากลืมๆ ไป "เจ้าอยากเห็นอีกไหมล่ะ ข้าจะเปลี่ยนร่างให้ดู" "ไม่ต้องหรอก ฮัดชิ้ว ! แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้แช่ตัวอยู่ในสระล่ะแล้วพลังของเจ้าคือไฟโลกันต์ แล้วไฟกับน้ำมันอยู่ด้วยกันได้เหรอ" นางเอียงคอถามด้วยความสงสัย "ท่านพ่อของข้าคือจ้าวมังกรเพลิงโลกันต์ ส่วนท่านแม่ของข้าคือปลามังกรขาว ทำให้ข้ามีปราณพลังสองสายอยู่ในตัว ข้าสามารถให้พลังได้ทั้งสองอย่างเพื่อปกป้องเผ่าปีศาจ แต่ ตอนนี้ข้าใช้มันไม่ได้แล้ว" (ทำไมข้าต้องเล่าเรื่องของตนให้นางฟังด้วยนะ) "โอโห สุดยอดเลยนะเนี้ย แล้วจะทำยังไงต่อล่ะ เรื่องพลังของเจ้า" "เรื่องนี้ข้ากำลังพิสูจน์อยู่" "พิสูจน์อะไรบอกหน่อย ฮัดชิ้ว ! " "ยังไม่ถึงเวลา นี้เจ้า จามหลายครั้งแล้ว ไม่สบายหรือเปล่า" เฉงเฟิงพูดจบก็เอามือแตะที่หน้าผากนาง และมืออีกข้างของเขาจับที่หน้าผากตนเอง ชีเหนียงรับรู้ได้ถึงความห่วงใย ภายนอกเขาดูโหดเหี้ยมเย็นชา แต่จิตใจลึกๆ แล้วเขาก็เป็นคนที่ค่อยห่วงใยผู้อื่นอยู่เหมือนกันนะ "เจ้านั้นแหละหัวกระแทกหรือเปล่า ทำตัวแปลกๆ ปกติดุอย่างกะเสือ" "เจ้านั้นแหละ หัวกระแทก พูดอะไรเพ้อเจ่อ หน้าผากเจ้าร้อนด้วยเหมือนจะเป็นไข้ ข้าจะให้นางกำนัลเอายามาให้" เฉงเฟิงจัดท่าให้นางนอนลง จึงเดินออกไป ไม่นานนักเขาก็กับมาพร้อมนางกำนัลที่ยกข้าวปลาอาหารและยาเข้าใส "กินข้าวก่อน จะได้กินยา" "กินไม่ลง" " ฝืนกินหน่อย" "ไม่" "หรือจะให้ข้าใช้ปากป้อนเจ้า" "ก็ได้ ๆ กินเอง ” ชีเหนียงตวัดสายตามองค้อนคนตรงหน้า นางเริ่มลงมือกินข้าว แต่คนตรงหน้าก็มองนางไม่ละสายตา จนนางกินหมดและกินยาตามอย่างอิดออด "อี้ ขม ปี้ เลย" นางทำหน้าทำตาหยี เพราะความขมของยานั้น แต่มันกับทำให้ราชาปีศาจที่นั่งจับตามองยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างเอ็นดู "กินให้หมด" "มันขม" "ขมก็ต้องกิน หรือจะให้ข้าใช้ปากป้อน" เมื่อเขาเอ๋ยขู่อีกครั้ง นางจึงกระดกแก้วยารวดเดียวหมด ใช้สายตามมองค้อนเขาอีกคร่า "ก็แค่นี้ ไปนอนได้" นางก็ลุกเดินไปนอนอย่างว่าง่าย พลางคิดในใจ (เขาบ้าไปแล้วแน่ๆ เอะอะก็จะใช้ปากป้อนตลอด ใครเขาทำกัน)ตอนพิเศษ สี่ปีผ่านไปทั้งสามเผ่าต่างอยู่กันอย่างสงบสุข แต่จะมีอยู่สถานที่หนึ่ง "ท่านอา" "ท่านอาหลิงเฮ่อต้องให้ข้าก่อน" "ท่านอา ให้นางไปก่อนก็ได้ขอรับข้าเป็นผู้ชาย ที่แข็งแกร่งย่อมต้องเสียสละให้สตรีก่อน" เสียงเจือยแจ้วขององค์ชายปีศาจน้อยวัยสามขวบกว่านามว่า " ลู่เฟย" "ใช่เจ้าค่ะท่านอา ต้องให้ข้าก่อนสิเจ้าค่ะ" เสียงองค์หญิงปีศาจน้อย "ลู่เอิน" จอมเอาแต่ใจ ปีศาจน้อยฝาแฝดชายหญิง วัยสามขวบกว่า ๆ ตัวอ้วนกลมแก้วยุ้ย น่ารักน่าชังตามติดหลิงเฮ่อที่มีศักดิ์เป็นอา ตลอดเพราะหลิงเฮ่อเลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กค่อยตามใจและชอบหาของเล่นแปลก ๆ มาให้เจ้าปีศาจน้อยทั้งสอง "พอแล้วไม่ต้องแยกกัน อามีสองอัน นี้!! เห็นไหม" "เย้ เย้" เย้ เย้" เสียงปีศาจน้อยทั้งสองร้องอย่างดีใจ และเล่นอย่างสนุกสนาน หลิงเฮ่อใช้มือบีบแก้มเด็กทั้งสองเบา ๆ อย่างเอ็นดู "เจ้าก้อนแป้งของอา อาให้เล่นอีกหนึ่งชั่วยาม เสร็จเเล้วเราจะมาฝึกวิชาต่อจากเมื่อวาน ถ้าวันนี้ฝึกก้าวหน้าอาจะพาไปเที่ยวเผ่ามนุษย์" "เย้ เย้ ข้าอยากไปขอรับ" ลู่เฟยกระโดดร่างที่ตุ้ยนุ้ยดีใจ "อยากไปเดี๋ยวเจ้าต้องตั้งใจฝึกนะ" "ขอรับ" "ลู่เอิน เจ้าไม่อยาก
ตอนที่ 38 เฉาเฟิงกลับมาถึงเผ่าปีศาจ ไป่รุ่ยจึงจัดการทำแผลให้เจ้านาย ที่เอาแต่นิ่งเงียบใบหน้าเรียบเฉย ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าเทพแล้ว "นายท่านบาดแผลไม่ลึกมากขอรับ" "ข้ารู้แล้วเจ้าออกไปเถอะ" "ขอรับ" ชายหนุ่มตอบองค์รักษ์ด้วยน้ำเสียงเงียบเฉยที่คนฟังแล้วก็ดูออกว่า เขากำลังโศกเศร้าอยู่ ไป่รุ่ยจึงปล่อยให้เฉาเฟิงได้อยู่คนเดียวก่อน ทว่าขณะที่ออกมาจากห้องบรรทม ก็พบกับครอบครัวของชีเหนียงที่มาไถ่ถามถึงชีเหนียงด้วยความเป็นห่วง ไป่รุ่ยได้แต่อึกอักไม่กล้าที่จะตอบ จึงเกิดเสียงเอะอะขึ้น ราชาปีศาจได้ยินดังนั้น เขาก็เปิดประตูออกมา "นางปลอดภัยดี เดี๋ยวข้าจะพาไปพบนาง" (พาครอบครัวนางไปนางอาจจะจำอะไรได้) เฉาเฟิงคิดในใจ เหตุการณ์เอะอะเมื่อครู่นี้จึงสงบลง เฉาเฟิงเลยเดินไปหาหลิงเฮ่อต่อ ก็เจอกับเฟยอวี่พอดี "นายท่านหลิงเฮ่อ ฟื้นแล้วขอรับ" เฟยอวี่แจ้งเฉาเฟิงด้วยความดีใจ เฉาเฟิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้าไป เฉาเฟิงก็เห็นคนที่พึ่งจะฟื้นยืนอยู่ จึงรีบเดินไปประคองส่งกับไปยังเตียงนอน "ท่านพี่ข้าหายแล้ว" "หายแล้วก็อย่าขยับมากเดี๋ยวแผลจะปริออกได้" "ขอรับ ข้ารู้แล
ตอนที่ 37 เผ่าเทพซีฮ่าวกลับถึงเผ่าเทพ รีบไปรายงานต่อองค์เง็กเซียนทันที ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไป เทพสงครามเยวหมีนางก็เดินสวนออกมา "ท่านเทพสงครามเยว่หมี" ซีฮ่าวเอ่ยเรียกสตรีที่ดูท่าทางองอาจเบื้องหน้า นอกจากรูปร่างหน้าตา ก็คือบุคลิกที่สามารถดูออกได้ว่านางคือคนละคนกัน "เจ้าคือเทพสองครามซีฮ่าว ข้าจะไปพักที่ตำหนักเจ้า ขอตัวก่อน" นางพูดจบก็เดินกลับไปทันที ซีฮ่าวได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ แก่องค์เง็กเซียนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเรื่องที่หญิงมนุษย์คนนั้นก็คือเทพสงครามเย่วหมี "นางเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว นางจำทุกอย่างได้แม้ตอนที่เป็นเศษเสี้ยวดวงจิต" "ขอรับ แต่หญิงคนนั้น นางคือคนรักของราชาปีศาจเฉาเฟิงขอรับ" "......" องค์เง็กเซียนไม่ได้กล่าวอันใดออกมา ได้แต่เอามือลูบเครายาวๆ และยิ้มออกมา ซีฮ่าวกลับมายังตำหนัก ได้พบกับเทพสงครามเยว่หมี จึงได้พูดคุยกัน เยว่หมีจึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายรวมถึงหลิงเฮ่อ น้องชายของราชาปีศาจที่ตามหาดวงจิตนางเพื่อปลดผนึก "แล้วตอนนี้ชีเหนียงนางตายแล้วหรือขอรับ" "นางก็อยู่นี้ไง" เยว่หมี่ใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ตนเอง ใบหน้าซีฮ่าวบงบอกถึงความงุน
ตอนที่ 35 "ข้ารักเจ้า" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เเล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ชีเหนียงรู้สึกว่าตัวนางเองยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันว่างเปล่าไปหมด "นี้ข้าตายแล้วใช่ไหม" นางพูดคนเดียวแล้วทรุดเข่านั่งลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา ไหล่บางสั่นไหวสะอื้นไห้ นึกภาพดวงตาที่แดงกร่ำของเฉาเฟิงเมื่อครู่นี้ได้ดี ท่ามกลางความเงียบในที่มืดแห่งนั้นนอกจากเสียงร่ำไห้ กับมีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง ชีเหนียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ท่าน…" "รอข้า" สิ้นคำพูดนางทุกอย่างสว่างจ้า ร่างโชกเลือดของชีเหนียงจู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาพร้อมปราณพลังหมุนอยู่รอบกาย บาดเเผลที่โดนแทงนั้นเริ่มจางหายไป เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนใหม่กลายเป็นชุดประจำตัวของนาง "เทพสงครามเย่วหมี" นางชูกระบี่ขึ้นฟ้าฉับพลันเกิดสายฟ้าวิ่งไปมาอยู่ที่ปลายดาบ นางฟาดกระบี่ใส่มารทั้งสอง จนเกิดแสงสว่างวาบไปทั่ว เมื่อเเสงสว่างนั้นดับลง มารทั้งสองเจ็บปวดราวถูกทัณฑ์อัคนีสักร้อยสาย นางหันใบหน้ามาทางราชาปีศาจ "ใช้ พลังไฟโกันต์ของเจ้าเเผดเผามันให้สิ้นซาก" เฉาเฟิงไม่รอช้าปล่อยพลังไฟโลกันต์ทำลายล้างไอมารและแผดเผาจื่อหยา
ตอนที่ 36 ฮวนชินค่อยๆ ลุกเขารวบรวมพลังทั้งหมดยกกระบี่ขึ้น อาศัยจังหวะที่เฉาเฟิงกำลังต่อสู่อยู่ไม่ทันได้สังเกต พุ่งกระบี่เข้าหาเฉาเฟิงทันที "ระวัง !!" เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีฮ่าว เห็นฮวนชินพุ่งกระบี่ไปด้วยความเร็ว เขาจึงตระโกนอย่างสุดเสียง แต่จากจุดที่ซีฮ่าวอยู่ไกลจากตรงนั้นมากนักจึงไปขวางฮวนชินไม่ทัน หลิงเฮ่อเห็นเข้าพอดีจึงรีบเอาตัวเข้ามารับกระบี่แทน กระบี่ของฮวนชินแทงทะลุอกของหลิงเฮ่อทันที เฉาเฟิงเห็นหลิงเฮ่อถูกแทงต่อหน้าต่อตา เขาตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปรับตัวหลิงเฮ่อเอาไว้แล้วใช้ไฟโลกันต์ฟาดใส่ฮวนชินเต็ม ๆ ซีฮ่าวจึงรีบมาต่อสู่ขัดขวางมารจื่อหยางต่อ "หลิงเฮ่อ !! หลิงเฮ่อ " เฉาเฟิงประคองเรียกน้องชายไม่หยุดปาก เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากบาดแผล พร้อมกับสติที่ใกล้จะเลือนลาง "ท่านพี่ข้าไม่เป็นไร" น้ำเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่ปนเลือดออกมา รอยยิ้มที่อ่อนแรงลง ส่งให้พี่ชายที่ตนรักและเคารพ "เจ้าต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่ " เฉาเฟิงปลอบใจหลิงเฮ่อ ขณะที่เฟยอวี่องค์รักษ์ของหลิงเฮ่อมาถึงพอดี "ดูแลน้องข้าให้ดี" เฉาเฟิงออกคำสั่งต่อเฟยอวี่ เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวออกไปสู่ต่อ
ตอนที่ 34 รุ่งเช้าวันใหม่ชีเหนียง ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบไปทั่วร่างกายพร้อมร่องรอยรักสีกุหลาบที่ชายหนุ่มทิ้งไว้บนเนินอกอิ่มทั้งสองข้าง นางหันมองหาคนที่นอนข้าง ๆ แต่พบกับความว่างเปล่า "เขาหายไปไหนนะ นี้ยังเช้าอยู่เลย" นางลุกจากเตียงนอนชำระร่างกายจนสะอาดเลือกสวมอารมณ์ชุดใหม่สีหวานขับผิวเนียนแลดูงดงาม ชีเหนียงออกจากห้องเดินตามหาเฉาเฟิงจนมาถึงโถงว่าการ "ไปไหนนะ ไหนบอกให้ข้าอยู่ในสายตา แต่ตัวเองดันหายไป" นางเดินเข้ามาในโถงว่าการกับพบแต่ความว่างเปล่า มีทหารปีศาจเฝ้าอยู่แค่สองคน นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่แล้วกับได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามา นางจึงหันไปทางต้นเสียงนั้น "พี่ชีเหนียง" เสียงเจ้าแฝดอาฉี อาเฟย ที่กำลังเดินเข้ามาหานาง โดยด้านหลังของทั้งสองยังมีลุงเกาที่กำลังเดินมาอีกคน "ลุงเกา อาฉี อาเฟย มาได้ยังไง"ชีเหนียงเอ่ยเรียกทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขแฝงไปด้วยความคิดถึง ทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนถึงตัวก็กอดกันกลมและถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติเหมือนที่เคยทำ"นี้มากันได้ยังไง""ก็สัตว์ปีศาจของพี่เฉาเฟิงไง" ชีเหนียงมองตามมือที่อาเฟยชี้ไปที่ทหารปีศาจคนหนึ่งที่พึงเดินตามหลั