ตอนที่ 7
เทพสงครามซีฮ่าว ได้กลับไปรายงานต่อองค์เง็กเซียน เรื่องที่เจอตัวราชาปีศาจเฉาเฟิง ที่เผ่ามนุษย์นั้น จากการที่ได้ต่อสู่กัน ราชาปีศาจเฉาเฟิงไม่มีพลังใดเลย ข้างกายเขายังมีสตรีที่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งอยู่ด้วย และที่ราชาปีศาจทำลายผนึกออกมาได้นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ เมื่อทราบดังนั้นจึงให้ เทพสงครามค่อยจับตาดูราชาปีศาจเฉาเฟิงไว้ก่อน เขาคงจะไม่ทำอะไรผลีผลามตอนนี้ และยังต้องสืบเรื่องที่ผนึกถูกทำลายนั้นต่อไป เพราะไม่มีทางที่ราชาปีศาจจะทำลายผนึกออกมาเองได้ จะต้องมีใครที่รู้วิธีแล้วช่วยเขาไว้เป็นแน่ ณ เผ่าปีศาจ เมื่อเท้าเหยียบย่างเข้ามายังวังปีศาจที่เฉาเฟิงเคยอาศัยอยู่ ที่นี้ดูทรุดโทรม แต่ยังคงสภาพพออยู่ได้และยังมีปีศาจอาศัยอยู่บ้าง พื้นดินดูแห้งแล้งไร้พืชพันธ์ ท้องฟ้าหม่นหมอง เฉาเฟิงยืนมองอยู่หน้าวังครู่หนึ่ง นึกภาพไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อนครั้งที่เขายังอยู่ ถึงที่นี้ถึงจะเป็นเผ่าปีศาจ แต่สภาพแวดล้อมเมื่อก่อนนั้นพื้นดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ต้นไม้นานาชนิด สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ปีศาจทุกตัวอยู่กันอย่างสงบสุข ก่อนจะเกิดสงครามเพราะพวกเผ่าเทพที่ค่อยรุกรานขมเหง และยังมาขวางยึดครองแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไปนั้น ทำให้ผู้คนเผ่าปีศาจต้องเดือนร้อนจนเป็นแบบนี้ "คุณจะพาฉันมาด้วยทำไม" "ถ้าเจ้ายังอยู่ที่นั้น และพวกเผ่าเทพรู้ว่าเจ้าเป็นมนุษย์ที่ทำสัญญาเป็นข้ารับใช้เผ่าปีศาจ เจ้าก็ต้องถูกพวกนั้นลงโทษ" "แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำสัญญา บรรพบุรุษฉันนู้น เป็นคนทำ แล้วทำไม่เวรกรรมตามมาตกที่ฉันด้วยเล่า มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ" เฉาเฟิงเอามือกุมขมับ เมื่อฟังเสียงของชีเหนียง สายตาคมตวัดมองหน้านาง ( นางช่างดื้อรันเสียจริง ) เฉาเฟิงคิดใจพลาสายหัวเบา ๆ ไป่รุ่ยเมื่อเห็นท่าทีของเฉาเฟิงเช่นนั้นก็คิดว่าชีเหนียงทำให้ราชาปีศาจของตนไม่พอใจ จึงชักกระบี่ขึ้นมาจี้ไปที่คอนาง ชีเหนียงตกใจจึงรีบหยุดพูดทันที "ให้ข้า ฆ่านางทิ้งเลยหรือไม่ขอรับ" เฉาเฟิงรีบยกมือห้าม "ไม่ต้อง ให้นางกำนัลที่ยังอยู่หาที่พักให้นาง แล้วเจ้าไป่รุ่ยมาคุยกับข้าก่อน" "ขอรับ" ไปรุ่ยรับคำสั่งและให้นางกำนัลไปพาตัวชีเหนียงไป เมื่อชีเหนียงถูกนางกำนัลพาตัวไปแล้วนั้น ไปรุ่ยคุกเขาทั้งสองลงกลับพื้นเอามือแตะหน้าผากก้มคาราวะราชาปีศาจเฉาเฟิงตามที่สืบทอดกันมา "ลุกขึ้นเถอะ หญิงคนนั้นนางมีสัญญาลักษณ์ข้ารับใช้อยู่บนตัวนาง เจ้าก็เห็นใช่ไหม และตอนที่ข้าออกมาจากผนึกนั้นได้ นางก็อยู่ที่นั้นด้วย ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนาง" "อย่างไงหรือขอรับ" " อันนี้ข้าก็ยังไม่แน่ใจนัก และตั้งแต่ข้าออกมาจากผนึกข้าไม่สามารถใช้พลังได้ ไฟโลกันต์ข้าก็เรียกมันออกมาไม่ได้ แต่เมื่อใดที่นางมีภัย พลังทั้งหมดของข้าก็กลับมาใช้ได้อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง และไม่นานมันก็หายไปอีก" " หรือมันจะเป็นแผนอะไรของเผ่าเทพหรือเปล่าขอรับ" "ที่ข้าดูแล้วนางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ข้าจึงอยากเก็บนางไว้ก่อน" "แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนข้าเจอ ข้ารับใช้คนหนึ่งเขาเป็นผู้ชายขอรับ" "ไหนเจ้าลองเล่ามาให้ข้าฟังสิ" "ขอรับ ชายคนนั้นชื่อ เวิน อี๋เจ๋อ เขาเล่าให้ข้าฟังว่า มีบุตรสาวอยู่คนหนึ่งเกิดมาร่างกายอ่อนแอไม่แข็งแรงป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เมื่ออายุได้ 8 ขวบ อาการเด็กคนนั้นแย่ลงและกำลังจะตาย เขาจึงเดินทางมาถึงเผ่าปีศาจของเรา และใช้คำขอต่อตราสัญญาลัษณ์ ให้ลูกสาวของเขาหายป่วยและร่างกายกับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติทั่วไป ตั้งแต่ตอนนั้นข้าก็ไม่ได้เจอชายคนนั้นอีกเลยขอรับ" "นางสกุลเวิน งั้นแสดงว่าชีเหนียงคือบุตรสาวของ เวิน อี๋เจ๋อ ผู้นั้น แต่ตรานี้ส่งต่อมายังทายาทได้คือคน ๆ นั้นได้ตายไปแล้ว" เฉาเฟิงพูดจบแล้วถอนหายใจยาว "เป็นเช่นนั้นขอรับ" " เจ้าช่วยไปสืบเรื่อง อี๋เจ๋อ ให้ข้าก่อนเขาตายได้ยังไง และเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนอย่าพึงให้นางรู้ " "ขอรับ" ชีเหนียงเดินตามนางกำนัลมาสักระยะหนึ่งก็ถึงห้องพัก ห้องพักนี้อยู่บริเวณที่พักของพวงนางกำนัลทั้งหลาย เมื่อนางเข้ามาด้านในเพื่อพักผ่อนได้อยู่คนเดียวตามลำพัง ในใจพลันนึกถึงพวกอาฉี อาเฟย ลุงเกา นางโดนเฉาเฟิงพามาด้วยแบบนี้ทุกคนคงต้องเป็นห่วงนางอยู่แน่ ร่างบางได้แต่นั้งถอนหายใจยาว "คงต้องหาทางหนีแล้วแหละ" พอคิดได้ดังนั้น ชีเหนียงจึงค่อย ๆ ย่องไปแอบดูที่ตรงหน้าประตูห้อง กับพบว่ามีนางกำนัลอยู่ด้านนอกนั้นสองคน "หรือเฉาเฟิง จะรู้ทัน" ชีเหนียงถอนลมหายใจอีกหนึ่งรอบ นางล้มเลิกความคิดที่จะหนีชั่วคราว เดินกลับมายังที่เตียงนอนล้มตัวลงนอนคิดอะไรเรือยเปื้อยจนคล้อยหลับไป ชีเหนียงงัวเงียตื่นขึ้นมาเป็นเวลาสายของอีกวัน ก็พบอ่างน้ำแล้วเสื้อผ้าชุดใหม่ นางจึงชำระร่างกายเปลี่ยนชุดใหม่ตามที่นางกำนัลพวกนั้นจัดไว้ให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงเปิดประตูออกมา "เฉาเฟิงอยู่ไหนหรอ" นางกำนัลมองหน้านางนิ่ง "สงสัยไม่เข้าใจที่ฉันพูด เออ.. ข้าถามว่าราชาปีศาจเฉาเฟิงของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน พาข้าไปหาเขาหน่อยได้ไหม" นางพยายามพูดคำพูดให้เหมือนคนที่นี้ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนางจึงพอพูดได้ “ เอ๊ะ ชุดนี้ ชุดพวกเธอ เอ้ย เจ้าเหมือนกับชุดที่ข้าใส่เลย อ๋อ ที่ข้าใส่คือชุดนางกำนัลแบบพวกเจ้าใช้ไหม " (นี้เขาจะให้ฉันเป็นข้ารับใช้ให้ได้จริงๆ เลยใช้ไหม) ชีเหนียงบ่นอุบอยู่ในใจ " ใช่เจ้าค่ะ" "ตกลงเฉาเฟิงอยู่ที่ไหน" "อยู่ที่ห้องโถงเจ้าค่ะ" "แล้วห้องโถงไปทางไหนล่ะ" " ทางที่พวกเราพาท่านเดินมาเมื่อวานเจ้าค่ะ เดินตรงไปทางนู่นเจ้าค่ะ" หนึ่งในนางกำนัลนั้นกล่าวและชี้มือไปให้ชีเหนียงดู ชีเหนียงมองตามมือนางกำนัลผู้นั้นที่ชี้ทางให้ "เดี๋ยวพวกเรานำทางไปเจ้าค่ะ" "ม่เป็นไร ๆ เดี๋ยวฉันไปเอง แค่นี้เองข้าเดินไปได้" "เจ้าค่ะ " ชีเหนียงหันหลังรีบเดินออกมา นางเดินได้สักยี่สิบก้าวจึงหันกับมาดูไม่มีนางกำนัลตามมาสักคน นางมองไปรอบ ๆ ความคิดที่จะหาทางหนีออกไปก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง "เอาล่ะ ใช้โอกาสนี้แหละ ทางสะดวกแล้ว" นางเปลี่ยนเส้นทาง พยายามเดินหาทางที่จะออกจากวังปีศาจนี้ "ทางโล่งดีจัง อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีปีศาจอยู่แล้วสินะ" นางคิดไปเรื่อยระหว่างทางที่เดิน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปตามทาง สองข้างผนังสูงลวดลายแปลกตา ลายคล้ายคล้ายกันไปหมดจนนางเริ่มเหนื่อยและจำทางไม่ได้ "เห้อ ตาย ตาย ตาย เสียชื่อหมดเดินบุกป่าฝ่าดงมาตั้งมากมายจะมาหลงอยู่ในวังปีศาจไม่ได้นะ หรือจะเป็นภาพลวงตากันนะ" ชีเหนียงบ่นพึมพัมกับตัวเอง สายตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ แล้วเดินต่อ "นั้น จะเป็นประตูออกจากที่นี้ไหมนะ" นางเดินมาจนสุดทางในที่สุดก็พบประตูบานใหญ่ยักษ์ จึงค่อย ๆ เปิดประตูออกและย่องเข้าไปสำรวจ พบว่าเป็นห้องโถงเพดานสูงกว้างขวาง ตรงกลางมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ และไม่มีพวกปีศาจอยู่ในนี้ นางจึงเดินสำรวจดูรอบ ๆ โถง จนมาหยุดอยู่ริมขอบสระน้ำ มีไอบาง ๆ ระเหยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำ ชีเหนียงชะโงกหน้ามองลงไปในสระ คล้ายๆ ว่าจะมีบางเคลื่อนไว้ช้า ๆ ที่ก้นสระ แต่เพราะไอระเหยที่ลอยอยู่บนผิวน้ำทำให้มองไม่ชัด นางจึงคุกเข่าลงใช้มือปัดไอน้ำนั้นเบาๆ ไอน้ำจึงปลิวหายไปตามแรงลมที่นางปัด ทำให้นางมองเห็นก้นสระได้ชัดขึ้นจนดวงตานั้นเบิกโพลงตระลึงค้างตอนพิเศษ สี่ปีผ่านไปทั้งสามเผ่าต่างอยู่กันอย่างสงบสุข แต่จะมีอยู่สถานที่หนึ่ง "ท่านอา" "ท่านอาหลิงเฮ่อต้องให้ข้าก่อน" "ท่านอา ให้นางไปก่อนก็ได้ขอรับข้าเป็นผู้ชาย ที่แข็งแกร่งย่อมต้องเสียสละให้สตรีก่อน" เสียงเจือยแจ้วขององค์ชายปีศาจน้อยวัยสามขวบกว่านามว่า " ลู่เฟย" "ใช่เจ้าค่ะท่านอา ต้องให้ข้าก่อนสิเจ้าค่ะ" เสียงองค์หญิงปีศาจน้อย "ลู่เอิน" จอมเอาแต่ใจ ปีศาจน้อยฝาแฝดชายหญิง วัยสามขวบกว่า ๆ ตัวอ้วนกลมแก้วยุ้ย น่ารักน่าชังตามติดหลิงเฮ่อที่มีศักดิ์เป็นอา ตลอดเพราะหลิงเฮ่อเลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กค่อยตามใจและชอบหาของเล่นแปลก ๆ มาให้เจ้าปีศาจน้อยทั้งสอง "พอแล้วไม่ต้องแยกกัน อามีสองอัน นี้!! เห็นไหม" "เย้ เย้" เย้ เย้" เสียงปีศาจน้อยทั้งสองร้องอย่างดีใจ และเล่นอย่างสนุกสนาน หลิงเฮ่อใช้มือบีบแก้มเด็กทั้งสองเบา ๆ อย่างเอ็นดู "เจ้าก้อนแป้งของอา อาให้เล่นอีกหนึ่งชั่วยาม เสร็จเเล้วเราจะมาฝึกวิชาต่อจากเมื่อวาน ถ้าวันนี้ฝึกก้าวหน้าอาจะพาไปเที่ยวเผ่ามนุษย์" "เย้ เย้ ข้าอยากไปขอรับ" ลู่เฟยกระโดดร่างที่ตุ้ยนุ้ยดีใจ "อยากไปเดี๋ยวเจ้าต้องตั้งใจฝึกนะ" "ขอรับ" "ลู่เอิน เจ้าไม่อยาก
ตอนที่ 38 เฉาเฟิงกลับมาถึงเผ่าปีศาจ ไป่รุ่ยจึงจัดการทำแผลให้เจ้านาย ที่เอาแต่นิ่งเงียบใบหน้าเรียบเฉย ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าเทพแล้ว "นายท่านบาดแผลไม่ลึกมากขอรับ" "ข้ารู้แล้วเจ้าออกไปเถอะ" "ขอรับ" ชายหนุ่มตอบองค์รักษ์ด้วยน้ำเสียงเงียบเฉยที่คนฟังแล้วก็ดูออกว่า เขากำลังโศกเศร้าอยู่ ไป่รุ่ยจึงปล่อยให้เฉาเฟิงได้อยู่คนเดียวก่อน ทว่าขณะที่ออกมาจากห้องบรรทม ก็พบกับครอบครัวของชีเหนียงที่มาไถ่ถามถึงชีเหนียงด้วยความเป็นห่วง ไป่รุ่ยได้แต่อึกอักไม่กล้าที่จะตอบ จึงเกิดเสียงเอะอะขึ้น ราชาปีศาจได้ยินดังนั้น เขาก็เปิดประตูออกมา "นางปลอดภัยดี เดี๋ยวข้าจะพาไปพบนาง" (พาครอบครัวนางไปนางอาจจะจำอะไรได้) เฉาเฟิงคิดในใจ เหตุการณ์เอะอะเมื่อครู่นี้จึงสงบลง เฉาเฟิงเลยเดินไปหาหลิงเฮ่อต่อ ก็เจอกับเฟยอวี่พอดี "นายท่านหลิงเฮ่อ ฟื้นแล้วขอรับ" เฟยอวี่แจ้งเฉาเฟิงด้วยความดีใจ เฉาเฟิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้าไป เฉาเฟิงก็เห็นคนที่พึ่งจะฟื้นยืนอยู่ จึงรีบเดินไปประคองส่งกับไปยังเตียงนอน "ท่านพี่ข้าหายแล้ว" "หายแล้วก็อย่าขยับมากเดี๋ยวแผลจะปริออกได้" "ขอรับ ข้ารู้แล
ตอนที่ 37 เผ่าเทพซีฮ่าวกลับถึงเผ่าเทพ รีบไปรายงานต่อองค์เง็กเซียนทันที ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไป เทพสงครามเยวหมีนางก็เดินสวนออกมา "ท่านเทพสงครามเยว่หมี" ซีฮ่าวเอ่ยเรียกสตรีที่ดูท่าทางองอาจเบื้องหน้า นอกจากรูปร่างหน้าตา ก็คือบุคลิกที่สามารถดูออกได้ว่านางคือคนละคนกัน "เจ้าคือเทพสองครามซีฮ่าว ข้าจะไปพักที่ตำหนักเจ้า ขอตัวก่อน" นางพูดจบก็เดินกลับไปทันที ซีฮ่าวได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ แก่องค์เง็กเซียนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเรื่องที่หญิงมนุษย์คนนั้นก็คือเทพสงครามเย่วหมี "นางเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว นางจำทุกอย่างได้แม้ตอนที่เป็นเศษเสี้ยวดวงจิต" "ขอรับ แต่หญิงคนนั้น นางคือคนรักของราชาปีศาจเฉาเฟิงขอรับ" "......" องค์เง็กเซียนไม่ได้กล่าวอันใดออกมา ได้แต่เอามือลูบเครายาวๆ และยิ้มออกมา ซีฮ่าวกลับมายังตำหนัก ได้พบกับเทพสงครามเยว่หมี จึงได้พูดคุยกัน เยว่หมีจึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายรวมถึงหลิงเฮ่อ น้องชายของราชาปีศาจที่ตามหาดวงจิตนางเพื่อปลดผนึก "แล้วตอนนี้ชีเหนียงนางตายแล้วหรือขอรับ" "นางก็อยู่นี้ไง" เยว่หมี่ใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ตนเอง ใบหน้าซีฮ่าวบงบอกถึงความงุน
ตอนที่ 35 "ข้ารักเจ้า" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เเล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ชีเหนียงรู้สึกว่าตัวนางเองยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันว่างเปล่าไปหมด "นี้ข้าตายแล้วใช่ไหม" นางพูดคนเดียวแล้วทรุดเข่านั่งลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา ไหล่บางสั่นไหวสะอื้นไห้ นึกภาพดวงตาที่แดงกร่ำของเฉาเฟิงเมื่อครู่นี้ได้ดี ท่ามกลางความเงียบในที่มืดแห่งนั้นนอกจากเสียงร่ำไห้ กับมีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง ชีเหนียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ท่าน…" "รอข้า" สิ้นคำพูดนางทุกอย่างสว่างจ้า ร่างโชกเลือดของชีเหนียงจู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาพร้อมปราณพลังหมุนอยู่รอบกาย บาดเเผลที่โดนแทงนั้นเริ่มจางหายไป เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนใหม่กลายเป็นชุดประจำตัวของนาง "เทพสงครามเย่วหมี" นางชูกระบี่ขึ้นฟ้าฉับพลันเกิดสายฟ้าวิ่งไปมาอยู่ที่ปลายดาบ นางฟาดกระบี่ใส่มารทั้งสอง จนเกิดแสงสว่างวาบไปทั่ว เมื่อเเสงสว่างนั้นดับลง มารทั้งสองเจ็บปวดราวถูกทัณฑ์อัคนีสักร้อยสาย นางหันใบหน้ามาทางราชาปีศาจ "ใช้ พลังไฟโกันต์ของเจ้าเเผดเผามันให้สิ้นซาก" เฉาเฟิงไม่รอช้าปล่อยพลังไฟโลกันต์ทำลายล้างไอมารและแผดเผาจื่อหยา
ตอนที่ 36 ฮวนชินค่อยๆ ลุกเขารวบรวมพลังทั้งหมดยกกระบี่ขึ้น อาศัยจังหวะที่เฉาเฟิงกำลังต่อสู่อยู่ไม่ทันได้สังเกต พุ่งกระบี่เข้าหาเฉาเฟิงทันที "ระวัง !!" เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีฮ่าว เห็นฮวนชินพุ่งกระบี่ไปด้วยความเร็ว เขาจึงตระโกนอย่างสุดเสียง แต่จากจุดที่ซีฮ่าวอยู่ไกลจากตรงนั้นมากนักจึงไปขวางฮวนชินไม่ทัน หลิงเฮ่อเห็นเข้าพอดีจึงรีบเอาตัวเข้ามารับกระบี่แทน กระบี่ของฮวนชินแทงทะลุอกของหลิงเฮ่อทันที เฉาเฟิงเห็นหลิงเฮ่อถูกแทงต่อหน้าต่อตา เขาตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปรับตัวหลิงเฮ่อเอาไว้แล้วใช้ไฟโลกันต์ฟาดใส่ฮวนชินเต็ม ๆ ซีฮ่าวจึงรีบมาต่อสู่ขัดขวางมารจื่อหยางต่อ "หลิงเฮ่อ !! หลิงเฮ่อ " เฉาเฟิงประคองเรียกน้องชายไม่หยุดปาก เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากบาดแผล พร้อมกับสติที่ใกล้จะเลือนลาง "ท่านพี่ข้าไม่เป็นไร" น้ำเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่ปนเลือดออกมา รอยยิ้มที่อ่อนแรงลง ส่งให้พี่ชายที่ตนรักและเคารพ "เจ้าต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่ " เฉาเฟิงปลอบใจหลิงเฮ่อ ขณะที่เฟยอวี่องค์รักษ์ของหลิงเฮ่อมาถึงพอดี "ดูแลน้องข้าให้ดี" เฉาเฟิงออกคำสั่งต่อเฟยอวี่ เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวออกไปสู่ต่อ
ตอนที่ 34 รุ่งเช้าวันใหม่ชีเหนียง ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบไปทั่วร่างกายพร้อมร่องรอยรักสีกุหลาบที่ชายหนุ่มทิ้งไว้บนเนินอกอิ่มทั้งสองข้าง นางหันมองหาคนที่นอนข้าง ๆ แต่พบกับความว่างเปล่า "เขาหายไปไหนนะ นี้ยังเช้าอยู่เลย" นางลุกจากเตียงนอนชำระร่างกายจนสะอาดเลือกสวมอารมณ์ชุดใหม่สีหวานขับผิวเนียนแลดูงดงาม ชีเหนียงออกจากห้องเดินตามหาเฉาเฟิงจนมาถึงโถงว่าการ "ไปไหนนะ ไหนบอกให้ข้าอยู่ในสายตา แต่ตัวเองดันหายไป" นางเดินเข้ามาในโถงว่าการกับพบแต่ความว่างเปล่า มีทหารปีศาจเฝ้าอยู่แค่สองคน นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่แล้วกับได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามา นางจึงหันไปทางต้นเสียงนั้น "พี่ชีเหนียง" เสียงเจ้าแฝดอาฉี อาเฟย ที่กำลังเดินเข้ามาหานาง โดยด้านหลังของทั้งสองยังมีลุงเกาที่กำลังเดินมาอีกคน "ลุงเกา อาฉี อาเฟย มาได้ยังไง"ชีเหนียงเอ่ยเรียกทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขแฝงไปด้วยความคิดถึง ทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนถึงตัวก็กอดกันกลมและถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติเหมือนที่เคยทำ"นี้มากันได้ยังไง""ก็สัตว์ปีศาจของพี่เฉาเฟิงไง" ชีเหนียงมองตามมือที่อาเฟยชี้ไปที่ทหารปีศาจคนหนึ่งที่พึงเดินตามหลั