“ท่านแม่ทัพ แฮ่กๆ เรา ถะ ถอยก่อนดีหรือไม่” ทหารนายหนึ่งที่บาดเจ็บจากการด่วนข่วนเต็มแขน สะบักสะบอม เอ่ยถามแม่ทัพที่มีสภาพไม่ต่างกัน
“อึก ทุกคนถอย!” เป่ยหวงหันมองรอบๆ เห็นทหารได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งพวกมันยังไม่มีทีท่าจะเหนื่อยเลยสักนิด จึงพยักหน้ายืนยันคำสั่งถอย
ไม่รู้ว่าคือตัวอะไรกันแน่ มันโจมตีตามสัญชาตญาณคล้ายสัตว์ป่ายามบ้าคลั่ง ทั้งแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เหนื่อย แถมแรงยังมากกว่าคนปกติ ดาบทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย จากตอนแรกมีแค่ตัวเดียว ไม่รู้มาเพิ่มจากไหนอีก 2 ตัว กลายเป็น 3 พวกเขาทำอะไรมันไม่ได้เลย แค่ปัดป้องยังตึงมือ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นพวกเขาที่หมดแรงเอง
แฮร่ กรร
ทว่าพวกมันไม่เปิดทางให้หนี ตีวงล้อมเข้ามาใกล้ คล้ายบางครั้งมันก็มีความคิด บางครั้งก็ทำตามสัญชาตญาณ เหมือนมันกำลังเล่นกับเหยื่อ หรือจะมีผู้สั่งการ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะไปควบคุมคนได้ ยิ่งเป็นคนคลั่งด้วยแล้ว เป่ยหวงสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัว หากว่าระหว่างนั้นเองเขากลับโดนมันโจมตีทางด้านหลัง
“ท่านแม่ทัพระวัง!!” ไม่ทันได้ยินเสียงเตือน แต่แล้ว
ฉับ ตุ้บ
“เจียหมิง!” เป่ยหวงไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะเจอคนที่เขาบอกให้วิ่งหนีไปเมื่อเห็นสัญญาณ ชายหนุ่มเจ้าของชื่อถือดาบขนาดสั้นสีดำทมิฬ ดูแปลกประหลาดเข้ามาฟันเข้าที่หัวของคนคลั่ง เขาไม่เห็นตอนฟันเนื่องจากอยู่ด้านหลัง แต่รู้สึกตัวอีกที หูกลับได้ยินเสียงหัวของคนคลั่งหล่นลงพื้น คาดว่าน่าจะฟันขาดในทีเดียว ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น ช่างผิดกับพวกเขาที่ฟันอย่างไรก็สร้างเพียงรอยขีดข่วน
“ได้โปรดรับไปขอรับ!” เจียหมิงที่พึ่งรู้ตัวว่าเขาเผลอฟันเข้าที่คอของศัตรูอย่างจังถึงกับชะงัก เขาแค่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นกับท่านแม่ทัพ และคุ้นชินกับเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้ มันช่างคล้ายกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นที่เขาฆ่าไปในป่า เลยไม่ลังเลที่จะฆ่ามันทันที โดยเผลอลืมว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว
ฟึบ
เป่ยหวงที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรแต่ก็รับดาบทมิฬเล่มสั้นที่เจียหมิงโยนให้ไว้ด้วยความเต็มใจ แล้วฟาดฟันพวกคนคลั่งทันที ครั้งนี้รู้สึกจะง่ายไปหมด ไม่ว่าจะฟันแขนหรือขาก็ขาดลงอย่างง่ายดาย แทบไม่ออกแรงด้วยซ้ำ
ดาบนี่มันอะไรกัน
แฮร่
ครืด ครืด
ขนาดขาขาด แขนขาดไปแล้วพวกมันยังไม่คิดจะถอย เดินลากขากับพื้น หมายเข้ามาโจมตีอีกรอบ
ฉึก ฉั้วะ
เป่ยหวงลองฟันขาอีกข้าง กลายเป็นว่านอกจากมันจะไม่หยุด ยังใช้แขนที่เหลืออยู่อีกข้างลากกับพื้นพยายามเข้าถึงตัวเขา ส่วนอีกตัวที่โดนแทงที่ท้องจนไส้ไหลก็เดินเข้ามาไม่มีทีจะหยุด ทั้งที่เลือดไหลนองพื้น
กรรภ์
บัดนี้ความคิดทุกคนตรงกันแล้วว่าพวกมันไม่ใช่มนุษย์
“ต้องโจมตีที่หัวขอรับ!” เจียหมิงตะโกนบอก หลังเห็นสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจของเป่ยหวง เจียหมิงก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขามั่นใจว่าต้องโจมตีจุดนั้น หรืออาจเป็นเพราะมีประสบการณ์ฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นโดยการฟันเข้าที่หัว ไม่ว่าจะเหตุผลใดความรู้สึกเขาก็ยังบอกว่าจุดตายมันอยู่ที่หัวอยู่ดี
ฉับ ฉับ!
ไม่รอช้า เป่ยหวงเชื่อในคำพูดของอีกฝ่ายที่ช่วยชีวิตเขาก่อนหน้า มือแกร่งถือดาบไว้มั่นฟันเข้าที่หัวอย่างจัง หัวที่ขาดลงด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวกลิ้งไปมาบนพื้น พลันทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ
ฟึบบ
“จบเสียที เราชนะแล้ว...” ทหารคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถึงกับทรุดลงพื้นอย่างหมดแรง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีบ่งบอกว่าเช้าวันใหม่ใกล้มาถึงแล้ว
“เรื่องทุกอย่างไว้ค่อยคุย เราต้องออกไปจากที่นี่กันก่อน” เป่ยหวงที่เหลือบมองไปยังเจียหมิงอย่างมีเรื่องค้างคาใจ ทว่าก็เอ่ยบอกให้ทุกคนรีบออกจากที่นี่ ไม่แน่ว่าทหารคนอื่นอาจใกล้ตื่นแล้ว
คนทั้งหมดพากันช่วยพยุงคนเจ็บ เดินออกจากในค่าย ไปยังจุดรวมตัวกันในคราแรก
เพล้ง!
“เป็นไปได้อย่างไร!!! อึก แค่กๆ” หมอผีเฒ่าขว้างแก้วเหล้าอย่างโมโหพร้อมกระอักเลือดออกมา การควบคุมพวกผีดิบหลายตัวพร้อมกัน อีกทั้งผีดับที่ควบคุมยังโดนฆ่าตาย มันกำลังส่งผลต่อร่างกายผู้ควบคุมด้วย
เขาลงทุนเรียกผีดิบที่เหลืออยู่ไปเพิ่ม เพราะคาดว่าจะลากตัวแม่ทัพฝั่งมันมาเป็นตัวทดลอง คงเพิ่มโอกาสทดลองสำเร็จสูง ทว่านอกจากยังไม่ได้ตัว กลับโดนพวกมันฆ่าพวกผีดิบตัวทดลองที่มีเพียงไม่กี่ตัวลงได้ง่ายๆอีก ไอ้คนที่มาทีหลังนั่นเป็นใครกัน แล้วดาบที่ใช้ฟันดูแปลกตานั่นมาจากไหน มีแต่เรื่องนอกเหนือคาดการณ์เต็มไปหมด หมอผีเฒ่าหงุดหงิด อยากฆ่าพวกมันให้หมด
“เอ่อ ข้าว่าพวกมันอาจแค่โชคดี ทะ ที่ ดะ ดาบเล่มนั้นฟะ ฟันพวกผีดิบเข้า” ชายชุดขาวพูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจเลือดที่หมอผีกระอักเพราะด้วยรู้นิสัยของหมอผีดีว่าไม่ต้องให้คนมาแสดงความสงสารหรือเห็นใจ แต่กลับพยายามพูดเอาใจแทน เพื่อให้หมอผีอารมณ์ดีขึ้น
มันยังไม่อยากโดนจับไปเป็นตัวทดลอง
“แค่กๆ นั่นสินะ เพราะกว่าพวกนั้นจะจัดการผีดิบลงได้ก็ใช้เวลาไม่น้อย” หมอผีเฒ่าเปลี่ยนอารมณ์ทัวควันยามนึกถึงภาพที่พวกมันจวนเจียนจะสิ้นท่า ก่อนจะเช็ดเลือดที่มุมปาก ไม่มีทีท่าสนใจว่าตัวเองจะบาดเจ็บ พลันนึกถึงเหตุการณ์ก่อนที่ชายคนสุดท้ายจะเข้ามา พวกผีดิบเกือบจัดการแม่ทัพของอีกฝ่ายลงได้ อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าดาบทั่วไปไม่สามารถจัดการพวกผีดิบได้
เห็นทีเขาต้องให้ฮั่วหมิงหาเหยื่อมาเพิ่ม สำหรับการทดลองโดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้ผีดิบที่สมบูรณ์แบบ ไม่เสี่ยงตายวันตายพรุ่งเช่นนี้ แล้วค่อยมาวัดกันว่าผีดิบของเขากับไอ้พวกทหารแคว้นจ้าวใครจะพ่ายก่อนกัน หมอผีเฒ่าแสยะยิ้มจนเห็นฟันดำแหลมคม
“รีบไปเก็บกวาดศพพวกผีดิบซะก่อนที่ทหารคนอื่นจะตื่น หากตื่นมาแล้ว พวกมันสงสัยเรื่องรอยเลือด ก็บอกไปว่าแคว้นศัตรูบุกเข้ามาวางยาและทำร้ายคนในค่าย”
“ขะ ขอรับ”
“พาคนเจ็บไปทำแผล ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายพักผ่อน” แม่ทัพเป่ยหวงหันไปสั่งทุกคนที่มีสีหน้าอิดโรย หลังจากออกจากค่ายพบว่าสายลับคนที่ 2 กำลังพูดคุยกับพวกอี้ฟ่านพอดี คาดว่าน่าจะได้รับยารักษาจากที่สายลับเอามาให้ เขาที่เห็นสีหน้าลูกน้องดีขึ้นก็เบาใจ หันมองเจียหมิงที่เดินตามสงบเสงี่ยมนิ่ง ทรุดตัวพิงต้นไม้ใหญ่
“ข้าจะไม่ถามทำไมเจ้าถึงได้ตามมา แต่เหตุใดเจ้าถึงมีอาวุธประหลาดนั่น แล้วเรื่องโจมตีที่หัวนั่นอีก…” เป่ยหวงถามขึ้นขณะยังหลับตา เขากำลังทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา รู้ว่าชายหนุ่มพ่อลูกอ่อนนั่งลงอยู่ไม่ไกลจากเขา
“อาวุธนั่นเป็นของสืบทอดที่ท่านพ่อมอบให้ข้าไว้ขอรับ” เจียหมิงกุมของวิเศษที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นกระบองในย่ามคู่ใจที่ได้คืนจากแม่ทัพก่อนหน้าไว้มั่น เขาเลือกที่จะไม่บอกความจริง คิดว่าหากบอกไปใครจะเชื่อ ดีไม่ดีอาจโดนหาว่าสติฟั่นเฟือน “ส่วนอีกเรื่อง ข้าแค่รู้สึกว่าต้องจัดการมันตรงจุดนั้น” ประโยคหลังเขาพูดตามความจริง เพียงแต่เล่าไม่หมดว่าเคยฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดคล้ายกันมาก่อน
“เฮ้อ จะอย่างไรก็ตาม เรื่องวันนี้เจ้าช่วยชีวิตข้าและทุกคนเอาไว้ หากกลับไปข้าจะตกรางวัลให้เจ้า” เป่ยหวงไม่เซ้าซี้ถามต่อ แม้ภายในใจจะมีคำถามมากมาย ทุกคนย่อมมีความลับเป็นของตัวเอง หากไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือเป็นอันตรายต่อผู้คน เขาก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นต้องไปคาดคั้น ยิ่งอีกฝ่ายเป็นผู้ช่วยชีวิต ไม่ใช่นักโทษ แม้หลายครั้งที่อีกฝ่ายแสดงความกล้าหาญจนแอบหลงลืมว่าเขายังเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ดังนั้นในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่อยากเล่า ผู้เป็นแม่ทัพอย่างเขาย่อมปิดตาข้างหนึ่งมองผ่าน
เจียหมิงพยักหน้ารับคำพร้อมเอ่ยขอบคุณ พลางนึกถึงเหตุการณ์หลังจากเอายาให้ทหารที่แนะนำตัวว่าชื่ออี้ฟ่าน อีกฝ่ายก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เจอคนนำศพมาโยนทิ้ง จนถึงต่อสู้กับคนคลั่ง เขาซึ่งรู้สึกคุ้นๆกับสิ่งที่ทหารอี้เล่า ถึงกับครุ่นคิดหนัก อยากแน่ใจบางอย่างเลยเอ่ยปากขอให้ทหารกู้พาคนเจ็บจากอาการช้ำในที่ยังหลงเหลืออยู่ออกไปรอด้านนอกก่อน ส่วนตัวเองพอถามทางเสร็จ ก็รีบวิ่งไปตรงจุดที่อีกฝ่ายชี้บอกด้วยท่าทางงุนงง คล้ายตั้งตัวไม่ทันกับท่าทีเร่งรีบของเขา
เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะเริ่มเข้มข้นขึ้น มาเอาใจช่วยเหลียนฮวาไปด้วยกันค่า ฝากกดติดตาม คอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ไรท์อัพจบแน่นอน ไม่ต้องกลัวโดนเทค่ะ
“อุแว้ อุแว้”“ที่รักเหนื่อยไหม ขอบคุณที่คลอดบุตรให้พี่อีกคนนะ” หยางหลงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้คนรักที่หน้าซีดเซียว“ไม่เลยเจ้าค่ะ แค่เห็นหน้าลูกๆกับพี่ ข้าก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง” เหลียนฮวาที่มีประสบการณ์จากการคลออบุตรครั้งแรกถึงสองคน ครั้งนี้จึงคลอดง่ายมาก หมอหลวงที่เดินทางจากแคว้นเว่ยโดยเฉพาะอุ้มเด็กน้อยตัวอวบอ้วนเข้ามา“ขอแสดงความยินดีกับชินอ๋องและพระชายา เป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพคะ” หมอหญิงส่งเด็กทารกให้แก่ชินอ๋อง หยางหลงรับมาด้วยความทะนุถนอม“อีกแล้ว ข้าอุ้มท้องเขามา 9 เดือนนะเจ้าคะ” เหลียนฮวาพูดอย่างน้อยใจ เมื่อบุตรลายคนที่สามไม่มีส่วนไหนเหมือนนางเช่นเดียวกัน นี่น้ำเชื้อเขาแรงมากเลยหรือ ลูกออกมาสามคน หน้าตาเหมือนเขาทุกคน“ฮ่าๆ คนที่สี่ต้องเหมือนเจ้าอย่างแน่นอน” หยางหลงพูดด้วยรอยยิ้ม เหลียนฮวาได้แต่อ้าปาก
แคว้นฉินพระราชวัง“ฮื่อ ฮื่อ” เสียงเด็กน้อยร่ำไห้อยู่ข้างเตียงของหญิงนางหนึ่ง“แค่ก ๆ ขะ ข้าไม่น่า คะ คลอดเด็กอย่างเจ้าออกมาเลย” องค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าโกรธแค้น ตัวนางซูบผอมเหลือแต่กระดูก อันเนื่องจากคลอดเด็กลูกครึ่งผีดิบที่กัดกินชีวิตนางตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางหวังให้ลูกของนางเติบโตมาแข็งแกร่งเหมือนพ่อ ทว่าเด็กออกมากลับเป็นผู้หญิง นอกจากอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์ทำไมกันนะ ชีวิตของนางถึงไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ตั้งแต่มีพระสวามี เขาก็ทิ้งนางให้อยู่ท่ามกลางผีดิบ ดีที่ยังมีคนรับใช้หลงเหลือไว้ให้อยู่ แต่รอบตัวก็เต็มไปด้วยผีดิบ ไม่มีใครสามารถออกจากแคว้นได้เลย มีครั้งหนึ่งที่แม่ทัพของเคยคิดออกจากแคว้น ทว่ายังไปได้ไม่ไกล ต่างโดนเหล่าผีดิบเข้ามากัดกินทั้งเป็น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกไปนอกแคว้นอีกเลย“ท่างแม่…”“ยะ อย่า แ
4 ปีต่อมา“เสี่ยวชุน เสี่ยวเฉินลงมาจากต้นไม้เดี๋ยวนี้!!” เหลียนฮวาตะโกนบอกบุตรชายตัวแสบวัยสามขวบทั้งสอง อุ้มท้องมา 9 เดือน แต่ไม่มีส่วนใดได้นางมาเลย เด็กๆถอดแบบพี่หยางมาทั้งหมด ชอบปีนต้นไม้เหมือนใครก็ไม่รู้? แถมยังหลบหนีพี่เลี้ยงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ปี้ชายลงไปก่อนซี่” เสี่ยวชุนหรือเว่ยชุนหวงเอ่ยบอกพี่ชายที่คลอดก่อนตนเพียง 5 วินาที ร่างกลมป้อมอวบอัด ทว่ากลับว่องไวกว่าคนเป็นพี่บุ้ยปากให้พี่ชายลงจากต้นไม้ก่อน“เจ้าเปงน้องก็ต้องลงก่อง” เสี่ยวเฉินหรือเว่ยเฉินอี้กล่าวบอกผู้เป็นน้อง ทั้งสองเกี่ยงกันลงก่อนเนื่องจากยังดูพวกท่านตาฝึกซ้อมยังไม่เสร็จ“ลง มา พร้อม กัน” เหลียนฮวาจำต้องเน้นเสียงทีล่ะคำบอกบุตรชาย ไม่งั้นก็ยังเกี่ยงกันไม่เลิก บุตรชายของนางทั้งสองชื่นชอบการต่อสู้เป็นพิเศษ หากเห็นทหารหรือบรรดาตาๆตัวเองฝึกก็จะรีบขอตามไปดูอย่างไวพวกเด็กๆจะเรียกพ่อของนางว่าต
“เหนื่อยหรือไม่” หยางหลงเอ่ยถามเจ้าสาวของตนหลังคืนแต่งงานผ่านพ้นไป คนรักที่กลายมาเป็นภรรยาและคู่ชีวิตของเขานับแต่นี้เหลียนฮวานั่งตัวเกร็งอย่างทำอะไรไม่ถูก นางกำลังเผชิญกับคืนเข้าหอเป็นครั้งแรก“…”“เหตุใดไม่คุยกับพี่้เล่า” หยางหลงค่อยๆเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวเชยคางมนมาสบตา ทั้งสองสบตากันอย่างลึกซึ้ง“ตะ ต้องดื่มเหล้าก่อนมงคลเจ้าค่ะ” เหลียนฮวาที่ไม่รู้จะหาข้ออ้างอันใดมาเอ่ยจึงมองไปที่กาใส่เหล้ามงคลเอาไว้“จริงสิ เป็นขนบธรรมเนียมของที่นี่” หยางหลงยิ้มกริ่มก่อนจะค่อยๆเทเหล้ามงคลจากกาน้ำสองจอดและยกขึ้นมาถือไว้“ดื่มเถิด” เขายื่นให้คนรักหนึ่งแก้วและถือไว้เองหนึ่งแก้ว ทั้งสองคล้องแขนกันก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกัน ทั้งกลิ่นทั้งรสชาติของเหล้ามีความแรงจนเหลียนฮวาต้องนิ่วหน้า นางรีบกลืนภายในอึกเดียว ไม่นานหน้
“ถวายบังคมเสด็จพ่อ” ฮ่องเต้สวรรค์มองบุตรสาวด้วยสายตาไม่พอใจนัก“เจ้ารู้ความผิดที่ก่อหรือไม่เทพธิดาเหมยลี่” น้ำเสียงดังก้องกังวาลไปทั่วชั้นฟ้า“ไม่เพคะ” เทพธิดาเหมยลี่เชิดหน้าไม่ยอมแพ้“เจ้า!!!”“ลูกไม่คิดว่าการที่พวกเรารักกันจะผิดตรงไหน”“แม้จะไม่มีบัญญัติว่าห้ามรักต่างฐานันดร แต่เจ้าก็ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้ากำลังตั้งครรภ์!!!” ฮ่องเต้สวรรค์แทบลมจับ สั่งให้ทูตสวรรค์หรือที่เรียกทหารในโลกมนุษย์พาธิดากลับมาและนำไอ้ชายที่มันล่อลวงบุตรสาวของเขามารับโทษ“ตั้งครรภ์ จริงสิ เสด็จพ่อทรงมีหลานแล้วเพคะ นางจะเป็นเทพธิดาตนใดมาเกิดกันนะ” เหมยลี่พูดไปยิ้มไป สายใยแม่ลูกทำให้รู้ว่าในครรภ์ของนางเป็นเพศหญิง พลางลูบหน้าท้องแบนราบของตน“ช่างเรื่องนั้นก่อน เจ้าต้องได้รับโทษ” ฮ่องเต้สวร
“พี่หยาง ผักที่เราปลูกงอกแล้วเจ้าค่ะ” เหลียนฮวากล่าวอย่างตื่นเต้น เป็นล็อตสองที่ทดลองปลูก แถมผักที่ปลูกยังเป็นชนิดใหม่“หืม งอกเร็วมาก ยังไม่ถึงเดือน” หยางหลงรีบเข้ามาดูต้นผักตามคนรักชี้บอก วันนี้พ่อตาและคนอื่นไม่อยู่ต้องไปทำภารกิจ“เพราะดินที่เราหมั่นบำรุงมั้งเจ้าคะ”ฟอดดด“เพราะเราช่วยกันปลูกต่างหาก” ขายหนุ่มแอบหอมแก้มแฟนสาวเร็วๆ แล้วส่งยิ้มกระชากใจหลังจากกลับจากแคว้นเว่ยมีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องว่าที่พระชายาองค์ชายห้า เล่นเป็นข่าวดัง พูดถึงกันอยู่พักใหญ่เพราะว่าที่พระชายาเป็นคนต่างแคว้นแถมยังเป็นสามัญชน ทว่าทั้งคู่กลับไม่มีใครสนใจ พากันเดินทางไปแคว้นจ้าวสลับกับแคว้นเว่ย ไปๆมาๆระหว่างสองแคว้น แถมยังหวานกันยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากไม่ต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป“ครั้งหน้าหากผักในโรงปลูกผักโตกว่า