/ แฟนตาซี / ดอกหญ้าทะยานฟ้า / ชายชราที่เก่งกาจ

공유

ชายชราที่เก่งกาจ

작가: Sanassetong
last update 최신 업데이트: 2025-09-27 11:42:45

"กรี๊ดๆๆๆ"

นางกรีดร้องขึ้นแต่นางก็ปิดปากของตัวเองได้ทั้ง ถุงผ้าของนางตกลงสู่พื้น นางเห็นบุรุษผู้หนึ่งที่นอนอยู่นั้น มีเลือดอาบเต็มตัวเต็มไปหมด มีรอยบาดแผลใหญ่ๆมากมาย นางมองด้วยความหวาดกลัว นางใช้มือทั้งสองปิดอยู่ที่ปากของตัวเอง นางกลั้นหายใจฟังเสียงรอบข้างก็ไม่มีสิ่งใดตอบโต้ แสดงว่าคนผู้นี้ตายเพียงลำพัง แต่เอาเข้าใจจริงในป่าลึกขนาดนี้จะมีคนมานอนตายได้อย่างไร และอีกอย่างเหมือนถูกฆ่าตายยังไงยังนั้น ดูสภาพแล้วเหมือนกันสู้รบพ่ายแพ้แล้วก็ตาย เขาใส่ชุดดำที่มีผ้าคลุมใบหน้านางจึงคิดว่าเป็นคนไม่ดี ที่นางรู้ว่าเป็นบุรุษเพราะว่ารูปร่างใหญ่โต เลือดของเขายังไหลออกจากตัวไม่หยุด เด็กน้อยเห็นสภาพนี้แล้วตกใจมาก นางจึงรีบเก็บถุงผ้าแล้วเดินออกไปจากจุดนี้เพราะนางได้ยินเสียงเหมือนมีสัตว์เดินเข้ามาแล้ว นางกลัวว่าสัตว์จะเห็นนางและทำร้ายนาง นางจึงเดินออกไปข้างหน้า ด้วยอาการที่อกสั่นขวัญหายอยู่เลย เมื่อเดินห่างจากที่นั้นไดลนางก็รู้สึกว่าลมหายใจของนางเป็นปกติแล้ว เสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนั้นกลับมาเป็นจังหวะ ผู้ใดคือศัตรูของบุรุษผู้นั้นนะ หากว่านางพบคนผู้นั้นเขาจะฆ่านางไหมนะ นางเดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวตรงหน้า นางจึงมองดูจึงพบว่ามีสัตว์ตัวหนึ่ง มันเป็นคล้ายๆกับเสือที่มันเป็นสีดำและมีลักษณะใหญ่โตคล้ายๆกับหมี กำลังกัดกินอะไรอยู่มันเป็นสีแดงเหมือนเลือดไหลออกมาจากปากมัน พอมองดูดีๆก็พบว่าสิ่งนั้นคือร่างของมนุษย์ซึ่งเหมือนกับร่างที่นางเห็นว่าครู่ไม่มีผิด นางจึงพยายามเดินเบาๆแล้วหลบหนีไปอีกทางหนึ่ง สิ่งที่เห็นนั้นน่าหวาดกลัวเสี่ยงเหลือเกิน หลายวันที่ผ่านมานางคิดมาตลอดว่าเส้นทางที่นางมาไม่มีอันตรายใดๆ แต่พอเจอเข้าแบบนี้ นางไม่คิดเช่นนั้นแล้วนางกลัวเอาเสียมากๆ เด็กวัยห้าหนาวเจอแบบนี้แทบช็อคเลยที่เดียว แต่นางต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเพราะนางอยากมีชีวิตอยู่ หากตอนนี้นางยังอยู่ที่บ้านนางก็คงไม่เจอะเจอกับสภาพแบบนี้แน่ แต่นางก็คงจะถูกมองว่าไร้ค่าอยู่ดี ตอนนี้หัวใจบอกว่ายังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่เลยแต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ นางกะว่าจะรีบเดินออกไปจากเสียงนั้น แต่ทางข้างหน้าที่นางจะเดินไปนั้นนางได้ยินเสียงสัตว์ร้องนางจึงต้องหลบไปทางที่มีการต่อสู้ นางย่องไปก็เห็นการต่อสู้ของผู้มีวรยุทธ จึงทำให้นางสนใจขึ้นมา การต่อสู้ที่ใช้กำลังภายในนางไม่เคยเห็นมาก่อนเห็นบอกผู้หนึ่งผมขาวอายุของเขาน่าจะมากแล้ว กำลังกระโดดตวัดดาบกลางอากาศไปมา ร่างของคนในชุดดำที่มีผ้าพอกหน้าด้วยนั้น ล้มลงไปกองกับพื้นแถมยังมีเลือดออกอีกด้วย บุรุษที่ใส่ชุดดำนั้นมีราวๆห้าคน คนนึงล้มลงไปแล้วก็เหลืออีกสี่คนที่วิ่งทะยานไล่บุรุษที่ใส่ชุดขาวนั้น ภาพที่นางเห็นนั้นน่าสนใจก็จริงแต่นางก็กลัวจับใจการฆ่ากันตายซึ่งๆหน้าแบบนี้เลยหรือ นางไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดีเสียงของสัตว์ก็ยังดึงก้องอยู่ตลอดเวลา นางเคยอ่านในตำราของพี่ชายสัตว์เหล่านี้น่าจะเป็นสัตว์อสูรบางตัวนั้นได้กลิ่นของผู้มีวรยุทธก็จะเข้ามาร่วมต่อสู้กับผู้มีวรยุทธทำให้ผู้มีวรยุทธนั้นฝึกกำลังไปในตัว ในตำราบางคนต้องเข้าป่าลึกเพื่อที่จะไปฝึกประสบการณ์ด้วยตัวเองโดยการล่าสัตว์อสูร เกิดมานางไม่เคยคิดมาก่อนว่านางจะต้องมาเจอกับสัตว์อสูรนางเห็นกับมันตัวเป็นๆที่กำลังกัดกินซากศพอยู่ นางอยู่ที่เดิมได้ไม่นานนักนางก็ต้องวิ่งออกไปจากจุดนี้แล้ว เพราะเหมือนว่าสัตว์อสูรเหล่านั้นจะได้กลิ่นศพที่ตาย เพื่อนนางวิ่งออกมาสักครู่ก็ได้ยินเสียงสัตว์อสูรเหล่านั้นกัดกันเพื่อแย่งกินซากศพ คืนนี้นางยังคงระแวงว่านางจะอยู่ที่ใดดีเนื่องจากว่าป่าแถวนี้มีสัตว์อสูรมากมาย หากนางอยู่บนต้นไม้ก็ไม่น่าจะรอด นางได้แต่งพุ่งวิ่งไปตลอดเวลาก็ไปพบศพอีกจนได้ นางพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไปทางนั้นในที่สุดนางก็เหนื่อย นางพิงต้นไม้ใหญ่ไม่นานนางก็ได้ยินเสียงแสกสากบริเวณใกล้ๆ นางมองไปดูก็พบกับชายชราผู้นั้นกำลังเดินมาทางนางเขาเหมือนบาดเจ็บสาหัสมือข้างหนึ่งกุมที่หน้าอก มืออีกข้างหนึ่งจับดาบเหมือนกำลังใช้ดาบยันตัวเองแล้วเดินลากขาออกมา เลือดเขานั้นยังหยดตามทางอยู่เลย เสียงดาบครูดกับดินและหยุดลงสลับกับเสียงก้าวเท้า และครูดกับดินอีกครั้ง เป็นเสียงแบบนี้ซ้ำๆนางจึงแอบดู ชายชราที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหนวดเคราสีเงินผมสีเงินของเขาก็หลุดออกจากยางมัดตอนนี้เขาจึงดูเราๆกับขอทานและใบหน้าของเขาก็เปื้อนเลือดสภาพร่างกายคือย่ำแย่แต่เขายังลากสังขารของเขาเดินต่อมาเรื่อยๆ ลมหายใจของเขานั้นโรยรินเสียเหลือเกิน ถ้าปล่อยไว้อย่างนั้นเขาอาจจะไม่ได้ตายด้วยคมดาบที่ต่อสู้เมื่อครู่ แต่อาจจะตายเพราะสัตว์อสูรได้กลิ่นเลือดแล้วมากัดกินก็ได้ หลินซือหยามองดูสักพักก็ตัดสินใจเดินออกไป เมื่อชายชราผู้นั้นเห็นก็ตกใจเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าจะมีเด็กน้อยตัวเล็กๆที่อยู่ในป่าคนเดียว เขามองไปรอบข้างมองไปข้างหลังของเด็กน้อยก็ไม่เห็นมีใคร

"ท่านตาท่านบาดเจ็บสาหัสข้ามีสิ่งใดสามารถช่วยท่านได้หรือไม่เจ้าคะ"

เสียงของเด็กน้อยแหบเล็กน้อยเรื่องจากนางไม่ค่อยได้ใช้เสียงมาหลายวันแล้ว นอกจากเสียงกรี๊ดเมื่อที่นางพบเจอกับศพแรก นางไม่รู้ว่านางจะช่วยเขาได้ไหมแต่ดูแล้วเหมือนเขาเป็นคนดีนางจึงคิดอยากจะช่วยเขา

"เด็กน้อยไม่มีใครช่วยข้าได้หรอกบาดแผลที่ข้าได้รับนั้นมาจากดาบที่อาบไปด้วยพิษ ไม่นานข้าก็คงจะตายแล้วเจ้ารีบไปเถอะเพราะเมื่อข้าตายสัตว์อสูรในป่านี้ก็ต้องมารุมกัดกินข้าแล้วเจ้าจะไม่ปลอดภัย"

ชายชราผู้นั้นกล่าวขึ้น

"ท่านตาข้าเห็นท่านตามต่อสู้ได้เก่งขนาดนี้ ท่านตาจะยอมตายง่ายๆหรือเจ้าคะ เอาแบบนี้ข้ายังพอมีสมุนไพรอยู่ เป็นสมุนไพรรักษาพิษของป่าแห่งนี้ มันน่าจะใช้ได้เอาแบบนี้ท่านตาเ กินอาหารแห้งนี้ก่อนนะเจ้าคะแล้วก็กินสมุนไพรนี้ตาม"

เด็กหลินซือหยากล่าวขึ้นและส่งอาหารแห้งที่นางมีให้ผู้เฒ่า ที่นางไม่ให้ชายชรากินผลไม้เพราะว่าหากจะกินกับสมุนไพรแล้วมันจะทำให้มีฤทธิ์ขัดกัน จะทำให้สมุนไพรไม่สามารถสำแดงฤทธิ์ของตัวเองได้ อาการก็จะแย่ลงกว่าเดิม ชายชราดมสมุนไพรสักครู่ก็รู้ว่าเป็นสมุนไพรรักษาจริงๆเขารีบกัดอาหารแห้งไปสักเล็กน้อยแล้วก็กินสมุนไพรทันที

"มาเถอะเดินมาไกลกว่านี้อีกสักหน่อยนึงหากอยู่ใกล้จุดนี้เดี๋ยวสัตว์อสูรจะลากพวกเราสองคนไปกินเสียก่อน"

ชายชราพูดขึ้นตอนนี้เขามีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว เพราะอีกไม่นานยานั้นก็ออกฤทธิ์ชายชรายังพอมีกำลังเมื่อนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่เขาก็สร้างเกราะป้องกันขนาดใหญ่ไว้ให้ตัวเองและเด็กผู้นั้นเพื่อไม่ให้สิงสาราสัตว์เข้ามา และชายชราผู้นั้นก็นั่งสมาธิอยู่แบบนั้น เมื่อค่ำลงแล้วเสียงสัตว์ก็ร้องดังเช่นเคยแต่ตอนนี้หลินซือหยาไม่สามารถที่จะขึ้นต้นไม้ได้ เพราะหากนางขึ้นต้นไม้ก็ต้องปล่อยให้ชายชราอยู่ข้างล่างเพียงลำพัง จึงอาศัยกำลังของนางคอยดูแลชายชรา นางพยายามจะไม่หลับนอนแต่มันก็น่าแปลกเสียงสัตว์อสูรนั้นดังก็จริง แต่ไม่มีสัตว์อสูรตัวใดมาหาพวกเขาเลยสักตัว ที่สุดนางก็เผลอหลับไป

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ขัดเกาจิตใจ

    เด็กน้อยหลินซือหยาเมื่อเห็นชายชรานั้นยิ้มตอบ ตนก็รู้แล้วว่าตนตอบคำถามได้ถูกต้องตามที่ชายชราปรารถนา เด็กน้อยคุกเข่าลงและคำนับท่านผู้เฒ่าสามครั้ง "ข้าขอกราบท่านตาเป็นอาจารย์นะเจ้าคะ เพราะในตำราบอกว่าถ้ามีอาจารย์จะทำให้ข้าเข้าใจในบทความทุกบทความได้เร็วขึ้น"เด็กน้อยหลินซือหยากล่าวขึ้น เจ็ดวันที่ผ่านมาเขาไม่ใช่แค่จดบทกวีและดูความหมายของมันเท่านั้น เขายังมองไปดูหน้าอื่นๆเผื่อหน้าอื่นๆจะซ่อนความหมายของบทกวีนี้ และหนังสือหน้าอื่นๆก็แสดงให้เรารู้เพียงว่าหากเป็นศิษย์มีครูย่อมประสบผลสำเร็จได้เร็วขึ้น เด็กน้อยผู้นี้ก็นับถือชายชราผู้นี้อยู่แล้ว ยกให้เขาเป็นครูได้เลย"เจ้าเด็กผู้นี้รู้จักพูดดีนัก ได้ข้าจะรับเจ้าไว้เป็นศิษย์เพียงผู้เดียว555 มาข้าจะตีความหมายแต่ละตอนให้ฟัง วันนี้คำตอบของเจ้านั้นโดนใจและตรงใจและตรงประเด็นมาก"บทแรก ลมพัดหวนผ่านฟ้าเวิ้งว้าง ดวงจันทร์ส่องกลางธารามืดมิดมักก็คือบรรยากาศแห่งความเวิ้งว้างว่างเปล่า สะท้อนถึงโลกที่เต็มไปด้วยความมืด ความทุกข์ หรือความไม่แน่นอน แต่ยังมีแสงจันทร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ความจริง และความสว่าง ที่คอยนำทางบทที่สองเงาดาบหนึ่งฟาดสะท้านส

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   บทกวี

    หลังจากกินข้าวเสร็จชายชราก็พาเด็กน้อยลงไปด้านล่างเพื่อที่จะไปหาหนังสือตำหรับตำราเขาหยิบหนังสือออกมา แล้วไสคืนที่ ชายชราเดินหยิบไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ได้ตำรามาสองเล่มและสมุดเปล่าอีกหนึ่งเล่ม ก่อนที่จะเดินหาผู้กันและหมึก"ได้ของครบแล้วป่ะขึ้นไปเรียนด้านบนกันเถอะ"ชายชรากล่าวขึ้นและพาเด็กน้อยขึ้นไปด้านบน เขาโบกมือหนึ่งครั้งทำให้โต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงกลางนั้นไหลมาอยู่ตรงริมจุดที่เด็กน้อยปีนขึ้นมา ชายชราไม่ได้ปีนขึ้นมาดั่งที่ตัวเองพูด เผลอแป๊บเดียวเขาก็ขึ้นมาข้างบนได้แล้ว เด็กน้อยหลินซือหยาได้แต่คิดในใจอีกสักกี่ปีนะ นางถึงจะสามารถเหาะขึ้นมาข้างบนได้แบบนี้"มานั่งเถอะ ข้าต้องสอนหนังสือให้เจ้าก่อนให้เจ้าก่อน เจ้าจะได้รู้ตัวหนังสือแล้วเจ้าจะได้ศึกษาตำราด้วยตัวเอง"ชายชรากล่าวขึ้น"แบบนั้นท่านตาให้ข้าเขียนให้ดูก็ได้นะเจ้าคะเพราะว่านั้นก็ได้ร่ำเรียนมาด้วยตัวเองบ้าง ข้าเคยเอาตำราของพี่ชายของข้ามาฝึกฝน การเขียนอักษรบ้างแล้ว การเริ่มเขียนนั้นน่าจะไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่ แต่ข้าอาจจะเขียนคำยากๆไม่ได้ และไม่รู้ความหมายของมันเท่านั้นเจ้าค่ะ"เด็กน้อยกล่าวขึ้น ชายชราจึงนำสมุดเปล่าและก็นำหมึกมาวางให้นางลองเ

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ชั้นบนของกระต๊อบ

    เช้าวันรุ่งขึ้นเด็กน้อยตื่นมาด้วยความหอมกลิ่นกรุ่น เหมือนจะเป็นไก่ย่างที่ลอยเข้ามาปลุกนางในยามเช้า จากนั้นนางก็อ้าปากหาวหนึ่งครั้งแล้วมองไปทุกที่ก็ไม่เห็นว่าจะมีที่ทำอาหารที่ไหนเลย เด็กน้อยเปิดประตูออกไป ท่ามกลางม่านหมอกบาง ๆ แสงอาทิตย์แรกของวันลอดผ่านกิ่งไม้ใหญ่ ส่องกระทบกระต๊อบเล็กหลังนี้ ที่ตั้งอยู่กลางสวนเขียวชอุ่ม กระต๊อบไม้เรียบง่ายมุงหลังคาฟางดูอบอุ่นดั่งอ้อมกอดของธรรมชาติหน้ากระต๊อบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งกุหลาบสีแดงสด ดอกเดซี่สีขาวสะอาด ดอกลาเวนเดอร์หอมหวานที่ส่งกลิ่นอบอวลไปทั่ว และดอกไม้ป่าหลากสีที่ชูช่อรับแสงตะวัน เกสรเล็ก ๆ พลิ้วตามลมบางเบา กลิ่นหอมอ่อนหวานลอยเคล้าไปกับเสียงนกร้อง เสมือนบทเพลงที่ต้อนรับวันใหม่ เด็หน้อยสูดหายใจเย็นเข้าไป หยดน้ำค้างที่เกาะบนกลีบดอกส่องประกายระยิบระยับราวอัญมณีเล็ก ๆ แสงอาทิตย์อุ่นละมุนตกกระทบผนังไม้ของกระต๊อบ ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวดูอ่อนโยนและมีชีวิตชีวา บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบและความสดใสของรุ่งอรุณ เด็กน้อยยืนชมความงามได้สักพักก็จำได้ว่าตัวเองนั้นตามกลิ่นของไก่ย่างออกไปพอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นมีไก่ย่างเลย"เด็กน้อยเจ้าตื่นแล้วจะฝึกเลยหรือ

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   กระต๊อบไม้หลังเล็ก

    พวกเขาทั้สองเดินไปเรื่อยๆ เสียงก้าวเดินแผ่วเบาดังก้องไปพร้อมกับเสียงใบไม้ไหว เสียงน้ำหยดจากกิ่งไม้สูงตกลงใส่พื้นอย่างแผ่วพร่า บางคราวมีเสียงนกประหลาดร้องยาวคล้ายท่วงทำนองสวดสรรเสริญ ก้องสะท้อนในหุบเขา ละม้ายเสียงเพลงจากโลกอื่น ทำให้ผู้เดินทางต้องหยุดฟังราวกับถูกสะกด เสียงนั้นพาให้ใจว่างเปล่า ลอยคว้างอยู่ในภวังค์ เด็กน้อยซือหยาหยุดเดินเป็นช่วงๆคอยฟังเสียงต่างๆ "เจ้าเหมือนจะสนใจสิ่งรอบข้างมากมายนะ รอให้เจ้าฝึกฝนให้ได้เสียก่อน ข้าจะปล่อยให้เจ้าเดินผจญภัยในป่าแห่งนี้ บอกเลยว่าสนุกเลยทีเดียว ป่าแห่งนี้มีทั้งสมุนไพรมากมาย แถมมีของหายากอีกเยอะแยะ แล้วยังมีสัตว์วิเศษที่รอให้เจ้าเป็นเจ้าของอยู่ แต่มันต้องรอให้ถึงเวลาของมันเสียก่อน"ชายชรากล่าวขึ้น เพราะเห็นเด็กผู้นี้เดินไปด้วยหยุดไปด้วยและบางครั้งก็เหมือนกับนางอินกับเสียงนกร้องเสียงกา"จริงเหรอจ๊ะท่านตาข้าจะได้มาเที่ยวในป่านี้อีกครั้งด้วยหรือ แต่เราสองคนจะเดินนานแค่ไหนล่ะถึงจะถึงที่ที่ท่านตาอยู่"เด็กหลินซือหยากล่าวขึ้น"ก็เดินทั้งวันแหละวันนี้พอตกค่ำปุ๊บก็ถึงที่พักของข้าทันทีเจ้านิใจร้อนไปได้ ทีเดินป่ามาตั้ง เจ็ดแปดวันยังไม่เห็นจะรีบร้อนเลย"

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ใบไม้ยักษ์

    ขนาดพวกเขาใช้ใบไม้ยักษ์ในการเดินทางยังใช้เวลาไปตั้งนาน แรกๆหลินซือหยายังมองไปข้างล่างอย่างสนใจ เด็กน้อยตื่นเต้นมากต้นไม้ใบสีเขียวแก่เขียวอ่อนสลับกันไป บางต้นก็มีดอกมีผลด้วย นางมองด้วยความเสียดายถ้าใบไม้นี้บินต่ำกว่านี้ก็คงจะเก็บผลไม้มาไว้กินได้ ผลไม้แล้วผลไม้เล่าผ่านใต้ท้องพวกเขาไปอย่างนาเสียดาย หลินซือหยาชะเง้อไปมองผลไม้ที่ผ่านไป"ผลไม้ในป่านี้ตอนนี้มันลูกเล็กอยู่ถ้าหากอยู่ใกล้ๆบนเขานู้นจะลูกใหญ่กว่านี้ หรือว่าเจ้าหิวแล้วหรือถึงมองผลไม้ขนาดนั้น"ชายชรากล่าวถาม"ผลไม้มีลูกใหญ่กว่านี้อีกหรือจ๊ะท่านตา ไหนท่านบอกว่าท่านเป็นนักยุทธพเนจรแล้วทำไมรู้จักสถานที่นี้ดีจังเลยนะท่านตา"เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย"เจ้าไม่รู้หรอกหรือที่ที่อยูห่างไกลผู้คนนั่นแหละที่จะมีอะไรดีๆเด็ดๆ และที่ข้าบอกว่านักยุทธพเนจรก็ไม่ได้บอกว่าไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากมายนี่เจ้ายังเด็กมากนัก สถานที่นี้ก็ได้มาบำเพ็ญแล้วไม่ต่ำกว่าห้าครั้งทุกๆสี่ห้าปีข้าก็จะมาหนึ่งครั้ง เพราะข้างบนนั้นมันมีไอวิเศษที่เข้มข้นเหมาะกับการฝึกยุท"ชายชรากล่าวขึ้น "จริงหรือจ๊ะท่านตา แล้วท่านว่าบิดาของข้าจะรู้หรือไม่ว่าข้างบนนี้มีไอวิเศษเข้มข้น"เด็กหลิ

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   นักยุทพเนจร

    เมื่อชายชราผู้นี้ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็เห็นเด็กสาวผู้นี้นอนอยู่ ตอนนี้พลังของเขากลับมาเหมือนเดิมแล้ว พิษที่ได้รับก็หายไปหมดแล้ว สมุนไพรในป่านี้ช่างวิเศษเสียเหลือเกิน ตั้งนานเด็กน้อยผู้นั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขามองชายชรานั่งอยู่ใกล้ๆแล้วก็รู้สึกอับอายที่ตัวเองนั้นเผลอหลับไป"เด็กน้อยเจ้ามีความเป็นมาอย่างไรทำไมถึงมาอยู่ในป่าลึกคนเดียวแบบนี้"ชายชราถามขึ้น หลินซือหยาไม่รู้ว่าจะพูดออกมาได้ไหม หากว่าพูดว่าตัวเองถูกไล่จากหมู่บ้านเพราะว่าไม่มีเส้นลมปราณฝึกวรยุทธก็กลัวว่าชายชราผู้นี้จะรังเกียจตน แต่คิดไปคิดมาหากชายชราผู้นี้จะรังเกียจก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกๆคนในหมู่บ้านก็รู้ว่านางไม่มีเส้นลมปราณฝึกวรยุทธ อาจจะมีคนรู้เพิ่มอีกสักคนคงไม่เป็นไรกะมัง"ท่านตาเจ้าค่ะข้ามันคนไร้ค่า ข้าถูกไล่ออกจากหมู่บ้านเพราะว่าข้าไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแท่งตรวจเส้นลมปราณให้มีสีได้ คนในหมู่บ้านบอกว่าข้าเป็นคนไร้ค่าและไม่อยากให้ข้าอยู่ในหมู่บ้านนั้นเจ้าค่ะ ข้าจึงต้องมาอยู่ในป่าแห่งนี้ และทิศทางที่ข้าจะไปนั้นก็คือภูเขาเจ้าคะข้าต้องขึ้นไปอยู่บนภูเขานั้น"เด็กน้อยหลินซือหยากล่าวขึ้น"โธ่เด็กน้อยแล้วเจ้ามีนามว่าอะไรหรือ แล้ว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status