Share

ฝัน

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-09-30 17:34:59

ในแดนแห่งความฝันนั้น มีป่าหนึ่งที่เหมือนถูกวาดขึ้นด้วยพู่กันสีรุ้ง ทุกสิ่งรอบตัวเต็มไปด้วยความสดใสน่ารักจนหัวใจเต้นระรัวด้วยความเบิกบาน มีต้นไม้สูงใหญ่ใบเขียวอ่อนราวกับกำมะหยี่ มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ ๆ ปีกของมันเป็นประกายเหมือนทาสีระยิบระยับ แสงแดดลอดผ่านกิ่งก้านกลายเป็นลำแสงอบอุ่นส่องกระทบกับละอองฝนที่เพิ่งผ่านพ้น ก่อเกิดเป็นสายรุ้งเล็ก ๆ พาดไปทั่วทั้งป่า พื้นดินปกคลุมด้วยหญ้านุ่มราวพรมสีเขียวสด แซมด้วยดอกไม้จิ๋วหลากสีที่โยกไหวเบา ๆ ตามสายลม เหมือนกำลังโบกมือทักทายผู้ที่ก้าวเข้ามาในอาณาจักรแห่งนี้ เสียงหัวเราะใส ๆ ของนกตัวเล็กดังก้องคลอไปกับเสียงน้ำใสไหลจากลำธารที่คดเคี้ยวอยู่ไม่ไกล ตัวเด็กน้อยหลินซือหยาเองเดินเล่นอยู่เพียงลำพัง ทุกก้าวเดินในป่านี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ราวกับน้ำผึ้งผสมกลีบดอกไม้ และทุกสิ่งดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา ทั้งสายรุ้งที่โค้งเหนือฟ้า นางมองลงมายังใต้ร่มเงานั้น มีเห็ดสารพัดชนิดงอกเรียงรายดุจดอกไม้ยักษ์ บางดอกกลมป้อมสีชมพูหวานราวขนมสายไหม บางดอกสูงเรียวสีน้ำเงินเรืองแสงเหมือนโคมไฟน้อย ๆ คอยส่องแสงให้ผู้เดินทาง เห็ดบางดอกยังมีลวดลายแปลกตา ราวกับถูกวาดลายการ์ตูนเอาไว้ เห็ดที่เปล่งประกายราวโคมไฟ และดอกไม้ที่ยิ้มแย้มโบกไหว เป็นโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความสุขอันอบอุ่นและน่าหลงใหล นางไม่ลืมที่จะเก็บเห็ดเหล่านั้นมาทำเป็นอาหารนางทั้งต้มทั้งย่างเห็ดที่หอมกรุ่น ฟุ่งไปไกลเด็กน้อยค่อยๆลืมตาเพราะกลิ่นเห็ดย่างนั้นส่งหอมไปทั่ว เอ้นางไม่ได้ฝันแล้วนี่กลิ่นซุบเห็นกับกลิ้นย่างเห็ดนี้มันคือเรื่องจริง และตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาสายมากแล้วนางจึงลุกขึ้นล้างหน้าและเดินขึ้นไปข้างบนก็พบกับท่านผู้เฒ่ากำลังนั่งจิบชาอยู่เช่นเดิมแต่ข้างหน้าโต๊ะก็มีอาหารประเภทซุปเห็ดแกงเห็ดผัดเห็ดรวมไปถึงเห็ดย่างที่นานได้ถึงเมื่อครู่ มันไม่ถูกต้องนี่นาทำไมเหมือนท่านอาจารย์เข้าไปนำความฝันของนางมาทำเป็นความจริงกันล่ะ หรือว่านางคิดมากเกินไป

"อ้าตื่นแล้วก็มากินข้าวเถอะ ไปยืนทำสีหน้าลำบากใจอะไรอยู่ตรงนั้น ในเมื่อเจ้าศึกษาคัมภีร์จนดึกดื่น มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะตื่นช้า ก็เป็นข้านั่นแหละที่ต้องตระเตรียมอาหารให้เจ้าไม่ต้องลำบากใจมะกินเถอะ"

ชายชรากล่าวขึ้น

"สีหน้าข้าลำบากใจขนาดนั้นหรือท่านอาจารย์ข้าแค่คิดว่าท่านอาจารย์เข้าไปในความฝันอันสวยงามของข้าหรือไม่ เพราะข้าฝันถึงป่าแห่งหนึ่งที่สวยงามและก็มีเห็ดเต็มไปหมด เห็ดพวกนั้นสวยงามมากแต่ข้าก็เก็บมันมากิน ข้ากำลังต้มซุปเห็ดและย่างเห็ดหอมๆ พอข้าตื่นขึ้นมาข้าก็ได้กินต้มเห็ดแกงเห็ดผัดเห็ดและย่างเห็ดแบบนี้ ข้าก็เลยส่งสัยเล็กน้อย"

เด็กน้อยกล่าวถามขึ้น

"ข้าจะไปในความฝันในนิมิตของเจ้าได้อย่างไรกันล่ะ เป็นเจ้าเองหรือเปล่าที่ได้กลิ่นข้าทำกับข้าวแล้วก็นำไปฝันผสมปนเปไปด้วยกัน มากินเถอะ วันนี้ยังฝึกร่างกายไหวไหมถ้าไม่ไหวก็ไปพักผ่อนตอนกลางคืนเจ้าค่อยอ่านตำรา"

ชายชรากล่าวขึ้น

"แหนะท่านอาจารย์เหมือนท่านรู้อีกแล้วว่าข้าอ่านตำราได้นิดหน่อยก็ผลอยหลับไป เพราะว่าข้าเหนื่อยจากการฝึกร่างกายเมื่อวานก็ท่านให้พระยืนกระต่ายขาเดียวทั้งวันเลยนิ"

เด็กน้อยกล่าวขึ้นอีก

"มันเป็นความปกติของร่างกายในเมื่อกลางวันมันใช้งานหนัก กลางคืนก็ต้องได้รับการพักผ่อนข้าจึงบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วไง ให้เจ้าพักผ่อนตอนกลางวัน แล้วกลางคืนค่อยท่องตำรับตำราแต่เจ้ายังยืนการที่จะฝึกร่างกายในตอนกลางวันแล้วเป็นอย่างไรล่ะ แล้วก็คิดว่าข้าแอบดูเจ้าอย่างนั้นหรือ"

ชายชรากล่าวขึ้น เป็นจริงดังที่เขาพูดจริงๆเพราะว่าเมื่อวานท่านอาจารย์ก็บอกนางเองว่าให้พักผ่อน เมื่อกินข้าวเสร็จเด็กน้อยก็พักผ่อนอย่างว่าง่ายแล้ว ชายชราได้แต่สายศีรษะเด็กน้อยผู้นี้ต้องลองด้วยตัวเองทุกอย่างเลยถึงจะฟังคำของผู้ใหญ่ถามว่าแบบนี้ดีไหมก็ดีจะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ชายชราจึงเข้าห้องเสร็จวรยุทธของตัวเองส่วนเด็กน้อยนั้นก็นอนพักผ่อน พอตกเย็นเด็กน้อยก็ลุกขึ้นมากินข้าว และไปนอนอ่านคัมภีร์เช่นเดิม พอนางเปิดคัมภีร์ออกก็พบเหตุการณ์ตามเดิมเมื่อคืน ที่เคยเจอะเจอไม่มีผิด บทความแรกก็ยังเป็นบทความเดิมและค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆขั้นที่สองรัตติกาลกลืนจิต

ต้องฝึกในคืนเดือนดับจินตนาการว่าตนเองถูกความมืดกลืนกินทั้งร่าง ปล่อยให้สติยังคงอยู่เพ่งสมาธิไปยัง "เส้นลมปราณดารา" ซึ่งอยู่บริเวณจุดกลางอกดึงดูดพลังดาราเข้ามาหล่อเลี้ยงลมปราณ เด็กน้อยอ่านไปด้วยคิดไปด้วยนางก็คิดว่ามันต้องยากมากๆแน่ๆการที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกความมืดกรนเป็นทั้งร่างกายแล้วจิตใจภายในก็คิดว่าตัวเองถูกความมืดจะกินมันเป็นความรู้สึกที่เด็กอย่างนางต้องกลัวมากๆแน่ ขั้นที่สามมังกรดาวสะท้านฟ้าฝึกการเคลื่อนไหวควบคู่กับลมปราณ ท่าฝึกประกอบด้วย “หมื่นเงาโลหิต” และ “ก้าวเหยียบหมื่นดารา” พลังลมปราณไหลวนทั่วร่าง ราวกับมังกรที่โผบินท่ามกลางท้องนภา ต้องฝึกให้พลังสะท้อนกลับมาเสริมกำลังหัวใจ ไม่ให้ถูกพลังดารากลืนกิน เด็กน้อยอ่านไปเรื่อยๆจนถึงช่วงเช้านางก็ลุกขึ้นไปหุงหาอาหารให้ท่านอาจารย์และพอท่านอาจารย์ตื่นมาก็กินอาหารแล้วกลับมาพักผ่อนตามเดิม นางทำอย่างนี้ราวราวหนึ่งเดือนนางก็คิดว่านางจำบทความทั้งหมดเลยหนังสือคัมภีร์มรณะดาราได้แล้ว แต่คัมภีร์นี้ต้องมีคัมภีร์อื่นๆเข้ามาผสมด้วยเช่นวิชาหมื่นเงาโลหิตและ เก้าเหยียบหมื่นดารา นางจึงไปปรึกษากับท่านอาจารย์ในเช้าวันต่อมา

"ท่านอาจารย์ค่าศึกษาคัมภีมรณะดาราเกิดขึ้นแล้วแต่ในคัมภีร์นี้บอกว่าข้าต้องฝึกพร้อมกับวิชาอื่นๆเช่นวิชาหมื่นเงาโลหิตและก้าวเหยียบหมื่นดารา อีก'

เด็กน้อยกล่าวขึ้น

"ที่ข้าให้เจ้าไปศึกษาก่อนนั้นมันเป็นภาพรวมของทั้งหมดแต่ตอนนี้เจ้าต้องทำบทแรกให้ได้ก่อน หากเจ้าฝึกบทแรกได้สำเร็จซึ่งเส้นลมปราณของเจ้าก็จะค่อยๆขยายออก แล้วเจ้าก็จะมีเส้นลมปราณฝึกยุทส่วนคัมภีร์วิชาอื่นๆเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้เจ้าต้องเป็นผู้ไปหามันด้วยตัวเองเพราะในที่นี้มีตำราที่วิเศษสุดๆก็คือเล่มนี้เล่มเดียวเท่านั้น"

ชายชรากล่างขึ้น แต่ก็เป็นจริงดั่งคำที่ใช้ชราว่าเพราะเด็กน้อยเองก็ค้นดูถูกตำราในชั้นวางแล้วไม่มีตำราใดที่เกี่ยวกับหมื่นเงาโลหิตหรือก้าวเหยีบหมื่นดาราเลย คัมภีร์นี้เป็นคัมภีร์ที่ไม่ได้ครบถ้วนมีแค่ช่วงต้นเท่านั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ผจญป่าฝึกใจ

    แสงอรุณแรกสาดลอดหมู่ไม้ ทาบเงาทาบพื้นดินเป็นริ้วทองอ่อนเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ดัง “ซู่ซู่” คล้ายเสียงกระซิบจากวิญญาณโบราณในหุบเขาหนทางเบื้องหน้าเต็มไปด้วยหมอกขาวบาง ลึกลับราวม่านแห่งสวรรค์ที่กั้นระหว่างคนกับพลังลมปราณ หลินซื้อหยาย่างเท้าเข้าขึ้นอีกครั้งหลังจากพักผ่อนไปได้เล็กน้อย มือกำดาบไม้แน่น ในหัวใจไม่มีสิ่งใด นอกจากคำอาจารย์ที่ว่า“หากเจ้ามิอาจฝึกจิตให้สงบในหมู่ความวิเวก เจ้าก็ไม่มีวันก้าวข้ามขอบเขตวรยุทธได้”ทุกย่างก้าว นางต้องเผชิญทั้งความเงียบ ความหิว และความกลัวบางคืน เสียงสัตว์คำรามดังก้องในหุบเขาบางยาม ลมเย็นพัดผ่านจนเหมือนมีเงาผู้คนเดินตามอยู่ข้างหลัง แต่เมื่อหลับตาและปล่อยใจเข้าสู่สมาธิ นางกลับสัมผัสได้ถึงจังหวะของลมหายใจที่ผสานกับเสียงป่า ใบไม้ไหว คือการเต้นของพลังชีวิตสายน้ำที่ไหล คือการหมุนเวียนแห่งลมปราณและในที่สุด นางก็เข้าใจว่า “วรยุทธ มิได้อยู่ในคัมภีร์ แต่อยู่ในหัวใจผู้ไม่ยอมแพ้”ในป่า จากเด็กสาวที่กลัวเสียงสัตว์กลายเป็นนักยุทธที่ยืนหยัดได้กลางพายุฝนมือขวาจับดาบนิ่งสงบ ดวงตาแน่วแน่พลังภายในพลุ่งพล่านเหมือนสายน้ำที่ไหลกลับสู่ต้นธาร ราตรีนั้น ฟ้าปิดเงียบไร้ดา

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ก้าวแรกสู่ความกล้า

    เช้าวันต่อมาสองคนอาจารย์กับลูกศิษย์เมื่อกินข้าวกันเสร็จ ก็เตรียมตัวที่จะออกไปเดินป่าปกติเด็กน้อยจะไม่ค่อยได้ออกไปเดินป่าสักเท่าไหร่เพราะว่าในป่านั้นมันอันตรายชายชราจึงไม่อยากให้นางได้ไป แต่วันนี้นางมีวรยุทธถึงขั้นหนึ่งแล้ว นางจึงจำเป็นที่จะต้องหาประสบการณ์บ้าง ชายชราเพียงส่งเด็กน้อยไว้ในป่าที่เขาสามารถควบคุมได้และกลับไปยังเรือนของตัวเอง ยามที่เด็กน้อยผู้นี้ประสบภัยในป่านี้เขาก็จะได้รับรู้เป็นผู้แรกและจะมาช่วยนางได้ทันแน่นอน เมื่อนางเดินเพียงลำพังนางก็ขวัญคิดเมื่อนั้นทุกข์ได้ออกจากบ้านครั้งแรกตอนนั้นนางรู้สึกกลัวได้แต่เดินอยู่ในป่าแต่ณเวลานี้นางรู้สึกว่านางไม่ใช่เด็กคนนั้นอีกแล้วเพราะท่านอาจารย์บอกว่านางต้องหาประสบการณ์ในป่าต้องสู้กับสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร อาจารย์จะมารับในอีกสามวัน นางจะได้เผชิญโลกกว้างด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกนางรู้สึกตื่นเต้นมากๆ นางไม่รู้เลยว่าอยู่เฉยๆตัวเองจะมีวรยุทธ์ลำดับหนึ่งขึ้นมาได้อย่างไร แต่เอาเข้าจริงๆนางก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เพราะในความที่นางฝันนั้นมันเหมือนจริงมากๆ นางทรมานมากๆแล้วเป็นเวลานานเสียด้วย แต่ถ้าหากให้นางฝึกยุทแล้วทรมานขนาดนี้ แล้วมีวรยุทธ์เพียง

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ปักปิ่น

    ชายชราลงเขาเพื่อไปหาเครื่องประดับสำหรับสตรีสำหรับเขาแล้วไม่เคยชินสำหรับการสรรค์หาสักเท่าไหร่ หมู่บ้านเล็กๆที่มีของขายมากมายส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์ไปจับจ่ายซื้อของที่ได้มาจากเขา นายพรานชอบล่าสัตว์ป่าบางประเภทที่หายากมาขาย แร่ธาตุต่างๆที่เหมาะสมสำหรับฝึกวรยุทธ์ รวมไปถึงส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์ เช่นงาสัตว์และเขาสัตว์ที่หายากอีกต่างหาก เขาเดินเที่ยวหาเครื่องประดับสตรีอยู่ตั้งนาน"อ้า ไป๋อีเฟิงเจ้าทำอะไรของเจ้าน่ะหาอะไรอยู่หรือเปล่า แต่ที่เจ้าหานั้นเป็นของสตรีนี่เจ้าจะหาไปให้ผู้ใดกันหรือ"เสียงชายชราผู้หนึ่งดังขึ้น มาแต่ไกลชายชราผู้นี้จึงมองไปที่เขา"อ่า เจ้าหม่าเหิง เป็นยังไงล่ะวันนี้ถึงมาเดินตลาดได้นะ"ชายชรากล่าวขึ้นเมื่อเห็นสหายเก่าเดินมาแต่ไกล"เขาว่าช่วงนี้มีหางยูนิคอร์นขายข้าเลยมาเดินดูเสียหน่อยเผื่อจะได้สักเส้น ว่าจะเอาไปต่อกระดูกเจ้าล่ะมาหาอะไรเห็นด้อมๆมองๆกับของพวกสตรีเหล่านี้ "ชายชราอีกคนถามขึ้น"ช่วงนี้ลูกศิษย์ของข้าจะมีอายุครบสิบห้าหนาวแล้ว ข้าจึงต้องทำพิธีปักปิ่นให้นางน่ะ ข้าจึงมาหาปิ่น เพราะเจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีปิ่น"ชายชรากล่าวขึ้น"เฮ้ เจ้ามีลูกศิษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก่อ

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   ตื่นแล้ว

    ภาพนี้หยุดนิ่งอยู่เนินนานเลือดที่ออกจากทวารทั้งเจ็ดนั้นไม่ได้แห้งเหือดไปเหมือนไหลอยู่ตลอดเวลา ชายชราไม่ดื่มไม่กินยืนเฝ้าเด็กสาวผู้นี้และคอยฟังเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาตลอด พอถึงเช้าวันที่แปดเหมือนสีหน้าของเด็กสาวผู้นั้นจะดีขึ้นและเลือดเริ่มหยุดไหลแล้ว ลมหายใจของนางเร็วและถี่ขึ้นเหงื่อนั้นท่วมใบหน้า บางครั้งมีเส้นเลือดปูดวิ่งไปวิ่งมาตามตัว ชายชรามองด้วยความเห็นใจเด็กคนนี้กำลังจะต่อสู้กับดวงดาวที่ตนเลือกแล้ว ทางด้านเด็กน้อยกำลังลังเลว่าจะเลือกดาวดวงใดแต่อยู่ๆเหมือนสติก็ดับวูบลงไปพอได้สติอีกครั้งเหมือนแขนขาของเขาถูกตึงไว้ผิวหนังของนางร้อนระอุราวกับถูกไฟลวก อุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่าปกติ เลือดในกายขับเคลื่อนรวดเร็วราวน้ำเดือด ดวงตาร้อนฉานเหมือนเปลวเพลิงเผา ลมปราณถูกเร่งเร้าเกินขีดจำกัด คล้ายเชื้อไฟที่ถูกเติมไม่หยุด ทำให้เส้นลมปราณบางส่วนเหมือนจะถูฉีกแตกได้ หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกจากอก เสียงเลือดสูบฉีดดังสะท้อนในโสตประสาท รู้สึกเหมือนร่างกายถูกเผาจากด้านใน เลือดค่อย ๆ แห้งเหือด เป็นความทุกข์ที่ทรมานยิ่งนัก เหมือนว่ามันจะไม่รู้จักจบสิ้น เด็กน้อยพยายามฝืนทนกับความรู้สึกนี้ มันเหมือนจะก

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   เลือกดวงดาว

    เหมือนว่าแรกๆนางจะไปได้ไวมากแต่เหมือนตอนนี้ว่านางเริ่มจะชะงักแล้วชายชราจึงมองออกถึงปัญหาของนางว่าตอนนี้นางยังไม่สามารถที่จะสัมผัสกับดวงดาวได้ ตอนนี้นางแค่สัมผัสกับใจของตัวเองเพื่อไม่ให้จินตนาการไปให้เกิดความกลัวตอนนี้ใจนางบริสุทธิ์ก็จริง แต่ยังไม่สามารถรับพลังของดวงดาวได้ อาจจะเป็นเพราะว่านางกังวลเรื่องที่จะเลือกดวงดาวก็มีส่วน"คืนนี้ในการนั่งสมาธิเจ้าเงยหน้าไปมองดูดวงดาวนับร้อยนับพันพวกนั้นให้เจ้าจดจำสิ่งที่มันกระพริบให้ดีราวๆครึ่งคืนให้เจ้าหลับตาลงสู่สมาธิเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะเลือกดาวผิดหรือถูกตอนนี้เจ้าเป็นกังวลอยู่จึงทำให้ตัวเจ้าเองนั้นไม่มีความก้าวหน้า เจ้าจงคิดเสียว่าชีวิตเจ้ามาถึงขนาดนี้ได้มันดีแค่ไหนแล้ว การเลือกดวงดาวนั้นมันก็เป็นจังหวะของชีวิต มันจะมีดาวดวงหนึ่งที่สีสวยที่เจ้ามองแล้วก็ชอบนั่นแหละมันคือจังหวะชีวิตของเจ้าหากเจ้าเลือกมันมาแล้วมันเป็นดาวมรณะเจ้าก็ต้องทำใจว่าเจ้าต้องยอมตรงนี้ก่อน หากเจ้าไม่คิดที่จะเปลี่ยนเจ้ายังคิดกลัว เจ้าเองก็ไม่มีวันที่จะก้าวหน้า"ชายชรากล่าวกับเด็กน้อยวัยเจ็ดหนาว เด็กน้อยทำหน้าตาราวกับฟ้าจะถล่ม มันเป็นความรู้สึกกลัวจริงๆ จิตใจของนางก็กล

  • ดอกหญ้าทะยานฟ้า   จิตนาการ

    "ท่านอาจารย์เจ้าคะแล้วคัมภีร์ที่ท่านอาจารย์ให้ข้าศึกษานั้นมันมีทั้งหมดกี่เล่มหรือเจ้าคะ แล้วข้าต้องไปหาจากที่ใด"เด็กน้อยถามขึ้นด้วยความสงสัย"มันจะมีกี่เล่มหรือไปหาที่ใดนั้นท่านอาจารย์ไม่สามารถรับรู้ได้ หากเจ้ามีบุญวาสนาเกี่ยวกับมันเจ้าก่อจะได้สัมผัสกับมันเอง บางครั้งอาจจะเป็นคัมภีร์เล่มๆแบบนี้หรือเจ้าอาจจะสัมผัสด้วยตัวของเจ้าเอง แล้วเจ้าก็จะได้เห็นวิชามันมาในรูปแบบต่างๆเอง อาเป็นว่าตอนนี้เราเริ่มบทเรียนบทแรกเพื่อที่จะให้เจ้าได้เปิดเส้นลมปราณฝึกวรยุทธ์เสียก่อนเถอะ"ชายชรากล่าวขึ้น"จะฝึกได้อย่างไรหรือเจ้าคะในเมื่อเขาให้ฝึกตอนกลางคืน ให้ไปนั่งสมาธิรับแสงดวงดาวเพื่อที่จะให้แสงแห่งพลังข้ามาในร่างกายให้มันมากๆ"เด็กน้อยกล่าวขึ้น"ใช่แล้วแหละเขาให้เจ้ามานั่งสมาธิเพื่อที่จะรับแสงจากดวงดาวแต่ตอนกลางวันนั้นเจ้าก็ยังต้องฝึกร่างกายเหมือนเดิมนั่นก็คือยืนขาข้างเดียวให้มั่นคงเสียก่อนไปเถอะ"ชายชรากล่าวขึ้น เด็กน้อยก็ทำตาม ณ เวลานี้นางเริ่มที่จะยืนขาเดียวได้แบบไม่เซแล้วเล็กน้อยแต่ใช้เวลาไม่นานนางก็ต้องเปลี่ยนใช้ขาอีกข้างนึงสลับกันไปในหนึ่งวัน นางก็รู้สึกเหนื่อยล้าแล้ว แต่นี้ท่านอาจารย์ยังจะให้นั่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status