Share

ชายแดนซีหลาน

Author: Yuyueyuan
last update Last Updated: 2025-12-23 08:25:43

พวกเขาหาที่ปลอดภัยซุ่มดูคนพวกนั้นสักพัก ได้ยินเสียงคนงานในเหมืองพูดคุยกันด้วยความเริงร่า

            “ท่านอ๋องนี่ดีจริงๆ แบ่งหญิงสาวมาปรนนิบัติพวกเราและเหล่าผู้ลาดตะเวนด้วย เมื่อคืนข้าสบายตัวมาก”

            “ข้านี่ก็เบาโล่งเลย ไม่ได้ปลดปล่อยเสียนาน”

            “ทำงานกับหนานหยางอ๋องนี่ดีจริงๆ”

            ได้ยินชื่อคนที่คุ้นเคย ซ่างเทียนหลินก็พอคาดเดาเรื่องทั้งหมดได้แล้ว ทั้งการส่งหญิงสาวไปขายเป็นสาวใช้ นางคณิกา หนานหยางอ๋องทำเพื่อให้พวกเขาสนใจ จะได้ปกปิดการลอบขุดเหมืองสะดวกขึ้น

            “สมควรตาย” เขาต้องรีบกลับไปเขียนรายงานแล้วนำกำลังทหารมาล้อมจับให้จงได้

            ขณะที่พวกเขากำลังจะกลับลงไปบริเวณหน้าผาริมถนนเพื่อปีนเขากลับทางเดิมนั้น ก็มีนกเหยี่ยวบินพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา

            “นี่มันนกผู้ใดกัน” องครักษ์นายหนึ่งอดพูดออกมาไม่ได้

            “นกสอดแนม วิ่ง”

            พวกเขาวิ่งหนีเพราะยังไม่ต้องการให้ฝั่งหนานหยางอ๋องรู้ตัวแต่เกรงว่าคงจะไม่ทันเสียแล้ว ทางฝ่ายตรงข้าม ผู้ลาดตะเวนถือกระบี่วิ่งเข้ามาล้อมพวกเขา เกิดการต่อสู้กันชุลมุน มีนกเหยี่ยวคอยพุ่งโจมตีจากทิศเหนือศีรษะ

            พวกเขาสู้จนอีกฝ่ายนอนกองอยู่กับพื้น เมื่อจะกลับทางถนนก็มีผู้ลาดตะเวนอีกจำนวนมากวิ่งกรูเข้ามา

            “คุ้มครองท่านอ๋องหนี” องครักษ์หลูจวินตะโกนบอกคนอื่นๆ

            ซ่างเทียนหลินเห็นคนจำนวนมากจึงยังไม่เสี่ยงกับการเข้าแลก เขากับองครักษ์อีกสองนายวิ่งไปทางหน้าผาเพื่อกลับทางที่ตนเองมา แต่เมื่อกำลังจะปีนลงหน้าผา นกเหยี่ยวก็บินมาจู่โจมพวกเขา ครั้งนี้มันมากันถึงสามตัว และยังมีผู้ลาดตะเวนอีกกลุ่มวิ่งมาจากอีกทิศทางหนึ่งตรงมายังเขา

            การที่มีคนวิ่งมาและการต่อสู้ที่ไม่ห่างกันนักทำให้พื้นดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือน รวมถึงมีเหยี่ยวพุ่งเข้าจิกศีรษะและฝ่ามือที่จับยึดหน้าผา จากนั้นก้อนหินจากด้านบนทยอยร่วงหล่นมาใส่ซ่างเทียนหลิน

            “เวรเอ้ย” เขาร้องก่อนเสียหลักตกลงไปในหน้าผา

            “ท่านอ๋อง” องครักษ์หลูจวินร้องด้วยความตกใจ เขาและองครักษ์อีกคนรีบกระโดดและจับต้นไม้ลงตาม แต่หน้าผาลึกเกินไปจึงต้องยุติการติดตาม แล้วค่อยคิดหาวิธีลงไปเบื้องล่างของเหว

            องครักษ์ที่ต่อสู้อยู่นั้นได้ยินเสียงตะโกนก็ใจไม่ดี พวกเขาต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิตจนคู่ต่อสู้พ่ายแพ้ จากนั้นก็รีบแยกย้ายกันหนี หาที่หลบให้ปลอดภัยก่อนที่จะนัดพบกันเพื่อออกตามหาซ่างเทียนหลิน

            ........

            “ตกหน้าผาหรือ” หนานหยางอ๋องฟังรายงานขององครักษ์ มือหนาคลึงลูกแก้วกลิ้งอยู่บนโต๊ะอย่างผ่อนคลาย

            “พะย่ะค่ะ หน้าผาบริเวณนั้นมีหมอกปกคลุมหนาแน่น เรายังไม่เคยสำรวจถึงก้นหน้าผาเพราะว่าลึกมาก คาดว่าชินอ๋องไม่น่ารอด” องครักษ์รายงานและวิเคราะห์ให้เขาฟัง

            “องครักษ์ที่ติดตามล่ะ”

            “ส่งคนไปตามเก็บแล้วพะย่ะค่ะ”

            หนานหยางอ๋องเงียบไปชั่วครู่

“ชินอ๋องกับฮ่องเต้ไม่อยู่ในเมืองหลวงทั้งคู่ คาดว่าคงมาสืบข่าวด้วยกัน ช่วงนี้องครักษ์ไม่เยอะ ตามหาว่าเขาอยู่ที่ไหน และส่งกำลังคนสักร้อยสองร้อยคนไปจัดการซะ อย่าให้มีชีวิตกลับมาได้”

            “พะย่ะค่ะ” องครักษ์รับคำอย่างฮึกเหิมแล้วเดินออกจากห้อง

            “ตามตัวเยี่ยนจิงหนิงมาปรนนิบัติเปิ่นหวาง” เขาบอกกับสาวรับใช้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง

            “หม่อมฉันก็ปรนนิบัติท่านอ๋องได้นะเพคะ” เสียงหวานของลู่เสี่ยวลี่ดังขึ้น

            หนานหยางอ๋องมองอนุของตนที่วันนี้ตั้งใจแต่งกายสวยและยั่วยวนเป็นพิเศษ

            “พวกเจ้าสองคนก็ปรนนิบัติเปิ่นหวางพร้อมกันเลย” พูดจบเขาก็ลุกไปยังอ่างอาบน้ำ ลู่เสี่ยวลี่รีบเดินตามไปช่วยถอดเสื้อผ้าให้เขาอย่างคล่องแคล่ว

            ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลู่เสี่ยวลี่ต้องแบ่งสามีของตนเองกับสตรีอื่นขณะที่นางกำลังเปลือยกายอยู่บนเตียงเดียวกัน นางกับเยี่ยนจิงหนิงแสดงแววตาแข่งขันกันตลอดเวลา ทั้งสองต่างงัดกลเม็ดมาทำให้บุรุษบนเตียงพึงพอใจ

            ‘ข้าต้องเขี่ยนังเพศยานี่ให้พ้นทาง’ ลู่เสี่ยวลี่คิดตอนที่นางบรรจงใช้ริมฝีปากและลิ้นดูดดุนแท่งหยกของสามีตน

            ........

            ชายแดนตงชวน-ซีหลาน

            “กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมนำตัวคนร้ายที่ลอบนำสตรีไปขายส่งให้กับกรมอาญาแล้ว สตรีเหล่านั้นก็ยังถูกกักตัวรอให้ปากคำแล้วค่อยส่งตัวกลับบ้านพะย่ะค่ะ” องครักษ์รายงานฮ่องเต้ซ่างเทียนรุ่ย

            “ดี เพิ่งจับได้แค่กลุ่มเดียว ยังต้องสาวไปถึงต้นตอ”

            ซ่างเทียนรุ่ยกระโดดขึ้นหลังม้า สองมือบังคับให้มันวิ่งไปบริเวณรกร้างริมชายแดน องครักษ์อีกเก้าคนขี่ม้าตามไปอย่างรวดเร็ว

            พื้นที่แถวนั้นเป็นป่าทึบกับหมู่บ้านร้าง เมื่อซ่างเทียนรุ่ยมาถึงสายตาก็สะดุดเข้ากับศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่มีกำแพงล้อมรอบ

            เขาสั่งให้องครักษ์เข้าไปดูภายใน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขี่ม้าตามเข้าไป

            “คืนนี้พักที่นี่สักคืนก็ได้” ซ่างเทียนรุ่ยกล่าวกับองครักษ์

            “พะย่ะค่ะ” ทุกคนตกปากรับคำ

            เวลากลางดึกที่เงียบสงัด จิ้งหรีดและแมลงต่างๆ เงียบเสียงลงอย่างกะทันหัน มีเพียงใบไม้ที่ต้องลมเสียดสีกันเกิดเสียงขึ้นเป็นระยะ

            จากนั้นไม่นานก็มีเสียงคล้ายกับคนที่เดินด้วยปลายเท้ามุ่งหน้าเข้ามาภายในศาล ซ่างเทียนรุ่ยและองครักษ์คนอื่นๆ ได้ยินก็ต่างจับกระบี่เตรียมพร้อมต่อสู้

            ประตูศาลถูกเปิดอย่างรุนแรง กลุ่มชายชุดดำโพกผ้าปิดอำพรางใบหน้า เหลือเพียงดวงตาที่เปิดเผยออกมาเพื่อดูเหตุการณ์ต่างๆ

            ซ่างเทียนรุ่ยและองครักษ์ลุกขึ้นมาชักกระบี่ตั้งท่าเตรียมรับมือกับกลุ่มชายชุดดำ ชายเหล่านั้นค่อยๆ เดินเข้ามาล้อมรอบพวกเขาจำนวนมาก คาดคะเนด้วยสายตาก็ประมาณหนึ่งร้อยคนเป็นอย่างน้อย

            องครักษ์คนหนึ่งพุ่งออกไปรับมือ เมื่อสู้กันไปได้สองกระบวนท่า เขาก็รู้ได้ว่าพวกชายชุดดำนี้ไม่ใช่โจรกระจอกทั่วไป

            “พาฝ่าบาทหนี” เขาบอกกับองครักษ์คนอื่นๆ

            องครักษ์จางเฮ่าคุ้มกันซ่างเทียนรุ่ยหลบหนี ส่วนองครักษ์ที่เหลืออีกเจ็ดคนเข้าสกัดเหล่าชายชุดดำ

            จางเฮ่าพาซ่างเทียนรุ่ยวิ่งหนีชายชุดดำจนเข้าเขตป่าต้องห้าม ป่าผืนนี้เป็นเขตแดนระหว่างตงชวนกับซีหลาน ต้นไม้ในป่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมีพิษ เพียงสัมผัสถูกตัวเล็กน้อยก็อาจมีอาการทางผิวหนัง หากรุนแรงหน่อยก็อาจส่งผลต่อจิตประสาทและระบบประสาทในร่างกายจนทำให้เสียสติ เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ดั่งคนเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ส่วนมากสุดก็คือเสียชีวิต

            คนทั้งสองวิ่งหลงทางอยู่ในป่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ถูกหนามของต้นไม้เกี่ยวขาดอยู่หลายตำแหน่ง เมื่อใกล้ถึงชายป่าของอีกฝั่งก็ล้มลงสลบไสลไม่ได้สติ

            ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเข้ามาสำรวจภายในป่า พวกเขาเห็นร่างของบุรุษสองคนนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น

            “องค์หญิง ระวังด้วยพะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มที่มาพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองส่งเสียงเตือน

            “ข้ารู้ ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ” หญิงสาวส่งเสียงไม่พอใจ

            บุรุษดังกล่าวได้ยินเช่นนั้นก็ไม่แสดงความคิดเห็น เขาได้แต่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างเพื่อรอรับคำสั่งเท่านั้น

            หญิงสาวเดินเข้าไปดูคนทั้งสองที่นอนก่ายกันบนพื้น

            “สะบักสะบอมขนาดนี้แต่ยังรอดมาได้ ถือว่ามีฝีมืออยู่บ้าง นำตัวพวกเขากลับไป” นางร้องบอกเหล่าทหารองครักษ์ที่มาด้วยกัน

            “แต่องค์หญิง เราไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของพวกเขา        จะนำเข้าวังได้อย่างไรพะย่ะค่ะ”

            “ใครว่าข้าจะพากลับวัง ข้าจะพาไปเรือนลับของข้า      พวกเจ้าอย่าทูลบอกเสด็จพ่อเป็นอันขาด และห้ามให้พวกเขาทั้งสองรู้ด้วยว่าข้าเป็นองค์หญิง”

            องค์หญิงเหอฮุ่ยน่าใช้เท้าเขี่ยขาของบุรุษทั้งสองที่ซ้อนทับอยู่ให้ออกจากกัน นางก้มตัวลงเพ่งมองใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง

            “พอถึงแล้วเอาเขาไปเรือนเล็กด้านหลังที่พวกเจ้าอยู่” นางหมายถึงจางเฮ่า

“ส่วนคนนี้” มือเล็กชี้ไปที่ซ่างเทียนรุ่ย “ให้เขาพักห้องติดกับห้องของข้า”

            เหล่าองครักษ์ล้วนตกใจ พวกเขารู้ว่าองค์หญิงเหอฮุ่ยน่าเป็นสตรีที่เปิดเผย แต่ก็ไม่นึกว่าจะเปิดเผยถึงเพียงนี้

            “จะทำหน้าอึ้งไปถึงไหน เรื่องอะไรข้าถึงต้องแต่งกับบุตรขุนนางหรือบุรุษผู้สูงศักดิ์ด้วย ข้าจะทำตามใจตัวเอง เอาคนนี้แหละ  ถือว่าดวงสมพงษ์ละกัน”

            “แล้วหากฝ่าบาททรงทราบล่ะพะย่ะค่ะ” องครักษ์ยังคงมีสีหน้าวิตกกังวล เกรงว่าความผิดจะตกอยู่ที่ตนเอง

            “รอให้ข้าตั้งครรภ์บุตรกับเขาก่อน แล้วข้าจะทูลเสด็จพ่อเอง”

            เหอฮุ่ยน่าพูดจบก็โน้มตัวคว้าร่างของซ่างเทียนรุ่ยขึ้นมาก่อนที่จะให้องครักษ์แบกเขาและจางเฮ่าไปที่ม้า

            ซ่างเทียนรุ่ยถูกวางพาดหลังม้าของเหอฮุ่ยน่า ส่วนจางเฮ่าถูกพาดที่หลังม้าของเหวินเจา คนทั้งสองจากที่เนื้อตัวสะบักสะบอมอยู่แล้วเมื่อถูกแกว่งกระแทกกับหลังม้าอาการยิ่งแย่มากขึ้น

            ผ่านไปได้สามวัน ซ่างเทียนรุ่ยก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มีผ้าห่มผืนบางคลุมไว้บนร่างอย่างเรียบร้อย

            มือแกร่งของเขาจับผ้าห่มเลิกขึ้นมาพร้อมกับใช้มืออีกข้างหนึ่งดันตัวให้ลุกขึ้น แต่เมื่อผ้าห่มร่วงออกจากร่างก็เห็นกล้ามเนื้อกำยำท่อนบนถูกทายาไว้บางส่วน ดีที่ท่อนล่างยังมีกางเกงอยู่กับตัว

            ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขยับตัวลุกขึ้นก็มีสตรีใบหน้างดงามนางหนึ่งเดินเข้ามาคว้าข้อมือของเขา

            “ยังไม่หายดีอย่าหาเรื่องใส่ตัว” เสียงใสร้องดุเขาอย่างไม่พอใจ

            “จะ เจ้าคือใคร” ซ่างเทียนรุ่ยขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

            “เมียเจ้า” เหอฮุ่ยน่าตอบน้ำเสียงราบเรียบแทบไม่มีอารมณ์เจือปน

            “เมียข้าเนี่ยนะ” ซ่างเทียนรุ่ยก้มหน้าลงมองส่วนสำคัญของความเป็นชายของตนทันที

            เหอฮุ่ยน่าเหลือบสายตามองก็แอบขบขัน

“อนาคตเมียน่ะ รอเจ้าแข็งแรงดีก่อนข้าจะมีลูกกับเจ้า”

“เจ้าจับข้าเป็นตัวประกันหรือ จะเรียกทรัพย์สมบัติเท่าไหร่บอกมา” ซ่างเทียนรุ่ยเริ่มระแวงสงสัยกับสตรีน้อยตรงหน้า เขาเกรงว่านางเป็นพวกกบฏและต้องการราชบัลลังก์ของเขา

“ข้าไม่ต้องการทรัพย์สมบัติ ข้าต้องการสามีและลูก เป็นสามีข้าไม่ต้องทำงานหรอก แค่อยู่บ้านหน้าตาดีไปวันๆ ก็พอ ข้าเลี้ยงดูได้ อยากได้สมบัติเท่าไหร่ข้าก็เลี้ยงไหว”

ซ่างเทียนรุ่ยอึ้งกับสิ่งที่สตรีพูด นี่ดูเหมือนเปลี่ยนบทบาทระหว่างบุรุษและสตรีอย่างสิ้นเชิง ประโยคนี้ควรเป็นฝ่ายชายที่เอ่ยปากพูดมากกว่า

เห็นสีหน้าของชายหนุ่ม เหอฮุ่ยน่าก็ทำหน้าจริงจัง

“ข้าไม่ได้พูดเล่น เจ้าเพียงอยู่หล่อๆ ในบ้านก็พอ กลางคืนคอยปรนนิบัติข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

นางหันหลังจะเดินออกจากห้อง โดยพูดทิ้งท้ายว่า

“พักรักษาตัวให้หายดีแล้วค่อยมาทำลูกกัน อย่าคิดหนี เพราะคนของข้าอยู่เฝ้าเจ้าและสหายเจ้าตลอดเวลา”

“สหายอย่างนั้นหรือ กี่คน ปลอดภัยดีหรือไม่” ซ่างเทียนรุ่ยรีบเอ่ยถาม

“คนเดียว ชื่อจางเฮ่าได้กระมัง เจ้ามีสหายมากกว่าหนึ่งอย่างนั้นหรือ ถ้ามีมากกว่านี้ เดี๋ยวข้าจะให้คนของข้าตามหาให้ แต่หากโชคร้ายคงกลายเป็นศพในป่าแล้ว”

“ไหว้วานแม่นางด้วย” ซ่างเทียนรุ่ยกล่าวกับเหอฮุ่ยน่า

“พูดไม่เข้าหู ข้าไม่รับปากว่าจะทำให้” เหอฮุ่ยน่ายืนตรงประตูรอฟังคำขอร้องจากเขา

ซ่างเทียนรุ่ยทำสีหน้าสงสัยชั่วครู่ “รบกวนฮูหยินค้นหาสหายของข้าด้วย เดี๋ยวสามีคนนี้จะวาดรูปเหมือนของพวกเขาให้”

            เมื่อเหอฮุ่ยน่าออกจากห้องไป ซ่างเทียนรุ่ยก็ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาเป็นถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นตงชวน ต้องมาเสียท่าให้สตรีน้อยนางหนึ่ง แถมนางผู้นี้ยังเห็นเขาเป็นเพียงบุรุษที่ผลิตบุตรเท่านั้น

            ช่างน่าอัปยศอดสูจริงๆ เรื่องนี้จะให้พระอนุชาทั้งสองของเขาล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   ชายแดนซีหลาน

    พวกเขาหาที่ปลอดภัยซุ่มดูคนพวกนั้นสักพัก ได้ยินเสียงคนงานในเหมืองพูดคุยกันด้วยความเริงร่า “ท่านอ๋องนี่ดีจริงๆ แบ่งหญิงสาวมาปรนนิบัติพวกเราและเหล่าผู้ลาดตะเวนด้วย เมื่อคืนข้าสบายตัวมาก” “ข้านี่ก็เบาโล่งเลย ไม่ได้ปลดปล่อยเสียนาน” “ทำงานกับหนานหยางอ๋องนี่ดีจริงๆ” ได้ยินชื่อคนที่คุ้นเคย ซ่างเทียนหลินก็พอคาดเดาเรื่องทั้งหมดได้แล้ว ทั้งการส่งหญิงสาวไปขายเป็นสาวใช้ นางคณิกา หนานหยางอ๋องทำเพื่อให้พวกเขาสนใจ จะได้ปกปิดการลอบขุดเหมืองสะดวกขึ้น

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   ลักลอบขุดเหมือง

    ลู่เซียงเจี้ยนได้ยินก็ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด นางวิ่งเข้ามาหมายจะตบตีลู่ซินหลิน ขนาดวางยาฆ่าสามีตนเองยังทำมาแล้ว การตบหน้าพี่สาวต่างมารดากลายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที ลู่ซินหลินยืนนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว เมื่อลู่เซียงเจี้ยนเข้ามาใกล้ก็ถูกองครักษ์รวบตัวอย่างรวดเร็ว “พระชายา จะให้จัดการนางอย่างไรหรือพะย่ะค่ะ” “พานางไปไว้นอกวัด อย่าให้เข้ามาก็พอ รบกวนพระเดี๋ยวจะบาป” ลู่ซินหลินตอบ เดินเข้าไปไหว้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ด้านหน้าอย่างใจเย็น องครักษ์หิ้วตัวลู่เซียงเจี้ยนไปไว้นอกกำแพงวัด ลู่เซียง เจี้ยนทุบประ

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   ลักลอบค้าสตรี

    ครั้นเยี่ยนจิงหนิงลืมตาขึ้น นางก็ถูกมัดอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อมองไปโดยรอบก็เห็นหญิงสาวอีกหลายคนถูกมัดเช่นกัน มีทั้งสาวน้อยวัยแรกแย้มและสตรีที่อายุเกินยี่สิบปี ทั้งหมดรวมๆ กันประมาณสิบคนชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก้มตัวลงเอามือหนาจับคางของหญิงสาวเพื่อมองหน้าพวกนางให้ชัดๆ ก่อนจะแยกพวกนางออกเป็นสองกลุ่ม“นังคนนั้นไว้ทางซ้าย คนนี้ไว้ฝั่งทางขวา” เขาบอกลูกน้องให้จับตัวหญิงสาวนั่งห่างกันคนละฝั่งของบ้านเมื่อชายผู้นั้นมาถึงเยี่ยนจิงหนิง เขาสำรวจใบหน้าของเธอ “อืม งามใช้ได้” เขาทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะจับแขนแล้วถลกแขนเสื้อดูแขนของนาง เมื่อเห็นแต้มโส่วกงซายังอยู่ “ของดีจริงๆ”“ฝั่งทางขวา” ชายคนนั้นดึงมือของตนกลับ “ต้องขายได้ราคาดีแน่ๆ” เขายิ้มอย่างชั่วร้าย“ข้าต้องไปปลดปล่อยก่อน” เขาบอกกับบรรดาลูกสมุนก่อนก้าวเท้าออก

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   ลักพาตัว

    เขาจับร่างบางของสตรีให้พลิกคว่ำลงกับหมอน รั้งสะโพกงามให้ลอยเด่นยั่วยวนสายตาเขา เมื่อดอกไม้งามสั่นไหวเรียกหาอยู่ตรงหน้า เข้าก็ก้มลงทักทายอย่างไม่รอช้า ปากหยักขยับคล่องแคล่วเหมือนผู้มีประสบการณ์มานาน เมื่อแท่งหยกเขาพร้อมอีกครั้งก็ส่งเข้าไปยังช่องทางเดิมทันที การส่งไปในครั้งนี้เป็นการสำรวจโพรงน้ำหวานที่ลึกกว่าเดิม “ดีมาก” เขาพูดในลำคอ มือจับสะโพกที่งอนงามไว้ส่วนแก่นกายของตนก็กระแทกเข้าออกไม่ยอมหยุด “เรียกสามี” เขาสั่งให้สตรีที่ร้องเสียงหลงเรียกอย่างหน้าไม่อาย “สะ สามี” นางที่หัวสมองโล่งไปหมดก็เรียกสามีตามที่เขาสั่ง เขาสั่งให้อยู่ท่าไหนก็ยอมเขาอย่างว่าง่าย เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่ร่างของคนทั้งสองเกี่ยวพันประสานกันอย่างล้ำลึก ........ หลังจากว่าราชกิจในท้องพระโรงเสร็จ สายตาทั้งสามคู่ของฮ่องเต้ จวิ้นอ๋องซ่างเทียนหรูและจิ่งเซี่ยวหรานก็จับจ้องมายังซ่างเทียนหลินโดยไม่ได้นัดหมาย “ชินอ๋องละทิ้งหน้าที่ เขาขลุกอยู่กับพระชายาตั้งแต่ค่ำของเมื่อวาน ปล่อยให้กระหม่อมต้องสอบสวนเจ้าชั่วนั่นคนเดียว” จิ่งเซี่ยวหรานทูลฟ้อ

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   โรงเตี๊ยมซินเหอ

    ซ่างเทียนหลินวางหญิงสาวที่ร่างกายเปียกชื้นลงบนเตียง นางเหนื่อยหอบส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เขาแต่ไม่เอื้อนเอ่ยอะไร เขายิ้มมุมปากก่อนยกเรียวขางามมาพาดบ่าของตนทั้งสองข้าง จากนั้นจึงส่งแท่งหยกร้อนเข้าไปทักทายโพรงดอกไม้ที่คับแน่นและชุ่มฉ่ำอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก้มลงประทับจุมพิต โลมเลียและขบกัดตั้งแต่ริมฝีปาก ลำคอและหน้าอกที่อวบอิ่มของนาง ฝ่ามือลูบไล้คลึงเคล้นไปทั่วเรือนร่าง การรุกล้ำ จังหวะเคลื่อนไหวที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเขาทำให้สตรีใต้ร่างส่งเสียงครวญครางทั้งคืนจวบจนถึงรุ่งสางประตูห้องบรรทมตำหนักถูกเปิดออก ซ่างเทียนหลินก้าวเท้าออกมาจากห้องตั้งแต่เช้าด้วยความสดชื่น เขากล่าวกับไป๋หลานที่ยืนรออยู่หน้าหอ “ดูแลพระชายาให้ดี”ไป๋หลานก้มหน้ารับคำ นางรีบเข้าไปให้ห้องเพื่อปรนนิบัติ ลู่ซินหลิน“คุณหนู เอ่อ พระชายาจะอาบน้ำหรือเสวยมื้อเช้าก่อน เพคะ”สตรีบนเตียงนอนแผ่อย่างอ่อนล้า พูดเสียงแหบพร่า“ขอน้ำก่อน ข้าหิวน้ำ” นางร้องทั้งคืนไม่มีโอกาสได้ดื่มน้ำแม้แต่หยดเดียว ตอนนี้คอแห้งผากอยากดื่มน้ำก่อนทำสิ่งอื่นใดเมื่อร่างกายพอมีแรง นางจึงให้ไป๋หลานพยุงนางลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนที่จะรับประทานอาหารเช้า.....

  • ตำแหน่งพระชายา ข้าได้มาเพราะดวง   โดนวางยา

    “พระชายาลู่ไม่อยู่ที่จวนอ๋องพะย่ะค่ะ” ทหารองครักษ์กล่าวรายงาน“งั้นก็รีบหาสตรีเข้าห้องท่านอ๋องไปซะ” จวิ้นอ๋องสั่งทหารด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้กับองครักษ์จ้าวเจินเซี่ยงที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องสีหน้าตื่นตระหนกแต่ภายในใจลิงโลด เขาทำสัญญาณมือบอกฮูหยินให้สาวใช้นำจ้าวไฉ่เจินเข้าไปในห้องพักของชินอ๋องแสงไฟภายในห้องค่อนข้างมืดสลัว สว่างแค่พอมองเห็นกิริยาท่าทางของผู้ที่อยู่ภายในห้อง แต่มองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดเจนเมื่อจ้าวไฉ่เจินก้าวเท้าเข้าไปในห้องก็โผเข้าไปที่เตียงนอน ฝ่ามือลูบไล้ร่างของบุรุษที่อยู่นอนรออยู่บนเตียง“ท่านอ๋อง หม่อมฉันร้อนมากเลยเพคะ ไม่ไหวแล้ว ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันด้วย”จ้าวไฉ่เจินพูดเสียงกระเส่า นางขึ้นไปบนเตียงนอนแล้วถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างไร้ความเขินอายบุรุษที่นอนอยู่บนเตียงรีบพลิกกายเข้าหาสตรีร่างบาง มือของเขารีบช่วยนางปลดเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว“เจ้าช่วยถอดให้ข้าด้วย” เขาพูดเสียงแหบพร่าเมื่อเสื้อผ้าของคนทั้งคู่หลุดออกจากร่างจนหมดบุรุษนั้นก็จับร่างบางให้พลิกลงด้านล่าง ส่วนตัวเขาเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นคร่อมร่างบางนั้นฝ่ามือหนาทั้งสองข้างฟอนเฟ้นหน้าอก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status