Share

ตอนที่ 44

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-06-22 21:54:19

ทางด้านเซ่าหมิงหยวน กำลังเตรียมการรับมือกับชินอ๋อง เมื่อได้รับรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากนกพิราบส่งข่าวแล้ว ก็รีบห้อม้าเร็วกลับไปยังเมืองหลวงทันที

เมื่อไปถึงจวนราชครูหลี่ องครักษ์หญิงทั้งสิบนางถูกสวีเจี้ยนตบหน้า เพื่อเป็นการทำโทษที่ดูแลพระชายาไม่ดี แม้จะรู้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ทว่าหน้าที่อารักขาพระชายา ยังคงต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

“จำเอาไว้ ต่อไปหากเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ข้าจะควักลูกตาของพวกเจ้า” เซ่าหมิงหยวนพูดเสียงเย็น

อย่าคิดว่าทำโทษเพียงตบหน้าเท่านั้น ไม่น่าจะร้ายแรงอะไร   ทว่าสวีเจี้ยนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เป็นองครักษ์เงาประจำตัวของเซ่าหมิงหยวน  มีวรยุทธ์ฝีมือไม่ต่างจากเจ้านายสักเท่าใดนัก องครักษ์หญิงฟันหักไปคนละหลายซี่ บางคนถึงขั้นกรามหัก แต่พวกนางก็คิดว่าสมควรแล้ว เดิมทีคิดว่าเงาหัวจะไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ

เขาเดินเข้าเรือนทางประตูหน้า ไม่หวั่นเกรงว่าผู้ใดจะพบเห็น      ส่งสายตาเยือกเย็นให้สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง สั่งสาวใช้เสียงเย็นให้ไปเตรียมโจ๊กมาให้พระชายา

เวลาเพียงหนึ่งเค่อ โจ๊กร้อน ๆ ก็อยู่ในมือของเซ่าหมิงหยวน       เขาส่งสายตาเป็นเชิงบอกสาวใช้ พวกนางต่างก้มหน้าแล้วเดินออกจากบริเวณนั้นไป

บุรุษชุดดำร่างสูงใหญ่ กระโจนตัวเข้ามาทางหน้าต่างห้องของ    สาวงาม เนื่องจากว่าประตูถูกลงกลอนจากทางด้านใน จึงมีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้

ช่วงดึกของวันอากาศเย็นสบาย ร่างบางนอนขดตัวบนเตียง ทว่าไม่ได้ห่มผ้าหนาเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ซ้ำชุดนอนยังเปลี่ยนเป็นผ้าบางสบาย หลี่เจียวนอนไม่หลับ นางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งสองชาติ จากนั้นได้ยินเสียงคนกระโจนเข้ามาในห้อง แต่ยังไม่ขยับตัว แสร้งปิดตาคู่สวยลง

“ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าไม่อนุญาตให้ร้องไห้อีก” เซ่าหมิงหยวน   วางโจ๊กลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปแหวกม่านมุ้ง มองดูร่างอรชรที่นอนขดอยู่บนเตียง ลอบกลืนน้ำลายโดยสัญชาตญาณ เนื่องจากชุดที่นางใส่ สามารถเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนยิ่งนัก

“ผู้ใดร้อง หม่อมฉันไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย” หลี่เจียวเถียงทั้งที่ยังหลับตาอยู่

“ลุกขึ้นมากินอะไรหน่อยเถิด ฉินซินบอกข้าว่าตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเจ้าเลย” เซ่าหมิงหยวนได้ยินเสียงอีกคนตอบกลับมา ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเสียงที่นางตอบกลับมาก็เป็นน้ำเสียงปกติ หาใช่เสียงของคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างที่เขาคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกไม่

“อือ” หลี่เจียวลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เพราะถึงนางดื้อดึงก็คงสู้แรงบุรุษไม่ได้อยู่ดี

เมื่อนางลุกขึ้นนั่ง เอนตัวพิงไปที่หัวเตียง สีหน้าของเซ่าหมิงหยวนก็เปลี่ยนไปในทันที ใบหน้างดงามข้างหนึ่งบวมเป่ง แม้ว่าจะอาศัยเพียงแสงจันทร์ แต่ก็มองเห็นได้ชัดเจนว่าแก้มงามบวมมากเพียงใด

“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรแล้วเพคะ” หลี่เจียวรีบคว้าข้อมือของ    เซ่าหมิงหยวนเอาไว้ เพราะสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายหมุนตัวจะเดินจากไป

นางไม่อยากให้เขาเสียการใหญ่ ด้วยรู้ดีแก่ใจว่าเวลานี้ เซ่าหมิงหยวนกำลังเตรียมการรับมือกับกองทัพของชินอ๋อง หลี่เจียวไม่กังวล เนื่องจากชาติก่อนที่ชินอ๋องก่อกบฏ ก็เป็นเซ่าหมิงหยวนที่กุมชัยชนะได้ ทว่านางกลับไม่ได้ร่วมยินดีกับเขา เพราะตอนนั้นตนกำลังใกล้ตายเต็มทน

“ต้องการเอาคืนหรือไม่” ที่เขาไม่ถามเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นฝีมือของผู้ใด

“ไม่เพคะ เจ็บตัวครั้งนี้ถือว่าคุ้ม ต่อไปนี้หม่อมฉันกับคนผู้นั้นนับว่าไม่เกี่ยวข้องอันใดกันอีก” หลี่เจียวเหม่อมองออกไป

เซ่าหมิงหยวนนั่งลงข้างเตียง มือหยาบเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าแผ่วเบา กลัวว่าจะทำให้นางเจ็บ แต่แม้ว่าจะเบามือมากเพียงใด คิ้วเรียวยาวก็ขมวดเข้าหากันเพราะความเจ็บอยู่ดี

“ข้าทำเจ้าเจ็บหรือ” เสียงกระซิบถามแผ่วเบา รู้สึกปวดหนึบที่ใจ เมื่อเห็นสภาพของนางเป็นเช่นนี้ น่าจับคนผู้นั้นมาตัดมือทิ้งเสีย      จะได้ไม่กล้ากระทำการที่สามหาวเช่นนี้อีก

“ไม่เจ็บแล้วเพคะ พระองค์มาได้อย่างไรเพคะ” แม้จะรู้ว่าเขามาที่นี่เพราะนาง แต่เพราะอยากจะเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้เขาทำหน้าเจ็บปวดเช่นนั้นอีก จึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“กินข้าวก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้าทุกเรื่อง”

เซ่าหมิงหยวนเดินไปหยิบถ้วยโจ๊กร้อน ๆ มา จากนั้นก็ตั้งใจป้อนให้อีกฝ่าย แรก ๆ หลี่เจียวออกจะเขินอยู่บ้าง เพราะไม่เคยถูกใครทำเช่นนี้มาก่อน แต่ความหิวทำให้นางลืมเรื่องน่าอาย อ้าปากกินโจ๊กคำแล้วคำเล่า กระทั่งหมดไปครึ่งถ้วยนางก็ส่ายหน้า ไม่สามารถรับอะไรลงท้องได้อีก

“ระหว่างนี้ไปอยู่ที่ตำหนักของเสด็จแม่ก่อนดีหรือไม่” เซ่าหมิงหยวนเช็ดมุมปากที่เลอะ แล้วพูดสิ่งที่ตนคิดออกมา

เขาคิดดีแล้ว อีกไม่นานเมืองหลวงจะต้องเกิดสงครามขึ้น เขาไม่วางใจให้นางอยู่ที่จวนนี้แม้เพียงวันเดียว หากเข้าไปอยู่ในวังหลวง อย่างน้อยตอนที่ตนอยู่ในสนามรบ ก็จะได้ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง

จากนั้นก็เล่าเรื่องราวที่กำลังทำให้นางฟัง เพื่อเป็นการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะผิดธรรมเนียมและฟังดูแปลก ๆ ไปบ้างก็ตาม

“รอให้หม่อมฉันหายดีก่อนได้หรือไม่เพคะ” นางไม่อยากให้เขากังวลเรื่องตน แต่ก็ไม่อาจเข้าวังไปพบหน้าแม่สามีด้วยใบหน้าที่บวมเป่งเช่นนี้ได้

“ไปแบบนี้แหละ เสด็จแม่จะได้เอ็นดูเจ้ามากขึ้นไปอีก” เซ่าหมิงหยวนส่ายหน้าปฏิเสธ สายรายงานมาแล้วว่าชินอ๋องกำลังเตรียมเคลื่อนพล หางโจวเป็นสถานที่ที่ฝั่งนั้นเลือกโจมตีเพื่อตั้งกองทัพที่นั่น

หลี่เจียวไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำไหนมาปฏิเสธ จึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างว่าง่าย ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง เซ่าหมิงหยวนไม่ได้รั้งอยู่นาน เนื่องจากว่าเขาต้องเข้าไปแจ้งข่าวให้เสวียนกุ้ยเฟยทราบ จะได้ส่งคนมารับนางเข้าวังหลวง

วันถัดมาเสวียนกุ้ยเฟยสั่งให้ขันทีข้างกายไปรับลูกสะใภ้เข้ามาอยู่ในตำหนักในทันที โดยอ้างว่าช่วงนี้เหงาอยากจะให้ลูกสะใภ้มาอยู่เป็นเพื่อน

ราชครูหลี่ทำได้เพียงแสร้งฝืนยิ้ม ยอมรับด้วยความเต็มใจ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าเรื่องระหว่างบิดาและบุตรสาวเกิดอะไรขึ้น ฮูหยินผู้เฒ่าตัวสั่นเมื่อเห็นคนในวัง สวีซื่อเบ้ปากด้วยความอิจฉา เจ็บใจที่แผนการของตนเองไม่สำเร็จ แม้ว่าจะจัดการจางซื่อกับหลี่ถิงไปได้ ทว่านางก็ยังไม่มีอำนาจถือป้ายคำสั่งของเรือนหลังอยู่ดี แม่สามีรับหน้าที่นี้กลับไปดูแลชั่วคราว

“รบกวนกงกงด้วย” ฮูหยินผู้เฒ่ายัดห่อผ้าหนักอึ้งใส่มือขันที

“ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวเกินไปแล้ว ล้วนเป็นความเมตตาของเสวียนกุ้ยเฟยที่มีต่อพระชายา พระประสงค์ของกุ้ยเฟย มิมีผู้ใดขัดได้ ข้าเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น” ขันทีข้างกายกุ้ยเฟยยัดห่อเงินกลับคืนไป

ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าชา ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน ด้วยต่างรู้ดีว่าขันทีในวังหิวกระหายเงินมากเพียงใด แต่คงใช้ไม่ได้ผลกับคนของตำหนักเสวียนกุ้ยเฟยกระมัง

นางหันไปมองหน้าบุตรชาย หลี่หานตอนนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก    ด้วยไหวพริบและความฉลาดของเขา ย่อมพอจะเดาได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อวานคงล่วงรู้ไปถึงหูขององค์ชายแปดแล้ว เขาคาดเอาไว้อยู่แล้ว ว่าอย่างไรก็คงไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้ได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทวงคืน   ตอนที่ 54

    เมื่อร่างหนาล้มตัวลงนอน ซูเจียวก็นอนลงบ้างเช่นเดียวกัน แม้จะเตรียมตัวมาบ้างแล้ว ทว่านางก็ยังรู้สึกเกร็งอยู่มากเลยทีเดียว ไม่คิดไม่ฝันว่าบุรุษผู้นี้จะยังเลือกนางอยู่เห็นเขานอนสงบนิ่งไม่ไหวติง นางจึงใจกล้าขยับมือของตนเองไปสัมผัสฝ่ามือหยาบที่ร้อนผ่าว จากนั้นทั้งสองก็ประสานมือเข้าด้วยกัน ซูเจียวรู้สึกพอใจไม่น้อยกับท่าทางเช่นนี้ แต่ยังไม่ทันจะหลับตา ร่างหนาที่คิดว่าหลับไปแล้วก็พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของนางเอาไว้“องค์รัชทายาท” ซูเจียวเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบา“ท่านพี่ อยู่ด้วยกันสองคนให้เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่ดังเช่นฮูหยิน จวนอื่นเรียกขานกัน อยู่กับเจ้าสองคนข้าก็จะเรียกเจ้าว่าฮูหยินเช่นเดียวกัน” เซ่าหมิงหยวนสบดวงตาดอกท้อคู่นั้น ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงลมหายใจกั้นเท่านั้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบชา ทำให้สมองของนางกระจ่างแจ้ง“เจ้าค่ะ ท่านพี่”สิ้นคำนั้นริมฝีปากร้อนที่อยู่ด้านบนก็เข้ามาประกบริมฝีปากหวานในทันที ความเร็วในการรุกล้ำเข้ามานั้นเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ ผ่านไปสักพักก็เพิ่มความหิวกระหายเข้าไป จนทำเอาสตรีใต้ร่างหายใจแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่านางเริ่มประท้วง เขาก็ผ่อนแรงลง ละริมฝีปากออก แทะเ

  • ทวงคืน   ตอนที่ 53

    หลังจากที่ผ่านเรื่องราวความวุ่นวายมากมาย ก็ใกล้จะถึงกำหนดการวันอภิเษกสมรส ระหว่างองค์รัชทายาทและคุณหนูใหญ่สกุลหลี่ ซึ่งตอนหลังคนอื่นจะเรียกนางคุณหนูสกุลซู เนื่องจากหมอหลวงซูประกาศชัดเจนว่าหลี่เจียวเข้ามาเป็นคนของสกุลซู ชื่อของนางก็คือ ซูเจียว ซึ่งนางก็ชอบมากเช่นเดียวกันราชครูหลี่รู้ตัวว่าหมดความสำคัญในราชสำนัก อีกทั้งยังถูกหักหน้าเช่นนั้น ไม่สามารถอยู่ต่อในราชสำนักได้อีก จึงเขียนฎีกาลาออกยื่นถวายแด่ฮ่องเต้ ซึ่งเป็นไปตามคาด พระองค์ไม่ทรงคัดค้านเรื่องการลาออกของเขาเลยสักนิด“เจ้าลูกโง่ ลาออกก็แล้วไปเถิด เหตุใดต้องออกจากเมืองหลวง ไปด้วยเล่า” ฮูหยินผู้เฒ่าสู้ฟันฝ่ามาจนถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่มีทางกลับไปตายที่บ้านเกิดให้คนอื่นหัวเราะเยาะเป็นอันขาดชื่อเสียงเงินทองที่สะสมมา ต้องพังพินาศเพราะสองแม่ลูกนั่น บัดนี้นางเพิ่งหูตาสว่าง หากไม่ใช่เพราะถูกจางซื่อเป่าหู มีหรือผู้เฒ่าหูตาพร่ามัวเช่นนางจะหน้ามืดเพียงนี้“ท่านแม่ เป็นเช่นนี้ถือว่าฮ่องเต้ทรงเมตตาแล้ว รัชทายาทแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบพวกเรา ขืนทู่ซี้อยู่มีแต่จะเจ็บตัวเปล่า ๆ อีกอย่างเจียวเอ๋อร์ก็มีใจออกห่างจากพวกเรานานแล้ว หลายเดือนมานี้ที่น

  • ทวงคืน   ตอนที่ 52

    เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ได้กระอักเลือดออกมาแล้วรอบหนึ่ง ทำให้ครั้งนี้อาการของชินอ๋องน่าเป็นห่วง อีกทั้งหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพักผ่อนน้อย ทั้งยังสู้รบ ทำให้ร่างกายและพละกำลังถดถอย“เจ้า” ชินอ๋องไม่มีแม้กระทั่งแรงจะเรียกชื่อหลานชายเสียด้วยซ้ำ“แต่ไม่ต้องห่วง เวลานี้บุตรชายที่รักของท่าน กำลังรออยู่ที่คุกหลวง โทษฐานลอบสังหารรัชทายาทเช่นข้า ท่านอาจจะคิดว่าเขานิสัยไม่เหมือนท่าน แต่ข้ากลับคิดว่า เขากล้าหาญกว่าท่านมากนัก เพราะกว่าที่ท่านจะกล้าลงมือก็นานนับสิบปี ตีเหล็กต้องตีตอนที่ยังร้อนเหมือนที่สวีเฮ่าทำ เพราะ ถ้ามัวแต่รอแบบท่าน สุดท้ายแล้ว เมื่อเหล็กเส้นนั้นหายร้อน นอกจากตีเป็นดาบไม่ได้ ปล่อยไว้นานวันเข้าสนิมก็เริ่มเกาะกิน เหมือนเช่นภายในใจท่านที่เกิดความลังเล” ดวงตาเซ่าหมิงหยวนฉายแววเหี้ยมโหดออกมา“ฮ่า ๆ อ๋องอย่างข้า ไม่จำเป็นต้องให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างเจ้ามาชี้นำ หากพวกเจ้าสองพ่อลูกไม่ใช้แผนสกปรก มีหรือที่ข้าจะพ่ายแพ้ คนแพ้ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดได้ ระหว่างข้ากับเจ้า ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้ วันนี้ข้าผู้เป็นอ๋องอยู่ไม่สู้ตาย”พูดจบเซ่าเยี่ยนก็สั่งทหารที่ซุ่มอยู่โจมตีในทันที ทั้งสองฝ่ายต่าง

  • ทวงคืน   ตอนที่ 51

    ข่าวเรื่องอาการบาดเจ็บขององค์รัชทายาท ต่างคาดเดาไปต่าง ๆ นานา เนื่องจากว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งเสวียนกุ้ยเฟยและพระคู่หมั้นอย่างคุณหนูใหญ่สกุลหลี่เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นประเด็นถกเถียงกันในราชสำนัก เหล่าขุนนางต่างหยิบยกถึงความมั่นคงของการสืบทอดบัลลังก์มาพูดกัน“เหลวไหล รัชทายาทบาดเจ็บ พวกเจ้าไม่เพียงไม่แสดงความภักดี แต่ยังแสดงออกว่าไม่เชื่อมั่นในสายตาของเราผู้เป็นฮ่องเต้ อีกอย่างเรายังไม่ตาย พวกเจ้าก็กังวลกันไปใหญ่โต เช่นนี้จะให้เราคิดเป็นอื่นได้อย่างไร” ฮ่องเต้ทรงพิโรธหนัก เหล่าขุนนางอกสั่นขวัญแขวนด้วยความกลัว รีบคุกเข่าขอความเมตตา ด้วยรู้ดีว่าโอรสสวรรค์ผู้นี้อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าสตรี“ขอฝ่าบาทอย่าทรงพิโรธ พวกเราเพียงแต่คิดเผื่อเอาไว้เท่านั้น พ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีฝ่ายซ้ายพูดขึ้น“ความหวังดีของพวกท่านเรารับรู้ เพียงแต่อยากขอให้พวกท่านอย่าได้กังวล รัชทายาทบาดเจ็บครั้งนี้ โทษของตำหนักชินอ๋องยากเกินให้อภัยได้ จำเป็นต้องรีบจับกุมตัวชินอ๋องเข้ามารับโทษไปพร้อมกับคนในตำหนัก”ทางด้านรัชทายาทเซ่าหมิงหยวน แท้จริงแล้วเขาออกจากวังตั้งแต่คืนที่ได้รับบาดเจ็บแ

  • ทวงคืน   ตอนที่ 50

    เซ่าหมิงหยวนแม้ว่าจะรวดเร็วเพียงใด แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บจนได้ หนำซ้ำยังเป็นธนูที่อาบยาพิษอีกด้วยฮ่องเต้ทราบข่าวทรงพิโรธหนัก เร่งส่งองครักษ์เสื้อแพรพร้อมทั้งทหารในวังเข้าล้อมตำหนักชินอ๋องในทันที ไม่มีผู้ใดสามารถออกมาได้ ซื่อจื่อถูกขังไว้ในคุกหลวงรอวันลงอาญาจากนั้นออกราชโองการแต่งตั้งองค์ชายแปดเป็นองค์รัชทายาท พร้อมทั้งออกประกาศติดไปทั่วทั้งเมืองหลวง ตำหนักชินอ๋องก่อกบฏ ลอบสังหารองค์รัชทายาท มีโทษประหารเก้าชั่วโคตรข่าวนี้ค่อนข้างเป็นที่ฮือฮาของชาวเมืองหลวง ทุกคนต่างเก็บตัวเงียบ ปิดประตูบ้านเรือน ไม่มีแม้กระทั่งสัตว์สักตัวเดินอยู่บนถนนมีเพียงทหารเวรยามเดินสวนไปสวนมา เพื่อรักษาความสงบเท่านั้นทางด้านจวนราชครูต่างอกสั่นขวัญแขวนไปกับข่าวที่ได้ยิน ด้วยไม่คิดว่าซื่อจื่อจะกล้ากระทำการอุกอาจเช่นนี้ แม้กระทั่งชินอ๋องยังไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน“สวรรค์ นับว่าสกุลหลี่ยังพอมีวาสนาอยู่บ้าง หากเกี่ยวดองกับตำหนักอ๋อง มีหวังได้ถูกประหารเก้าชั่วโคตรไปด้วย” ฮูหยินผู้เฒ่ากลัวจนตัวสั่นเมื่อได้ยินข่าวจากบุตรชาย“ข้ายังต้องเร่งเข้าวัง ครั้งนี้ฝ่าบาททรงพิโรธหนัก องค์รัชทายาท ถูกพิษบาดเจ็บสาหัส น่าแปล

  • ทวงคืน   ตอนที่ 49

    พริบตาเดียวอีกเพียงสามวัน ก็ถึงวันงานอภิเษกสมรสระหว่าง องค์หญิงเก้าและซื่อจื่อ ทว่าที่ตำหนักชินอ๋องกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆหลายวันที่ผ่านมานี้ พ่อบ้านอยากจะกรอกยาพิษใส่ปากตัวเอง วันละหลายร้อยรอบ ทว่ากลับทำไม่ลง เนื่องจากสงสารซื่อจื่อ อยู่ไม่สู้ตาย หลายวันที่ผ่านมาเขาจึงเป็นคนจัดการเตรียมงานทุกอย่าง ดีที่มีคนจากในวังเข้ามาช่วยจัดการ ทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบมากขึ้นงานอภิเษกองค์หญิงออกนอกวัง ไม่ยุ่งยากเท่ากับการรับพระชายาเข้าวัง เนื่องจากแต่งออกไปแล้วก็ถือว่าเป็นคนของตำหนักชินอ๋อง ถึงอย่างนั้นขั้นตอนและพิธีการต่าง ๆ ก็ถือว่าซับซ้อนมากกว่าคนทั่วไปมากนัก“ซื่อจื่อ องค์ชายแปดมาขอรับ” ต้าหลางลนลานเข้ามารายงาน“อืม” เขาไม่แปลกใจที่เห็นเซ่าหมิงหยวนมาที่นี่ ด้วยความสามารถของอีกฝ่ายแล้ว ย่อมสามารถหลบหลีกสายตาของเหล่าองครักษ์เงาได้เป็นอย่างดีเซ่าหมิงหยวนเดินเข้ามาในห้องหนังสือ แท้จริงแล้วภายในห้องนี้ ยังมีเส้นทางลับสำหรับออกไปข้างนอก ซึ่งเขาก็ใช้ทางลับนี้เข้ามายังที่นี่ด้วยเช่นกัน เดิมทีคิดว่าญาติผู้น้องคนนี้ต้องหาทางติดต่อกับเขา แต่กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายเก็บตัวเงียบ ยอมทำตามคำสั่งของชิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status