Share

บทที่ 15

Aвтор: RainyStarSea
last update Последнее обновление: 2024-12-08 16:52:05

ค่ำวันนั้น ภายในเรือนของตระกูลหลิน กลิ่นหอมของอาหารจานโปรดลอยอบอวลไปทั่ว หลินเข่อซิงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกับท่านพ่อและท่านแม่ ทั้งสองท่านยิ้มแย้มและดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดในบรรยากาศอันอบอุ่นนี้

อาหารที่ถูกจัดวางบนโต๊ะเต็มไปด้วยเมนูโปรดของครอบครัวหลิน ทั้งซุปไก่ตุ๋นโสม ผัดผักน้ำมันหอย และขนมเปี๊ยะไส้ถั่วที่หลินเข่อซิงชอบที่สุด

“วันนี้เจ้าดูสดใสจังนะซิงเอ๋อร์” ท่านแม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน ขณะตักซุปไก่ตุ๋นโสมใส่ถ้วยให้หลินเข่อซิง “ตั้งแต่เจ้าฟื้นจากเหตุการณ์ตกน้ำมา ข้าเห็นว่าเจ้าดูเปลี่ยนไปมาก ทั้งบุคลิก ความมั่นใจ ดูเจ้ามีความสุขและพูดเก่งขึ้นมากเลย”

หลินเข่อซิงหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส “ข้าแค่รู้สึกว่าชีวิตมันควรจะมีความสนุกและความตื่นเต้นมากกว่านี้เจ้าค่ะท่านแม่ ก่อนหน้านี้ข้าอาจจะกังวลและคิดมากเกินไป แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า...บางทีชีวิตก็ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น เราควรมีความสุขในทุกๆ วันใช่ไหมเจ้าคะ?”

ท่านแม่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ขณะที่ท่านพ่อของหลินเข่อซิงก็นั่งมองลูกสาวด้วยแววตาภาคภูมิใจ เขาวางตะเกียบลงก่อนจะเอ่ยขึ้น “ซิงเอ็อร์ ข้าก็รู้สึกเหมือนแม่เจ้า เจ้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ จากเด็กสาวที่เคยเงียบๆ สุภาพเรียบร้อย แต่ตอนนี้เจ้าดูมั่นใจมากขึ้น มีความกล้าที่จะพูดและแสดงความคิดของตัวเอง” เขายิ้มให้ลูกสาวด้วยความอบอุ่น “ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามากนะ ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวใครจะมารังแกลูกสาวข้าแล้ว”

“ขอบคุณท่านพ่อ” หลินเข่อซิงตอบพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น เธอตักขนมเปี๊ยะไส้ถั่วขึ้นมากินอย่างมีความสุข “ข้ารู้สึกว่าได้ค้นพบตัวเองใหม่อีกครั้ง ข้ารู้ว่าท่านพ่อและท่านแม่อาจจะกังวลว่าข้าจะเปลี่ยนไปมากเกินไป แต่ข้าก็ยังเป็นข้าคนเดิม...แค่มีมุมมองใหม่เท่านั้นเอง”

ท่านพ่อพยักหน้าอย่างชื่นชม “การที่เจ้ากล้าเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งที่ดี ข้าหวังเพียวงว่าเจ้าจะใช้ความกล้านี้ทำสิ่งที่ดีให้กับตัวเจ้าเองและคนรอบข้างไปเรื่อยๆ นะ”

“ใช่แล้ว” ท่านแม่เสริม “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อกับแม่จะอยู่ข้างเจ้าเสมอ ไม่ว่าทางที่เจ้าเลือกจะยากหรือง่ายเพียงใด”

หลินเข่อซิงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ หยาดน้ำอุ่นๆคลอที่หน่วยตา เธอมองหน้าพ่อกับแม่ด้วยความรักและซาบซึ้ง ทุกครั้งที่เธอต้องเผชิญกับอุปสรรคหรือความท้าทาย การที่มีพ่อแม่คอยสนับสนุนอย่างนี้ ทำให้เธอมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้

“ข้ารู้เจ้าค่ะ ข้าจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เพื่อตัวข้าเอง แต่เพื่อท่านพ่อท่านแม่ด้วย” หลินเข่อซิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะตักอาหารเข้าปากด้วยความสุข

คนเป็นแม่มองลูกสาวก่อนจะหัวเราะเบาๆ “ดูเจ้าเพลิดเพลินกับอาหารมากเช่นนี้ แสดงว่าเจ้าคงไม่มีเรื่องกังวลใจอะไรแล้วสินะ?”

หลินเข่อซิงยิ้มกว้าง “ใช่เจ้าค่ะ! อาหารที่บ้านนี้อร่อยที่สุดในโลกแล้ว ข้าจะเครียดได้ยังไง?”

เสียงหัวเราะของทุกคนในครอบครัวดังขึ้นเบาๆ มื้ออาหารของพวกเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข

หลังรับประทานอาหารกับครอบครัว นางกลับเข้ามาในห้องนอน สายลมยามค่ำคืนพัดโชยเข้ามาในห้อง ทำนางสั่นระริกด้วยความหนาว นางซุกตัวเข้ากับผ้าห่มผืนหนาเพื่อหาความอบอุ่น

“คิดถึงพ่อกับแม่จัง ป่านนี้ที่นั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ พวกเขาคงเป็นห่วงฉันมากแน่ๆ เฮ้อ ทำยังไงอีตาพระเอกนั่นจะรีบๆรักนางเอกซักที จะได้จบเรื่อง”

หลินเข่อซิงถอนหายใจเฮือกๆแล้วซุกหน้าเข้ากับผ้าห่มนุ่ม ไม่นานก็โผล่หน้าออกมาอีก

“มีวิธีติดต่อยัยนักเขียนมั้ย ขอทางลัดด่วนจี๋ให้ฉันคนนี้ได้ออกไปไวๆ” แล้วก็กลับมาถอนหายใจอีกเฮือก

นอกหน้าต่างจวนตระกูลหลิน

อวิ๋นเฟยหลงในชุดพรางตัวสีดำสนิท กลืนไปกับความมืดรอบตัว มองเข้าไปยังห้องนอนของสาวน้อยแก้มใส เขาเห็นนางทำปากขมุบขมิบ ด้วยความอยากรู้ว่านางพูดอะไร เขาจึงปีนไปเกาะข้างหน้าต่าง เท้าเหยียบอย่างหมิ่นเหม่จะตกแหล่มิตกแหล่ ดีที่เขามีวรยุทธ์ ไม่อย่างนั้นคงตกไปแข้งขาหักเป็นแน่

“…เขาคงเป็นห่วงฉันมากแน่ๆ เฮ้อ ทำยังไงอีตาพระเอกนั่นจะรีบๆรักนางเอกซักที จะได้จบเรื่อง มีวิธีติดต่อยัยนักเขียนมั้ย ขอทางลัดด่วนจี๋ให้ฉันคนนี้ได้ออกไปไวๆ”

สิ่งที่เขาได้ยิน เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลย แต่กลับรู้สึกว่ามันแปลกประหลาดอย่างที่สุด เขาตัดสินใจทำสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับตัวเอง บุกเข้าไปเผชิญหน้ากับเธอ

เพียงพริบตา อวิ๋นเฟยหลงก็กระโดดเข้ามาในห้องนอนของหลินเข่อซิง เสียงรองเท้าบูท กระทบเบาๆกับพื้นทำให้หลินเข่อซิงสะดุ้งสุดตัว

“เฮ้ย!” เธอร้องออกมา แล้วคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวด้วยความตกใจ “ท่าน! เข้ามาในห้องข้าได้ยังไงเนี่ย!?”

อวิ๋นเฟยหลงยืดตัวตรง สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างจับผิด “ข้าต่างหากที่ควรจะถามเจ้าว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ และเมื่อครู่นี้เจ้ากำลังพูดอะไร? ใครคือ ‘พระเอก’? แล้ว ‘นักเขียน’ ที่เจ้าพูดถึงนั้นหมายถึงใคร?”

หลินเข่อซิงอ้าปากค้าง หัวใจเธอเต้นรัวพลัน ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยิน “เอ่อ... ท่าน...ท่านได้ยินด้วยเหรอ?” เธอพูดตะกุกตะกัก พยายามหาข้ออ้างที่ดูสมเหตุสมผลมาแก้ไขสถานการณ์

“ใช่ ข้าได้ยินทุกคำ” อวิ๋นเฟยหลงตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ แต่แฝงความสงสัยอย่างจริงจัง “ข้าต้องการคำอธิบาย...เดี๋ยวนี้!”

หลินเข่อซิงกระพริบตาเร็วๆ สมองเธอเริ่มคิดหาทางเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตื่นตระหนก เธอพยายามสงบใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจมากที่สุด “โอ๊ย! ท่านนี่...แค่นั้นเองเหรอ? เรื่องเล็กๆ เท่านั้น ข้าก็แค่...อืม...คุยเล่นกับตัวเองไงเจ้าคะ!”

“คุยเล่น?” อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน “เจ้าบอกว่าเจ้ากำลังพูดกับตัวเองเรื่องพระเอกและนักเขียน? แล้วทำไมเจ้าถึงพูดเหมือนว่าเจ้าไม่ใช่คนของบ้านนี้?”

“อืม...ก็...” หลินเข่อซิงทำหน้าเหมือนคิดหนัก แล้วจู่ๆ ไอเดียก็ผุดขึ้นในหัว เธอยิ้มเล็กๆ ก่อนจะพูดต่อ “ข้ากำลัง...ซ้อมบทละครเจ้าค่ะ!”

“ละคร?” อวิ๋นเฟยหลงขมวดคิ้วอีกครั้ง “ละครอะไร?”

“ก็...ละครงิ้วที่ข้าจะเขียนเองไง! ข้ากำลังคิดจะเขียนบทละครงิ้ว แล้วบทที่ท่านได้ยินคือข้ากำลังลองใส่บทสนทนาของตัวละครในใจออกมาเจ้าค่ะ!” หลินเข่อซิงรีบสร้างเรื่องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้ากำลังฝึกให้ตัวเองเป็นนักเขียนบทละครงิ้ว...แบบในยุคนี้! ท่านไม่รู้หรอกว่าการเขียนบทนี่เป็นเรื่องใหญ่ในโลกข้า...เอ๊ย ในเมืองข้าเจ้าค่ะ!”

“บทละครงิ้ว...” อวิ๋นเฟยหลงมองเธอด้วยสายตาที่แสดงถึงความไม่แน่ใจ “ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงเรื่องการเขียนบทละครงิ้วมาก่อน เจ้าชื่นชอบเรื่องเหล่านี้ด้วยหรือ”

“อ้าว! ท่านก็ไม่เคยถามข้านี่เจ้าคะ” หลินเข่อซิงพูดพลางยิ้มกว้าง “ข้ามีความลับเยอะเจ้าค่ะ ข้าคงเล่าให้ท่านฟังไม่หมดภายในวันเดียวแน่ๆ”

อวิ๋นเฟยหลงนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมกริบของเขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหลินเข่อซิง เหมือนพยายามอ่านความจริงจากสายตาเธอ หลินเข่อซิงเริ่มใจเต้นแรง แต่ยังคงยิ้มสู้และทำหน้าใสซื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในที่สุด อวิ๋นเฟยหลงก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ถ้าเจ้าไม่มีอะไรต้องปิดบัง ข้าก็ไม่อยากจะถามซ้ำอีก แต่ข้าบอกไว้ก่อน...อย่าทำอะไรที่ทำให้ข้าต้องสงสัยเจ้าอีก เข้าใจหรือไม่?”

หลินเข่อซิงพยักหน้ารัวๆ “เข้าใจเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านสงสัยอีกแล้ว!” เธอยิ้มแห้งๆ แต่ในใจรู้สึกโล่งอกที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้

อวิ๋นเฟยหลงจ้องเธออีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเตรียมออกจากห้อง แต่ขณะที่เขากำลังก้าวเท้าออกไป เขาก็หันกลับมาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นเบาๆ “บางครั้ง...ข้ารู้สึกว่าเจ้าดูเปลี่ยนไปจริงๆ ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำ แต่เป็น...อะไรบางอย่างในตัวเจ้า”

หลินเข่อซิงชะงัก นิ่งไปเล็กน้อยแต่พยายามเก็บสีหน้า “ข้าก็เป็นตัวข้าเหมือนเดิมเจ้าค่ะท่านอวิ๋น ข้ารับรอง”

เขาเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ แล้วกระโดดออกไปทางหน้าต่าง หายลับไปในความมืดอย่างเงียบเชียบ

หลินเข่อซิงมองตามหลังเขา หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง “โอย...เกือบไม่รอดแล้วเรา” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะซุกตัวลงในผ้าห่มอีกครั้ง หวังว่าคืนนี้จะไม่มีใครบุกเข้ามาอีกแล้ว...

ด้านอวิ๋ยเฟยหลง

“หรือจะไม่ใช่นางจริงๆ ถ้าเช่นนั้นจะเป็นใคร แล้วตัวนางจริงๆแล้วคือใครกันแน่นะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองในลานกว้างของจวนตระกูลอวิ๋น

คืนนี้ลมแรงเสียจนใบไม้เสียดสีกันเสียงดังซ่าๆ อวิ๋นเฟยหลงมองไปยังเงามืดรอบตำหนัก เขาป้องปากส่งเสียงคล้ายนกกลางคืน ไม่นานกลุ่มคนในชุดดำจำนวนกว่ายี่สิบคนพุ่งมาจากในเงามืดรอบจวน

“แบ่งกันออกเป็นสองกลุ่ม ไปสืบหาข้อมูลทุกอย่างของจวนตระกูลหลิน โดยเฉพาะลูกสาวอย่างหลินเข่อซิง ส่วนอีกกลุ่มติดต่อสายของเราในวังว่าช่วงนี้หานเจี๋ยทำอะไรที่ผิดสังเกตหรือไม่”

“ขอรับ นายน้อย” ทั้งหมดตอบรับด้วยเสียงไม่ดังมากนัก และพริบตาต่อมาลานกว้างก็เรียบโล่ง ราวกับไม่เคยมีใครยืนอยู่ตรงนั้นมาก่อน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทสุดท้าย

    “เฮือก…” เสียงสูดลมหายใจเข้าลึกดังขึ้น ทำเอาทรวงอกของหญิงสาวยกขึ้นสูง ขนตางอนยาวเรียงตัวสวยเริ่มขยับไหว ในที่สุดเปลือกตาก็คอยๆเลิกขึ้น ปรากฎดวงตากลมโตสดใสที่มองไปมารอบๆ แสงไฟสีขาวนวลสว่างขึ้นในห้องเล็กๆ ของเธอมาจากหลอดฟลูออเรสเซนต์บนเพดานห้องสี่เหลี่ยมที่คุ้นเคย เมื่อมองไปตรงมุมห้องขวามือ ก็มีโต๊ะเขียนหนังสือรกๆ ที่มีหนังสือและแก้วน้ำวางอยู่ โทรศัพท์มือถือวางแน่นิ่งบนหัวเตียง สายชาร์จรวมถึงสายสมอลทอร์คพันกันยุ่งเหยิงเป็นก้อนกลม หลินเข่อซิงค่อยๆลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง“เรากลับมาแล้วเหรอ…” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ราวกับไม่แน่ใจว่านี่คือความจริงหรือเพียงอีกหนึ่งความฝันอันยาวนานนางลูบอกตัวเองเบาๆ เพื่อปลอบใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเผชิญมา เป็นเพียงฝันร้ายยาวนานเท่านั้น แต่มันช่างสมจริงเหลือเกิน ความรู้สึกของสายลมในป่าลึก กลิ่นดินหลังฝนตก เสียงหัวเราะของหลิงเฉิน หรือแม้แต่สัมผัสอันอบอุ่นของอวิ๋นเฟยหลง...“เฟยหลง…”เพียงเอ่ยชื่อเขา น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้า ราวกับหัวใจถูกบีบรัด เธอรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พยายา

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 103

    นับจากโศกนาฏกรรมนองเลือดวันนั้น ก็ผ่านมาได้หนึ่งปีแล้ว อวิ๋นเฟยหลงไม่ยอมรับตำแหน่ง เขาทำเพียงรักษาการณ์แทน และให้เหล่าเสนาบดีเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะแก่เขาย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังได้รับชัยชนะ เข้ากอบกู้วังหลวงจากคนชั่ว และทวงแค้นจากหานเจี๋ย เขากลับไม่รู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย อวิ๋นเฟยหลงประกาศต่อหน้าที่ประชุมขุนนางและแม่ทัพนายกองทั้งหลาย“ข้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้”คำพูดนั้นสร้างความตกตะลึงไปทั่วห้องประชุม เฟยหลงก้าวออกมายืนกลางห้อง สายตาแน่วแน่“ตลอดชีวิตของข้า ข้าเกิดมาเพื่อรับใช้แผ่นดินและต่อสู้ในสนามรบ ข้าไม่เคยมีความปรารถนาจะครอบครองบัลลังก์มังกร ข้าเชื่อว่าแคว้นนี้สมควรมีผู้นำที่ดีกว่า”นับจากวันนั้นอวิ๋นเฟยหลงก็ทำหน้าที่ได้ดีมาตลอดไม่ขาดตกบกพร่องอันใด จนราษฎรต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ในใจทุกคนอวิ๋นเฟยหลงคือฮ่องเต้ พ่อของแผ่นดินของพวกเขา คอยปกปักคุ้มครองให้แคว้นฉางจีอยู่รอดปลอดภัย บุ๋นก็ชำนาญ บู๊ก็คือเทพเซียนมาจุติและแล้วข่าวดีที่เขารอคอยก็มาถึง เจิ้งจู่ได้รายงานข่าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขาค้น

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 102

    ก่อนที่อวิ๋นเฟยหลงจะได้ปัดป้องตอบโต้ ก็มีเสียงกังวานใสของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“หยุดนะ!” หยางเฟยฮุ่ยยืนอยู่เบื้องหลังของฮ่องเต้ โดยมีทหารองครักษ์ผู้หนี่งใช้ดาบพาดคอของหานเจี๋ย“หากท่านละเว้นอวิ๋นเฟยหลง ข้าก็จะไว้ชีวิตท่าน!” สตรีผู้ได้ชื่อว่าฮองเฮา แม่ของแผ่นดิน ก้าวขึ้นหน้ามาอีกก้าว หยุดยืนมองหานเจี๋ยนิ่ง“เจ้า!... นี่เจ้ากล้าก่อกบฏหรือ ดีนี่ฮองเฮา ดี … ดียิ่งนัก ทหาร! กุดหัวนางหญิงชั่วนี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้!”เงียบ มีเพียงความเงียบงันเป็นคำตอบ ไม่มีทหารคนใดขยับ ต่างมองไปทางอวิ๋นเฟยหลงอย่างรอฟังคำสั่ง“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?!” หานเจี๋ยตื่นตระหนกแล้ว เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้“ราชโองการในฮ่องเต้พระองค์ก่อน มาถึงแล้ว! อวิ๋นเฟยหลง รับราชโองการ!”ถึงตอนนี้ทหารที่จ่อปลายดาบคุมตัวหานเจี๋ยได้เตะดาบในมือเขาจนกระเด็น ก่อนลากตัวหานเจี๋ยให้ออกห่างจากอวิ๋นเฟยหลง“กระหม่อมอวิ๋นเฟยหลงพ่ะย่ะค่ะ” อดีตแม่ทัพหนุ่มหันกายคุกเข่ามาทางกงกงที่ยืนถือพระราชโองการสีทองอร่ามในมือ“ด้วยโองการสวรรค์ ข้าโอรสสวรรค์ผู้คร

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 101

    เสียงอาวุธกระทบกันดังไม่หยุด อวิ๋นเฟยหลงหอบหายใจเสียงดัง หลินเข่อซิงมองเสี้ยวหน้าของชายอันเป็นที่รักด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ นางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ท่านพี่ ทิ้งข้าไว้เถอะ หากไม่มีข้าท่านก็จะทำศึกได้อย่างเต็มที่ และปกป้องพวกเราทั้งหมดได้”“เหลวไหล! ข้าไม่มีทางทิ้งเจ้ากับลูกแน่ อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน และข้าจะไม่มีวันแพ้! เจ้าอดทนไว้ก่อนนะ” อวิ๋นเฟยหลงปวดใจนักเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆนั่นพูด ประกอบกับบาดแผลที่ไหล่ของนาง เขายิ่งอยากจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด กระบวนท่าของอดีตแม่ทัพใหญ่แกว่งไกวดาบเข้าห้ำหั่นศัตรู ร่างกายพลิ้วไหว มือเท้าผสานกัน แม้มือซ้ายจะโอบกอดหลินเข่อซิง แต่นั่นกลับไม่อาจสร้างปัญหาให้ชายหนุ่มได้“เหล่าพี่น้องของข้า จงฟัง! พวกเจ้าทุกคน วันนี้เราจะเด็ดหัวฮ่องเต้ทรราชนั่นซะ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อพ่อแม่ญาติพี่น้องของพวกเจ้า ราษฎรแคว้นฉางเยว่ และเพื่อฮ่องเต้องค์ก่อนที่ต้องสวรรคตอย่างมีเงื่อนงำ จงตามข้ามา!”“เฮๆ ๆ ๆ” เหล่าทหารฝ่ายอวิ๋นเฟยหลงต่างส่งเสียงร้องกู่ก้องไปทั่วลานด้วยการนำของอวิ๋นเฟยหลง ตอนนี้พวกเขาบุ

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 100

    ‘ท่านพี่ เมื่อท่านได้รับสารฉบับนี้ หวังเพียงว่าท่านจะยังไม่กระทำการรุนแรงกับท่านหมอประจำตัวข้าหรอกนะ’ อวิ๋นเฟยหลงเลิกคิ้วสูง ก่อนเหลือบมองไปยังใบหน้าช้ำดำเขียว และเปรอะด้วยโลหิตของหมอหนุ่ม ก่อนจะก้มหน้าอ่านต่อ‘ข้าได้ยินมาว่าท่านได้ยกทัพมาประชิดประตูเมืองแล้ว คืนนี้ยามโหย่ว (17.00น. - 19.00น. โดยประมาณ) ข้าจะแอบมารอท่าน ขอท่านพี่ช่วยมารับข้าด้วย ข้าจะไปรอที่ประตูเมืองด้านทักษิณ หลิงเฉินบอกว่าประตูด้านนั้นค่อนข้างหละหลวม เพราะทหารไปรวมกันที่ประตูหน้าเสียส่วนใหญ่ ข้าจะรอท่านนะ’อวิ๋นเฟยหลงหรี่ตามองไปยังหมอหนุ่มที่ยังนั่งแหงนหน้ามองฟ้า ดูท่ากำเดาคงจะใกล้หยุดไหลแล้วกระมัง อวิ๋นเฟยหลงทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วต่ำ“ข้าต้องขออภัยท่านหมอแทนทหารของข้าด้วย ฝากบอกซิงเอ๋อร์ว่า ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปตามนัดหมาย”เวินสือชูมองบุรุษร่างใหญ่บึกบึนตรงหน้าด้วยความยำเกรง ก่อนจะยิ้มออกมาหน่อยๆ“มิเป็นไร ข้าเข้าใจว่านั่นคือหน้าที่ของพวกเขา หากมิมีอันใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน หากมานานเกินไป อาจถูกสงสัยได้”อวิ๋นเฟยหลงพยัก

  • ทะลุมิติมาเปลี่ยนยัยเต้าหู้...ให้เป็นคุณหนูสุดแซ่บ   บทที่ 99

    แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับดาบของเหล่าทหารหาญที่ตั้งทัพอย่างเป็นระเบียบอยู่เบื้องหน้าประตูเมือง เมื่ออวิ๋นเฟยหลงประสานสายตากับเหล่าทหารกล้าที่เขารวบรวมมา พวกเขาคือผู้ที่ยังภักดีต่อแผ่นดินและเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของแม่ทัพผู้เคยกอบกู้แผ่นดิน“วันนี้มิใช่เพียงการทวงคืนวังหลวง” อวิ๋นเฟยหลงประกาศเสียงกร้าว “แต่คือการทวงคืนความยุติธรรม ทวงคืนอนาคตของบ้านเมือง และนำแสงสว่างกลับสู่แคว้นฉางจีอีกครั้ง”เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจากทหารนับหมื่นที่เข้าร่วม ขบวนธงสีดำลายมังกรทองสะบัดปลิวไสว เสียงอาวุธกระทบกันดังก้อง ขับเคลื่อนจิตใจอันห้าวหาญของนักรบทุกคนเหล่าทหารที่คอยรักษาการณ์ประจำตำแหน่งประตูหน้าต่างตื่นตัวและคอยจับตามองทัพของอดีตแม่ทัพอวิ๋นเฟยหลง อดีตรองแม่ทัพหยางซึ่งในขณะนี้ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ทองลงไปยังอดีตผู้ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่กว่าตน ในสายตามีทั้งความกริ่งเกรง และหวาดกลัวอยู่หน่อยๆ“ท่านแม่ทัพขอรับ” นายทหารหนุ่มผู้หนึ่งขึ้นมารายงานกับแม่ทัพหยาง“ว่ามา”“ข้าได้รายงานให้กับฝ่าบาททราบแล้วขอรับ ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งใหม่ เห็นว่าฝ่าบา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status