หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน / ตอนที่ 101 สัมผัสที่ไม่กล้าปล่อยมือ

แชร์

ตอนที่ 101 สัมผัสที่ไม่กล้าปล่อยมือ

ผู้เขียน: ท่านจอมยุทธ์1991
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 12:38:27

แสงแดดอ่อนของยามสายโปรยลงเหนือถนนหินของเมืองหลวง เสียงเจรจาซื้อขาย เสียงหัวเราะเด็ก ๆ และกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลม สร้างบรรยากาศคึกคักอบอุ่นราวโลกอีกใบหนึ่ง ต่างจากโลกมืดอันโหดเหี้ยมที่ ซูจิ่งหลง คุ้นเคย

เขาเดินเคียงข้าง หลานเยว่ หญิงสาวผู้เย็นชาและสูงศักดิ์ในหัวใจของเขา มือใหญ่สอดกุมมือนางแน่นไม่ใช่ด้วยความกล้า หากแต่เป็นเพราะเขาหลงเชื่อสนิทใจว่านี่เป็นเพียง ความฝันที่สวรรค์เมตตาประทานให้ หากเขาไม่คว้าโอกาสนี้ไว้…เมื่อยามตื่น ทุกสิ่งก็คงสลายหายไปไม่เหลือแม้เงา

“ในเมื่อเป็นเพียงความฝัน… ข้าก็จะไม่ยอมเสียแม้สักลมหายใจเดียว” เขาเอ่ยเบา ๆ คล้ายพูดกับตัวเองมากกว่านาง

ตลอดทาง เขาพานางแวะตามร้านต่าง ๆ ไม่ว่าผ้าไหมเนื้อละเอียดประดับลายโบตั๋น หรือปิ่นหยกที่แกะสลักอย่างวิจิตร เขาเลือกสิ่งเหล่านั้นด้วยสายตาที่เปี่ยมความตั้งใจ ทุกครั้งที่หยิบสิ่งใดขึ้นมา เขามักจะเอ่ยถ้อยคำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่างจากปกติ“เจ้าสวมชุดนี้…ต้องงดงามยิ่งกว่าดอกไม้แรกแย้มในฤดูใบไม้ผลิ”“ปิ่นหยกนี้ หากเสียบไว้บนเส้นผมเจ้า คงเปล่งประกายยิ่งกว่าดวงจันทร์บนฟากฟ้าเสียอีก”

หลานเยว่ไม่ได้ตอบโต้ นางเพียงยืนนิ่ง ปล่อยให้เขาลองปักปิ่นลงบนเส้นผมดำขลับ ริมฝีปากเรียวไม่ได้เอ่ยห้ามหรือผลักไส ความเงียบของนางกลับทำให้หัวใจของซูจิ่งหลงยิ่งเต้นแรงเหมือนยืนยันกับเขาว่านี่ต้องเป็น เพียงฝันจริง ๆ เพราะในโลกแห่งความจริง หญิงเย็นชาเช่นนางย่อมหักแขนเขาเป็นแน่ หากเขากล้าสัมผัสเช่นนี้

ระหว่างเดินผ่านร้านขายของเล่น เขาหยิบมังกรไม้แกะสลักที่มีปีกเล็ก ๆ อย่างตั้งใจ สายตาคมส่องประกายอ่อนโยนที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้เห็น“เจ้าหนูน้อยจิ่วอวิ๋นต้องหัวเราะออกมาแน่เมื่อได้ของสิ่งนี้” เขากล่าว พลางหันไปมองนางด้วยสายตาที่คล้ายขออนุญาตแม้เขาเป็นชายผู้ครองโลกมืด แต่ต่อหน้านางเขากลับเหมือนชายหนุ่มผู้ขี้อาย ไม่รู้จักวิธีเอ่ยความรู้สึกออกมาอย่างถูกต้อง

ตลอดทางนั้น เขาไม่ปล่อยมือนางเลย ไม่ใช่ด้วยความหวงแหน แต่เป็นเพราะกลัวว่านางจะหายไปต่อหน้าต่อตา หากนี่คือภาพฝันจริง เขาก็ปรารถนาจะยืดมันให้นานที่สุดริมฝีปากของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มพร่าออกมา“เจ้ารู้หรือไม่…ความรู้สึกเช่นนี้ ข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลย หลานเยว่ หากวันหนึ่งข้าตื่นขึ้นมาแล้วทุกสิ่งเลือนหายไป ข้าก็จะไม่เสียดาย เพราะอย่างน้อย…ข้าเคยได้กุมมือเจ้าไว้แน่นเช่นนี้จริง ๆ”

หลานเยว่หันสายตามองเขาเล็กน้อย แววตาคู่นั้นยังนิ่งสงบเหมือนผิวน้ำไร้ระลอกคลื่น ทว่าลึกลงไปกลับมีเงาคล้ายระลอกแผ่วบางปรากฏขึ้น ราวกับหัวใจที่ด้านชามานานกำลังสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย แต่แล้วนางก็หลบสายตากลับ เงียบงัน ไม่เอ่ยทั้งปฏิเสธ ไม่เอ่ยทั้งยอมรับ

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาเขียวลอยอบอวลอยู่ในอากาศภายในร้านน้ำชาริมถนนที่ตกแต่งเรียบง่าย ทว่ามีบรรยากาศสงบสบาย ซูจิ่งหลงพาหลานเยว่นั่งลงที่มุมหนึ่ง แสงแดดยามบ่ายส่องลอดหน้าต่างไม้ไผ่เข้ามา กระทบลงบนโต๊ะน้ำชา ทำให้บรรยากาศดูละมุนอย่างน่าแปลกใจ

ชายผู้ครองโลกมืดถอนหายใจยาว สายตาเหม่อมองถ้วยชาที่วางตรงหน้า ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มบาง ๆ ความเหนื่อยล้าภายในใจกลับจางหายไปจนหมดสิ้น“นี่มัน…ความฝันอะไรกัน” เขาพึมพำเสียงเบา ราวกับพูดกับตัวเอง “เหตุใดถึงได้ยาวนานนัก… ยาวนานจนข้าอยากจะจมอยู่ในฝันนี้ตลอดไป…”

ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และความกลัวกลัวว่าทุกสิ่งตรงหน้าจะหายวับไปเมื่อเขาลืมตาตื่นหลานเยว่นั่งมองเขาเงียบ ๆ ดวงตาคมสวยไม่กะพริบ สีหน้าของนางเรียบนิ่งดังเช่นทุกครา แต่ในส่วนลึกของแววตากลับมีเงาความอ่อนโยนที่แทบไม่มีใครเคยได้เห็น นางมองชายตรงหน้าที่เฝ้าหลอกตัวเองว่ากำลังจมอยู่ในความฝันอย่างคนโง่งม และแล้วนางก็ค่อย ๆ ยกมือเรียวขึ้นดีดที่หน้าผากเขาเบา ๆ

“เพี๊ยะ…”

เสียงเบาแต่ชัดเจนทำให้ซูจิ่งหลงชะงักไปทันที เขาหันขวับไปมองนาง ดวงตาคมเบิกกว้างราวกับไม่อยากเชื่อว่า หลานเยว่ที่เย็นชาไร้ความรู้สึกจะทำเช่นนี้กับเขานางเอียงหน้ามองเขาเล็กน้อย แววตายังคงสงบนิ่ง

“เจ้าเพ้ออะไรกัน… นี่มิใช่ความฝัน”

หัวใจของซูจิ่งหลงพลันสั่นสะท้าน ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในคราเดียวกัน ทั้งตกใจ ทั้งหวาดกลัว และทั้งอบอุ่นเกินกว่าจะบรรยายได้ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปากของเขาอีกครั้ง แต่ครานี้มิใช่รอยยิ้มเพ้อฝัน หากแต่เป็นรอยยิ้มที่แทบจะหลั่งน้ำตาออกมา

ตลอดเส้นทางกลับจากเมืองหลวง ร่างสูงใหญ่ของ ซูจิ่งหลง กลับดูเล็กลงอย่างน่าประหลาด เขาเดินก้มหน้า สองมือประสานกันแน่นราวกับกำลังเก็บงำความลับสำคัญไว้ในอก ท่าทีของเขาไม่ต่างอะไรจาก มดตัวเล็ก ๆ ที่เผลอทำผิดและกำลังกลัวถูกตำหนิ ความสุขที่ได้กล้าจูงมือนางทั้งวันค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดหวั่นจนหัวใจเต้นระส่ำ

เขาไม่กล้าสบตานางแม้เพียงเสี้ยววินาที ทุกก้าวที่ก้าวออกไป เขาพยายามถอยห่างอย่างระวัง รักษาระยะไม่ให้ใกล้เกินไป…กลัวว่าตนจะล่วงเกินมากไปแต่แล้วสิ่งที่เขาไม่อาจคาดคิดก็เกิดขึ้น

หลานเยว่ ผู้เย็นชาเดินเรื่อย ๆ มายืนเคียงข้าง ก่อนจะยกมือเรียวขึ้น กุมมือของเขาไว้เอง ความอบอุ่นอันเรียบง่ายไหลผ่านฝ่ามือเข้าสู่หัวใจของซูจิ่งหลง ร่างสูงใหญ่นิ่งค้างไปทั้งตัว คล้ายกับถูกฟ้าผ่าอย่างจังทว่าเสียงที่ดังตามมานั้นยังคงเย็นชาเรียบเฉย ไม่ต่างจากใบหน้าของนาง“ต่อไป…เจ้าจะพาข้าไปที่ไหน”

ซูจิ่งหลงสะดุ้ง หันหน้ามามองนางแทบจะในทันที ดวงตาคมที่มักเปี่ยมด้วยความมั่นคงบัดนี้สั่นไหวราวคลื่นสาดซัด เขาไม่อยากเชื่อว่า นาง จะเป็นฝ่ายกุมมือเขาก่อน ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามา ทั้งสุข ทั้งหวั่น ทั้งตื่นตะลึง จนลมหายใจของเขาขาดห้วง

เขาหอบหายใจแรงคล้ายคนกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า แต่หนักแน่นราวคำสัตย์สาบาน“ข้า…ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่ ทุกแห่งหนที่เจ้าอยากไป…”

คำพูดนั้นหาใช่เพียงคำตอบของคำถาม หากแต่เป็นคำมั่นสัญญาอันบริสุทธิ์จากชายผู้ยืนอยู่ในเงามืดของโลก ผู้ที่ไม่เคยศรัทธาในสิ่งใดอีกนอกจากความแข็งแกร่งและเลือด แต่ยามนี้ เขายินดีมอบทั้งชีวิต ทั้งลมหายใจ เพื่อสตรีตรงหน้าและเด็กชายตัวน้อยผู้เป็นดวงใจของนาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status