Share

ตอนที่ 51 ตื่นจากห้วงนิทรา

last update Last Updated: 2025-12-03 11:55:26

หลานเยว่ไม่เคยล่วงรู้... ว่าขวดยาที่แค่คว้าเก็บมาอย่างไร้ความลังเลนั้นแท้จริงแล้ว เป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่ผู้คนทั้งแผ่นดินต่างใฝ่หา บุปผาเมฆคืนชีพ ยาที่สรรค์สร้างจากตำรับโบราณพันชั้นสามารถดึงวิญญาณจากปลายขุมนรกกลับคืนร่างได้น้อยคนนักจะได้เห็นของจริง และผู้ได้ครอบครอง ย่อมถูกนับว่าเป็นผู้มีวาสนาเหนือฟ้า

แต่นาง… กลับไม่แม้แต่จะเหลือบตาใส่มันครั้งที่สองสำหรับหลานเยว่ ยานี้ไม่มีค่านัก

“นำมันไปให้หลานหย่งจวิน” น้ำเสียงของนางเรียบเย็น แต่เปี่ยมด้วยน้ำหนักของผู้สั่งการดวงตาคมกริบดั่งกระบี่ ไม่จำเป็นต้องอธิบายความในใจใดให้ใครเข้าใจ

“ขอรับ นายหญิง” ชายชุดดำรับคำด้วยศีรษะก้มต่ำ เขาอาจดูคล้ายคนรับใช้ทั่วไปแต่ทุกย่างก้าวของเขากลับไร้เสียงดั่งภูตเงาแท้จริงแล้ว... เขาคือหนึ่งในนักฆ่าของนาง ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด

ในอีกฟากหนึ่งของแผ่นดินภายในเรือนของจวนตระกูลหลาน หลานหย่งจวินยังคงนอนนิ่งราวกับร่างไร้จิตเขาผ่านพ้นห้าวันแห่งความทรมานบาดแผลที่กัดกินถึงกระดูกเส้นลมปราณฉีกขาด แขนขาบิดเบี้ยว ความหวังถูกฝังใต้เงาแค้นและความสิ้นหวังหลายคนเริ่มคิดว่าแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่อาจไม่มีวันกลับมายืนหยัดได้อีก…แม้แต่เจ้าตัวเองแล้วในที่สุดช่วงสายของวันนั้น… คนของหลานเยว่ก็มาถึง

"ข้าน้อยมีของฝากจากนายหญิง" เสียงนั้นสงบนิ่ง หากเยียบเย็นราวสายลมต้องปลายมีดขวดแก้วใสขนาดเท่าฝ่ามือถูกยื่นออกมาช้า ๆภายในบรรจุของเหลวสีอำพันนวลเรือง ดั่งกลั่นจากหมอกแรกของรุ่งสางหลานหย่งจวินเพ่งมองมัน หัวใจที่อ่อนล้าแทบไม่กล้าปักความหวังแต่ดวงตาที่เคยหม่นก็สะท้อนแสงวาบบางอย่างเล็กน้อย... เศษเสี้ยวของการมีชีวิต

“อืม… ฝากขอบคุณนางด้วย” น้ำเสียงแหบพร่า แฝงความรู้สึกที่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยเขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกยินดี หรือเศร้าใจดีเพราะถึงแม้จะมียาล้ำค่าอยู่ในมือ แต่ในใจ… มันเหนื่อยล้าเกินกว่าจะฝันเมื่อเงาร่างของผู้ส่งมอบจากไปเขาก็คลายฝาขวดยาออกอย่างระมัดระวังกลิ่นหอมจาง ๆ โอบล้อมทั่วห้องทันทีเป็นกลิ่นของการเริ่มต้นใหม่กลิ่นที่ทำให้เขาหลับตาลงและกลืนมันโดยไม่ลังเล

ทันทีที่ของเหลวสีอำพันไหลผ่านลำคอเข้าสู่ร่างกาย...หลานหย่งจวินสะดุ้งเฮือกร่างกายที่ซบเซาราวผุพังพลันบิดเกร็ง เสมือนสายฟ้าแล่นจากอกสู่ปลายเท้าเส้นเอ็นที่แห้งกรอบภายในกลับสั่นสะท้านราวถูกปลุกให้ตื่นจากห้วงนิทรา

“อั่กกก !!”เสียงคำรามหลุดออกจากลำคออย่างมิอาจห้าม ร่างทั้งร่างกระตุกขึ้นจากเตียงความเจ็บแปลบพุ่งทะลุเข้าไขกระดูกรุนแรงยิ่งกว่าถูกคมดาบฟันซ้ำแขนขาที่บิดเบี้ยวกลับเคลื่อนกลับเข้าที่ราวถูกมือแห่งสวรรค์บรรจงปั้นใหม่ทุกกระดูกทุกข้อต่อเสียง “กร๊อบ...กร๊อบ...” ดังก้องในความเงียบ เส้นลมปราณที่แต่เดิมขาดสะบั้น บัดนี้ถูกเชื่อมประสานใหม่เสมือนมีเถาวัลย์แห่งชีวิตเติบโตขึ้นภายใน ค่อย ๆ ถักทอสายทางพลังกลับมาดังเดิมมันมิใช่เพียงการสมาน... แต่มันคือการ ฟื้นฟู ในระดับที่แม้แต่โอสถธรรมดาก็ยังมิอาจเปรียบ

ร่างของเขาแช่อยู่ในห้วงระหว่างชีวิตกับความตาย...ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจแรกออกมาอีกครั้งลมหายใจของคนที่ ได้คืนชีวิตหลานหย่งจวินทรุดลงนั่งบนพื้น หอบหายใจถี่ หน้าอกกระเพื่อมแรงเม็ดเหงื่อไหลพราก แต่ในแววตาที่เคยหม่นหมองนั้นบัดนี้กลับสว่างวาบด้วยประกายแห่งความไม่ยอมแพ้เขายกมือขึ้น... มือที่เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนยังไม่รู้ว่าจะได้ขยับอีกไหมกำหมัดแน่น ความรู้สึกแน่นในฝ่ามือยืนยันชัดเขา กลับมาแล้ว

“นี่มัน…ยาบ้าอะไรกันแน่…”เสียงหลานหย่งจวินเอ่ยขึ้นอย่างสั่นเครือ แทบไม่เชื่อตัวเองว่าร่างที่เมื่อครู่ยังบิดเบี้ยวราวเศษผ้าขาดวิ่น บัดนี้กลับสมบูรณ์ดั่งไม่เคยผ่านความพิการมาก่อนเขามองมือตนเอง กำแล้วคลาย ขยับแล้วบิด ราวกับเด็กที่เพิ่งได้ร่างใหม่… ทุกอณูของกล้ามเนื้อแข็งแรงกว่าที่เคยเป็นราวกับว่าไม่ได้แค่ หายดี แต่กลับแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น

“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้…”

เขาพึมพำอย่างพรั่นพรึง มองร่างตนเองเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ใจเต้นแรงราวกับหัวใจจะทะลุออกจากอก หากมีใครมาบอกว่าตนเพิ่งกลืนยาในตำนานที่คนทั้งแผ่นดินเฝ้าฝัน เขาคงคิดว่าคนผู้นั้นเพ้อเจ้อ...แต่ตอนนี้ ความจริงตรงหน้าคือสิ่งที่เกินจะปฏิเสธได้

หากเขารู้ว่า สิ่งที่กลืนเข้าไปคือ บุปผาเมฆคืนชีพ คือโอสถที่แม้องค์ฮ่องเต้ยังหวงแหนคือยาวิเศษที่เหลือเพียงสองในใต้หล้า...บางที หัวใจของเขาคงวูบดับกลางลานเสียก่อนที่จะได้ลิ้มรสผลยา

“หลานหย่งจวิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่ต้องท้อแท้ใจไป… ข้าจะหาหมอที่เก่งกาจที่สุดในแผ่นดินมารักษาเจ้าให้ได้”

เสียงทุ้มหนักแน่นของแม่ทัพหลานซือเหยียนดังขึ้นพร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาในเรือน เสียงย่ำรองเท้าทหารบนพื้นไม้แผ่วเบาลงเมื่อเขาใกล้ถึงเตียงพักของผู้เป็นบุตร ใบหน้าแข็งกร้าวที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วนฉายแววกังวลลึกเขายังจำได้ดีถึงภาพของหลานหย่งจวินในวันที่กลับมาด้วยสภาพแทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์ แขนขาผิดรูป เส้นลมปราณพังพินาศ ความหวังในการฟื้นคืนแทบเป็นศูนย์...แต่สิ่งที่เขาเห็นในยามนี้ กลับแทบทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้ไม่เคยสะทกสะท้านต้องชะงักงันกลางฝีเท้า

“เจ้า…!” ซือเหยียนเบิกตาโพลง จ้องร่างของบุตรชายอย่างไม่เชื่อสายตา

หลานหย่งจวินยืนอยู่ตรงหน้าบิดาเต็มความสูง กล้ามเนื้อแน่นตึง ผิวพรรณกลับมามีเลือดฝาด แขนขาเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่มีร่องรอยของความพิการแม้แต่น้อยแม้จะยังมีร่องรอยเจ็บปวดเล็กน้อยในแววตา แต่ก็เป็นสายตาของนักรบ มิใช่ผู้ป่วย!

“ท่านพ่อ…” หลานหย่งจวินเอ่ยเสียงเรียบ หากแต่หนักแน่น “ข้า…ไม่เป็นไรแล้ว”

ซือเหยียนเดินเข้ามาช้า ๆ จ้องมองบุตรชายจากหัวจรดเท้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนปนเหลือเชื่อ

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร? ข้าเพิ่งเห็นเจ้ายังขยับไม่ได้แม้แต่นิ้วเมื่อวาน…” เขากระชับมือทั้งสองแน่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความดีใจ หรือความตกใจที่แล่นผ่านหัวใจนักรบผู้เย็นชา

“เจ้ากินอะไรเข้าไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที “หรือว่า…มีผู้ใด…” หลานหย่งจวินไม่ได้ตอบในทันที เพียงส่งสายตามองผ่านบิดาออกไปไกล ราวกับมองไปยังผู้หญิงคนหนึ่ง… ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งแม่ทัพหลานซือเหยียนยังยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ความตื่นตะลึงยังจับแน่นอยู่ในใจ ไม่เพียงแต่เพราะบุตรของเขากลับมาเดินได้… แต่เพราะเบื้องหลังการฟื้นคืนนี้ อาจไม่ใช่เพียงโชคชะตาเท่านั้น

ภายใต้แสงจันทร์ที่เย็นเยียบ หลานเยว่นั่งสงบนิ่งอยู่ริมหน้าต่างภายในห้องเงียบงัน เสียงลมพัดโชยผ่านม่านบางเบา เส้นผมสีดำยาวปลิวไหวคล้ายเงาเงียบของอดีตที่ยังคงตามหลอกหลอนนางทอดสายตาออกไปไกล ดวงตาเรียบนิ่งดั่งผืนน้ำ แต่ภายในกลับไหววูบอย่างที่ไม่มีใครรู้

“บุปผาเมฆคืนชีพ…” นางพึมพำแผ่วเบากับตัวเอง เมื่อคนของนางกลับมารายงานว่า หลานหย่งจวินสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ร่างกายที่ใกล้พังทลายฟื้นคืนอย่างน่าอัศจรรย์นางไม่ได้แสดงความยินดี… ไม่ได้ยิ้ม ไม่แม้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอกหากแต่…ในแววตานั้นมีบางสิ่งแฝงอยู่ความอ่อนโยนเงียบงันที่ไม่ต้องการคำตอบ

“แม้ว่าข้าจะรู้ทีหลัง…ว่ายานั่นคือของวิเศษที่มีเพียงหนึ่งในร้อยปี ข้าก็ไม่คิดเสียดายหรอก”

เสียงของนางยังคงราบเรียบ แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับแน่นหนักกว่าครั้งไหนนางนึกถึงภาพของบุตรชายตัวน้อยที่วิ่งเข้าหาหลานหย่งจวินด้วยรอยยิ้มสดใส แววตาของชายผู้เย็นชาในวันวานกลับอบอุ่นเพียงเมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กคนหนึ่งที่เกิดจากมารดาไร้ค่าคนนั้น

“นั่น…นับว่าเพียงพอแล้ว”

นางกล่าวกับตัวเอง ก่อนจะหลุบตาลงช้า ๆ ความมืดภายนอกกลืนเงาของนางไว้จนหมด ทว่าสิ่งที่อยู่ในใจกลับแจ่มชัดกว่าที่เคยนี่คือของตอบแทนเล็กน้อยไม่ใช่เพราะนางลืมอดีต… แต่เพราะนางเลือกที่จะจดจำเฉพาะสิ่งที่ สมควรจดจำเท่านั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status