Share

ตอนที่ 96 ข้ายังพักไม่ได้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:35:57

ลูกน้องบางคนของซูจิ่งหลงในยามนี้…หาใช่คนภักดีแท้จริง หากแต่เปรียบเสมือน สุนัขดุที่เลี้ยงไม่เชื่องเมื่อเจ้าของเข้มแข็งมันก็หมอบคลานอย่างว่าง่าย แต่เมื่อเห็นเจ้านายบาดเจ็บอ่อนแรง มันก็พร้อมจะเผยเขี้ยวกัดเจ้านายทันทีซูจิ่งหลงรู้ดี…สัตว์เดรัจฉานพวกนี้ต้องถูกแส้ฟาดสั่งสอน ให้มันจดจำว่าใครคือ นายและใครคือสัตว์เลี้ยงต่ำต้อย

บัดนี้ร่างสูงใหญ่ของเขายังคงยืนหยัดอยู่กลางโถง แม้โลหิตจะไหลรินจากแผ่นหลังไม่หยุด พื้นหินเย็นแปรเปลี่ยนเป็นแอ่งสีแดง แต่สายตาคมเข้มยังแข็งกร้าวราวคมดาบ ไม่แม้แต่จะเปิดเผยความอ่อนแอให้ใครเห็น เพราะเขารู้ดีว่าหากเพียงแสดงท่าทีล้มเหลวแม้ชั่ววินาทีเดียว เหล่าสุนัขที่ซ่อนใจคิดทรยศจะกระโจนเข้าฉีกกระชากทันที ริมฝีปากที่เปื้อนเลือดยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนเปล่งคำสั่งสั้น กระชับ แต่ทรงอำนาจยิ่งนัก

“ฆ่ามันให้สิ้น…จงจัดการพวกมันซะ!” เสียงนั้นหนักแน่นราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางโถงกว้าง ทำให้ผู้ติดตามทุกคนสะดุ้งสะท้าน ดาบถูกชักออกจากฝักในทันที เสียง ฉัวะ! ดังระงมไปทั่ว เสียงฝีเท้ากึกก้องสะท้อนราวกับคลื่นทะเลโหมซัด

บรรยากาศในโถงใหญ่พลันแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นสังหารที่หนาแน่นจนหายใจติดขัด ในขณะที่บางคนที่เคยมีใจคิดหักหลังกลับหน้าซีดเผือด รีบเปลี่ยนสีหน้าเสมือนกิ้งก้าที่ตื่นกลัว กระดิกหางประจบ ส่งเสียงเห่าใส่ศัตรูรอบด้านเพื่อกลบเกลื่อนความผิดบาปของตนสายตาคมเข้มของซูจิ่งหลงกวาดมองไปทั่ว พลันบรรยากาศกดทับหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ทุกคนล้วนเข้าใจชัดเจนในวินาทีนั้น…หากคิดทรยศเพียงเสี้ยวใจไม่ใช่แค่ตัวเองที่จะตาย แต่ทั้งตระกูล พ่อแม่ ลูกเมีย…ก็จะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านตามไปด้วย

เสียงหอบกระเส่าดังลอดออกมาจากลำคอเบี้ยวคดของ จ้าวหย่งหยู“ถะ…ถ้อย…แล้ว…เ-รีบ…พะ…ข้า…กลับ…เดี๋ยวนี้!”คราวนี้กลับพูดออกมาอย่างร้อนรนจนลืมไปเสียสนิทว่าตนเองคือเจ้าง่อยผู้ไร้เรี่ยวแรง คำพูดติดขัดไม่ชัดเจน แต่โทนเสียงกลับสะท้อนความตื่นตระหนกสุดขีด แผนชั่วที่คิดจะใช้วิธีหมาลอบกัด กลับล้มเหลวไม่เป็นท่ามันเชื่อว่าการยื่นผลประโยชน์จะทำให้คนสนิทของซูจิ่งหลงลงมือแทนมันได้ แต่กลับกลายเป็นว่าความฝันที่จะกำจัดศัตรูหัวใจ ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าต่อตา

ซูจิ่งหลง ส่งเสียงคำรามต่ำ ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ราวกับพยัคฆ์กระโจนเหยื่อ เสียงดังก้องกังวานไปทั่วโถง“เจ้าง่อย! แกหนีไปไหน… จงทิ้งชีวิตโสโครกของแกไว้ที่นี่ซะ!”

มือใหญ่คว้าศีรษะบิดเบี้ยวของจ้าวหย่งหยู บีบแน่นจนกระดูกขมับลั่น กร๊อบ! จากนั้นก็กดลงกับโต๊ะไม้เนื้อแข็ง ปึง! แรงกระแทกสะเทือนจนฟันของมันแตกกระจาย เสียง กร๊อบแกร๊บ! ของฟันที่หักละเอียดดังสะท้อน ทันใดนั้น เลือดแดงเข้มปนเศษฟันสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น

“อั่กกกกกกก!” จ้าวหย่งหยูร้องโหยหวนอย่างน่าสมเพช น้ำลายปนเลือดไหลทะลักจากปากคดเบี้ยว ร่างทั้งร่างสั่นระริกดุจสัตว์ถูกเชือด

“นายน้อย!”เหล่ายอดฝีมือที่คุ้มกันอยู่รอบ ๆ ถึงกับหน้าถอดสี รีบกรูเข้ามาพร้อมกันด้วยความตื่นตระหนก ฝ่ามือทรงพลังฟาดกระแทกไปยังอกของซูจิ่งหลง ผั่ก! ร่างสูงใหญ่ของเขาพลันกระเด็นลอยชนเสาไม้ดัง โครม! เลือดสดทะลักออกจากบาดแผลที่แผ่นหลังทันที

หากเป็นในยามปกติ ฝีมือของคนพวกนี้…ยังไม่ถึงครึ่งของเขาด้วยซ้ำ แต่ในยามที่เขาอ่อนแรง เลือดไหลไม่หยุด ความได้เปรียบจึงตกอยู่ในมือของพวกมันเหล่าลูกน้องของจ้าวหย่งหยูรีบเข็นรถเข็นพร้อมร่างนายที่เลือดท่วมปากออกไปจากโรงประมูลอย่างเร่งรีบ ร่างอันบิดเบี้ยวที่เต็มไปด้วยคราบเลือดถูกพาออกไปอย่างน่าสมเพช ราวกับสุนัขพิการที่เพิ่งถูกฟาดซ้ำจนน่วม

ซูจิ่งหลงพยายามยันกายลุกขึ้น ดวงตาคมวาวโรจน์ยังคงเปล่งประกายเยียบเย็น แม้เลือดแดงจะไหลรินไม่หยุด ริมฝีปากเปื้อนเลือดเอ่ยคำสั้น ๆ แต่ดังก้องราวกับตราสั่งฟ้าดิน

“ไม่ต้องตาม…!” เสียงนั้นหนักแน่น แม้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็เป็นคำสั่งที่ไม่อาจต้านทานได้ ผู้ติดตามทุกคนชะงักงัน กัดฟันยืนนิ่ง หัวใจพวกเขารู้ชัดว่าแม้นายท่านจะบาดเจ็บใกล้สิ้นสติ แต่เกียรติและอำนาจของซูจิ่งหลง…ยังคงกดข่มทุกชีวิตในโถงนี้อย่างสมบูรณ์

เลือดสดยังคงไหลรินจากบาดแผลบนแผ่นหลัง ร่างสูงใหญ่ของ ซูจิ่งหลง เอนพิงกับพนักเก้าอี้ไม้สลักอย่างเหนื่อยอ่อน ลมหายใจที่เคยหนักแน่นมั่นคง บัดนี้สะท้านเฮือกเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความเจ็บปวด ถึงกระนั้น แววตาคมเข้มยังคงส่องประกายเยียบเย็น ไม่ยอมแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาให้ผู้ใดได้เห็น

คำสั่งแรกที่หลุดจากริมฝีปากหยักกลับไม่ใช่การเรียกหาหมอฝีมือเลิศ หากแต่เป็นคำสั่งที่หนักแน่นไปด้วยความหมาย“งานวันเกิดของหลานชายข้า…ในครั้งนี้จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด ข้าฝากที่เหลือ…ไว้กับเจ้า”

เสียงทุ้มต่ำพร่าลึก แฝงไปด้วยทั้งความเหนื่อยหอบและความแน่วแน่ เสี้ยวหน้าคมชื้นเหงื่อสะท้อนให้เห็นว่าร่างกายแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง แต่ถึงอย่างนั้น ความคิดแรกของเขาก็ยังคงผูกพันอยู่กับงานวันเกิดที่จะมาถึงงานที่เขาสัญญากับนางว่าจะทำให้สมบูรณ์แบบที่สุด

พ่อบ้านชรา ที่ยืนประนมมืออยู่ด้านข้างรีบโค้งคำนับ ร่างสั่นระริกเพราะทั้งความตื้นตันและความกังวล น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยอย่างนอบน้อมเต็มไปด้วยความภักดี“นายท่านโปรดวางใจ… ข้าจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง จัดการทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบที่สุด”

แววตาของชายชราผู้นี้เปี่ยมไปด้วยความซื่อสัตย์ เขารับใช้ซูจิ่งหลงมานานนับสิบปี ผ่านร้อนผ่านหนาว เคยเห็นความโหดเหี้ยมและความเมตตาในคราวเดียวกัน แต่ไม่เคยเห็นนายท่านของตนเอ่ยฝากฝังสิ่งใดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน

แม้ซูจิ่งหลงจะมิได้ออกคำสั่งชัดเจนให้ตามหมอผู้เก่งกาจ แต่พ่อบ้านก็รู้ดีว่าชีวิตของนายท่านนั้นสำคัญเหนือสิ่งใด หากไม่มีเขาแล้ว งานวันเกิดจะมีความหมายอันใดอีก? ดวงตาชราหรี่ลงแน่วแน่ ก่อนรีบหันกายออกไปอย่างรวดเร็ว ตั้งใจไปตามหมอฝีมือดีที่สุดมาโดยไม่ลังเล

ในห้องโถงอันเงียบสงัด เหลือเพียงเสียงหอบสะท้านของซูจิ่งหลงที่ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ แม้จะเจ็บปวดแทบสิ้นสติ แต่ริมฝีปากที่ซีดขาวยังคงยกยิ้มบาง แฝงความมุ่งมั่นดุจภูผาสำหรับเขาแล้วความเจ็บปวดเป็นเรื่องเล็ก แต่สัญญาที่ให้ไว้กับนางและลูกชายของนาง…สำคัญยิ่งกว่าชีวิต

เวลาผ่านไปเพียงครู่เดียว หมอฝีมือเลิศ ก็ถูกพ่อบ้านชราพามาถึง สีหน้าเคร่งเครียดของเขาสะท้อนความรู้สึกกดดัน เพราะบุรุษที่นอนพิงอยู่เบื้องหน้ามิใช่ใครอื่น แต่คือ ซูจิ่งหลง บุรุษผู้ก้องสะท้านเมืองหลวง ชื่อเสียงโหดเหี้ยมเป็นดั่งภูผาเย็นยะเยือก แต่บัดนี้กลับปรากฏร่างเปื้อนเลือดที่แทบไร้เรี่ยวแรง

หมอไม่กล้าเสียเวลามากความ เขารีบตรวจบาดแผลด้วยมือสั่นเล็กน้อย ก่อนจัดการรักษาเบื้องต้นด้วยความระมัดระวังที่สุด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาราวกับเดินอยู่บนเส้นเชือกเหนือเหวลึกผิดพลาดเพียงเสี้ยวเดียวอาจแลกด้วยชีวิตของตนเองหลังจากพันแผลเรียบร้อย หมอก็ถอนหายใจยาว สายตาสั่นวูบด้วยทั้งความโล่งใจและกังวล ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจที่สุด“บาดแผลของท่าน…ฉกรรจ์ยิ่งนัก การที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ถึงยามนี้…นับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว หากท่านยังฝืนเดินเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าชีวิตจะสั้นลงยิ่งกว่าที่ควร ท่านควรพักให้มากที่สุด พักเพื่อรักษาตัว”

ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ราวกับทุกสายตาต่างจับจ้องรอฟังคำตอบจากชายผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นซูจิ่งหลง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากที่ซีดขาวกลับยกยิ้มบางยิ้มที่หาได้ยากยิ่งนักในร่างของบุรุษผู้โหดเหี้ยม เขาเอ่ยเสียงแผ่วทุ้ม แต่หนักแน่นจนทุกคนได้ยินชัด“ข้า…ยังพักไม่ได้”

น้ำเสียงนั้นไม่ได้ดื้อดึงเพราะความหยิ่งผยอง หากแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความอบอุ่นที่ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นมาก่อน แววตาคมเข้มที่ทอดมองออกไปไกล…เหมือนกำลังมองภาพรอยยิ้มของเด็กชายตัวน้อยและสตรีผู้หนึ่งที่อยู่ในหัวใจของเขา

“ไม่มีสิ่งใด…สำคัญไปกว่า…รอยยิ้มของคนทั้งสองอีกแล้ว”

เมื่อถ้อยคำสิ้นสุด ทุกคนในห้องต่างนิ่งงัน แม้แต่หมอผู้ผ่านประสบการณ์ยังอดไม่ได้ที่จะใจสั่น เพราะนี่คือคำพูดของบุรุษผู้ไร้หัวใจแต่กลับยอมฝืนตนเอง เพียงเพื่อรักษาสัญญา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status