Share

ตอนที่ 16 ถูกรังแก

Author: บ.บี
last update Last Updated: 2025-07-14 15:32:44

เจียงเหิงกลับมาถึงเรือนในปลายยามโหยว่ (ประมาณ 18.00) หลังจากใช้เวลาทั้งวันเข้าไปในตัวตำบลหลินซู เขาเหนื่อยล้าแต่ยังไม่ทันวางสัมภาระลง สายตาก็สะดุดกับร่างหนึ่งที่คุ้นตา

กู้ชิงเหอนั่งยอง ๆ อยู่ริมลำธารแห้ง ไม่ไกลจากกระท่อม แขนเสื้อของนางพับขึ้นสูง ผมเผ้ารุงรัง ใบหน้ายังคงมอมแมมเหมือนเด็กชายดังเดิม

ก้อนหินก้อนแล้วก้อนเล่าถูกยกขึ้นมาจากลำธาร เรียงต่อกันเป็นแนวยาวแคบ ๆ เลียบไปกับทางน้ำที่แห้งขอด เหมือนกับที่นางทำในตอนเช้า แต่ตอนนี้แนวนั้นทอดยาวไกลกว่าสามช่วงตัว

พอนางเห็นเขา ก็รีบวักน้ำในแอ่งน้ำใสสะอาดที่นางเพิ่งขุดขึ้นมาเองเมื่อเช้ามาล้างมือ แล้ววิ่งกลับมาหาเขาที่เรือน

“เจียงเกอเกอกลับมาแล้ว!”

“พี่ชายกลับมาแล้ว!” 

น้องสาวสองคนทักทายเขาพร้อมกันด้วยใบหน้าสดใส ทำเอาเจียงเหิงรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

“ข้าไปรับจ้างเขียนจดหมายให้พ่อค้าร้านชาในตำบล ได้เงินมานิดหน่อย” เขากล่าวพลางยิ้มมุมปาก “เลยซื้อข้าวสารมาเพิ่ม ที่เหลือก็เผื่อไว้วันหน้า”

เขาหันมาทางกู้ชิงเหอ สีหน้าย้ำแน่วแน่ “เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องข้าวสารในเรือน หุงหาได้ตามสบาย ข้าจะออกไปทำงานทุกวันเอง วันนี้เพิ่งเริ่มคนยังไม่รู้ว่าข้ารับจ้างเขียน แต่ถ้าไปทุกวันอาจจะมีคนจ้างให้ทำงานอื่นเพิ่มขึ้น”

แม้จะกล่าวว่าให้กู้ชิงเหอหุงหาได้ตามชอบ แต่ในใจของเจียงเหิงก็หดหู่ไม่น้อย 

เดือนก่อนกู้ต้าซุนใช้เงินหกร้อยอีแปะซื้อข้าวสารมาได้ยี่สิบชั่ง แต่วันนี้ข้าวราคาขึ้นสูงถึงชั่งละ 45 อีแปะแล้ว 

ทั้งตำบล มีเพียงไม่กี่คนที่อ่านออกเขียนได้ แต่ใช่ว่าผู้มีวิชาเหล่านั้นจะยอมลดตนลงมารับจ้างเขียนจดหมายให้ใครคนมีการศึกษายิ่งหายาก ยิ่งถือตัว ห่วงศักดิ์ศรีมากกว่าปากท้อง

มีเพียงตนเท่านั้น ที่ยอมตั้งโต๊ะเล็ก ๆ หน้าศาลเจ้าประจำตำบล แม้จะตั้งราคาเขียนจดหมายฉบับละสามสิบอีแปะ ก็ยังไม่วายถูกต่อรองจนเหลือเพียง 25 อีแปะแลกข้าวมาได้เพียงครึ่งชั่ง เงินที่เหลือคิดอยากจะซื้อผักติดมือมาสักกำก็ยังไม่พอ

“จริง ๆ แล้วพี่ไม่ต้องห่วงมากก็ได้เจ้าค่ะ!” เจียงเหยียนยิ้มกว้าง ตาวาวเป็นประกาย “วันนี้พี่ชิงเหอหาปลาใต้ดิน มาได้ด้วยนะ!”

เจียงเหิงขมวดคิ้วนิด ๆ "ปลา..ใต้ดิน?”

กู้ชิงเหอยกไหล่เล็กน้อย “ลำธารสายนี้ยังไม่ถึงกับแห้งเหือด ปลาบางชนิดติดอยู่ในหลืบดิน ตรงไหนที่ยังพอมีความชื้นอยู่บ้าง มันก็ขุดโพรงอยู่ได้ใต้ทรายแห้ง”

เจียงเหิงฟังอย่างตื่นตะลึง ชายหนุ่มที่ร่ำเรียนแต่ตำรา คุ้นเคยแต่ตัวอักษรและกลิ่นหมึก ไม่เคยคิดเลยว่าใต้ดินแห้งกรังจะมีสิ่งมีชีวิตซ่อนอยู่!

ไม่สิ! เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าจะมีใครจับปลาจากใต้ดินมากินได้!

“พวกเราจะไม่จับมันออกมาหมดหรอก” กู้ชิงเหอกล่าวต่อเสียงเบา “เอาแค่พอมาทำเป็นอาหารสักสองมื้อ แล้วอีกหลายวันค่อยดูอีกที”

เจียงเหยียนพยักหน้าเร็ว “ใช่! ข้าก็บอกพี่สาวเหมือนกันว่าอย่าเอาไปขายนะ ถ้าชาวบ้านรู้เข้าพวกเขาต้องมาแย่งกันจับไปจนหมดแน่”

เจียงเหิงสบตาหญิงสาวเงียบ ๆ เขาไม่รู้ว่านางเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากที่ใด

กู้ชิงเหอคล้ายจะอ่านสายตาของอีกฝ่ายได้ชัดแจ้ง

“ข้ากับน้องชายอยู่ในสกุลกู้ลำบากยิ่งนัก มีคราวหนึ่งที่เราสองคนอดข้าวถึงสองวันหิวจนแทบจะขุดดินกินกันเลยทีเดียวล่ะ!” นางหัวเราะแผ่ว คล้ายจะเยาะตนเอง

“เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ข้าบังเอิญพบว่าในดินยังมีปลาซ่อนตัวอยู่”

แววตาของเจียงเหิงไหววูบ เข้าใจเรื่องราวโดยถ่องแท้

“เสียดายที่เรือนสกุลกู้มิได้อยู่ใกล้ลำธารเหมือนที่นี่ หากไม่มีข้าชิงฉีก็ต้องทำงานหนักอยู่แต่ในเรือนคงไม่มีโอกาสแอบออกมาหาปลากิน..”

นางจบคำพูดแค่เพียงเท่านั้น เหมือนกล่าวเปรย ๆ แต่เจียงเหิงกลับมองเห็นทะลุปรุโปร่ง

“ท่านลุงกับอาสะใภ้ของเจ้าขายเจ้าแลกเงิน กับน้องชายเจ้าหากพวกเขาจะขับออกก็คงทำเพื่อเงินเช่นกัน”

“แต่เราไม่มีเงินแล้ว” เจียงเหยียนเป็นฝ่ายสรุปบทสนทนาอย่างชาญฉลาด 

นางไม่เพียงน้ำตาคลอกับเรื่องราวของกู้ชิงเหอและน้องชาย เจียงเหยียนมองไปรอบกายคล้ายจะหาสิ่งของที่มีราคาคิดจะขายสมบัติเอาเงินไปซื้อตัวกู้ชิงฉีมาอีกคน!

กู้ชิงเหอแอบชำเลืองมองใบหน้าด้านข้างของเจียงเหิงแวบหนึ่ง นางไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะรีบเข้าไปช่วยเหลือน้องชายของตนในทันที แต่ยังแอบหวังเล็กๆ ว่าเขาจะเสนอความคิดเห็นอะไรออกมาบ้าง

แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบ

‘บางทีเขาอาจเป็นคนที่ไม่ชอบยื่นมือเข้าไปในปัญหาของใคร’ นางได้ข้อสรุปในใจ

บรรยากาศน่าอึดอัดบริเวณหน้ากระท่อมดูเหมือนจะดำเนินต่อไปอีกนาน หากกู้ชิงเหอไม่เอ่ยขึ้นพลางยิ้มบาง

“ไปกินข้าวกันก่อนเถิดเจ้าค่ะ น้ำแกงปลาถู่อวี๋รสชาติไม่เลวเลยทีเดียวนะ”

เจียงเหิงยังไม่เอ่ยอะไร เขาเพียงลุกขึ้นยืนเงียบ ๆ แล้วเดินตามมานั่งลงที่โต๊ะด้านหนึ่ง

น้ำแกงปลาในหม้อดินส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วเรือน เจียงเหิงมองเห็นพืชใบเขียวคุ้นตาลอยอยู่ในน้ำก็เอ่ยถาม

“นี่คือผักอะไร?”

“ข้าใส่ผักป่าที่เก็บมาได้จากริมน้ำ ท่านลองชิมดูก่อนก็แล้วกัน” นางเอ่ยเรียบ ๆ ขณะตักน้ำแกงให้แต่ละคน

เสียงซดซุปเบา ๆ ดังขึ้นแทบพร้อมกัน แล้วจึงตามมาด้วยเสียงข้าวตักจากถ้วยดังเบา ๆ รัวขึ้นเรื่อย ๆ

เจียงเหิงนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ตักข้าวเพิ่มเงียบ ๆ อีกถ้วย และอีกถ้วย..เป็นถ้วยที่สาม! 

กล่าวตามจริงเขาไม่ได้กินเนื้อปลามานานมากแล้ว พูดออกไปใครจะเชื่อว่าในลำธารยังมีปลาให้จับกินได้อยู่!

เจียงเหยียนหัวเราะคิก“ท่านพี่ไม่ชม แต่เติมข้าวไม่หยุดเลยนะเจ้าคะ!”

เจียงเหิงหลุบตาลง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ที่เรือนไม่มีเกลือ แต่เจ้ากลับปรุงออกมาได้รสชาติดีกว่าที่คิด”

คำพูดนั้นดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่กู้ชิงเหอกลับสังเกตเห็นความผิดปกติเล็กๆ ที่ตรงกันข้ามกับถ้อยคำเย็นชาที่เขาแสดงออกมา

แววตาของเขากลับอ่อนโยนอย่างน่าแปลกใจ ใบหน้าที่ไม่เคยเผยรอยยิ้มกลับขึ้นสีแดงระเรื่อดุจเด็กน้อย

ในใจนางพลันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ราวกับได้รับแสงสว่างในความมืดมิด ถ้านางสามารถเปลี่ยนตัวร้ายที่คนอื่นหวาดกลัว ให้กลายเป็นชายหนุ่มอ่อนโยนเช่นนี้ได้ตลอดไปเล่า?

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 62 การพบกันที่ไม่คาดคิด

    สวี่อี้หมิงถูกปู่เจียงกับกู้ชิงฉีช่วยกันพาเข้าไปนอนในห้องของเจียงเหิงที่ไม่ได้กลับมานอนที่เรือนหลายวันแล้ว กู้ชิงฉีคอยเป็นลูกมือพร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เฒ่าเจียงฟัง ระหว่างที่เขาช่วยจัดการบาดแผลบนหน้าอกให้กับชายแปลกหน้า พอสวี่อี้หมิงหลับไปแล้ว ชายชราก็ยังนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง บางครั้งก็ลุกขึ้นชะเง้อมองไปทางหน้าเรือนไม่หยุด จนเจียงเหยียนต้องเตือนให้เขาพักผ่อนบ้าง“ในเรือนมีแต่สตรีกับเด็ก ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าอยู่กับชายแปลกหน้าเพียงลำพังได้อย่างไร” ท่านปู่บ่น“ข้าขออภัยด้วยเจ้าค่ะท่านปู่ ที่ทำให้ท่านต้องกังวล..” กู้ชิงเหอขอโทษเสียงแผ่ว “ข้าเห็นว่าเขาท่าทางภูมิฐานไม่เหมือนพวกโจรป่าจึงกล้าช่วยเหลือ อีกอย่าง..เขาบอกว่าหากช่วยเขา เขาจะตอบแทนน้ำใจอย่างงามเลยเจ้าค่ะ” ย่าเหยาคิ้วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย รีบลุกเดินเข้าไปสำรวจบุรุษแปลกหน้าผู้นั้นอย่างละเอียด “ชิงเหอกล่าวไม่ผิดเขาไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราหรอกนะตาเฒ่า หรือว่าอาจจะเป็นขุนนางที่เข้ามาตรวจสอบการเพาะปลูกฝ้าย!!” คำกล่าวนั้นทำให้กู้ชิงเหอสะดุ้งเล็กน้อย หากมีขุนนางมานอนตายอยู่ในที่ดินของเจียงเหิงคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ โชคด

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 61 โชคดีหรือโชคร้าย

    “จ๊าก!! ช่วยด้วย! แย่แล้ว!!” เสียงตะโกนลั่นทุ่งของเจียงเสี่ยวเหวิน ทำให้กู้ชิงเหอและคนอื่นๆ ตกใจจนแทบหยุดหายใจ นางรีบวิ่งไปยังแปลงผักไปทันที คิดว่าเด็กหนุ่มอาจถูกงูกัดหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแต่เมื่อมาถึงกลับเห็นภาพที่ทำให้นางต้องหยุดชะงัก ใกล้กับเจียงเสี่ยวเหวินมีร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของบุรุษวัยราวสี่สิบกว่าปีคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่กลางแปลงผัก!สวี่อี้หมิงที่อยู่ในสภาพขยับร่างกายไม่ได้รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่ามีคนพบเห็นตัวเขาเข้าแล้ว เขาพยายามลืมตาขึ้นมามองคนกลุ่มนี้อย่างอ่อนแรง แต่ทันทีที่ลืมตามองเห็นได้ชัด ความหวังเมื่อครู่ของเขากลับต้องพังทลายลงอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มสาวสี่คนไม่ได้มองมายังร่างของเขาแม้แต่นิด และสิ่งที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั่นยิ่งน่าตกตะลึงยิ่งกว่า!“ต้นคะน้าของพวกเรา..หักหมดเลย!” เด็กชายตัวเล็กที่สุดร้องออกมาคนแรก“ไม่เป็นไรนะชิงฉี ถึงมันจะหักแต่ก็ยังเก็บไปกินได้อยู่” เจียงเหยียนปลอบเด็กชายเสียงอ่อนโยน“คนนี้นั่นล่ะตัวการ!! พี่หญิงกู้ ให้ข้าขุดหลุมฝังเขาให้เป็นปุ๋ยเลี้ยงดูต้นคะน้าของเราเสียเลยดีหรือไม่ขอรับ!”สวี่อี้หมิงอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเสียเดี๋ยวนั้น!

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 60 งอกงาม

    "ท่านตาสงสัยไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ ฝ้ายมู่เหมี่ยนที่พวกท่านเคยปลูก แม้ไม่ต้องแช่น้ำหรือคัดเลือกพิถีพิถันนัก มันก็ยังงอกงามได้ดีอยู่”“เมื่อครั้งบิดาของอาเหิงยังเล็ก ข้าก็เคยปลูกฝ้ายมู่เหมี่ยนมาก่อนเช่นกัน โยนพวกมันไปตรงไหนมันก็ขึ้นตรงนั้น แถมยังเติบโตได้อย่างไม่มีปัญหา นั่นจึงทำให้มีคนปลูกมากและราคาก็ตก” ปู่เจียงเอ่ยออกมาบ้าง“หากพวกท่านคิดว่าเท่านี้ยุ่งยากแล้วพวกท่านก็คิดผิด ยังมีเรื่องวุ่นวายอยู่อีกเจ้าค่ะ” หลายคนกลืนน้ำฝืดเฝื่อนลงคอ“หวังว่ามันจะขายได้ราคาดีกว่าฝ้ายมู่เหมี่ยนที่มีขายกันอยู่ทั่วไปนะ” พวกเขาตั้งความหวังกู้ชิงเหอไม่ได้ตอบคำถาม นางรู้อยู่แก่ใจว่าฝ้ายเทียนจูเหมี่ยนต้องมีราคาสูงอย่างแน่นอนแดนเหนือของแคว้นหนานจวิ้นหนาวเย็นจนหิมะปกคลุมแทบทั้งปี ย่อมไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกฝ้ายใด ๆ ส่วนทางตะวันออก แม้ดินทรายจะดูเอื้ออำนวย แต่ด้วยความเค็มจัด ก็ไม่อาจปลูกเทียนจูเหมี่ยนได้อยู่ดี ทิศใต้ร้อนเกินไป อีกทั้งยังประสบภัยแล้งรุนแรงยิ่งกว่าที่ใดตรงกันข้ามกับหมู่บ้านหานเฉิงที่ตั้งอยู่เชิงเขาทางทิศตะวันตก ดินปนหินทราย แม้ไม่อุ้มน้ำ แต่กลับเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพาะปลูกเทีย

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 59 เมล็ดพันธุ์แห่งความรู้

    เมื่อหูซ่างซุนพาชาวบ้านอีกห้าครอบครัวมาถึงเรือน ต่างคนต่างมีสีหน้าทั้งตื่นเต้นทั้งสงสัย แต่พวกเขากลับไม่พบเงาของเจียงเหิงว่าอยู่ที่ใด กู้ชิงเหอเพียงยกยิ้มบาง ไม่ได้ตอบสิ่งใด นางปล่อยให้เจียงเหยียนกับกู้ชิงฉีออกไปช่วยท่านย่าเหยาในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น ส่วนตนเองก็หันมาชวนผู้เฒ่าเจียงออกมาเรียนรู้วิธีการเพาะปลูกฝ้ายด้วยกันกู้ชิงเหอแบกถุงเมล็ดพันธุ์ฝ้ายออกมาจากห้องเก็บของ วางลงตรงกลางลานบ้าน นางบอกกับเจียงเสี่ยวเหวินเสียงใส“เสี่ยวเหวิน เจ้าช่วยไปตักน้ำมาให้ข้าสักหนึ่งถังนะ”เด็กหนุ่มรีบพยักหน้ารับคำแล้ววิ่งหายไปยังลำธารอย่างกระตือรือร้นจากนั้นหญิงสาวก็เปิดถุงออก เผยให้เห็นเมล็ดฝ้ายสีเข้มจำนวนมาก นางใช้มือเรียวหยิบขึ้นมาอธิบายแก่ชาวบ้านทีละขั้นตอน“การจะเพาะปลูกให้ได้ผล จำเป็นต้องเลือกเมล็ดที่ดีที่สุด เมล็ดที่อวบใหญ่ เต็มสมบูรณ์ และไม่ถูกแมลงหรือสัตว์กัดแทะ เมล็ดเหล่านี้จึงจะงอกงามและทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ”พูดจบ นางก็เริ่มคัดแยกทีละกำมือ วางเมล็ดที่สมบูรณ์ไว้ด้านหนึ่ง ส่วนเมล็ดลีบหรือเป็นรอยกัดกินก็วางกองทิ้งไว้อีกด้าน ในตอนแรกชาวบ้านยังมองกันด้วยความลังเล แต่เมื่อหญิงสาวพยักหน้าให้ล

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 58 ไม่รู้ตัว

    เจียงเหิงยืนมองภาพท่านปู่กับท่านย่าด้วยแววตาเย็นเยียบ ใจหนึ่งเขาไม่ได้ยินดีปรีดาอะไรนัก ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการให้ผู้เฒ่าทั้งสองต้องเสียใจเช่นนี้เลยแต่บางเรื่อง…หากไม่ปล่อยให้ทั้งสองเห็นกับตาตนเอง ก็คงไม่ยอมเชื่อใครง่าย ๆ เขาเพียงอยากให้ท่านทั้งสองรู้เสียที ว่าบุตรชายและสะใภ้ที่พวกเขารักนักหนาแท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไรสายตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ความทรงจำเก่า ๆ ผุดขึ้นมาในใจ ตอนที่ท่านปู่กับท่านย่าหันหลังให้เขา ยักยอกเงินที่ควรเป็นของเขา ไปทุ่มสนับสนุนครอบครัวของท่านอาแทนตอนนั้นเขาเคยเอ่ยปากถาม แต่กลับถูกมองเป็นเด็กที่ไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักเห็นแก่ญาติผู้ใหญ่ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยทวงถามเรื่องเงินทองที่มารดาเคยฝากไว้กับผู้อาวุโสทั้งสองอีกเลยเขาไม่ได้คิดจะผลักสองผู้เฒ่าให้ตกเหว แต่หากบาดแผลเล็กน้อยนี้จะทำให้ทั้งคู่ตาสว่าง มองเห็นความจริง และไม่คิดจะสร้างปัญหาให้ตนและน้องๆ ในภายหลังอีก เขาก็ยอมให้เกิดขึ้นกู้ชิงเหอเงยหน้ามองเจียงเหิง ความหวาดกลัวแผ่ซ่านทั่วร่าง แม้แต่ท่านปู่ท่านย่าแท้ๆ เขายังสามารถคิดแก้แค้นให้หลาบจำ นับประสาอันใดกับน้องสาวปลอม ๆ อย่างนางเล่า!!หัวใจนางเต้นแรง ตอกย้

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 57 น้ำตาของท่านย่า

    ขากลับ กู้ชิงเหอก็ยิ้มไปตลอดทาง พลางพูดไม่หยุดถึงอนาคตอันสดใสที่จะเกิดจากการได้เพาะปลูกฝ้าย“ต่อไปกู้ชิงฉีและเจียงเหยียนก็จะสบายแล้วเจ้าค่ะ ข้ามั่นใจว่าฝ้ายครั้งนี้จะให้ผลผลิตดีแน่นอน”เจียงเหิงมองหญิงสาวที่พูดไป พลางแวะเก็บผักป่าที่ขึ้นอยู่ริมธารไปด้วยสายตาอ่อนโยนเขาเพิ่งสังเกตว่านางเปลี่ยนจากหญิงสาวมอมแมมผอมแห้ง เป็นหญิงสาวที่หน้าตาดีขึ้นมาก ดวงตาสดใสและเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น รอยยิ้มสดใสที่ปรากฏบนใบหน้าของนางทำให้เขารู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวสว่างขึ้นกู้ชิงเหอยังคงก้มเก็บผักแว่นป่า พลางพูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นใจ“ต่อไปข้าจะซื้อ ตำราทุกเล่มที่ท่านต้องการ ของกินที่น้องทั้งสองอยากกิน และเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เจียงเหยียนด้วยเจ้าค่ะ ชุดที่นางใส่อยู่ตอนนี้เล็กเกินไปแล้ว”เจียงเหิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เขาคิดว่านางอาจจะอยากได้สิ่งใดเพื่อตัวเองบ้าง แต่กลับพบว่าหัวใจของนางเต็มไปด้วยความห่วงใยผู้อื่นเขาเฝ้ามองนางอย่างเงียบ ๆ สังเกตการเคลื่อนไหวของมือที่เก็บผักอย่างทะนุถนอม รอยยิ้มที่เคยเป็นเพียงแค่เงาของความสดใส เดี๋ยวนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจและความสุขที่แท้จริง“ข้าดีใจที่เจ้าอยู่ร่วมกับพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status