ฉู่อี้ชวนได้ยินคำพูดของฉู่เทียนเช่อแล้วก็กล่าวเสียงเรียบ “นี่คือโชคของเขา ทั้งยังเป็นโชคของชาวเมืองหยางโจว”“เสด็จพี่ ท่านต่างหากที่เป็นองค์ชายใหญ่ ควรเป็นคนที่ได้ครองใจชาวบ้านถึงจะถูก บัดนี้น้องสามมีชื่อเสียงเลื่องลือปานนี้ ท่านต้องเร่งมือแล้วนะ” ฉู่เทียนเช่อเอ่ยพร้อมยิ้มบางเป็นองค์ชายเหมือนกัน องค์ชายใหญ่ยังเป็นโอรสองค์โต หลายปีมานี้พากเพียรสร้างชื่อตลอดมา เขาย่อมล่วงรู้ความทะเยอทะยานขององค์ชายใหญ่เป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ฉู่จวินถิงอยู่ไกลถึงชายแดน พวกเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจสักเท่าใด ยามนี้ไม่เพียงแต่กลับมาแล้ว แต่ยังจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมในเรื่องทั้งหมดนั้นถ้าจะกล่าวถึงสิ่งที่ชวนให้คนวิพากษ์วิจารณ์ก็คงมีเพียงเรื่องที่แต่งงานกับผู้หญิงที่เคยถอนหมั้น แต่ผู้หญิงที่เคยถอนหมั้นผู้นั้นคือซ่งรั่วเจินนี่นา!ดูเพียงความสามารถของซ่งรั่วเจิน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่นับเป็นอันใดทั้งนั้น!“น้องสามไปพบเข้าโดยบังเอิญเป็นโชคดีของชาวบ้าน สำหรับพวกเราแล้วล้วนเป็นเรื่องดี น้องรองควรเปิดใจให้กว้าง หรือยังจะต้องอิจฉาตาร้อนในความสำเร็จของน้องชายแท้ๆ อีกงั้นรึ?”ฉู่อี้ชวนปรายตามองฉู่เทียนเ
“อีกประเดี๋ยวสหายของข้าก็มาแล้ว ข้าจะแนะนำเจ้าให้เขา ภรรยาของเขาจะช่วยดูแลเจ้าเอง วันหน้าไม่จำเป็นต้องกังวล”ซ่งจิ่งเซินน้ำเสียงอ่อนโยน ครอบครัวพ่อค้าจำเป็นต้องมีสาวใช้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ภรรยาสหายเขายังเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนจิตใจดีงามอย่างยิ่ง ชุนฮวาไม่ถูกรังแกแน่นอนเห็นเขาจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม ซ่งรั่วเจินเหลือบมองฉู่มู่เหยาที่จากไปแล้วตรงหน้าพลางเอ่ยเตือน“พี่สี่ มู่เหยาเกรงว่าคงเข้าใจผิดแล้ว ท่านจะไปอธิบายหน่อยไหม?”ซ่งจิ่งเซินอึ้งไปแล้วเหลือบมองไปทางที่ฉู่มู่เหยาจากไปโดยจิตใต้สำนึก แววตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมาซ่งรั่วเจินกะพริบตาปริบ พี่สี่ของนางเป็นคนฉลาดปานนี้ คิดว่าคงจะสังเกตเห็นอะไรกระมัง?รอจนถึงตอนรับประทานมื้อกลางวัน บรรยากาศออกจะแปลกไปบ้าง ปกติฉู่มู่เหยาร่าเริงสดใสเสมอมา แต่ครานี้กลับกินข้าวเงียบๆ โดยไม่พูดจาสักประโยค ฉู่จวินถิงและฉู่อวิ๋นกุยมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานราชการจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ ต่างคนต่างมองไปทางคนในดวงใจ ดวงตาฉายแววสอบถามซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋ฮร์ยิ้มบางไม่พูดอะไร เพียงกะพริบตา ใครก่อปัญหาก็ต้องไปแก้ไขเอาเอง ร
ชุนฮวามีสีหน้าจริงใจ เดิมทีนางก็ขายตัวเพื่อฝังศพบิดา คุณชายซ่งช่วยฝังศพบิดานาง นางรู้สึกซาบซึ้งใจหาใดเปรียบขณะที่พวกซ่งรั่วเจินสามคนเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินวาจานี้ของชุนฮวาพอดีจึงสบตากันอย่างอดไม่ได้ พวกนางเกือบลืมเรื่องชุนฮวาไปเสียแล้วซ่งจิ่งเซินจัดการเรื่องต่างๆ ด้วยความละเอียดรอบคอบมาแต่ไหนแต่ไร หลังช่วยเหลือชุนฮวาแล้วยังจำได้ว่าศพบิดานางยังอยู่บนถนนจึงมอบเงินให้คนไปจัดการฝังศพแต่ต่อไปชุนฮวาคิดจะติดตามเขาอย่างนั้นหรือ?“แม่นางชุนฮวา ไม่จำเป็นต้องขอบคุณเลย ต่อไปเจ้าก็เป็นอิสระแล้ว ต้องการไปที่ใดก็ไปที่แห่งนั้นเสียเถอะ” ซ่งจิ่งเซินกล่าวหลายปีมานี้เขาเดินทางไปสถานที่ต่างๆ มามากมาย และยังได้พบคนที่น่าสงสารมาจำนวนมาก เรื่องอย่างการขายตัวเพื่อฝังศพบิดาก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน สามารถช่วยเหลือได้ก็ช่วยเหลือฉู่มู่เหยาได้ยินคำพูดของซ่งจิ่งเซินแล้วก็เหลือบมองพลางยิ้มเอ่ยกับชุนฮวาว่า“แม่นางชุนฮวา ในเมื่อพวกเสด็จพี่มาเมืองหยางโจว เดิมก็ต้องการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบทุกข์ได้ยากอยู่แล้ว ช่วยเจ้าเป็นเรื่องสมควรทำ ย่อมไม่จำเป็นต้องให้เจ้าตอบแทนอันใด”“ถ้าจะให้เจ้าเป็นวัวเป็นม
เมื่อครู่ซ่งจิ่งเซินสังเกตเห็นสายตามีเลศนัยของน้องสาวตนเองแล้ว ยามนี้คนถูกจับกุมแล้ว คิดว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอีก“สาเหตุที่เซี่ยงหงปัวไม่มีลูกเสียที ด้านหนึ่งเป็นเพราะเขาเคยได้รับบาดเจ็บ อีกด้านหนึ่งคงเป็นเพราะมีคนวางยาเขา”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ฮูหยินใหญ่ให้กำเนิดลูกสาวสามคน แสดงว่าเซี่ยงหงปัวมีความสามารถในการมีบุตร ทว่าภายหลังรับอนุภรรยามาแปดคนแล้ว แต่กลับไม่มีใครตั้งครรภ์สักคนอนุภรรยาบางคนในจำนวนนี้มีคนที่ถูกเขาลักพาตัวมา ย่อมไม่ยินยอมพร้อมใจเป็นธรรมดา ฮูหยินใหญ่ทราบเรื่องนี้ดี แต่ก็ไม่คิดจะมอบคนออกมาฉู่อวิ๋นกุยค่อยนึกขึ้นได้ “หมายความว่าคนที่วางยาคือหนึ่งในอนุงั้นหรือ?”“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นว่าภรรยาเอกกับอนุภรรยามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันถึงเพียงนี้ ทั้งที่รู้ความจริง แต่กลับไม่มีใครเปิดโปงสักคน เพื่อที่จะรอดูเรื่องชวนหัวของเจ้านาย ช่างทำให้คนเปิดหูเปิดตาโดยแท้!”กู้ฮวนเอ๋อร์อดถอนหายใจไม่ได้ “ถ้าในเรือนหลังนี้ไม่มีเซี่ยงหงปัวและซุนเมี่ยวเอ๋อร์ คนอื่นๆ อยู่ด้วยกันก็นับว่าสุขสบายดีทีเดียว”หลังจากที่เซี่ยงหงปัวถูกจับเข้าคุก ชาวเมืองหยางโจวทราบว่าท่า
อวิ๋นหยางฟังคำสั่งเจ้านายตนเอง แม้เรื่องราวจะซับซ้อน แต่พวกเขาก็ไม่ได้พบพานเรื่องทำนองนี้เป็นครั้งแรก แค่ทำตามคำสั่งของท่านอ๋องไปจัดการทีละอย่างก็พอแล้วฉู่อวิ๋นกุยได้ยินคำสั่งของเสด็จพี่ของตนแล้ว ตระหนักว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ยังมีสิ่งที่ต้องไปจัดการก็รู้สึกว่าหนังศีรษะชาวาบแต่ครั้นคิดดูอีกที...ออกมาท่องเที่ยวรอบเดียว เสด็จพี่ก็สร้างความชอบได้อีกแล้วกลับถึงเมืองหลวง เกรงว่าคงถูกเสด็จพี่คนอื่นๆ อิจฉากันแทบตายเลยทีเดียว!ถึงตอนนี้ซุนเมี่ยวเอ๋อร์กับพ่อบ้านค่อยตระหนักว่าที่แท้ผ่านมานานขนาดนี้ หาใช่เป็นเพราะพวกตนแอบซ่อนได้ดีไม่ แต่คนในจวนล้วนแค้นเคืองนายท่านจึงยอมอดทนต่อพวกตน เพราะอยากเห็นนายท่านโชคร้าย...เซี่ยงหงปัวโกรธจนร่างกายสั่นเทิ้ม สัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนภายในร่าง ครั้นอ้าปากก็กระอักเลือดออกมาคำหนึ่งเขาพลันคุกเข่าลงไป สารภาพทุกอย่างออกมาจนหมด“ท่านอ๋อง กระหม่อมไม่ได้ลักพาตัวซุนเมี่ยวเอ๋อร์กลับมา แต่ซุนต้าซานเป็นคนส่งนางมาที่จวนของกระหม่อม”“ตอนนั้นซุนต้าซานบอกว่ากระหม่อมอยากได้ลูกชาย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มี ประจวบกับหมอดูทำนายว่าพี่สาวเขาดวงชะตาดีมีวาสนา ถ้าเข้ามาในจวนก
พ่อบ้านมีสีหน้าแตกตื่น สายตาของเขาหลุกหลิกและพยายามแก้ตัวเต็มที่ “นายท่าน เรื่องนี้ใส่ร้ายกันชัดๆ อนุเก้าจริงใจต่อท่านเป็นที่สุดแล้ว ข้าเองก็ไม่กล้าทำเรื่องพรรค์นั้นหรอกขอรับ!”ทว่ายามนั้นภรรยาของพ่อบ้านพลันพุ่งเข้ามาทุบตีเขาเป็นการใหญ่“เจ้าคนสารเลว ข้านึกแล้วเชียวว่าเหตุใดบางครั้งเวลาตื่นกลางดึกแล้วเจ้าไม่อยู่ในห้อง ทุกครั้งเจ้าก็เอาแต่บอกว่าไปห้องสุขา ที่แท้เจ้าก็แอบไปลักกินกันนี่เอง!”“ข้านึกแล้วเชียว ปกติเวลาอนุเก้าเจอข้าก็มักทำหน้าบูดบึ้ง ข้าสงสัยมาตลอดว่าไปล่วงเกินนางตรงไหน ที่แท้ก็เป็นเพราะเจ้านี่เอง!”ทันใดนั้น สถานการณ์ก็พลันวุ่นวายอุตลุดซ่งรั่วเจินมองดูภาพอันแสนชุลมุนตรงหน้าโดยถือเสียว่ากำลังชมความครึกครื้นอยู่อย่างไรเสีย เรื่องที่ทั้งวุ่นวายและน้ำเน่าเช่นนี้ก็ไม่ได้พบเจอได้บ่อยๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าฮูหยินใหญ่และอนุภรรยาทั้งแปดยังสามัคคีกันถึงเพียงนี้ทั้งที่ทุกคนดูออกว่าซุนเมี่ยวเอ๋อร์มีความสัมพันธ์คลุมเครือกับพ่อบ้าน แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยเตือนเซี่ยงหงปัวสักคนหากเป็นครอบครัวทั่วไป อนุภรรยาถูกจับได้ว่าลักลอบคบชู้สู่ชาย จะต้องถูกนำไปรายงานเจ้านายผู้ชายทันที จวนเซี่ยงกล