แชร์

บทที่ 180

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งเยี่ยนโจวมองลั่วหวยหลี่ตรงหน้า แม้ไม่ได้พบหน้ากันสองปี เขายังเหมือนเมื่อแรกไม่มีผิด

ปากแข็งแต่ใจอ่อน

เพียงลั่วหวยหลี่ได้พบซ่งเยี่ยนโจวก็นึกถึงเรื่องที่คนผู้นี้ทรยศพี่สาวของตนขึ้นมา โทสะเจืออยู่ภายในคำพูด คนผู้นี้พูดจาไม่น่าฟังมาก ขมวดคิ้วแน่นพลางพูดว่า

“ก่อนนี้ท่านตัดสินใจต้องการตบแต่งฝานซืออิ๋งมิใช่หรือ? คิดว่านางดีกว่าพี่หญิงของข้าไปทุกจุด เหตุใดตอนนี้หย่ากับนางอย่างกะทันหันเล่า?”

“ข้าไม่เคยพูดมาก่อน” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปาก

“อะไรนะ?”

ซ่งเยี่ยนโจว “ข้าไม่เคยพูดว่านางดีกว่าพี่หญิงเจ้า”

ไม่เคย

ลั่วหวยหลี่ถลึงตาขาว อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว “ท่านก็แค่ตาบอด บัดนี้พบจุดจบเช่นนี้ก็สมควรแล้ว!”

ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ข้าสมควรโดนแล้ว”

ลั่วหวยหลี่ “...”

เหตุใดคนผู้นี้เป็นเช่นนี้เล่า? ไม่มีน้ำโหแม้แต่น้อย? คงมิใช่คิดฆ่าตัวตายจริงกระมัง?

“รับไว้”

ลั่วหวยหลี่โยนสิ่งที่นำติดมาด้วยใส่มือซ่งเยี่ยนโจว

เพียงซ่งเยี่ยนโจวเปิดดู ก็มองเห็นโสมร้อยปีหนึ่งต้นที่ภายใน โสมนี้...เขารู้จักดี

นี่คือของที่เขาบังเอิญพบใกล้กับสนามรบ

เขารู้ว่าลั่วชิงอินร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ก่อนนี้ท่านหมอเคยพูดว่าโสมร้อ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 181

    เมื่อคิดว่าจะต้องเรียกชายผู้นั้นว่า ‘พี่เขย’ เขาก็แทบอยากหนีออกจากบ้านให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างน้อยก็ดีกว่าเจ้าคนใจดำแบบท่าน!”ลั่วหวยหลี่คิดแล้วก็ยิ่งโกรธ สมัยก่อนเขาชื่นชอบซ่งเยี่ยนโจวมากเท่าใด หลังจากนั้นก็ยิ่งเกลียดชังมากเท่านั้น ไม่มีใครดีสักคน!ซ่งเยี่ยนโจวตกอยู่ในความเงียบ ไม่อาจโต้แย้งใดๆ“เอาล่ะ ข้าจะไปแล้ว ท่านเองก็พักผ่อนให้ดี”ลั่วหวยหลี่หันหลังเดินจากไป ในเมื่อคำที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาเถิด!จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตู ลั่วหวยหลี่จึงค่อยๆ หันกลับมามองซ่งเยี่ยนโจวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า“แม้ท่านจะได้รับบาดเจ็บ ก็อย่าได้ปล่อยให้ตนเองจมอยู่ในความสิ้นหวัง ท่านได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ ท่านเป็นวีรบุรุษ”“พวกที่ไม่รู้จักคิดและพูดพล่อย ๆ จงอย่าใส่ใจ แม้ว่าท่านจะทำผิดต่อพี่หญิงของข้า และข้าเองก็เกลียดท่านเข้าไส้ แต่ข้ายังมองว่าท่านคือวีรบุรุษเสมอ ข้ามิเคยเปลี่ยนความคิดนี้”ลั่วหวยหลี่จ้องมองซ่งเยี่ยนโจวด้วยสายลึกล้ำความชื่นชมในวัยเยาว์นั้นมิใช่เรื่องโกหก เขาเคยยกย่องซ่งเยี่ยนโจวเป็นแบบอย่างในใจมาตลอดห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 182

    เมื่อข่าวการหย่าร้างระหว่างซ่งเยี่ยนโจวและฝานซืออิ๋งแพร่ออกไป เรื่องราวก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างล้นหลามในหมู่ผู้คน“ตระกูลซ่งนี่คงจบสิ้นแล้ว เดิมทีก็เป็นตระกูลที่รุ่งเรือง แต่ตอนนี้สิ ทั้งเลิกหมั้นก็มี หย่าร้างก็มี ซ่งฮูหยินก็เป็นหม้ายอยู่แล้วด้วย”“ไม่รู้ว่าตระกูลซ่งทำกรรมอันใดไว้ ถึงไม่มีคู่ไหนที่อยู่ดีมีสุขได้เลย”“ข้ารู้มาว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนยุยงให้หย่าร้าง ลองคิดดูดี ๆ สิ ซ่งรั่วเจินเคยเป็นสหายกับจ้าวซูหว่าน พูดง่าย ๆ ก็คงเพราะนางตัวซวยคนนี้นั่นแหละ!”ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลฝานยังช่วยเติมเชื้อไฟ พยายามอย่างหนักที่จะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก ทว่าซ่งรั่วเจินและครอบครัวกลับดูไม่ใส่ใจ ปล่อยให้ข่าวลือเหล่านั้นผ่านเลยไปโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยเพราะพวกเขายังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าต้องจัดการแต่เมื่อฉินซวงซวงได้ยินข่าวพวกนี้ นางก็ยิ้มอย่างเบิกบาน ถึงแม้ต่อหน้าหลินจือเยว่ นางจะยังคงทำตัวเป็นสตรีที่อ่อนหวานและสงบเสงี่ยมตามปกติ“ท่านพี่ แม่นางซ่งดูท่าทางจะยังมีใจให้ท่านไม่น้อย แม้ว่านางจะแสร้งทำเป็นตัดใจและถอนหมั้น แต่กลับกลายเป็นคนละคนไป”“ซ่งเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 183

    ในดวงตาของหลินจือเยว่ปรากฏแววแห่งความกังวล ตั้งแต่เขาประสบเคราะห์ สหายเก่าแต่ละคนก็เหมือนจะหายหน้ากันไปหมด ต่างหลีกเลี่ยงที่จะพบปะเขาการออกไปในช่วงเวลาเช่นนี้ มีแต่จะกลายเป็นตัวตลกให้คนหัวเราะเยาะ“ไม่หรอก ข้าเคยช่วยชีวิตเซียวไท่เฟยไว้ ตระกูลเซียวต่างยังจดจำบุญคุณข้อนี้ได้ คุณชายเซียวเองก็ต้องมีท่าทีที่ดีต่อท่านเป็นแน่”ฉินซวงซวงจับมือหลินจือเยว่ไว้พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หากท่านไม่ออกไป คนอื่นจะยิ่งมองว่าท่านไม่มีทางฟื้นตัวกลับมาได้อีก แต่หากพวกเขารู้ว่าท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายเซียว พวกเขายังจะกล้าดูแคลนท่านอีกหรือ?”“อีกทั้งตระกูลซ่งยังตกต่ำถึงเพียงนี้ ซ่งรั่วเจินยังกล้าออกไปข้างนอก ท่านจะกลัวอะไรอีกเล่า?”เมื่อหลินจือเยว่ได้ยินเช่นนั้น ความมั่นใจก็กลับคืนมา “เจ้าพูดถูก พรุ่งนี้เราจะไปด้วยกัน!”ไม่นานก็มาถึงวันที่จัดงานเลี้ยงชมดอกท้อซ่งรั่วเจินและซ่งจืออวี้เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว สายตาของพวกเขาคอยหันมองไปในเรือนโดยไม่รู้ตัวพวกเขาได้เตรียมชุดใหม่ให้พี่ใหญ่ ทั้งเกี้ยวครอบผมและเข็มขัดก็ล้วนเป็นของใหม่ ทั้งคู่เชื่อมั่นว่าเมื่อพี่ใหญ่สวมใส่แล้วจะต้องดูสง่างามจนท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 184

    “แม่นางลั่ว วันนี้เห็นว่าเจ้าสีหน้าดีขึ้นมาก โสมที่ข้าส่งไปให้เจ้า หวังว่าคงมีประโยชน์”เหยาจิ่นเฉิงกล่าว พลางจ้องมองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความบิดเบี้ยว แต่ใบหน้ากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาในฐานะบุตรชายของเสนาบดีกรมกลาโหม เขาได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยอายุที่ใกล้เคียงกับซ่งเยี่ยนโจว จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับเขาเสมอ แต่ทุกครั้งมักจะพ่ายแพ้ให้กับซ่งเยี่ยนโจว ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก!แต่ตอนนี้โชคชะตากลับเล่นตลกให้ซ่งเยี่ยนโจวกลายเป็นคนพิการ และสตรีที่เขาหมายปอง บัดนี้ก็จะแต่งงานให้กับเขาแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าหากซ่งเยี่ยนโจวรู้เรื่องนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรแค่เพียงคิดก็ทำให้เขารู้สึกสะใจเหลือเกิน!ลั่วชิงอินมองชายหนุ่มตรงหน้า นางไม่ได้ชอบเหยาจิ่นเฉิงเลยแม้ว่าเขาจะดูสุภาพราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่น แต่ในใจของนางกลับรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเหยาจิ่นเฉิง แต่เสมือนเป็นหน้ากากจอมปลอมที่เขาสวมปิดบังไว้“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ แต่โสมร้อยปีชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป วันนี้ข้าจึงตั้งใจนำมา...”กล่าวจบ ลั่วชิงอินหันไปพยักหน้าให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 185

    “ข้ากำลังเป็นห่วงพี่หญิงรอง จะให้ข้าใส่ใจเรื่องอื่นได้อย่างไร?”ลั่วหวยหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านหลัง ที่เขาเกลียดเหยาจิ่นเฉิงมากไม่ใช่ไม่มีเหตุผล คนผู้นี้เมื่อก่อนมีนิสัยโหดร้ายยิ่งนักครั้งหนึ่งที่เขาลงไม้ลงมือกับเหยาจิ่นเฉิง ก็เพราะชายผู้นี้ได้ฆ่าหวงโต้ว สุนัขที่เขาเลี้ยงมาหลายปีและสนิทสนมมากที่สุดไม่คิดว่าเหยาจิ่นเฉิงโต้เถียงกับเขาเพียงเล็กน้อย ก็จะกระทำอย่างไร้ความปรานี ฆ่าหวงโต้วอย่างโหดร้ายแล้วยังชำแหละแบ่งเนื้อกินกับพรรคพวก เมื่อตัวเขามาถึงก็เห็นแต่ซากหนังที่เปื้อนเลือด ย่อมโกรธแค้นอยากสังหารคน”แต่จนปัญญาที่เขาสู้เหยาจิ่นเฉิงไม่ได้ แต่ยังถูกเย้ยหยันอย่างเจ็บแสบ เป็นซ่งเยี่ยนโจวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เหยาจิ่นเฉิงถูกซ่งเยี่ยนโจวสั่งสอนอย่างสาสม ความแค้นของเขาจึงได้ระบายออกมาเสียทีเพราะเหตุนี้เอง เมื่อกลับไปเขาจึงถูกบิดาตำหนิอย่างหนัก แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยบัดนี้คนผู้นี้กลับคิดจะแต่งงานกับพี่หญิงของเขา ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อพวกซ่งรั่วเจินมาถึง ก็ได้เห็นลั่วหวยหลี่เดินวนไปมารอบศาลาไม่ไกล“หวยหลี่ เจ้ากำลังรอข้าอยู่หรือ?”เสียงทุ้มต่ำของซ่งเยี่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 186

    ใต้ต้นท้อบุรุษผู้หนึ่งในอาภรณ์ยาวสีครามเข้ม ทวงท่างามสง่า แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็น ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความที่โดดเด่นแม้จะเป็นเพียงเงาหลัง นางก็ยังคงจำเขาได้ในทันทีซ่งเยี่ยนโจวราวกับรับรู้ถึงทุกสิ่งรอบตัว เขาหันมาโดยไม่รู้ตัว แล้วได้พบกับร่างอรชรอ่อนช้อยของสตรีนางนั้น ดวงตาใสดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง แววตาอ่อนโยนเช่นดวงจันทร์บนฟากฝ้าสตรีผู้อ่อนหวานราวกับสายน้ำไหลริน เพียงยิ้มบาง ๆ ก็ทำให้แก้มของนางแดงระเรื่อ บัดนี้ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองเล็กน้อยในใจเขารู้สึกผิดอย่างยิ่ง เขาทำผิดต่อลั่วชิงอิน ตั้งแต่ต้นจนจบเขาคือคนที่ผิดเองลั่วหวยหลี่พิจารณาคนทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับพี่หญิงของตนว่า “พี่หญิงรอง ข้าไปทำธุระสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาหาท่าน”ลั่วชิงอินมองลั่วหวยหลี่ที่เดินจากไป ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปหาซ่งเยี่ยนโจวทั้งสองต่างจ้องมองกันเงียบ ๆราวกับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดออกมา แต่กาลเวลาที่ผันผ่าน ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือสถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนไปหมด แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยรู้จักกันดีเพียงใด บัดนี้กลับเหมือนมีกำแพงมากั้นกลางไม่อาจข้ามผ่านได้“ไม่ได้พบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 187

    “บิดามารดาปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเสมอมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาต้องทนรับคำครหามากมายเพราะข้า ข้ามิอาจอกตัญญูต่อไปได้อีก…”ซ่งเยี่ยนโจวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ รั่วเจินถึงแม้จะหมั้นหมายแล้ว แต่สองปีมานี้ยังคงรอคอยหลินจือเยว่ ยากที่จะหลีกเลี่ยงคำครหาของผู้คน ยิ่งไม่ต้องพูดลั่วชิงอินว่าช่วงที่ผ่านมาต้องยากลำบากมากเพียงใดนางเป็นบุตรีของตระกูลสูงศักดิ์ หากไม่ใช่เพราะเขา นางจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรือ?แต่บัดนี้เขาเป็นเพียงคนที่เคยหย่าร้าง ไหนเลยจะคู่ควรกับนางได้? จะให้เอ่ยปาก เขาก็ไม่มีหน้าจะพูดออกมาสายตาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในใจมาตลอดกำลังจะจากไป เขาจึงเรียกเบา ๆ“ชิงอิน”ซ่งเยี่ยนโจวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาลึกซึ้งจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก “ตอนนี้ข้าได้หย่าร้างแล้ว หากว่า…”ลั่วชิงอินมองบุรุษตรงหน้าอย่างใจจดจ่อ นิ้วเรียวดุจหยกภายใต้แขนเสื้อของนางค่อย ๆ กำแน่นโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจก็เริ่มติดขัดขึ้นเล็กน้อย“ซ่งเยี่ยนโจว เจ้ากับลั่วชิงอินนี่มันจริง ๆ เลย! เราเพิ่งจะหย่ากัน เจ้ายังคิดจะแต่งกับลั่วชิงอินอีกหรือ?”ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงก็พุ่งเข้ามาทำลายบรรยากาศเดิม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 188

    “คุณหนูลั่วที่ไม่ยอมออกเรือนเสียที คงไม่ใช่ว่ากำลังรอคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซ่งหรอกกระมัง?”“ก่อนหน้านี้สองคนนี้ก็ดูเหมือนคู่บุญฟ้าประทาน เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกันยิ่ง แต่สุดท้ายคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็เปลี่ยนใจไปแต่งงานกับฝานซืออิ๋งแทนมิใช่หรือ?”“หากเป็นคุณหนูลั่วที่ยุยงให้ทั้งสองหย่ากันจริง ๆ เรื่องนี้ก็ช่างเกินจะให้อภัย!”ซ่งรั่วเจินซึ่งเดิมทีเฝ้าระวังอยู่ไม่ไกลนัก เผอิญเจอคนแปลกหน้าที่พยายามเข้ามาก่อกวน จึงต้องใช้เวลาไม่น้อยในการเลี่ยงให้พ้นไป ไม่คิดเลยว่าพอผ่านไปแค่ครู่เดียวก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว“ฝานซืออิ๋ง เรื่องระหว่างเราสองคนอย่าได้โยงไปถึงแม่นางลั่ว ข้ากับนางเพียงบังเอิญพบกัน เจ้าอย่าได้กล่าวคำเหลวไหลให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง”ซ่งเยี่ยนโจวสีหน้ามืดมนราวกับเมฆฝน ดวงตาเย็นเยือกของเขาส่งประกายความเย็นชาราวกับจะจับตัวเป็นน้ำแข็งจริง ๆฝานซืออิ๋งเมื่อเผชิญกับสายตาน่ากลัวนั้น ใจของนางสะดุดวูบด้วยความหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว แต่ครานี้ในเมื่อนางจับจุดอ่อนได้แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆลั่วชิงอินกล้าหมายปองบุรุษของนาง เช่นนี้ก็เท่ากับหาทางตาย!“ทำไม? กล้าทำแต่ไม่กล้ารับงั้นหร

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status