Share

บทที่ 2

ณ สนามบินของเมืองหลวง

ทันทีที่แม่ลูกคู่หนึ่งได้ก้าวออกจากประตูที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารพลุกพล่านนั้น พวกเขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างมาก

พูดให้ถูกก็คือ แม่คนหนึ่งที่พาลูกหน้าตางดงามสามคนมาด้วยนั่นเอง

หญิงสาวดูเย็นชาและสูงศักดิ์ สวยจนน่าทึ่ง อุ้มเด็กสาวหน้าตาน่ารักน่าชังด้วยมือเดียวไว้ในอ้อมแขน ผมหยิกลอนหนาราวกับตุ๊กตา

โดยมีเด็กชายสองคนที่ลักษณะคล้ายกันและหน้าตางดงามอยู่ข้างๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันสว่างไสว ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวราวกับน้ำนม ช่างงดงามราวกับไม่ใช่คนอย่างไรอย่างงั้น!

หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้ารถบีเอ็มดับบิวถอดแว่นกันแดดออก เมื่อเห็นเจียงเซิงอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนและอีกสองคนเดินตามหลังมา เธอก็สูดหายใจเข้าอย่างเต็มแรง

"ให้ตายเถอะ เซิงเซิง อุ้มท้องครั้งเดียวได้สามคนเลยเหรอ?"

เธอตกตะลึง!

คลอดตั้งสามคนออกมาก็นับว่าเก่งแล้ว แต่ที่สำคัญก็คือเจ้าตัวน้อยทั้งสามยังหน้าตาดีขั้นเทพตั้งแต่อายุยังน้อยอีกต่างหาก

เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ในตอนนั้นเจียงเซิงไปนอนกับเทพเจ้าองค์ไหนมากันแน่!

เจียงเซิงวางเด็กน้อยในอ้อมแขนลง ลูบหัวเล็กๆของพวกเขาทั้งสาม "นี่คือแม่บุญธรรมของพวกหนูนะ เซียวเถียนเถียน"

เซียวเถียนเถียนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจียงเซิง หลังจากที่เธอถูกไล่ออกจากตระกูลเจียงในตอนนั้น เธอก็ไปต่างประเทศ โดยในช่วงเวลานั้นเซียวเถียนเถียนก็อยู่เป็นเพื่อนเธอที่ต่างประเทศด้วย

ไปอยู่ต่างประเทศได้ไม่นานเธอก็พบว่าตัวเธอตั้งท้องขึ้นมาเสียแล้ว เธอเคยคิดที่จะทำแท้ง และก็เป็นเซียวเถียนเถียนที่พูดเกลี้ยกล่อมเธอ เธอถึงได้ตัดสินใจที่จะคลอดเด็กๆออกมา

เพื่อให้เธอได้ดูแลครรภ์อย่างสบายใจ และมีชีวิตที่สะดวกสบาย หญิงสาวที่‘เอาแต่ใจ’ผู้นี้จึงจำนำของโบราณมูลค่าหกล้านของพ่อเธอที่เก็บสะสมมาเพื่อแลกเป็นเงินมาให้กับเจียงเซิง

และถ้าในตอนนั้นไม่มีเซียวเถียนเถียนแล้วละก็ เธอที่โดนขับไล่ออกจากตระกูลเจียงและถูกระงับบัตรเครดิตนั้น น่ากลัวว่าคงต้องไปนอนข้างถนนเสียแล้ว

"สวัสดีค่ะคุณแม่บุญธรรมเถียนเถียน!"

เด็กน้อยทั้งสามก้มตัวลงคนละทีสองที และกล่าวด้วยเสียงแหลมเล็กที่น่ารักออกมา

เซียวเถียนเถียนแทบอดไม่ได้เพราะความน่ารักนี้ เธอยิ้มๆและโบกมือให้ "โอ๊ย เด็กๆสุภาพกันจังเลย~"

เจียงเฉินเฉินเด็กน้อยคนที่สองหันไปหาเจียงเหยียนเหยียนพี่ชายคนโต พร้อมพึมพำออกมาว่า "แม่บุญธรรมของเราคนนี้ดูบื้อมากเลยนะ~"

เจียงเซิงจับหัวเล็กๆของพวกเขาด้วยมือซ้ายและขวา "กระซิบอะไรกัน?"

"เอ่อ..."

และเจียงหนวนหนวนน้องคนสุดท้องก็ได้เปิดเผยอย่างไม่เกรงใจออกมาว่า "พี่ใหญ่กับพี่รองบอกว่าแม่บุญธรรมดูบื้อมากเลยค่ะ!"

เด็กน้อยสองคน "..."

เป็นน้องสาวแท้ๆอย่างไม่ต้องสงสัย

เซียวเถียนเถียนที่ขับรถอยู่ มองไปยังเด็กน้อยทั้งสามที่นอนติดกันอยู่ที่เบาะหลัง แล้วถามขึ้นมาว่า

"เซิงเซิง ทำไมแกถึงตัดสินใจกลับประเทศตอนนี้ล่ะ?"

เจียงเซิงที่กำลังพิงกับหน้าต่างรถใช้ปลายนิ้วม้วนผมของตัวเองเล่น ยิ้มเยาะพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่เสนอเงินห้าสิบล้านให้ฉันลาออกมาแล้วมาทำงานกับเขาในฐานะดีไซเนอร์น่ะ"

"ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ไม่ใช่บริษัทของครอบครัวแกหรือไง?"

เซียวเถียนเถียนเดาะลิ้นพร้อมกับส่ายหัวไปมา "ผู้อำนวยการของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ในตอนนี้คือนังพี่สาวเจียงเวยจอมแอ๊บนั่นนะ นางยอมจ่ายห้าสิบล้านเพื่อเชิญแกกลับมางั้นเหรอ?"

เมื่อพูดจบเธอก็หัวเราะออกมา "ถ้าเธอรู้ว่าแกคือโซราดีไซเนอร์เครื่องประดับระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในประเทศ S แล้วละก็ เธอจะไม่กระอักเลือดเลยเหรอ?"

โซราเป็นที่ฮือฮาในอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ที่ต่างประเทศ โดยผสมผสานงานฝีมือย้อนยุคสไตล์จีนเข้ากับจิวเวลรี่สมัยใหม่ ชิ้นงานดีไซน์แต่ละชิ้นเรียกได้ว่าเป็น "ผลงานขั้นเทพ"เลยทีเดียว

แม้แต่'มงกุฎ'ที่เจ้าหญิงประเทศS ได้สวมใส่ในพิธีอภิเษกสมรสเมื่อปีที่แล้วก็ยังมาจากผลงานการออกแบบของโซราด้วยเช่นกัน

เซียวเถียนเถียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผล "จ่ายแค่ห้าสิบล้านแกก็กลับมาแล้วงั้นเหรอ? มูลค่าระดับแกแค่ห้าสิบล้านถูกไปสำหรับพวกเขาหรือเปล่า?"

เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วว่าบริษัทจิวเวลรี่ชื่อดังอย่าง"ลักชัวรี่"ในประเทศSซื้อตัวเธอด้วยข้อเสนอมูลค่าหกร้อยล้านเลยทีเดียว!

เจียงเซิงหันไปมองเธอ และยิ้มอย่างมีเลศนัย "ฉันก็เลยปฏิเสธไปไง แต่ต่อมาพวกเขาก็เสนอหนึ่งพันล้านให้กับฉัน ตระกูลเจียงเสนอให้ฉันหนึ่งพันล้านเลยนะ แล้วฉันจะไม่กลับมาได้ยังไง?"

ในเมื่อกลับมาแล้ว เธอก็จะต้องเอาหุ้นของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่กลับมาให้ได้!

เซียวเถียนเถียนสูดหายใจเข้าลึกๆ คนในครอบครัวโกงกันเอง เจ๋ง!

และในตอนนี้เธอก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นสีหน้าที่เหยเกของเจียงเวยเสียแล้ว

เมื่อรถมาถึงใต้อาคารไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ เจียงเซิงก็หันไปหาเด็กทั้งสามที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดว่า"มามี๊ต้องไปทำธุระก่อนนะ พวกหนูกลับไปกับแม่บุญธรรมก่อนนะคะ"

เด็กทั้งสามพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลังจากที่เจียงเซิงลงจากรถไปแล้ว เด็กทั้งสามก็มองหน้ากัน แล้วขยับเข้าหาเซียวเถียนเถียน

"แม่บุญธรรมครับ พวกเราอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเจียงกับมามี๊น่ะครับ!"

"ใช่ครับ! แม่บุญธรรมแอบบอกกับเราก็ได้นะครับ เราสัญญาว่าจะไม่ไปบอกมามี๊อย่างเด็ดขาด!"

เซียวเถียนเถียนชะงัก และมองไปที่เด็กน้อยทั้งสาม "ทำไมพวกหนูถึงอยากรู้ล่ะ?"

"เพราะเราเป็นลูกของมามี๊ เราจะไม่ยอมให้มามี๊ถูกรังแกหรอกนะครับ!"

ครั้งนี้ที่พวกเขาตามมามี๊กลับประเทศ ก็เพื่อที่จะช่วยมามี๊ "แก้แค้น" คนที่เคยรังแกมามี๊ของพวกเขานั่นเอง พวกเขาจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!

เซียวเถียนเถียนเย็นวาบที่แผ่นหลัง เด็กสามคนนี้อายุเพียงแค่ห้าขวบจริงๆเหรอ...

เจียงเซิงก้าวเข้าไปในล็อบบี้ของไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ แม้ว่าไวน์เนอร์ จิวเวลรี่จะเป็นบริษัทของตระกูลเจียง แต่'ไวน์เนอร์'คือความพยายามทั้งชีวิตของแม่เธอ

ไม่คิดเลยว่า พ่อของเธอจะมอบไวน์เนอร์ให้กับเจียงเวยที่เป็นคนนอกและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยแบบนี้ได้!

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเธอให้ความสนใจกับข่าวคราวของไวน์เนอร์ในต่างประเทศอยู่บ้าง หลังจากที่เจียงเวยบีบเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่แม่ของเธอให้ความสำคัญออกไปด้วยฐานะลูกสาวของตระกูลเจียง ชื่อเสียงของไวน์เนอร์ก็ค่อยๆลดลงในช่วงหลายปีมานี้

ยอมจ่ายหนึ่งพันล้านเพื่อซื้อตัวดีไซเนอร์อย่างเธอกลับมา ด้วยความเข้าใจของเธอที่มีต่อตระกูลเจียงนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปัญญาจ่าย

เธอจะคอยดูว่าใครกันแน่ที่กำลังช่วยเจียงเวยจ่ายเงินพันล้านนั่น!

เจียงเซิงเดินไปที่ล็อบบี้ "สวัสดีค่ะ ฉันต้องการพบคุณเจียงค่ะ"

และพนักงานต้อนรับหญิงหน้าล็อบบี้ก็ถามอย่างไร้ความอดทนไปว่า "คุณได้นัดไว้หรือเปล่าคะ?"

"ยังไม่ได้นัดค่ะ แต่คุณเจียงติดต่อฉันเป็นการส่วนตัว" เจียงเซิงไม่พอใจกับทัศนคติของพนักงานต้อนรับหญิงคนนี้มากนัก

ดูเหมือนว่าคนที่เจียงเวยจ้างมาจะไม่มีคุณสมบัติทางวิชาชีพจริงๆ

พนักงานต้อนรับหญิงเหลือบมองเธอ "ถ้าคุณไม่ได้นัดเอาไว้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ผู้อำนวยการเจียงของเรายุ่งมากค่ะ"

เจียงเซิงยิ้มเล็กน้อย "ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่บริการแบบนี้กันหมดเลยเหรอคะ?"

"นี่คุณผู้หญิง คุณหมายความว่ายังไงคะ ไม่เห็นหรือว่าเรายุ่งมาก? คุณคิดว่าผู้อำนวยการของเราเป็นคนที่คุณอยากจะเข้าพบก็เข้าพบได้งั้นเหรอคะ?"

"เฮ้ ฉันก็นึกว่าใครซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแก เจียงเซิง แกยังกล้ากลับมาอีกเหรอ?"

เจียงเวยเดินออกจากลิฟต์ บังเอิญเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่แผนกต้อนรับ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจียงเซิงนี่เอง!

นังตัวดีนี่กลับมาแล้ว!

เจียงเซิงหันกลับไปอย่างช้าๆ ใบหน้าของเจียงเวยหม่นหมองลงเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเจียงเซิงอีกครั้ง ไม่ได้เจอแค่หกปีการเปลี่ยนแปลงของนังนี่เยอะจริงๆ เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่มีผิด!

"ก็แกเองที่เป็นคนเชิญฉันกลับมาไม่ใช่เหรอ?" เจียงเซิงหัวเราะเบาๆ

เจียงเวยชะงัก บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง "ฉันเชิญแกกลับมา? ไม่ได้เจอกันหกปีทำไมแกถึงได้หน้าด้านขนาดนี้?"

เธอกอดอกและเดินไปหาเจียงเซิง "ทำไม บทเรียนเมื่อหกปีที่แล้วยังไม่มากพอเหรอไง?"

เมื่อพูดถึงเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว ดวงตาของเจียงเซิงเย็นชาลงเล็กน้อย และไร้อากัปกิริยาใดๆบนใบหน้า "ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ที่เธอได้เป็นผู้อำนวยการของบริษัทไวน์เนอร์ จิวเวลรี่ ภายใต้การบริหารของแก ไวน์เนอร์ จิวเวลรี่แย่ลงเรื่อยๆ อย่าปล่อยให้ปิดตัวลงซะก่อนล่ะ"

"แก..."

เจียงเวยยกมือขึ้นตบเธอไปหนึ่งฉาด

โดยที่เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้านี้ทำให้ทุกคนในห้องโถงต่างก็ตะลึงงัน

"เกิดอะไรขึ้น?"

เสียงทุ้มที่เย็นชาดังขึ้น

ใบหน้าของเจียงเวยเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นเขา และความเย่อหยิ่งเมื่อครู่บนใบหน้าของเธอก็หายไปอย่างสิ้นเชิง จากนั้นเธอก็เดินไปหาชายคนนั้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

"เย่เจ๋ว นังคนนี้ค่ะ เธอดูถูกฉัน แถมสาปแช่งบริษัทของฉันให้ล้มละลายด้วย"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status