Beranda / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่ 6  เทียบเชิญที่เลี่ยงไม่ได้

Share

ตอนที่ 6  เทียบเชิญที่เลี่ยงไม่ได้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 00:00:51

กองทัพตระกูลเยี่ยนยาตรามาถึงเมืองหลวงแล้ว

ฮ่องเต้ทรงมีราชโองการแต่งตั้งเยี่ยนหยางเจวี๋ยเป็นแม่ทัพใหญ่รักษานคร คุมกำลังพิทักษ์เมืองหลวงหนึ่งแสนนาย พร้อมเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นไคกั๋วกง[1]ตระกูลได้สืบทอดตำแหน่งสามชั่วคนโดยไม่ลดบรรดาศักดิ์ ได้รับปูนบำเหน็จเป็นเงินทอง แพรพรรณชั้นดี และจวนหลังใหม่ในเขตที่พำนักขุนนาง

ส่วนเมืองชายแดนหานจี ฮ่องเต้มู่เหวินหลงได้ส่งแม่ทัพหนุ่มไฟแรงนามหนานกงอี้ไปประจำแทน ทำเอาบรรดาคุณหนูทั้งหลายร่ำไห้น้ำตานองด้วยความเสียดาย พวกนางคงไม่มีโอกาสได้พบกับบุรุษผู้หล่อเหลาอีกนาน

แต่ไม่ทันไรก็พากันแช่มชื่นดุจบุปผาต้องฝนกันอีกครา เมื่อสตรีทั้งหลายได้เห็นรองแม่ทัพผู้องอาจห้าวหาญอย่างเยี่ยนหยางจง แล้วไหนจะกุนซือผมสีเงินรูปงามนามเยี่ยนจิ้นหลิงซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นอีกคน

คุณชายตระกูลเยี่ยนทั้งสองบังคับอาชาให้เดินไปตามถนนศิลาที่ทอดยาว นำขบวนกองทัพอันเกรียงไกรมุ่งตรงไปยังวังหลวง บรรดาคุณหนูต่างจับจองห้องพิเศษของโรงเตี๊ยมและหอสุราทั้งสองฟากฝั่งเพื่อชมขบวนทัพ เมื่อได้เห็นบุรุษทั้งสองก็พากันใจสั่นหวิว บ้างก็หน้าแดงเพราะขวยอาย แทบจะพากันสวดอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้ตนเองได้เป็นสะใภ้ตระกูลเยี่ยน

จวนไคกั๋วกง เขตพำนักขุนนาง

“มีเทียบเชิญจากวังหลวงขอรับ” พ่อบ้านใหญ่ช่างลี่นำเทียบเชิญมายื่นให้แม่ทัพใหญ่ในห้องหนังสือ

เมื่อเห็นว่าเป็นสารที่ส่งมาจากวังหลวง เยี่ยนหยางเจวี๋ยจึงส่งสัญญาณให้พ่อบ้านใหญ่ออกไปก่อน จึงค่อยเปิดเทียบเชิญซึ่งบุด้วยผ้าไหมสีน้ำเงินชั้นดีออกอ่านเสียงดังกังวาน

“เทียบเชิญงานชมดอกเหมยประจำปีของวังหลวง ให้จวนไคกั๋วกงเตรียมการแสดงมาด้วย” เยี่ยนหยางเจวี๋ยอ่านจนจบแล้วหันไปสบตากับเยี่ยนจิ้นหลิงบุตรชายคนรอง

“เทียบเชิญมาแล้ว...ยากจะหลีกเลี่ยงมังกรจับคู่” เยี่ยนจิ้นหลิงยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ในมือของเขายังถือตำราพิชัยสงครามอยู่โดยไม่ได้อ่านแม้แต่อักษรเดียว

“ข้าไม่อยากไปเลย เจ้าก็รู้ งานชมดอกเหมยทุกปีเกิดอันใดขึ้น” พี่ใหญ่อย่างเยี่ยนหยางจงเอ่ยน้ำเสียงร้อนรน “ฮ่องเต้อาจจะยกองค์หญิงให้ข้าหรือเจ้าก็ได้” รองแม่ทัพหนุ่มอดคิดเช่นนี้ไม่ได้ เพราะหลายปีที่ผ่านฮ่องเต้เหมือนจะชอบสร้างความบันเทิงโดยใช้งานชมดอกเหมยจับคู่ให้ผู้อื่น

“องค์หญิงใหญ่เพิ่งอายุสิบสี่ชันษาเท่านั้น พี่ใหญ่ไม่ต้องรีบร้อน” เยี่ยนจิ้นหลิงตอบพี่ชายพร้อมกลั้วหัวเราะ “สวรรค์ยังไม่มีบัญชาให้ท่านกราบไหว้ฟ้าดินพร้อมกับสตรีใดในปีนี้”

เมื่อเยี่ยนจิ้นหลิงพูดดังนั้นเยี่ยนหยางจงก็กลับเข้าสู่ความสงบ เพราะนอกจากน้องรองของเขาจะเชี่ยวชาญกลศึกอย่างหาตัวจับได้ยาก เรื่องศาสตร์การทำนายของกุนซือหนุ่มก็ไม่ด้อยเช่นกัน หลายครั้งที่ผ่อนหนักให้เป็นเบาและแก้ไขสถานการณ์ร้าย ๆ เอาไว้ได้

ทว่าน้องชายตัวดีก็ใช้ความน่าเชื่อถือนี้สร้างเรื่องให้เขาปวดศีรษะอยู่หลายครั้งหลายครา

“หากฮ่องเต้ต้องการความครึกครื้น ท่านพ่อก็ควรสั่งให้น้องเล็กเตรียมตัวแล้ว” เยี่ยนจิ้นหลิงยิ้มมุมปาก เผยแววตาบางอย่างชั่วขณะ ชายหนุ่มวางตำราพิชัยสงครามลงบนตั่งจากนั้นจึงลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้องไป

“เดี๋ยวก่อนจิ้นหลิง...จะ...เจ้าอย่าบอกนะว่าจะให้ฉีเอ๋อร์ทำการแสดงหน้าพระพักตร์ พ่อว่าไม่จำเป็นสักนิด เราจ้างคณะแสดงส่งไปก็ได้” เยี่ยนหยางเจวี๋ยค้านเสียงแข็ง ไม่อยากให้บุตรสาวเข้าไปอวดโฉมในวัง

“สวรรค์ลิขิตแล้ว…นางต้องไป ท่านพ่อ”

บุตรชายคนรองเอ่ยจบก็ก้าวออกจากห้องหนังสือทันที ทิ้งบิดาที่ทำหน้าถมึงทึงไว้เบื้องหลัง

“ลิขิตสวรรค์ ข้าถนอมฉีเอ๋อร์ดุจดวงใจ มิใช่เพื่อให้ไปเป็นพระสนมของฮ่องเต้นะ” เยี่ยนหยางเจวี๋ยเอ่ยเสียงสั่นด้วยโทสะ มือทั้งสองกำมัดแน่น ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างแรง

“ท่านพ่ออย่าเพิ่งวิตกไป หลายปีที่ผ่านมาบรรดาคุณหนูหลายตระกูลก็ถูกคัดเลือกให้แสดงความสามารถหน้าพระพักตร์ แต่ก็มิได้ถูกเลือกให้เป็นพระสนม”

เยี่ยนหยางจงเอ่ยปลอบบิดาให้คลายโทสะ หลายครั้งที่น้องชายทำนายเหตุการณ์มักจะพูดทิ้งท้ายไว้เพียงครึ่ง ๆ  กลาง ๆ ไม่ยอมบอกรายละเอียด บางทีตนเองก็ยังหงุดหงิดที่กุนซือผมเงินเก็บงำคำทำนายเอาไว้ผู้เดียว ส่วนเรื่องเทียบเชิญจากวังหลวงฉบับนี้ พี่ใหญ่สกุลเยี่ยนก็มิได้รู้สึกยินดีแม้แต่น้อย เยี่ยนเยว่ฉีคือน้องสาวที่ตนเองรักอย่างยิ่ง จะให้ทนเห็นนางเดินเข้าสู่สถานที่กินคนอย่างวังหลวงได้อย่างไร

เยี่ยนจิ้นหลิงเดินออกจากห้องหนังสือที่เรือนหลักด้วยฝีเท้ามั่นคง ผ่านสวนหินที่ตกแต่งไว้ด้านหน้าเรือน มุ่งตรงไปยังประตูวงเดือนที่กั้นระหว่างเรือนหลักกับส่วนลานกว้างของจวน ทหารองครักษ์พิเศษกำลังฝึกยุทธ์กันอย่างแข็งขัน เมื่อเห็นท่านกุนซือก็หยุดการกระทำทั้งหมดแล้วยกมือขึ้นทำท่าคำนับ พร้อมกล่าวคำคารวะ ทหารฝีมือเยี่ยมเหล่านี้เยี่ยนจิ้นหลิงล้วนตรวจสอบปูมหลังแล้วคัดเลือกมาด้วยตนเองทั้งสิ้น จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีคนร้ายหน้าไหนแทรกซึมเข้ามาภายในจวนแห่งนี้ได้

กุนซือผมสีเงินรีบเดินตัดผ่านลานฝึกยุทธ์เพื่อย่นระยะทาง เร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อย มุ่งตรงสู่สวนกลางคฤหาสน์ทันที โดยไม่แม้แต่จะชำเลืองมองดอกท้อที่บานสะพรั่งอยู่รายล้อม เป้าหมายของเขาอยู่ที่ศาลาพักร้อนริมสระบัวใหญ่ 

เมื่อเข้าใกล้บริเวณศาลาเสียงขลุ่ยอันไพเราะก็ลอยแว่วมา สายลมโชยอ่อนพัดพากลิ่นดอกโบตั๋นจาง ๆ จากร่างบางลอยมาปะทะจมูก เยี่ยนจิ้นหลิงครุ่นคิดพลางมองแผ่นหลังเหยียดตรงของสตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

ตอนอยู่เมืองชายแดน ความงามของเยี่ยนเยว่ฉีก็เป็นที่เลืองลือแล้ว ครั้นนางอายุได้สิบสองปี บรรดาคุณชายต่างตั้งมั่นว่าจะต้องรีบส่งแม่สื่อมาสู่ขอ ไม่ต้องพูดถึงตอนนางอายุถึงวัยเข้าพิธีปักปิ่น บรรดาแม่สื่อและขุนนางท้องถิ่นรวมไปถึงเมืองข้างเคียง ต่างแห่แหนกันมาทาบทามบุตรสาวแม่ทัพเยี่ยนไม่ขาดสาย

แต่แม่ทัพใหญ่ในเวลานั้นไม่ยอมยกบุตรสาวให้ผู้ใด จนกระทั่งฮ่องเต้มีรับสั่งให้เยี่ยนหยางเจวี๋ยเลื่อนบรรดาศักดิ์และย้ายมาพำนักในเมืองหลวง ด้วยเหตุนี้ข่าวลือเรื่องที่เขาจะถวายตัวบุตรสาวแด่ฮ่องเต้ จึงถูกหยิบยกออกมาพูดถึงอีกครา

“น้องเล็ก”

[1] ไคกั๋วกง คือ ตำแหน่งบรรดาศักดิ์สูงสุดของชั้นกง ขั้น 1 ชั้นรอง โดยใช้แต่งตั้งให้ขุนนางที่ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดที่ขุนนางจะได้รับจากฮ่องเต้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่101 เรากลับกันเถิด

    ส่วนฮองเฮานั่งจิบชาด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ทำประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในใจลอบตำหนิแม่สามีที่พูดจาเอาแต่ใจ โดยไม่สนพระทัยสักนิดว่าเรื่องนี้ควรพูดออกมาตอนนี้หรือไม่ หากมู่เลี่ยงหรงต้องการจะให้จ้าวกุ้ยอินมาเป็นเป็นหวางเฟยแล้วละก็ คงไม่รอให้ไทเฮาเสนอมู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลังบังเกิดโทสะจึงต้องรีบจากมาก่อนเรื่องราวจะแย่ลง เพียงไม่นานนักเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินออกมาจากประตูตำหนัก หญิงสาวมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าอกเข้าใจ“ท่านอ๋องเรากลับกันเถิด”“อ้ายเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า”“วางใจเถิด หวางเฟยของท่านเป็นคนที่มีเหตุผล” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มหยอกเย้าหวังให้เขาสบายใจ“ข้าไม่มีทางรับใครเข้าจวนอีก” เขารีบอธิบาย เพราะกลัวว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเข้าใจผิด“ดูพูดเข้า หากเป็นพระราชโองการ หรือพระเสาวนีย์อย่างไรท่านก็ขัดมิได้อยู่”“เสด็จพี่มีรับสั่งจะไม่บังคับข้าอีก”“แต่ไทเฮาไม่ได้ทรงรับปากท่านอ๋องนี่”“เป็นดั่งเจ้าว่า แต่ถ้าเสด็จแม่ยังคงดื้อดึง เรื่องนี้คนที่จะเสียใจที่สุดคงจะเป็นจ้าวกุ้ยอิน”“หากนางได้แต่งกับท่านสมใจ จะมีแต่ความ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่100 ในที่สุด

    ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาถึงจุดจอดรถม้าของวังหลวงซิ่นเฉิงขานเรียกผู้เป็นนาย ส่วนซูจิ้งก็จัดการวางขั้นบันไดข้างรถม้า ทั้งสองต่างทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มองหน้า ไม่พูดไม่จากันแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งที่ต้องเดินเคียงกันไปตลอดทางเป็นองครักษ์หนุ่มที่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องหาทางคุยกับซูจิ้งให้รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรเสียตอนนี้ก็อยู่จวนเดียวกัน หากนางเป็นอนุบ่าวของเยี่ยนจิ้นหลิงจริง เหตุใดจึงตามหวางเฟยมาเล่า เขาจะต้องถามความให้กระจ่าง หากแม้ไม่มีวาสนาต่อกันก็ยินดีจะล่าถอย ไม่ใช่เดาสุ่มเอาเองเช่นนี้ เมื่อตกลงใจได้เขาก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน‘คืนนี้ล่ะ ซาลาเปาน้อย ข้าจะต้องรู้ความจริงให้จงได้’มู่เลี่ยงหรงต้องพาเยี่ยนเยว่ฉีไปถวายพระพรไทเฮา หนทางจากจุดจอดรถม้าไม่ใกล้เลย ซ้ำไทเฮายังเลือกเวลาให้ทั้งสองมาเข้าเฝ้ายามตะวันตรงศีรษะ ที่น่าแปลกคือไม่มีเกี้ยวสำหรับสตรีมารับ กว่าจะถึงตำหนักของพระนาง ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวหนึ่งก้านธูปเมื่อทั้งสองถึงที่หมายก็เห็นกูกูสูงวัยผู้หนึ่งยืนรออยู่หน้าประตูตำหนัก ครั้นนางเห็นมู่เลี่ยงหรงก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นจึงเดินนำบุคคลทั้งคู่เข้าส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่99 นึกชื่นชม

    พ่อบ้านใหญ่รับคำแล้วจัดการสั่งงานลูกน้องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่วงท่าและน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยพลัง เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็นึกชื่นชม มิน่าเล่า ท่านอ๋องถึงวางใจคนหนุ่มผู้นี้ให้รับผิดชอบเรื่องน้อยใหญ่ในจวน ดูท่าทางนางคงไม่ต้องเหนื่อยยากอย่างที่คิดมู่เลี่ยงหรงให้พ่อบ้านใหญ่กับมามาทั้งสี่ถอยออกไปได้ ก่อนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป“พวกเจ้าเข้ามาคารวะน้ำชาหวางเฟยเถิด”พอสิ้นเสียงคำสั่ง สตรีโฉมงามสามนางก็เดินนำหน้าหญิงสาวอีกสิบกว่าคนเข้ามาภายในห้องโถง เยี่ยนเยว่ฉีมองไปยังพระชายารองทั้งสามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบที่สุด ถึงแม้จะรู้สึกตกอกตกใจอยู่บ้างกับจำนวนสตรีที่ถวายตัวให้มู่เลี่ยงหรงแต่มิได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ‘บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว’เยี่ยนเยว่ฉีตั้งใจเอาไว้ว่าหากพวกนางไม่ได้แสดงตัวเป็นปรปักษ์ ตนเองก็จะไม่กระทำการรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้นมู่เลี่ยงหรงแนะนำชายารองทั้งสามด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการกังวลหรือตกประหม่าให้เห็น แต่ภายในใจกลับก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะเกรงว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะยังรับเรื่องฮูหยินอีกสิบเอ็ดคนไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงยิ้มละไม ไม่มีอาการกระอั

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่98 ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า

    “อ้ายเฟย สี่คนนี้คือนางกำนัลที่ข้าคัดสรรมาให้ ข้ารับรองว่าพวกนางทำงานดีและมีความรอบรู้ หากเจ้าต้องการทราบเรื่องใดในจวน พวกนางสามารถแนะนำจัดหาให้เจ้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะชิงหรู นางดูแลห้องข้างของข้ามาหลายปี”เยี่ยนเยว่ฉีหรี่นัยน์ตามองชิงหรูอย่างเสียมิได้ พอเห็นก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้คือนางกำนัลที่เตรียมน้ำอุ่นมาให้เมื่อคืน นางหน้าตาสะสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่ง รูปร่างงามระหงสมส่วน มีเสน่ห์ดึงดูดใจบุรุษมากทีเดียวมู่เลี่ยงหรงที่ลอบสังเกตอยู่พบว่าเยี่ยนเยว่ฉีกำลังกินน้ำส้มอยู่ เขากลั้วหัวเราะเบา ๆ จนนางต้องหันมาค้อนผู้เป็นสามีทีหนึ่ง“ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า”“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดท่านเสียหน่อย” หวางเฟยบ่นพึมพำเมื่อถูกจับได้“ก็ข้าอยากบอกเจ้านี่” ฉินอ๋องไม่ต้องการทำให้พระชายาคนงามต้องรู้สึกเสียหน้าจึงพูดแก้เก้อให้เสร็จสรรพ“เยว่ฉีทราบแล้ว” นางพอใจที่ท่านอ๋องไว้หน้าตนมู่เลี่ยงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปสั่งนางกำนัลทั้งหลายให้ปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของหวางเฟย เหล่านางกำนัลรีบทำตามประสงค์ของเจ้านาย เยี่ยนเยว่ฉียอมรับว่าผู้ที่มู่เลี่ยงหรงคัดสรรค์มาให้นางนั้นทำ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่97 แย่แล้วคุณหนูของข้า

    อ๋องหนุ่มฝืนลุกจากเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาคว้าชุดคลุมเอามาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิทของนางให้มาช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายของสตรี เยี่ยนเยว่ฉีมองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนไปซูจิ้งเข้ามาภายในห้องหอ นางยอบกายคำนับฉินอ๋องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างที่ห้องชั้นนอก เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณให้นางเข้าไปหาเยี่ยนเยว่ฉีในห้องนอนซูจิ้งเดินผ่านกองชุดวิวาห์ที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ หรือว่าฉินอ๋องทำรุนแรงกับนายหญิงของตน‘แย่แล้วคุณหนูของข้า’ สตรีร่างเล็กแทบจะวิ่งเข้าไปที่หน้าเตียง ภาพที่เห็นคือเยี่ยนเยว่ฉีนั่งเอาผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ มีคราบน้ำตาอาบบนแก้ม แต่ไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจแม้แต่น้อย“คุณหนู ไม่ใช่สิ หวางเฟยเป็นอันใดไปเพคะ”“เรื่องสุดวิสัยของสตรี” เยี่ยนเยว่ฉีเอ่ยเสียงเย็นคำตอบของเยี่ยนเยว่ฉีทำให้ซูจิ้งโล่งอก มิน่าเล่าฉินอ๋องถึงได้ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้น มีเนื้ออยู่ตรงหน้าแต่กลับกินไม่ได้ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน“เช่นนั้นลงมาจากเตียงก่อนเพคะ ซูจิ้งจะได้ปรนนิบัติท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”“อืม”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่96 แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย

    แม้แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับร้อนรุ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกกระตุ้นเพลิงในกาย เพื่อให้เขากับนางแนบสนิทใกล้ชิดยิ่งขึ้น มู่เลี่ยงหรงจึงขยับร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตน และด้วยการบังคับขยับนี้เยี่ยนเยว่ฉีจึงต้องตวัดขาเรียวยาวโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ แล้วคล้องแขนกับลำคอเพื่อเป็นหลักยึด ฝ่ามือร้อนของบุรุษลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียน เมื่อพบกับปมเล็ก ๆ ที่ผูกไว้ก็กระตุกออกอย่างเบามือ อุปสรรคสุดท้ายถูกกำจัดจนสิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเทพธิดาแสนสวยในอ้อมกอดแสงจากเทียนมงคลคู่สีแดงวูบไหว อาบไล้ไปบนผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ยิ่งทำให้เยี่ยนเยว่ฉีงดงามราวรูปสลักอันไร้รอยตำหนิ ช่างสูงค่าคู่ควรให้ทะนุถนอม‘วิเศษยิ่งนัก ยอดรักของข้า’ดวงตาลากไล้สำรวจเทพธิดาในอ้อมกอด ยิ่งมองยิ่งพบว่าเรือนกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลทุกสัดส่วน ร่างระหงยั่วยวนน่าสัมผัสไปทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ามือจะลูบไล้ไปตรงที่ใด ผิวกายขาวผ่องดุจแสงจันทร์กระจ่างก็เรียบลื่นนุ่มละมุนมือ มู่เลี่ยงหรงแทบลืมหายใจเมื่อแลเห็นปทุมถันอวบอิ่มเต็มตา ยอดสีหวานชูชันท้าทายให้ครอบครองยิ่งนัก ชายห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status