หน้าหลัก / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่5 ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง 3

แชร์

ตอนที่5 ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง 3

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-30 20:31:11

เมื่อย้อนนึกถึงวันวานในวัยเยาว์ของตนเองกับผู้ที่เป็นอัครเสนาบดี ก็เริ่มจำได้ว่าพวกเขาเคยพูดเรื่องรับภรรยาในอนาคต ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กจึงรับปากด้วยความยินดี ซ้ำยังให้คำมั่นว่าจะไม่มีทางปฏิเสธหญิงสาวที่สหายเลือกให้อย่างแน่นอน

“น่าตายนัก!” มู่เลี่ยงหรงสบถลอดไรฟัน กำหมัดแน่น หลับตาลงลอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของสหายอย่างเจ็บแค้น เขารู้ดีว่าตกหลุมพรางเสียแล้ว และหลุมนี้ตนดันเป็นคนขุดเอาไว้เองจนเกือบลืมสิ้น

เมื่อเห็นอ๋องหนุ่มหน้าซีดกล่าวอะไรไม่ออกอีก ถางซือเซินผู้ใจกล้ากล่าวต่ออีกประโยคด้วยใบหน้าฉายแววยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ “ผู้เป็นอ๋องกล่าวแล้วทองพันชั่งก็ซื้อมิได้ ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง”

เมื่อเห็นว่าตกเป็นรองสหาย แต่ด้วยนิสัยละเอียดรอบคอบ จะให้ยอมง่าย ๆ ก็คงไม่ได้การ ด้วยตำแหน่งพระชายาเอกไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาล้อเล่นได้ สตรีนางนั้นย่อมต้องเป็นผู้ที่คู่ควร เขาต้องเห็นดีเห็นงามด้วยถึงจะถูก

“ซือเซินอย่าเพิ่งได้ใจไป ข้าสัญญากับเจ้าเอาไว้ก็จริง แต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงอนาคตของข้าเชียวนะ มีเรื่องเจ้าควรรู้เอาไว้ หลายปีที่ผ่านไม่เคยนึกแปลกใจเลยหรือ ข้ามีพระชายารองอยู่ถึงสามนางแต่ยังไม่มีทายาทเสียที”

“...” ถางซือเซินไม่กล้าตอบ หากพูดว่ามู่เลี่ยงหรงไร้น้ำยา เขาจะต้องถูกกระบี่เสียบเข้าหัวใจเป็นแน่แท้

“ข้าตั้งใจจะมีทายาทกับหวางเฟยเท่านั้น” มู่เลี่ยงหรงเอ่ยเสียงเข้ม พลางลูบไล้ตราหยกสลักลายพยัคฆ์สีขาวอันล้ำค่าควรเมือง “ข้าต้องรู้ก่อนว่านางเป็นใครกันแน่ หากสตรีผู้นี้ไม่คู่ควร ข้าย่อมปฏิเสธคนที่เจ้าเลือกได้ แต่ไม่ใช่จะไม่รักษาคำพูด หากครานี้ไม่ผ่านเจ้าก็ไปคัดเลือกมาใหม่ เช่นนี้จึงจะยุติธรรมกับเราทั้งสองฝ่าย อัครเสนาบดีคงเห็นด้วยกับที่ข้าเสนอกระมัง”

ถางซือเซินหลุบสายตาลง รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย มู่เลี่ยงหรงไม่ใช่หมูให้เขากลืนง่าย ๆ แต่บุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่เป็นสตรีในแบบที่ท่านอ๋องชอบอย่างแน่นอน

‘ลองเสี่ยงดูก่อนก็แล้วกัน หากยังไม่สำเร็จค่อยไปวางแผนใหม่อีกครั้งกับคนผู้นั้น

“นามของนางคือเยี่ยนเยว่ฉี บุตรีท่านแม่ทัพใหญ่รักษานครคนใหม่ มีเสียงเล่าลือกล่าวขานว่านางงดงามราวเทพธิดา กิริยามารยาทหรือก็ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี”

“แค่บุตรสาวขุนนาง ไฉนเจ้าไม่หาท่านหญิงให้ข้าเล่า” มู่เลี่ยงหรงหรี่ตา ดวงตาเหยี่ยวจดจ้องใบหน้าสหายประหนึ่งต้องการจับผิด เห็นทีเรื่องนี้ต้องมีสายสนกลใน

ซือเซินเอ๋ย ข้าก็รู้ใจเจ้าเช่นกัน

“หากท่านอ๋องอยากสมรสกับท่านหญิง ซือเซินก็เห็นมีเหมาะสมอยู่ผู้หนึ่ง” อัครเสนาบดียิ้มเย็นแล้วเอ่ยชื่อสตรีผู้นั้นอย่างกล้าหาญ “ท่าน-หญิง-กุ้ย-อิน”

“ซือเซิน! บ่อลับที่ท้ายจวนของข้ายังสามารถใส่บัณฑิตไม่กลัวตายลงไปได้อีกหลายคน” มู่เลี่ยงหรงคิ้วกระตุก นี่สหายล้อเขาเล่นใช่หรือไม่ ใครจะอยากแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้น เขายอมยกเฉิงจื่อหรูพระชายารองคนโปรดขึ้นเป็นหวางเฟยยังดีเสียกว่า

“ท่านอ๋อง ซือเซินขอกล่าวอะไรสักหน่อย”

“อืม...ว่ามา แต่คิดให้ดีก่อนพูดนะ ข้าเองก็ยังไม่อยากหาผู้อื่นมาเดินหมากเป็นเพื่อนแทนเจ้า” ฉินอ๋องทำเป็นพูดข่มขวัญ แต่แท้จริงกลับแอบหัวเราะอยู่ในใจ

“ท่านอ๋องชอบท่านหญิงคนใดเป็นพิเศษกัน ให้ไล่ชื่อไปทุกตระกูลท่านก็ปฏิเสธอยู่ดี หรือจะค้านสิ่งที่ซือเซินพูด” อัครเสนาบดียังคงไม่ยอมแพ้ มู่เลี่ยงหรงเรื่องมากขนาดไหนทำไมเขาจะไม่รู้

“ก็จริง แต่สตรีที่เติบโตในเมืองชายแดนจะมีอะไรให้ข้าตื่นเต้นกัน คนลือว่างดงามแล้วอย่างไร นางอาจจะดูหน้าตาดีสำหรับชาวชนบทเท่านั้นก็ได้”

“ซือเซินหวังว่าท่านอ๋องจะนำเรื่องนี้ไปไตร่ตรอง หากท่านไม่พึงใจก็ไม่มีอะไรเสียหาย กระหม่อมจะไปคัดสรรสาวงามมาให้ใหม่” อัครเสนาบดีกล่าวเสียงเรียบ “แต่ถ้าหากท่านอ๋องต้องตาต้องใจนางแล้วล่ะก็ จงไปขอพระราชทานสมรสด้วยตนเองนะพ่ะย่ะค่ะ”

“หือ…ดูเหมือนเจ้าจะไม่พอใจ” มู่เลี่ยงหรงจ้องหน้าสหาย ดูเหมือนว่าอัครเสนาบดีจะถอดใจไม่อยากตื๊อเขาอีกแล้ว

‘ไม่สนุกเลยซือเซิน วันนี้ทำไมเจ้าไม่เถียงข้าให้มาก ๆ หน่อยเล่า’

“มิได้” ถางซือเซินพูดเสียงเบา แล้วก้มลงมองกระดานหมากตรงหน้าอีกคราหนึ่ง

“ก็ได้...ก็ได้ ข้าจะไตร่ตรองเรื่องนี้ อย่างน้อยจะหาทางไปพบหน้านางก่อนเวลาสักหน่อย หากบุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่งดงามต้องตาต้องใจ ข้าจะแต่งนางเป็นหวางเฟย เท่านี้เจ้าคงพอใจแล้วกระมัง”

“ขอบพระทัย...” ถางซือเซินรับคำเสียงเฉื่อย

“เจ้าเป็นบุรุษไฉนทำนิสัยสตรีใส่ข้าเล่า” มู่เลี่ยงหรงเห็นถางซือเซินทำท่าเหมือนแง่งอน จึงอดคิดถึงถางซือเซียนมิได้ สองพี่น้องชอบทำหน้าแบบนี้เวลาไม่ได้ดั่งใจ

ถางซือเซินไม่พูดไม่จาอะไรอีกทั้งสิ้น บัณฑิตหนุ่มแห่งราชสำนักเพียงขยับนิ้ววางตัวหมากลงบนกระดานที่ตนบอกว่ายอมแพ้ไปแล้วหนึ่งตัว จากนั้นคนเหลี่ยมจัดจึงส่งยิ้มให้ผู้เป็นอ๋อง พร้อมกล่าวสั้น ๆ

“รุกฆาต”

“เจ้ามันช่าง…น่าตายนัก!” 

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง” รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าของอัครเสนาบดีในที่สุด

การเดินหมากจบลงเพียงเท่านี้ แต่มู่เลี่ยงหรงยังคงติดใจอยู่ หากไม่มีสายสนกลในสหายคงไม่ออกปากเป็นแน่ พระเชษฐาคงมีแผนการแต่ไม่อยากบอกกับเขาโดยตรง

‘หวังว่าจะไม่ใช่แผนชายงาม หรือข้าต้องแต่งงานการเมืองอีกแล้ว’

มู่เลี่ยงหรงเหมือนพอจะรู้ชะตากรรม แต่หากเขาไม่เอ่ยปาก ฮ่องเต้ก็มิอาจพระราชทานสมรสได้ ด้วยเหตุนี้กระมังพระเชษฐาจึงส่งถางซือเซินมาจัดการเรื่องนี้

มู่เลี่ยงหรงนั่งไตร่ตรอง พลางเคาะนิ้วเรียวบนตั่งเป็นจังหวะ

‘ข้าจะเล่นด้วยก็แล้วกัน ท่าทางตระกูลเยี่ยนคงมีอะไรน่าสนอกสนใจกว่าที่เขาคิด เป็นเขยท่านแม่ทัพใหญ่รักษานครอีกสักตำแหน่งคงไม่เป็นไร แต่จะให้ข้าอ้อนวอนขอพระราชทานสมรสง่าย ๆ ก็ไม่สนุกน่ะสิ’

ถางซือเซินมองกิริยานี้ก็ลอบยิ้มในใจ แต่กลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ท่านอ๋องกำลังวางแผนเรื่องตระกูลเยี่ยนแล้วเป็นแน่ ชายผู้นี้หากบังคับโดยตรงย่อมไม่มีทางยินดี เช่นนี้มีแต่ต้องใช้เล่ห์กล ซึ่งเรื่องนี้ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว จะเหลือแค่เพียงผู้สูงศักดิ์จะพร้อมใจกระโดดลงหลุมพรางที่เขาเพียรขุดเอาไว้เท่านั้น

ต่างคนก็ต่างคิดแผนอยู่ในใจ จนตะวันใกล้จะลับฟ้า อัครเสนาบดีจึงกล่าวลาแล้วรีบออกจากจวนฉินอ๋องทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่ 6  เทียบเชิญที่เลี่ยงไม่ได้

    กองทัพตระกูลเยี่ยนยาตรามาถึงเมืองหลวงแล้วฮ่องเต้ทรงมีราชโองการแต่งตั้งเยี่ยนหยางเจวี๋ยเป็นแม่ทัพใหญ่รักษานคร คุมกำลังพิทักษ์เมืองหลวงหนึ่งแสนนาย พร้อมเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นไคกั๋วกง[1]ตระกูลได้สืบทอดตำแหน่งสามชั่วคนโดยไม่ลดบรรดาศักดิ์ ได้รับปูนบำเหน็จเป็นเงินทอง แพรพรรณชั้นดี และจวนหลังใหม่ในเขตที่พำนักขุนนางส่วนเมืองชายแดนหานจี ฮ่องเต้มู่เหวินหลงได้ส่งแม่ทัพหนุ่มไฟแรงนามหนานกงอี้ไปประจำแทน ทำเอาบรรดาคุณหนูทั้งหลายร่ำไห้น้ำตานองด้วยความเสียดาย พวกนางคงไม่มีโอกาสได้พบกับบุรุษผู้หล่อเหลาอีกนานแต่ไม่ทันไรก็พากันแช่มชื่นดุจบุปผาต้องฝนกันอีกครา เมื่อสตรีทั้งหลายได้เห็นรองแม่ทัพผู้องอาจห้าวหาญอย่างเยี่ยนหยางจง แล้วไหนจะกุนซือผมสีเงินรูปงามนามเยี่ยนจิ้นหลิงซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นอีกคนคุณชายตระกูลเยี่ยนทั้งสองบังคับอาชาให้เดินไปตามถนนศิลาที่ทอดยาว นำขบวนกองทัพอันเกรียงไกรมุ่งตรงไปยังวังหลวง บรรดาคุณหนูต่างจับจองห้องพิเศษของโรงเตี๊ยมและหอสุราทั้งสองฟากฝั่งเพื่อชมขบวนทัพ เมื่อได้เห็นบุรุษทั้งสองก็พากันใจสั่นหวิว บ้างก็หน้าแดงเพราะขวยอาย แทบจะพากันสวดอ้อนวอนสิ่งศักด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่7 คลี่ยิ้มอ่อนหวาน

    ได้ยินเสียงพี่ชายเอ่ยทักจากด้านหลัง เยี่ยนเยว่ฉีจึงถอนริมฝีปากสีชมพูระเรื่อออกจากขลุ่ยหยกอย่างแช่มช้า นางหันหลังกลับมามองพร้อมคลี่ยิ้มอ่อนหวาน ใบหน้ารูปแตงปรากฏรอยยินดี นางช่างงดงามน่าทะนุถนอมยิ่ง“พี่รอง...” เยี่ยนเยว่ฉีกล่าวทักทาย“อีกเจ็ดวันพวกเราต้องเข้าวังไปงานเลี้ยงชมดอกเหมย” เยี่ยนจิ้นหลิงเดินเข้าไปในศาลา เขานั่งลงเคียงข้างน้องสาว “เตรียมตัวให้พร้อม เจ้าต้องแสดงความสามารถหน้าพระพักตร์ อย่าให้เสียชื่อท่านพ่อเป็นอันขาด”“พี่รองอย่าได้กังวล เยว่ฉีจะแสดงสุดความสามารถเจ้าค่ะ ไม่มีทางทำให้ท่านพ่อต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”“ฉีเอ๋อร์....ลำบากเจ้าแล้ว”“ลำบากอันใดแค่ไปงานเลี้ยง ไม่ได้ไปขึ้นเขียงสักหน่อย” ดรุณีน้อยคลี่ยิ้มหยอกล้อพี่ชายที่ทำท่าทางเคร่งครึม“น้องเล็กเจ้าฟังคำข้าให้ดี งานชมดอกเหมยครานี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเจ้า เจ้าจะได้แต่งงานในไม่ช้า ตามชะตา ชื่อของเจ้าจะได้จารึกในแผนผังราชวงศ์ แต่พี่คงบอกเจ้าได้เพียงเท่านี้ ไม่อาจแพร่งพรายลิขิตสวรรค์ได้อีกแล้ว” เยี่ยนจิ้นหลิงตัดสินใจบอกนางให้รู้คำทำนาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากกล่าวถึง แต่ก็อดเป็นห่วงน้องสาวสุดที่รักไม่ได้ สู้ให้นาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่8 ต่างก็แอบชำเลืองมอง

    กระโปรงปักลายดอกโบตั๋นพลิ้วไหวไปตามจังหวะเยื้องย่าง ทุกกิริยางดงามอ่อนช้อยดังเทพธิดาจันทราสมกับชื่อของนางอย่างแท้จริงแม้ตามธรรมเนียมสตรีไม่ควรออกมาอวดโฉมให้บุรุษมากมายขนาดนี้พบเห็นก็ตาม แต่ตระกูลเยี่ยนให้บุตรสาวฝึกขี่ม้ายิงธนูอยู่เป็นประจำ ทำให้บางครั้งทหารผู้โชคดีจะได้พบคุณหนูเล็กที่ลานฝึกยุทธทหารองครักษ์ทั้งหลายเมื่อเห็นบุตรสาวผู้งามเลิศล้ำของท่านแม่ทัพใหญ่พาร่างอรชรเดินเข้ามา ต่างก็แอบชำเลืองมองอย่างอดมิได้ยามนางใช้นิ้วงามดุจลำเทียนขึ้นลูบปิ่นปักผม จนทำให้แขนเสื้อกว้างไหลลงจนแลเห็นแขนขาวเรียวเล็ก เท่านี้ก็เพียงพอให้พวกเขาลืมหายใจ แต่ละคนต่างตะลึงงันจนร่างกายแข็งค้างราวกับรูปปั้นหิน แต่ถึงกระนั้นทหารทั้งหลายต่างไม่กล้าทำกิริยารุ่มร่ามใดมากไปกว่านี้ด้วยรู้ฐานะของตนเป็นอย่างดีเยี่ยนหยางจงปรายสายตาตามเหล่าบุรุษที่กำลังใจลอย จึงพบกับตัวต้นเหตุที่มาแทรกแซงการฝึก รองแม่ทัพหนุ่มกระแอมดัง ๆ หนึ่งทีเพื่อเรียกสติของผู้ใต้บังคับบัญชากลับมา“เก็บลูกตาของเจ้าไว้มองภรรยาในอนาคตจะดีกว่า มีสมาธิกันหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะส่งพวกเจ้ากลับไปชายแดน” รองแม่ทัพหนุ่มสะบัดแส้หนังลงกับพื้น เสียงเส้นสายสีดำห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่9 พานพบสตรี...ผู้นำความยุ่งยากมาให้

    ปลายเหมันตฤดูอากาศอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ดอกเหมยงดงามหลากสีในอุทยานหลวงบานสะพรั่ง แต่ยังคงเห็นน้ำแข็งจับค้างบนกิ่งก้านเปล่งประกายระยิบระยับช่วงนี้ของปีวังหลวงจะมักจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาเยือน ฮ่องเต้จะใช้โอกาสนี้ทรงมอบรางวัลแด่ขุนนางที่มีความดีความชอบ ส่วนขุนนางคนใดมีบุตรสาวโฉมงามแรกรุ่น ก็ล้วนพากันมาแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ด้วยหวังว่าพวกนางจะถูกตาต้องใจฮ่องเต้ แล้วได้รับโอกาสแต่งตั้งเป็นพระสนม ในภายภาคหน้าหากนางโชคดีได้รับความโปรดปรานจากโอรสสวรรค์จนให้กำเนิดองค์ชาย ตระกูลของพวกเขาย่อมจะได้รับความมั่งคั่งและมั่นคงไปตลอดชีวิตแต่หลายปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าฮ่องเต้มู่เหวินหลงทรงคิดอะไรอยู่ นอกจากจะไม่รับพระสนมเพิ่มแล้วกลับพระราชทานสมรสให้หนุ่มสาวไปหลายคู่ ทั้งขุนนาง ทายาทตระกูลใหญ่ กระทั่งเชื้อพระวงศ์ก็ไม่ได้รับการยกเว้นส่วนเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับเกียรตินี้สองปีซ้อนคงไม่พ้นฉินอ๋อง ที่ได้ชายารองโฉมงามถึงสามนางเฉิงจื่อหรู บุตรสาวเสนาบดีกรมพระคลัง ลู่เหมยหลงและลู่เหมยหลิน บุตรสาวฝาแฝดของเจ้ากรมอาญาอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำร้ายจิตใจบรรดาคุณชายทั้งหลายอย่างมาก เพราะโฉมง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่10 ลองสู้ดูสักตั้ง

    “อะแฮ่ม!” มู่เลี่ยงหรงกระแอม พร้อมก้าวเดินออกมาจากข้างต้นหลิว“ว้าย...” นางตกใจหันมาทันทีภาพที่เยี่ยนเย่วฉีเห็นคือบุรุษลึกลับในชุดคลุมสีดำหรูหรา เขาดูสูงส่งและเย็นชา ทว่าทันทีที่สบตาก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นระรัว สีแดงค่อย ๆ ไล่ฉาบไปบนใบหน้านวล นางรู้สึกขวยอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ขออภัยด้วยที่ทำให้คุณหนูท่านนี้ตกใจ” มู่เลี่ยงหรงยืนเอามือไพล่หลังไว้ ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ดวงตาเข้มลึกจ้องมองสตรีเบื้องหน้า ริมฝีปากบางเหยียดตรง“มิได้ ผู้น้อยต่างหากต้องขออภัยใต้เท้า เสียมารยาทแล้ว เป็นเพราะผู้น้อยไม่ทราบว่าท่านยืนพักผ่อนอยู่ตรงนี้” นางยอบกายลงขอขมาด้วยท่วงท่าอันอ่อนช้อย“ไม่เป็นไร เราเองก็ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว” มู่เลี่ยงหรงส่งยิ้มเย็นยะเยือก สีหน้าบ่งบอกว่าเขาได้ยินทุกอย่าง “คุณหนูท่านนี้คงลืมกระมังว่าเวลานี้เจ้ากำลังยืนอยู่ที่ใด”ชายหนุ่มดูน่ากลัวขึ้นอีกหลายส่วน เมื่อรอยยิ้มในตอนแรกหายไป“ใต้เท้าพูดเรื่องอันใด ผู้น้อยไม่เข้าใจเจ้าค่ะ” เยี่ยนเยว่ฉีปรายตาขึ้นสบกับบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิ้วงามขมวดเล็กน้อย ในเมื่อไม่ได้ทำสิ่งใดผิดไยเขาต้องทำราวกับนางกระทำเรื่องไม่สมควร“ข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่11 คิดในใจ

    ‘ข้าจะได้รู้เสียทีว่าท่านเป็นใคร’ เยี่ยนเยว่ฉีลอบคิดในใจเช่นกัน“นามข้าคือ มู่-เลี่ยง-หรง” เขาบอกนางช้า ๆ ชัด ๆ ทุกคำพูด แอบซ่อนความขบขันยามเห็นใบหน้าคนงามกำลังซีดเผือด‘นางคงพอรู้เลา ๆ อยู่บ้างกระมัง’“ทะ...ท่านคงมิใช่ฉินอ๋อง” นางถามขอความมั่นใจด้วยเสียงอันสั่น ในใจก็ได้แต่ภาวนา เพราะหากเป็นท่านอ๋องผู้ได้ชื่อว่าเข้มงวดเป็นที่สุดผู้นั้น แผนสาวงามอาจจะไม่ได้ผล ยิ่งเขาเข้าใจผิดเช่นนี้นางอาจจะไม่รอดชีวิตแล้ว“คุณหนูเยี่ยน เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว” มู่เลี่ยงหรงดูเหมือนขุนเขาตระหง่านขึ้นมาทันที รัศมีสูงศักดิ์ยิ่งเจิดจ้าจนหญิงสาวหายใจแทบไม่ออกท่านอ๋องสังเกตอากัปกิริยาของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง บัดนี้ใบหน้านางซีดลงกว่าเดิม น้ำตาไหลอาบแก้มสีชมพู นางสะอื้นฮักอยู่เงียบ ๆ ราวกับกำลังยอมรับชะตากรรม แต่เขาไม่อยากให้ว่าที่หวางเฟยของตนเองเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน‘ข้าคงแกล้งนางหนักเกินไปเสียแล้ว’“คุณหนูเยี่ยนลุกขึ้นเถิด ข้าจะละเว้นบุตรสาวท่านไคกั๋วกงสักครั้ง แต่จะคาดโทษเอาไว้ก่อน อย่าลืมว่าเจ้าต้องตอบแทนความเมตตาของข้าด้วย” น่าสนุก ท่านอ๋องหนุ่มปั้นหน้าเคร่งขรึมเก็บซ่อนอาการยินดี“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ” นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-05
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่12 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 1

    เลี่ยงหรงเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงงานเลี้ยงโดยเร็วที่สุด เขาต้องการพบอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก่อนที่ฮ่องเต้จะเสด็จมาถึง พอขันทีน้อยผู้ทำหน้าที่นำทางในงานเห็นพระอนุชาก็รีบกุลีกุจอเชิญผู้สูงศักดิ์ไปยังที่นั่งในกระโจมทันทีด้วยบรรดาศักดิ์ชินอ๋อง[1] ที่นั่งของมู่เลี่ยงหรงจึงถูกจัดให้อยู่ลำดับแรกในหมู่เชื้อพระวงศ์ฝ่ายชายถัดจากที่ประทับของฮ่องเต้ ทำให้เห็นได้ชัดว่าพระองค์ทรงใส่พระทัยพระอนุชาคนโปรดเป็นอย่างยิ่งเริ่มตั้งแต่ มู่เลี่ยงหรงอายุสิบสองชันษาก็แสดงให้เห็นชัดถึงความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ เริ่มอุทิศแรงกายแรงใจแบ่งเบาราชกิจ อ๋องน้อยมีวิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมากจนเป็นที่รู้กันถึงความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา เพียงไม่นานผลงานก็ประจักษ์ไร้ข้อกังขา บรรดาขุนนางทั้งหลายต่างยกย่องเชิดชูอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเวลาผ่านไปไวราวกับติดปีก ท่านอ๋องน้อยเติบใหญ่เป็นบุรุษองอาจ ฮ่องเต้ทรงไว้วางพระทัยจึงแต่งตั้งมู่เลี่ยงหรงเป็นฉินอ๋อง พร้อมให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนพระองค์อยู่มิได้ขาด ส่วนหน้าที่หลักคือการตรวจสอบเชื้อพระวงศ์และขุนนางในราชสำนักนับได้ว่าอยู่ใต้ผู้หนึ่ง แต่อยู่เหนือคนนับพันด้วยบุคลิกจริงจังเคร่งขรึม กอปรกับควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-07
  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่13 เริ่มงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแผนการ 2

    “กระหม่อมยินดีรับใช้ท่านอ๋อง เพื่อฝ่าบาทและบ้านเมือง ซือเซินจะรีบไปดำเนินการตามที่ท่านอ๋องรับสั่งทันทีพ่ะย่ะค่ะ”“ดีมากซือเซิน ในราชสำนักมีไม่กี่คนที่เราไว้ใจ และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า”“นั่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ข้าออกจะรู้ใจท่านอ๋อง” ถางซือเซินยิ้มกว้าง‘เชอะ! เอาความดีใส่ตัวได้ในที่สุด สมเป็นขุนนางเสียจริง’ อ๋องหนุ่มลอบด่าพระสหายในใจอย่างอดมิได้มู่เลี่ยงหรงวางใจคลายโทสะ ปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองกลับมาสมานฉันท์ดุจเดิมอีกครั้ง“อ่อ เรายังมีอีกเรื่องหนึ่งให้เจ้าไปจัดการ จงส่งจดหมายไปให้เยี่ยนเยว่ฉี บอกกับนางว่า หากอยากได้ขลุ่ยหยกคืน จงไปที่อุทยานตะวันออก”“แต่ว่างานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว”“ก่อนที่นางจะขึ้นแสดง เรามีเรื่องที่ต้องตรวจสอบด้วยตนเอง เจ้าไปจัดการให้เรียบร้อยก็พอ”“ท่านอ๋องโปรดวางใจ ซือเซินจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองเดินกลับเข้าไปนั่งประจำที่ของตนเองในกระโจมจัดงานอย่างไม่รีบไม่ร้อน ต่างคนต่างรู้สึกยินดีที่แผนการทั้งหลายเป็นไปตามที่ต้องการแต่นาทีนี้คงไม่มีใครมีความสุขเท่าอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย นอกจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-07

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่56 พระจันทร์ดวงน้อยสะเดาะเคราะห์

    มู่เลี่ยงหรงอดคิดไม่ได้ ชายผู้นี้กลัวเลือดจะเปื้อนกาย แต่กลับกระหายการฆ่าฟันเสียยิ่งกว่านักรบ เขาไม่ต้องออกแรงก็สามารถทำให้คนดับสิ้น จากนั้นก็ดื่มด่ำกับผลลัพธ์อย่างภาคภูมิ‘ไอ้จิ้งจอกโรคจิต’ ผู้เป็นอ๋องสบถในใจ แต่ไม่พูดออกมาตามตรง“เราไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับเจ้า อย่างไรเสียอีกหน่อยก็ต้องนับญาติกัน จงวางเรื่องบาดหมางเล็กน้อยนั่นลง แล้วส่งเสริมเรากับเยี่ยนเยว่ฉีได้หรือไม่” เขาไม่เห็นประโยชน์ที่จะเป็นศัตรูกับบุรุษโรคจิต จึงหวังว่าการยอมถอยหนึ่งก้าวในครั้งนี้จะทำให้กุนซือผมสีเงินให้ฤกษ์แต่งงานมาเสียที“จิ้นหลิงขอกล่าวตามตรง ยังไม่มีฤกษ์มงคลในระยะเวลาอันใกล้นี้ ขอให้ท่านอ๋องรอคอยกำหนดการจากกระหม่อมอย่างใจเย็นเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าต้องการอะไรเพื่อแลกเปลี่ยน หากเราสามารถหาให้ได้ก็จะจัดการอย่างไม่รีรอ”“กระหม่อมไม่ได้ต้องการสิ่งใด แต่หากท่านอ๋องประสงค์จะกำหนดการแต่งงานให้เร็วขึ้น เมื่อถึงวัดประจำราชวงศ์ก็พอจะมีทางแก้ไขดวงชะตาของฉีเอ๋อร์ พิธีปัดเป่าคงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ถึงเวลานั้นขอเพียงท่านอ๋องให้ความร่วมมือก็เพียงพอ”“เราตกลง” มู่เลี่ยงหรงรับคำหนักแน่น“กระหม่อมจดจำไว้แล้ว” เยี่ยนจิ้นหลิงอมยิ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่55 ขอกินเต้าหู้มากเกินไป

    ขณะที่ถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย มู่เลี่ยงหรงได้ลอบสาบานในใจ หากถึงวันร่วมหอของทั้งสองเมื่อใด เขาจะกดนางเอาไว้ใต้ร่างตลอดทั้งราตรี จะใช้เพลิงรักแผดเผาโฉมสะคราญจนมอดไหม้เป็นลูกไฟดวงแล้วดวงเล่า จนกว่าสตรีผู้ยั่วเย้าจะสิ้นสติไปพร้อมกับความปริ่มเปรม“หากเจ้ามอบจุมพิตให้ยามเราพบกัน เช่นนี้ข้าคงมีแรงให้อดทนรอคอยได้บ้าง”“พอได้แล้วเพคะ ท่านอ๋องเรียกร้องขอกินเต้าหู้มากเกินไป แบบนี้หม่อมฉันมีแต่ขาดทุน”“ก็มันช่างหวานอร่อยยิ่ง พอรู้ตัวอีกที ข้าก็กลายเป็นคนตะกละไปเสียแล้ว”“ท่านอ๋องเพคะ เยว่ฉีหนาวแล้ว เรารีบออกไปจากห้องนี้กันเถิด” นางแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้เขาคลายกำหนัด หากขืนปล่อยตัวปล่อยใจต่อไปอีกนิด เกรงว่าท่านอ๋องจะตบะแตกไปเสียก่อนมู่เลี่ยงหรงผละออกจากร่างบาง มือทั้งสองรีบคว้าชุดที่กองอยู่บนพื้นยื่นให้เยี่ยนเยว่ฉี จากนั้นก็หันมาสวมอาภรณ์ของตนเองอย่างชำนาญ ไม่น่าเชื่อว่าแม้ไม่มีนางกำนัลปรนนิบัติ เขาก็ไม่มีอาการเงอะงะแม้แต่น้อย ซ้ำยังรีบมาช่วยคู่หมั้นสาวใส่เสื้อผ้าสตรีได้อย่างแคล่วคล่อง ไม่นานนักร่างเปลือยเปล่าของนางก็กลับมาอยู่ชุดสีขาวงดงามอีกครั้ง“ท่านอ๋องดูคุ้นเคยกับการสวมชุดให้สตรี” ส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่54 เด็กดี ข้าจะทำให้เจ้าอิ่มหนำ

    เพื่อยั่วยุอารมณ์ของนางให้แตกกระเจิงมากกว่าเก่า เขาจึงครอบครองยอดสีชมพูบนนวลเนื้ออวบอิ่มไปพร้อมกัน ทั้งขบเม้มดูดเน้นจนกายนางผวา ร่างบางพลันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม“อ่ะ...ท่านอ๋อง” นางร้องเรียกเสียงสั่น หัวสมองขาวโพลนไปหมด“หืม...ข้าอยู่นี่” เขาส่งเสียงขานรับอย่างนุ่มนวลในขณะที่มู่เลี่ยงหรงมอบความรู้สึกอันลึกซึ้งด้วยการขยับปลายนิ้วเข้าออกผ่านความคับแคบของพรหมจรรย์สตรี เยี่ยนเยว่ฉีทำได้เพียงหลับตาแน่นและส่งเสียงครวญครางเบา ๆ ยามเขาเฝ้ารุกเร้าถาโถมโจมตี สิ่งที่นางได้รับมีเพียงกระแสร้อนรุ่มหวามไหวระคนอึดอัดทรมาน เสมือนร่างกายพร้อมแตกสลายด้วยน้ำมืออันร้ายกาจได้ทุกเมื่อ“ต้องการอีกหรือไม่”“อือ...ท่านอ๋อง...เยว่ฉีไม่รู้” สตรีด้อยประสบการณ์ตกประหม่า นางไม่รู้ว่าจะต้องตอบเขาอย่างไร ร่างกายนี้พร้อมจะหลุดจากการความคุม ด้วยไม่อาจต่อต้านเพลิงแห่งปรารถนาที่แผดเผานางให้มอดไหม้“เด็กดี ข้าจะทำให้เจ้าอิ่มหนำ”“ยะ...อย่า...” เสียงเสียงห้ามแว่วหวานแผ่วเบา ยิ่งปลุกเร้าให้บุรุษขี้แกล้งได้ใจมู่เลี่ยงหรงไม่สนใจเสียงร้องห้าม เขาขยับปลายนิ้วร้อนชอนไชให้ลึกขึ้น โจนจ้วงเร่งจังหวะกระชั้นถี่ ร่างงามสั่นสะท

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่53 ไม่มีอะไรบดบัง

    มู่เลี่ยงหรงแทรกกายเข้าไปใกล้ชิดแนบสนิทยิ่งกว่าเก่า เยี่ยนเยว่ฉีเพิ่งตระหนักว่าตนกำลังอยู่ในท่วงท่าอันแสนน่าอาย มือทั้งสองโอบคอแกร่ง สองขาเกี่ยวกระหวัดรัดเอวสอบของเขาไว้แน่น หญิงงามแรกแย้มหน้าแดงซ่านด้วยความกระดากอาย นางจึงซุกหน้าลงกับอกเขา หวังว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็นสีหน้าของตนเองในยามนี้บุรุษผู้เหิมเกริมจึงได้โอกาสใช้ปากกัดกระตุกสายเอี๊ยม ผ้าเนื้อบางเบาไหลหล่นพ้นเรือนร่าง เมื่อไม่มีอะไรบดบัง ทรวงอกงดงามที่อาบไล้ด้วยแสงนวลของตะเกียงก็ปรากฏสู่สายตาของเขา เนื้อนวลขาวดุจหิมะแต้มด้วยสีชมพูที่ปลายยอดช่างอวบอิ่มอลังการอย่างเกินตัว มู่เลี่ยงหรงตกตะลึงขณะที่มองเนื้อนวลสล้างสะท้อนไหวขึ้นลงไปตามจังหวะหายใจ ช่างเป็นภาพอันยั่วเย้าแสนตราตรึง กายบุรุษร้อนวูบวาบ กระแสอุ่นร้อนไหลรวมลงมาที่ท้องน้อยไม่ขาดสาย ความเป็นชายถูกปลุกขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ชายหนุ่มเต็มตัวถูกภาพงดงามเบื้องหน้ากระตุ้นจนถึงกับกัดฟันกรอด แต่จิตสำนึกพยายามข่มกลั้นไม่ให้จับนางกระแทกกระทั้นเพื่อระบายความอัดอั้นทรมานไปเสียก่อน ดวงแก้วสีนิลส่องประกายร้อนแรงแผดเผาทำลาย เยี่ยนเยว่ฉีหน้าแดงซ่าน พยายามใช้สองมือหวังปิดบังทรวงอกจากสายสา

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่52 การลงทัณฑ์ของท่านอ๋อง

    เยี่ยนเยว่ฉีสะอื้นเพราะเจ็บไปหมด โทสะของเขายังคงคุกรุ่นจึงรั้งใบหน้าของนางให้เชิดขึ้นเพื่อรับจูบอันลึกซึ้งและรุนแรงมากกว่าเก่า เฝ้ารุกเร้าผ่านทางแยกที่เผยอออก สอดปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดึงขบกัดลิ้นบางอย่างมันเขี้ยว หญิงสาวแทบหายใจไม่ออก ร่างสั่นสะท้านครางหวิว ทั้งเจ็บปวดและสุขสมในเวลาเดียวกัน ก่อเกิดเป็นความทรมานอันแสนหวาน บุรุษผู้นี้กำลังลงทัณฑ์นางให้สาสม สัมผัสจึงเต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง ไม่เหมือนจูบอันดูดดื่มเมื่อวันวาน นางเสียใจที่เขาไม่ทะนุถนอมตนเองอีกแล้ว“อือ จะ...เจ็บ” เยี่ยนเยว่ฉีพยายามร้องประท้วง ในขณะที่เขาถอนริมฝีปากออกเล็กน้อย“ข้าเจ็บกว่าเจ้ามากมายนัก” เขาโต้ตอบด้วยเสียงอันแหบพร่า“ท่านอ๋องเจ็บปวดด้วยเรื่องใด” ประกายน้ำใสคลอเบ้าตา เจ็บเพราะจูบที่เขามอบให้นาง“เจ้ายิ้มให้ชายอื่น หัวเราะยามเขาพูดจา ที่สำคัญเจ้ามองเมินไม่สนใจ ทำให้ข้าทั้งเจ็บปวดและริษยา”“ท่านอ๋องหึงหม่อมฉันจริง ๆ ด้วย” มุมปากอิ่มงามเผยรอยยิ้ม“สาแก่ใจเจ้าแล้วใช่หรือไม่ จะหัวเราะเยาะข้าก็ได้” ใบหน้าคมเบี่ยงหลบเล็กน้อย ด้วยไม่ต้องการให้สตรีตรงหน้ามองเห็นร่องรอยของความหวั่นไหว คำพูดเหล่านี้ไม่เคยหลุดออกมาจากปา

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่51 ไม่รีรอ

    “ไม่หึงก็ไม่หึง เยว่ฉีรับรู้ความรู้สึกของท่านอ๋องแล้วเพคะ”“ก็ดี”“ในเมื่อท่านอ๋องยืนกรานว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ หม่อมฉันก็จะได้คลายใจ”“คลายใจ เรื่องใด”“เรื่องที่รู้สึกผิดต่อท่านอ๋อง หม่อมฉันคงทึกทักไปเองว่าเผลอทำให้คู่หมั้นทรมานใจแล้ว”“หึ! หวังให้เราเจ็บปวดเพราะเจ้าคงเร็วไปร้อยปี” มู่เลี่ยงหรงยังคงปฏิเสธ“เยว่ฉีทราบแล้วเพคะ” นางเสมองไปทางอื่น แล้วแสร้งถอนหายใจ “หน้าเสียดายจริง ๆ ทั้งที่หลังจบเทศกาลหยวนเซียวหม่อมฉันคิดว่าระหว่างเราคงไปกันได้ดี มาวันนี้ก็รู้ซึ้งแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่ท่านอ๋องทำไปทั้งหมดคงไม่ได้มาจากใจอันแท้จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำหวานเหล่านั้นทำให้ผู้อื่นเคลิบเคลิ้มมากทีเดียว”“เจ้าคิดว่าเราโป้ปดอย่างนั้นหรือ”“มิได้ แต่เมื่อครู่ท่านอ๋องเป็นผู้กล่าวเองว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ชายอื่นมาสารภาพรักกับหม่อมฉัน อีกทั้งไม่มีความรู้สึกอื่นใดนอกจากกลัวเสียหน้าเท่านั้น เช่นนี้จะให้ผู้อื่นคิดเห็นเช่นไรได้” เยี่ยนเยว่ฉีจดจ้องดวงตาบุรุษตรงหน้านิ่ง “ช่างน่าขันยิ่งนัก หม่อมฉันบังอาจคิดว่าตนเป็นคนสำคัญ แต่ความจริงแล้วสำหรับท่านอ๋องหม่อมฉันคงเป็นเพียงบุปผาดาดดื่นดอกหนึ่งเท

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่50. หากจะลงโทษนาง

    “เยี่ยนเยว่ฉีอย่ามาเฉไฉ! คอยดูให้ดีเถิดว่าเราจะลงโทษเจ้าอย่างไร” มู่เลี่ยงหรงตีหน้าเคร่งขรึมเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง เขาไม่มีทางยอมรับว่าทำเรื่องไร้มารยาทเป็นอันขาดเฟิงหลี่จื้อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ไม่คิดว่าฉินอ๋องจะบันดาลโทสะถึงขั้นจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาว อย่างไรเสียก็เป็นชายชาตินักรบและตนเองก็คือต้นเหตุในเรื่องนี้ เขาจึงหวังไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้ท่านอ๋องทำร้ายสตรีที่ตนมีใจ“เรียนท่านอ๋อง หากจะลงโทษนาง กระหม่อมยินดีจะเป็นผู้รับโทษแทน” แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้น แต่คำพูดประโยคนี้กลับเหมือนดั่งการน้ำมันราดลงบนกองไฟ ยามนี้ฉินอ๋องอยากจะสับเขาเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอดมู่เลี่ยงหรงหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับบุรุษผู้บังอาจแตะต้องสตรีของตนอีกครั้ง น้ำแข็งเริ่มจับตัวหนาขึ้นในแววตา อากาศเย็นสบายกลายเป็นหนาวจับจิตจนเฟิงหลี่จื้อขนลุกขึ้นมาจริง ๆ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ทางที่ดีสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า”“ทั้งหมดเป็นความผิดของกระหม่อมที่ละเลยเรื่องชายหญิงไม่ควรชิดใกล้”“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ เปิ่นหวางจะให้โอกาสเจ้ากลับไปอย่างไม่บุบสลาย” มู่เลี่ยงหรงไม่ได้สนใจเหตุผล

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่49 ไม่ได้ทำผิดอันใด

    “กระหม่อมคงรับไม่ไหว ท่านอ๋องไม่ได้ทำผิดอันใดไม่ต้องกล่าวเช่นนั้นกับซือเซิน” อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายตกใจ ด้วยสถานะสูงส่ง ฉินอ๋องไม่มีความจำเป็นจะต้องลดตัวลงมากล่าวคำขออภัยเขา“ข้าไม่ได้ตั้งใจ”“ซือเซินรู้...” อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มเพื่อคลายความกังวลใจให้สหายสูงศักดิ์หลังจากปรับอารมณ์ความรู้สึกกับถางซือเซินเรียบร้อยแล้ว มู่เลี่ยงหรงจึงหันกลับไปยังโต๊ะของตระกูลเยี่ยนอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นเงาร่างของเยี่ยนเยว่ฉีกับเฟิงหลี่จื้อเสียแล้ว แม้สังเกตดี ๆ เยี่ยนจิ้นหลิงจะหายไปด้วยก็ตามความกระวนกระวายแทรกซึมเข้ามาอย่างเฉียบพลัน เขาไม่อาจวางใจอะไรได้ทั้งสิ้น ด้วยรอยยิ้มงดงามเป็นธรรมชาติที่นางมอบให้ชายคนนั้นเป็นแบบที่ไม่เคยมีให้กับตนเองไฟริษยายังคงตอกย้ำในจิตใจ อ๋องหนุ่มรีบลุกขึ้นแล้วสาวเท้าออกไปเพื่อตามหาคู่หมั้นในทันทีเยี่ยนจิ้นหลิงเดินนำน้องสาวกับเฟิงหลี่จื้อไปบนดาดฟ้า เขาชวนทั้งสองพูดคุยตลอดทาง ในที่สุดก็พามาหยุดยืนอยู่บริเวณด้านหลังของเรือ แต่แล้วบุรุษผมสีเงินก็อ้างว่าลืมวางพัดไม้หอมไว้บนโต๊ะ จึงขอตัวกลับไปเอา แล้วบอกให้คนทั้งสองรอเขาอยู่ที่นี่ก่อนเมื่อกุนซือหนุ่มเดินจากไป

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่48 มีโทสะ

    มู่เลี่ยงหรงคิดว่า ยิ่งอยู่ตรงนี้ก็ยิ่งมีโทสะ การจากไปตั้งหลักน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด ท่านอ๋องหนุ่มจึงพยายามเก็บงำอาการ ก่อนจะเดินนำถางซือเซียนกับอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายไปทางห้องโถงอย่างมิรั้งรอ เพราะไม่ต้องการเห็นภาพบาดตานี้อีกแม้แต่ชั่วเค่อเยี่ยนจิ้นหลิงอัศจรรย์ใจไม่น้อยที่ฉินอ๋องเก็บกักอารมณ์ได้ดีเยี่ยม แต่สายตากรุ่นโกรธนั่นไม่อาจเล็ดลอดสายตาจิ้งจอกไปได้‘ตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อนสิ ถึงจะได้ผลลัพธ์ชั้นดี ฉินอ๋องท่านคิดว่าแค่นี้จะหนีพ้นหรือ นี่มันบนเรือนะ’“เอาล่ะ ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า” เยี่ยนจิ้นหลิงเอ่ยชวน“ดีเหมือนกัน น้องสาวก็รู้สึกหิวแล้ว”“หลี่จื้อ เจ้ามาร่วมโต๊ะกับพวกข้าสิ ท่านแม่ทัพเฟิงคงไม่ว่ากระไรหรอก” เยี่ยนจิ้นหลิงเอ่ยชวน“หากไม่รังเกียจ หลี่จื้อขอรบกวนแล้ว”จิ้งจอกเงินปรายยิ้มเล็กน้อย ก็เดินนำสหายเก่ากับน้องสาวแสนสวยไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อร่วมรับประทานอาหารตลอดเส้นทางเฟิงหลี่จื้อคอยปรายตามองเยี่ยนเยว่ฉีอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากไม่ใช่งานเลี้ยง ที่นั่งจึงถูกจัดวางไว้สำหรับแต่ละครอบครัวเป็นสัดส่วน ขณะที่ฮ่องเต้กับฮองเฮานั้นทรงประทับอยู่ในห้องแยกที่มีม่า

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status