หน้าหลัก / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว / ตอนที่4 ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง 2

แชร์

ตอนที่4 ท่านอ๋อง...ข้าจะหาพระชายาให้ท่านเอง 2

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-30 20:30:47

“...” ถางซือเซินเลือกที่จะไม่บอกความรู้สึกของตนเอง คำพูดเหล่านั้นฟังดูเย็นชาเกินไป

“เจ้ากำลังตำหนิข้าอยู่สินะ คงคิดว่าข้าไร้หัวใจ” นัยน์ตาเข้มลึกจดจ้องอัครเสนาดีฝ่ายซ้ายอย่างรู้ทัน “ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกซือเซิน อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ พระชายารองทั้งสามต้องการความโปรดปรานก็เพื่อให้ข้าสนับสนุนครอบครัวของพวกนาง เห็นหรือไม่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสิ้น”

“ท่านอ๋องเพียงยังไม่พบสตรีที่พึงใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้นเอง”

“ความรักคืออะไรซือเซิน มันคงมีเพียงในโคลงกลอนอันเพ้อฝันเท่านั้น”

เมื่อก่อนนั้นบทประพันธ์ต่าง ๆ ชวนให้อ๋องหนุ่มหวังว่าจะได้สัมผัสกับรักแท้ พอนานเข้า ก็รับรู้ได้ว่าหน้าที่ของตนเองสวนทางกับเรื่องในหนังสือ หญิงสาวมากมายที่รายล้อมล้วนเอาใจเขาเพื่อแลกกับบางสิ่งบางอย่างเสมอ ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้จะไม่ให้รู้สึกด้านชาได้อย่างไร

ในโลกของความเป็นจริง ด้วยฐานันดรศักดิ์ของเขา ย่อมมีสตรีอยากถวายตัวให้ลิ้มลอง

เริ่มตั้งแต่ยังไม่ออกจากวังหลวงมาอยู่จวนส่วนตัว บรรดานางกำนัลทั้งหลายที่อยากยกฐานะ รวมไปถึงบรรดาขุนนางต่าง ๆ ก็อยากจะยกบุตรสาวให้เพื่อผลประโยชน์จากการเชื่อมสัมพันธ์กับเชื้อพระวงศ์ สิ่งเดียวที่เขาได้จากเรื่องนี้คือความสุขทางกาย ดังนั้นฉินอ๋องจึงกลายเป็นบุรุษช่างเลือก สตรีที่เขายอมให้ปีนขึ้นเตียงล้วนโฉมงามทั้งสิ้น ยามความต้องการของบุรุษเรียกร้องก็แค่เลือกมาสักคน

นานวันเข้าท่านอ๋องหนุ่มได้เรียนรู้ว่าแม้พวกนางจะช่วยปลดเปลื้องความต้องการของบุรุษเพศได้ แต่ก็ไม่อาจเติมเต็มความรู้สึกอันล้ำลึกที่ตนเฝ้าปรารถนา หนักเข้าก็ยิ่งพบว่ายังไม่มีสตรีใดดึงดูดใจได้มากพอ ไม่เคยรู้สึกรักใคร่ผู้ใดเป็นพิเศษ จนท้ายที่สุดชายผู้สูงศักดิ์จึงลงความเห็นว่าพวกนางต่างก็เหมือนกัน

แต่ถึงกระนั้นมู่เลี่ยงหรงก็ตระหนักดีว่าการแต่งงานของเขาเป็นเรื่องสำคัญ ตนเองเป็นถึงพระอนุชาร่วมพระมารดากับฮ่องเต้ ดังนั้นหากจะรับชายาเอกหรือแม้แต่ชายารอง ย่อมต้องเป็นบุคคลที่พระเชษฐาเห็นสมควร อีกทั้งต้องคำนึงถึงส่วนได้ส่วนเสียและผลกระทบในราชสำนักเป็นที่ตั้ง

เหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ฉินอ๋องยังไม่ตัดสินใจยกตำแหน่งฉินหวางเฟยให้สตรีใดทั้งสิ้น

ไม่เพียงเท่านั้น มู่เลี่ยงหรงอยู่ในวังหลวงมานาน เหตุใดจะไม่รู้ถึงความวุ่นวายในวังหลัง เพียงคิดว่าจะต้องเสียเวลามาคอยควบคุมสตรีคลั่งรัก อ๋องหนุ่มก็รู้สึกปวดตุบ ๆ บนศีรษะ สู้เอาเวลาไปทำงานช่วยเหลือราษฎรยังมีค่ายิ่งกว่า

เมื่อไม่ใช่พวกลุ่มหลงอิสตรี ฉินอ๋องจึงไม่มีความคิดเรื่องเติมเรือนหลังให้เต็มอย่างองค์ชายอื่น ๆ นอกจากสตรีที่เคยถวายตัวและอาศัยอยู่อย่างไรฐานะจำนวนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ในจวนก็มีชายารองเพียงสามคนเท่านั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสาวงามที่ฮ่องเต้ทรงพระราชประทานมาให้ทั้งสิ้น

“ปีนี้ท่านอ๋องไม่ควรพลาด” ถางซือเซินอมยิ้ม

“ทำไมกันซือเซิน ดูเหมือเจ้าอยากให้ข้าไปร่วมงานครั้งนี้เป็นหนักหนา หรือว่ามีอะไรเป็นพิเศษ” มู่เลี่ยงหรงหรี่นัยน์ตา บรรยากาศพลันเย็นยะเยือก รู้สึกว่าวันนี้สหายจะพูดมากเกินไปแล้ว

“ปีนี้ท่านอ๋องก็อายุยี่สิบสองปีแล้ว ตามความเห็นของซือเซินก็ถึงเวลาอันควรที่จะแต่งพระชายาเอกเข้าจวนเสียที เรือนจะได้เต็มเรือน มีหวางเฟยช่วยดูแลเรื่องต่าง ๆ ภายใน ท่านก็จะได้เอาเวลาไปทุ่มเทกับงานราชการอย่างไรเล่า” อัครเสนาบดีให้เหตุผล “อีกอย่างปีนี้ข้าเห็นว่ามีสตรีที่น่าจะทำให้ท่านอ๋องสนใจอยู่คนหนึ่งด้วย”

“...” มู่เลี่ยงหรง

“ซือเซินคิดว่าพอรู้ใจท่านอ๋องอยู่บ้าง ขอเอาสายตาของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายแห่งแว่นแคว้นเป็นประกัน นางผู้นี้น่าจะใกล้เคียงกับสตรีในฝันผู้นั้นของท่าน”

“ซือเซิน! แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าไม่เคยยุ่งเรื่องเรือนหลังของข้า” น้ำเสียงของมู่เลี่ยงหรงเย็นเฉียบ นั่นแปลว่าเขาเริ่มเดือดดาลแล้ว ความอดทนใกล้จะหมดเต็มที

“กระหม่อมมิกล้า” เมื่อเห็นท่านอ๋องเริ่มมีโทสะ อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายก็ใช้มุขขุนนางผู้น้อยหวาดกลัวผู้เป็นนายเข้าว่า “แต่กระหม่อมมั่นใจว่าท่านอ๋องจะพึงใจสตรีนางนี้อย่างแน่นอน” สหายกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม เขาค้อมศีรษะลงต่ำแสดงอาการราวกับกริ่งเกรงจะโดนลงอาญา

“เจ้าไม่ต้องมาทำท่าขุนนางผู้ภักดีใส่ข้า บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าคิดจะทำอะไรกันแน่” ปกติถางซือเซินไม่เคยยุ่งเรื่องในม่านมุ้งของเขา เหตุใดถึงกระตือรือร้นอยากให้ไปร่วมงานชมดอกเหมยเลือกคู่ ท่าทางมั่นอกมั่นใจนั่นอีก แค่เห็นก็รู้สึกหวาดระแวง

“กระหม่อมขอทูลถามท่านอ๋อง ท่านจำสัญญาของเราได้หรือไม่” ผู้เป็นสหายเงยหน้าขึ้นสบตาสีดำเข้มของมู่เลี่ยงหรงตรง ๆ แล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้

“สัญญาอันใด ข้าเคยไปรับปากอะไรไว้กับเจ้าที่ไหนกัน” ประโยคเอ่ยทวงสัญญาที่ตนเองก็จำมิได้แล้วนั้นกลับสร้างความหนาวเย็นขึ้นในใจอย่างบอกไม่ถูก

“ท่านอ๋องเคยสัญญากับกระหม่อมไว้ว่า หากอายุครบยี่สิบปีแล้วยังหาพระชายาเอกมิได้ ท่านจะให้ซือเซินจัดการให้อย่างไรเล่า” ถางซือเซินมองดูสีหน้าของฉินอ๋อง ครั้นเห็นแววตระหนกบนดวงตา เขาแทบจะหัวเราะออกมาแต่ก็กลั้นเอาไว้ เพราะกลัวจะทำให้ผู้สูงศักดิ์บันดาลโทสะจนผิดแผน “แต่บัดนี้ท่านอ๋องอายุได้ยี่สิบสองปีแล้วนะ พ่ะย่ะค่ะ”

“ซือเซิน เจ้า...เจ้า…” อ๋องหนุ่มนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออกอีก สีหน้าที่เคยเย็นชากระตุกวูบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่101 เรากลับกันเถิด

    ส่วนฮองเฮานั่งจิบชาด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย ทำประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตน ทั้งที่ในใจลอบตำหนิแม่สามีที่พูดจาเอาแต่ใจ โดยไม่สนพระทัยสักนิดว่าเรื่องนี้ควรพูดออกมาตอนนี้หรือไม่ หากมู่เลี่ยงหรงต้องการจะให้จ้าวกุ้ยอินมาเป็นเป็นหวางเฟยแล้วละก็ คงไม่รอให้ไทเฮาเสนอมู่เลี่ยงหรงหยุดรอชายาที่หน้าตำหนัก ความจริงตนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งนางไว้ที่ตรงนั้น แต่ด้วยกำลังบังเกิดโทสะจึงต้องรีบจากมาก่อนเรื่องราวจะแย่ลง เพียงไม่นานนักเยี่ยนเยว่ฉีก็เดินออกมาจากประตูตำหนัก หญิงสาวมองผู้เป็นสามีอย่างเข้าอกเข้าใจ“ท่านอ๋องเรากลับกันเถิด”“อ้ายเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเจ้า”“วางใจเถิด หวางเฟยของท่านเป็นคนที่มีเหตุผล” เยี่ยนเยว่ฉียิ้มหยอกเย้าหวังให้เขาสบายใจ“ข้าไม่มีทางรับใครเข้าจวนอีก” เขารีบอธิบาย เพราะกลัวว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะเข้าใจผิด“ดูพูดเข้า หากเป็นพระราชโองการ หรือพระเสาวนีย์อย่างไรท่านก็ขัดมิได้อยู่”“เสด็จพี่มีรับสั่งจะไม่บังคับข้าอีก”“แต่ไทเฮาไม่ได้ทรงรับปากท่านอ๋องนี่”“เป็นดั่งเจ้าว่า แต่ถ้าเสด็จแม่ยังคงดื้อดึง เรื่องนี้คนที่จะเสียใจที่สุดคงจะเป็นจ้าวกุ้ยอิน”“หากนางได้แต่งกับท่านสมใจ จะมีแต่ความ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่100 ในที่สุด

    ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาถึงจุดจอดรถม้าของวังหลวงซิ่นเฉิงขานเรียกผู้เป็นนาย ส่วนซูจิ้งก็จัดการวางขั้นบันไดข้างรถม้า ทั้งสองต่างทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มองหน้า ไม่พูดไม่จากันแม้แต่ครึ่งคำ ทั้งที่ต้องเดินเคียงกันไปตลอดทางเป็นองครักษ์หนุ่มที่รู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหว คิดว่ายังไงก็ต้องหาทางคุยกับซูจิ้งให้รู้เรื่องรู้ราว อย่างไรเสียตอนนี้ก็อยู่จวนเดียวกัน หากนางเป็นอนุบ่าวของเยี่ยนจิ้นหลิงจริง เหตุใดจึงตามหวางเฟยมาเล่า เขาจะต้องถามความให้กระจ่าง หากแม้ไม่มีวาสนาต่อกันก็ยินดีจะล่าถอย ไม่ใช่เดาสุ่มเอาเองเช่นนี้ เมื่อตกลงใจได้เขาก็ผ่อนคลายลงหลายส่วน‘คืนนี้ล่ะ ซาลาเปาน้อย ข้าจะต้องรู้ความจริงให้จงได้’มู่เลี่ยงหรงต้องพาเยี่ยนเยว่ฉีไปถวายพระพรไทเฮา หนทางจากจุดจอดรถม้าไม่ใกล้เลย ซ้ำไทเฮายังเลือกเวลาให้ทั้งสองมาเข้าเฝ้ายามตะวันตรงศีรษะ ที่น่าแปลกคือไม่มีเกี้ยวสำหรับสตรีมารับ กว่าจะถึงตำหนักของพระนาง ฉินอ๋องกับหวางเฟยต้องเดินเท้าเป็นเวลาราวหนึ่งก้านธูปเมื่อทั้งสองถึงที่หมายก็เห็นกูกูสูงวัยผู้หนึ่งยืนรออยู่หน้าประตูตำหนัก ครั้นนางเห็นมู่เลี่ยงหรงก็รีบเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นจึงเดินนำบุคคลทั้งคู่เข้าส

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่99 นึกชื่นชม

    พ่อบ้านใหญ่รับคำแล้วจัดการสั่งงานลูกน้องอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่วงท่าและน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยพลัง เยี่ยนเยว่ฉีเห็นดังนั้นก็นึกชื่นชม มิน่าเล่า ท่านอ๋องถึงวางใจคนหนุ่มผู้นี้ให้รับผิดชอบเรื่องน้อยใหญ่ในจวน ดูท่าทางนางคงไม่ต้องเหนื่อยยากอย่างที่คิดมู่เลี่ยงหรงให้พ่อบ้านใหญ่กับมามาทั้งสี่ถอยออกไปได้ ก่อนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วส่งเสียงเรียกออกไป“พวกเจ้าเข้ามาคารวะน้ำชาหวางเฟยเถิด”พอสิ้นเสียงคำสั่ง สตรีโฉมงามสามนางก็เดินนำหน้าหญิงสาวอีกสิบกว่าคนเข้ามาภายในห้องโถง เยี่ยนเยว่ฉีมองไปยังพระชายารองทั้งสามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบที่สุด ถึงแม้จะรู้สึกตกอกตกใจอยู่บ้างกับจำนวนสตรีที่ถวายตัวให้มู่เลี่ยงหรงแต่มิได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ‘บัดซบ! เยอะขนาดนี้เชียว’เยี่ยนเยว่ฉีตั้งใจเอาไว้ว่าหากพวกนางไม่ได้แสดงตัวเป็นปรปักษ์ ตนเองก็จะไม่กระทำการรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้นมู่เลี่ยงหรงแนะนำชายารองทั้งสามด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการกังวลหรือตกประหม่าให้เห็น แต่ภายในใจกลับก็รู้สึกหนักอึ้งเพราะเกรงว่าเยี่ยนเยว่ฉีจะยังรับเรื่องฮูหยินอีกสิบเอ็ดคนไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงยิ้มละไม ไม่มีอาการกระอั

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่98 ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า

    “อ้ายเฟย สี่คนนี้คือนางกำนัลที่ข้าคัดสรรมาให้ ข้ารับรองว่าพวกนางทำงานดีและมีความรอบรู้ หากเจ้าต้องการทราบเรื่องใดในจวน พวกนางสามารถแนะนำจัดหาให้เจ้าได้ทั้งหมด โดยเฉพาะชิงหรู นางดูแลห้องข้างของข้ามาหลายปี”เยี่ยนเยว่ฉีหรี่นัยน์ตามองชิงหรูอย่างเสียมิได้ พอเห็นก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้คือนางกำนัลที่เตรียมน้ำอุ่นมาให้เมื่อคืน นางหน้าตาสะสวย นัยน์ตาหวานฉ่ำดูยั่วยวน ผิวพรรณนวลเนียนเปล่งปลั่ง รูปร่างงามระหงสมส่วน มีเสน่ห์ดึงดูดใจบุรุษมากทีเดียวมู่เลี่ยงหรงที่ลอบสังเกตอยู่พบว่าเยี่ยนเยว่ฉีกำลังกินน้ำส้มอยู่ เขากลั้วหัวเราะเบา ๆ จนนางต้องหันมาค้อนผู้เป็นสามีทีหนึ่ง“ชิงหรูไม่ได้ถวายตัวให้ข้า”“ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดท่านเสียหน่อย” หวางเฟยบ่นพึมพำเมื่อถูกจับได้“ก็ข้าอยากบอกเจ้านี่” ฉินอ๋องไม่ต้องการทำให้พระชายาคนงามต้องรู้สึกเสียหน้าจึงพูดแก้เก้อให้เสร็จสรรพ“เยว่ฉีทราบแล้ว” นางพอใจที่ท่านอ๋องไว้หน้าตนมู่เลี่ยงหรงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปสั่งนางกำนัลทั้งหลายให้ปรนนิบัติผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของหวางเฟย เหล่านางกำนัลรีบทำตามประสงค์ของเจ้านาย เยี่ยนเยว่ฉียอมรับว่าผู้ที่มู่เลี่ยงหรงคัดสรรค์มาให้นางนั้นทำ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่97 แย่แล้วคุณหนูของข้า

    อ๋องหนุ่มฝืนลุกจากเตียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เขาคว้าชุดคลุมเอามาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงเรียกสาวใช้คนสนิทของนางให้มาช่วยจัดการเรื่องวุ่นวายของสตรี เยี่ยนเยว่ฉีมองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกจากห้องนอนไปซูจิ้งเข้ามาภายในห้องหอ นางยอบกายคำนับฉินอ๋องที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่บนเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างที่ห้องชั้นนอก เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณให้นางเข้าไปหาเยี่ยนเยว่ฉีในห้องนอนซูจิ้งเดินผ่านกองชุดวิวาห์ที่ถูกฉีกขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้ หรือว่าฉินอ๋องทำรุนแรงกับนายหญิงของตน‘แย่แล้วคุณหนูของข้า’ สตรีร่างเล็กแทบจะวิ่งเข้าไปที่หน้าเตียง ภาพที่เห็นคือเยี่ยนเยว่ฉีนั่งเอาผ้าห่มปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าเอาไว้ มีคราบน้ำตาอาบบนแก้ม แต่ไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจแม้แต่น้อย“คุณหนู ไม่ใช่สิ หวางเฟยเป็นอันใดไปเพคะ”“เรื่องสุดวิสัยของสตรี” เยี่ยนเยว่ฉีเอ่ยเสียงเย็นคำตอบของเยี่ยนเยว่ฉีทำให้ซูจิ้งโล่งอก มิน่าเล่าฉินอ๋องถึงได้ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้น มีเนื้ออยู่ตรงหน้าแต่กลับกินไม่ได้ ช่างน่าเห็นใจเหลือเกิน“เช่นนั้นลงมาจากเตียงก่อนเพคะ ซูจิ้งจะได้ปรนนิบัติท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”“อืม”

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว   ตอนที่96 แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย

    แม้แทบจะไม่เหลืออาภรณ์ติดกาย ทว่าเยี่ยนเยว่ฉีกลับร้อนรุ่มมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกกระตุ้นเพลิงในกาย เพื่อให้เขากับนางแนบสนิทใกล้ชิดยิ่งขึ้น มู่เลี่ยงหรงจึงขยับร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตน และด้วยการบังคับขยับนี้เยี่ยนเยว่ฉีจึงต้องตวัดขาเรียวยาวโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ แล้วคล้องแขนกับลำคอเพื่อเป็นหลักยึด ฝ่ามือร้อนของบุรุษลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียน เมื่อพบกับปมเล็ก ๆ ที่ผูกไว้ก็กระตุกออกอย่างเบามือ อุปสรรคสุดท้ายถูกกำจัดจนสิ้น เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของเทพธิดาแสนสวยในอ้อมกอดแสงจากเทียนมงคลคู่สีแดงวูบไหว อาบไล้ไปบนผิวขาวเนียนละเอียดดุจกระเบื้องเคลือบ ยิ่งทำให้เยี่ยนเยว่ฉีงดงามราวรูปสลักอันไร้รอยตำหนิ ช่างสูงค่าคู่ควรให้ทะนุถนอม‘วิเศษยิ่งนัก ยอดรักของข้า’ดวงตาลากไล้สำรวจเทพธิดาในอ้อมกอด ยิ่งมองยิ่งพบว่าเรือนกายของนางช่างสมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหลทุกสัดส่วน ร่างระหงยั่วยวนน่าสัมผัสไปทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ามือจะลูบไล้ไปตรงที่ใด ผิวกายขาวผ่องดุจแสงจันทร์กระจ่างก็เรียบลื่นนุ่มละมุนมือ มู่เลี่ยงหรงแทบลืมหายใจเมื่อแลเห็นปทุมถันอวบอิ่มเต็มตา ยอดสีหวานชูชันท้าทายให้ครอบครองยิ่งนัก ชายห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status