ในตำหนักองค์หญิงสิบสามหลินฮุ่ยหมิน นางกำนัลในกำลังปัดกวาดเช็ดถูอย่างระมัดระวังอีกทั้งมององค์หญิงที่นั่งกอดเข่าศีรษะจมมาตลอดทั้งวันด้วยความเป็นห่วง
"องค์หญิงเสวยนมตุ๋นเสียหน่อยกำลังร้อนๆเลยเพคะ" อาชิงนางกำนัลคนสนิทยกนมตุ๋นมาจากครัว องค์หญิงของนางเหตุใดเซื่องซึมได้เพียงนี้
"อาชิงกระพรวนผู้พิทักษ์หายไปแล้วทำเช่นไรดี"
"ชู่ว์" อาชิงส่ายหน้าปรามทันทีก่อนจะไล่นางกำนัลทั้งหมดออกจากตำหนัก
"ระวังด้วยเพคะเรื่องพวกนี้กล่าวพร่ำเพรื่อไม่ได้"
"แต่ข้าร้อนใจนี่หากไม่มีกระพรวนผู้พิทักษ์แล้วหินจันทราเกิดเคลื่อนไหวข้าคงได้ตายจริงๆ แน่ครานี้ กระพรวนนี่อยู่ติดกายข้ามาตั้งแต่ท่านน้าให้สวม หลังจากนั้นแม้จะทำอย่างไรมันก็ไม่หลุดออกจากขาของเข้าอีกทั้งยังสามารถแปรเปลี่ยนรูปร่างยืดขยายไปตามร่างกายของข้าได้ ครานี้ประหลาดมากที่หล่นหายไปได้ ต้องมีเรื่องผิดปกติเป็นแน่"
"เรื่องผิดปกติเช่นนี้ หวังว่าคงไม่เกิดขึ้นบ่อยนะเพคะ อย่างไรเสียหม่อมฉันมั่นใจว่าเราต้องพบกระพรวนเป็นแน่ กระพรวนย่อมรู้จักองค์หญิงคงหาทางกลับมาจนได้เพคะ ของวิเศษเช่นนั้นไม่มีทางหายไปนาน" อาชิงเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"อาชิงเจ้าว่าเรื่องนี้เกี่ยวกันกับหยางเอ้อหลางผู้นั้นหรือไม่ ตอนข้าพบเขานั้นเมื่อมาคิดดูดีๆ กระพรวนของข้ามีปฏิกิริยาจริงๆ ด้วยจู่ๆ มันก็ร้อนขึ้นแต่ตอนนั้นข้ามัวตกใจจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าใด" องค์หญิงสิบสามกอดอก ใบหน้าครุ่นคิดอีกทั้งเป็นกังวล
"หรือองค์หญิงกับท่านแม่ทัพจะมีความเกี่ยวพันกัน"
องค์หญิงสิบสามส่ายหน้า
"เป็นไปไม่ได้ข้าไม่เคยพบเขามาก่อนแน่นอน ถึงจะเคยเห็นภาพวาดของเขามานับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม"
นางเป็นองค์หญิงสิบสามผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวาดภาพเสมือนที่สุดผู้หนึ่ง บุรุษที่งดงงามหล่อเหลาเช่นหยางเอ้อหลางนั้นไม่มีทางที่นางจะจำเขาไม่ได้
"คงเป็นเช่นนั้นเพคะ หม่อมฉันอยู่ติดกับองค์หญิงตลอดเวลาหากท่านเห็นเขา หม่อมฉันก็ต้องเห็นด้วย"
"ใช่หรือไม่ ข้ากับเขาย่อมไม่เคยพบเช่นนั้นย่อมไม่มีความเกี่ยวเนื่องกัน"
"เท่าที่คนของท่านอ๋องออกไปหาตามทางที่คาดว่าองค์หญิงจะทำหล่นหายก็ไม่พบเลยกระพรวนผู้พิทักษ์มีลักษณะเหมือนกระดิ่งทั่วไป คนอื่นไม่มีทางรู้ว่าเป็นของวิเศษไม่น่าจะมีผู้ใดสนใจเก็บไปองค์หญิงท่านคิดดีๆว่าน่าจะทำหล่นไว้ที่ใด"
"หากหาทุกซอกทุกมุมบนท้องถนนแล้วก็คงจะเหลือที่เดียว แปลงผักตระกูลหยางกับห้องอาบน้ำของแม่ทัพหยางที่น่าจะเป็นไปได้"
"ในจวนท่านแม่ทัพผู้ใดก็รู้ว่าคุ้มกันหนาแน่นยิ่งกว่าในวังหลวงเสียอีกการจะค้นหานั้นไม่ง่ายเลย"
"ข้ามีวิธี"
"วิธีใดเพคะ"
"ในเมื่อตามหาแบบลับๆไม่ได้ก็ต้องเปิดเผย รีบส่งข่าวถึงพี่ใหญ่ให้หาคนผู้หนึ่งท่าทางดีหน่อยให้เขาประกาศออกไปว่าทำกระต่ายหลุดจากกรงบัดนี้มันกลับมาแล้วแต่กระพรวนบนคอมันหายไปผู้ใดพบให้นำกระพรวนมาคืนให้เงินรางวัลมากหน่อยไม่ช้าต้องหาเจอแน่นอน คนในจวนท่านแม่ทัพนั้นสำคัญให้พวกเขาได้ยินประกาศนี้ให้ทั่วถึง"
อาชิงตบมือเสียงดังด้วยความยินดีแผนนี้ขององค์หญิงดียิ่ง เมื่อค้นหาทางลับไม่เจอ ก็ให้คนช่วยหาเสียเลยสิ
"บ่าวจะรีบจัดการเลยเพคะ"
"เมื่อสักครู่เดินผ่านสวนผักด้านหลังจวนเห็นบ่าวไพร่มากมายไปรวมตัวกันหาบางสิ่งที่นั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ"
สาวใช้คนหนึ่งในจวนแม่ทัพเอ่ยถามสาวใช้อีกคน
"เจ้าไม่รู้อะไรเมื่อวันก่อนเห็นพวกบ่าวในจวนเล่าว่ามีกระต่ายตัวอ้วนหลุดเข้ามาทำลายแปลงผักแถมยังเป็นกระต่ายมีเจ้าของทิ้งกระพรวนไว้อันหนึ่งท่าจะตกอยู่ในจวนของเราใครพบกระพรวนนำไปคืนเศรษฐีท่านนั้นเขามีรางวัลเป็นเงินถึงพันตำลึง ผู้คนจึงพลิกแผ่นดินหาอย่างไรเล่า"
"พันตำลึงเลยหรือ" สาวใช้อีกคนตาโตคล้ายว่าตนเองนั้นหูฝาดไป
"ใช่ไม่ผิดพันตำลึงจริงๆ "
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล