แชร์

ตอนที่9 ละมัน

ผู้เขียน: ฉู่เฉียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-11 12:06:51

ร่างบางเมื่อได้สติ ก็รีบวิ่งตามแผ่นหลังกว้างออกไป แก้มนวลนั้นขึ้นสีระเรื่อไม่รู้ว่าเพราะวิ่งหรือเพราะขัดเขินบุรุษที่เดินอยู่ด้านหน้ากันแน่

"รอด้วยเจ้าค่ะ"

เสียงหวานที่ดังไล่หลังมา ทำให้บุรุษที่ก้าวเดินอยู่ด้านหน้าต้องหันกลับไปมองร่างเล็กที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาเขา อัญมณีหลากสีที่ส่องประกายวิบวับอยู่บนศีรษะนางล้อกับแสงตะวันดูงดงามแต่ก็มิอาจงามเท่าใบหน้านวลที่ซับสีแดงระเรื่อที่ส่งยิ้มจนดวงตากลมโตคู่งามเปล่งประกายวิบวับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรี

"ท่านแม่ทัพ มีอะไรหรือไม่เจ้าคะ"

เสี่ยวหลานเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างแกร่ง แต่เขากลับเอาแต่จ้องหน้านาง โดยไม่ยอมก้าวเดินเสียที จึงได้เอ่ยถามขึ้น แต่อีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบราวกับตกอยู่ในภวังค์ นิ้วเรียวสวยจึงยกขึ้นจิ้มไปบนอกแกร่งที่แน่นตึง จนใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วขึ้น

"ข้างามจนท่านถึงกับตกตะลึงเชียวหรือเจ้าคะ"

ภาพใบหน้างามที่ส่งยิ้มมาให้เขาอย่างล้อเลียน ทำให้บุรุษที่พึ่งได้สติถึงกับทำตัวไม่ถูกกระแอมไอขึ้นแก้เก้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ

"ชักช้า"

แล้วก้าวเดินต่อ แต่ก็ยอมก้าวช้าลงเพื่อให้นางได้เดินไปพร้อมกัน

เสี่ยวหลานที่มุ่ยหน้าให้บุรุษที่เดินอยู่ด้านข้างก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เท้าของนางเจ็บไปหมดแล้ว ขาเรียวอ่อนล้าจนแทบจะก้าวไม่ออก 

"ท่านแม่ทัพ อีกนานหรือไม่กว่าจะถึงตลาดทาส"

แม่ทัพซ่งหลงเย่ที่ปรายตามองโฉมสะคราญที่ใบหน้านวลนั้นแดงก่ำมีเม็ดเหงื่อซึมตามขมับเล็ก ริมฝีปากหนาพลันยกยิ้มขัน นึกย้อนไปในตอนที่นางไม่ยอมใช้รถม้า เพราะอยากที่จะเดินเที่ยวชมตลาด เขาเองก็ไม่ได้ขัดข้อง ยอมตามใจนาง โดยไม่ทักท้วงสิ่งใด

"เดินเท้าอีกประมาณครึ่งชั่วยามก็ถึง"

เสียงเรียบที่เอ่ยขึ้น พร้อมกับก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า

หึหึ

เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นอย่างเย้ยหยัน เมื่อเห็นว่าสตรีที่เดินอยู่ข้างกายในตอนแรกยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ก่อนจะได้ยินเสียงโอดครวญที่ดังขึ้นตามหลัง

"ท่านว่าจ้างรถม้าเถอะนะเจ้าค่ะ ข้าจะคืนเงินให้เอง ข้าเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว"

เสียงเล็กที่ดังขึ้น ไม่ได้ทำให้เขาหยุดฝีเท้ายังคงเดินต่อไป เมื่อเดินห่างออกมาก็ไม่มีทีท่าว่านางจะเดินตามมา จึงได้หยุดเท้าแล้วหันกลับไปมอง

นางยังคงไม่ขยับ ยังคงปักหลักยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ใบหน้างามนั้นงอง้ำ ปากอวบอิ่มคว่ำลงอย่างน่าสงสาร และโดยไม่คาดคิดร่างบอบบางนั้นกลับทรุดกายลงนั่งข้างทาง โดยไม่สนสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา จนเขาต้องเดินกลับเข้าไปดึงรั้งแขนเล็กให้นางลุกขึ้น แต่นางกลับทิ้งน้ำหนักลงไม่ยอมลุก

"ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ เมิ่งเสี่ยวหลาน แถวนี้ไม่มีรถม้าหรอกนะ"

เขาบอกกับนางด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึมให้ได้ยินกันแค่สองคน เพราะทั้งคู่กำลังกลายเป็นจุดสนใจจากคนรอบข้าง

"ไม่ ข้าไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"

ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่ในนั้นดูน่าสงสาร เอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย 

ซ่งหลงเย่ที่จ้องมองสตรีที่นั่งทำตาปริบๆมองเขาอย่างขอความเมตตาราวกับเด็กน้อยนั้น ทำให้เขาส่ายหน้าอย่างระอา เมิ่งเสี่ยวหลาน สตรีแสนร้ายกาจผู้นั้นหายไปไหนเสียแล้ว

"พี่หลงเย่ หลานเอ๋อ ปวดเท้าไปหมดแล้ว เดินไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ"

เสียงอ่อนหวานที่เอ่ยเสียงปนสะอื้น หยาดน้ำใสหยดแหมะ พร้อมกับมือบอบบางที่ยื่นลงไปบีบนวดข้อเท้าเล็กของตัวเอง 

ท่าทางของสตรีตรงหน้า ที่ครั้งหนึ่งเขารู้สึกชิงชังในตัวนางยิ่งนัก ตอนนี้ภาพของสตรีที่กำลังทำตาละห้อย กำปั้นเล็กขาวนวลที่ทุบเบาๆลงบนเรียวขาเล็ก ทำให้หัวใจแข็งแกร่งดุจหินผาอ่อนยวบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และกลับใจอ่อนให้กับสตรีที่เขามักบอกกับตัวเองมาเสมอว่าเกลียดชังในตัวนาง และมักถอยห่างอยู่เสมอ แต่ตอนนี้กลับพาตัวเองมาพัวพันวนเวียนอยู่ข้างกายนางเสียเอง โดยไม่มีใครต้องร้องขอ

ยิ่งเสียงหวานที่ดังขึ้นอย่างออดอ้อนนั้น ยิ่งทำให้เขาแพ้อย่างราบคาบ ร่างสูงใหญ่กำยำนั่งชันเข่าลงข้างหนึ่งหันแผ่นหลังกว้างไปหาร่างบาง

"ขึ้นหลังข้า"

เสี่ยวหลานที่เงยหน้าจากข้อเท้าเล็ก มองแผ่นหลังกว้างที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เรียวปากอวบอิ่มยกยิ้มขึ้นสมใจ นัยน์ตาเศร้าหมองก่อนหน้าหายวับ ปรากฏความเจ้าเล่ห์วาบผ่าน ความยินดีเต้นเร่าอยู่ในนั้นจนปิดไม่มิด

"มันจะดีนะเจ้าคะ"

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ทันเปลี่ยนใจ แขนเรียวขาวผ่องรีบยกขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่ง พาร่างเล็กบอบบางของตนขึ้นขี่หลังบุรุษผู้ยอมเสียสละตนให้นาง ใบหน้างามยกยิ้มกว้างเหมือนไม่เคยมีอาการโศกเศร้าใดๆมาก่อน

ซ่งหลงเย่ที่ได้ฟังคำนางได้แต่ยกยิ้มขึ้น ส่ายหน้าให้กับคำพูดนั้น นางช่างทำให้เขาหลุดยิ้มบ่อยเหลือเกิน ซึ่งเขานั้นถือว่าเป็นบุรุษผู้หนึ่งที่ยิ้มยากมาก ก่อนจะลุกขึ้นพานางเดินมุ่งหน้าไปตามถนน

"เสี่ยวจู่จู"

เสียงเรียบที่เอ่ยขึ้น ของคนที่แบกนางไว้บนหลัง ทำให้ใบหน้างามแดงก่ำ ปากเล็กยื่นออกมาอย่างแง่งอน เอ่ยขึ้นอย่างไม่ยินยอม

"ข้าไม่ใช่หมูน้อยนะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่47 จบบริบูรณ์

    นิ้วเรียวยาวที่แยกกลีบดอกตูมเต่งออกจากกัน บุปผางามบานแย้มปรากฏสู่สายตา เรียวปากหนาประกบนาบลงบนใจกลางบุปผางาม ลิ้นร้อนสากระคายกดลึกแหย่ลงในช่องทางรักเล็กแคบจุ่มจ้วงดุนดันลึกสุดโคนลิ้น กระดกเรียวลิ้นถี่รัว จนกายบางผวาเฮือกเสียวสะท้านไปทั้งร่าง ริมฝีปากอุ่นชื้นดูดดุนปาดป่ายตุ่มเกสรงามที่เบ่งบานตูมเต่งรับสัมผัสอย่างซ่านกระสัน เสี่ยวหลานบิดส่ายสะโพกไปมาด้วยความซ่านเสียว ความกระสันแล่นแปลบปลาบไปทั่วทั้งตัว มือบางขยุ้มลงบนที่นอนนุ่มจนยับย่นสลับขึ้นมาขยุ้มเรือนผมดำเงาที่ซุกซบอยู่ตรงหว่างขาเรียว ความหวามไหววิ่งวนตรงกลางร่างเสียวแปลบปลาบลามไปทั่วทั้งช่องท้อง จังหวะปลายลิ้นร้อนที่กดลึกทำนางแทบขาดใจ บุปผางามคายน้ำหวานมากมายเพียงใดลิ้นหนากลับกวาดเลียเสียหมดทุกหยาดหยด ริมฝีปากร้อนผ่าวที่เลื่อนขึ้นมาทาบจูบบนหน้าท้องแบนราบ ไล่ขึ้นมาคลอเคลียทรวงอกอวบอิ่ม รวบปลายยอดที่หดรัดแข็งเกร็งดูดดื่มจนเกิดเสียงคละเคล้าน้ำลาย ปาดป่ายเรียวลิ้นสลับดูดเลียอย่างเท่าเทียมทั้งสองข้าง ฝ่ามือหนาเลื่อนลงมาลูบไล้บุปผางามเบื้องล่าง สอดไล้ก้านนิ้วเรียวยาวกดลึกลงในความร้อนรุ่มที่บีบรัดแน่น ช่องทางรักภายในอุ่นร้อนนุ่มนิ่มบีบร

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่46 เข้าหอ

    ริมฝีปากหนาที่ผละออกอย่างช้าๆ จ้องมองใบหน้างามของโฉมสะคราญในอ้อมแขนอย่างรักใคร่หลงใหล"หวานที่สุด วันนี้เจ้างดงามมากรู้ตัวหรือไม่"เสียงแหบพร่าที่กล่าวขึ้นราวกับละเมอ เลื่อนปลายนิ้วเรียวมาแตะริมฝีปากอิ่มแผ่วเบา ดวงตาพยัคฆ์เต็มไปด้วยความปรารถนาร้อนแรงมือบอบบางที่วันนี้ช่างดูเกะกะยิ่งนัก ไม่รู้ว่านางจะเอาไปวางไว้ตรงที่ใดดี ถูกมือหนากอบกุมเอาไว้ ยกขึ้นจรดริมฝีปากร้อนผ่าว จุมพิตมือขาวนวลอย่างอ่อนโยน ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาแตะจูบปลายจมูกเล็ก เลื่อนมาหอมแก้มนวลที่แดงระเรื่ออย่างเขินอาย ก่อนจะเข้าครอบครองเรียวปากนุ่มอีกครั้งอย่างมิรู้เบื่อ ฝ่าเท้าเรียวเล็กเหยียบลงบนหลังเท้าใหญ่แหงนเงยใบหน้าขึ้นรับจูบนั้นอย่างอ่อนหวาน เผยอริมฝีปากให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นร้อนเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเล็กของนางด้วยความวาบหวาม นางสูงแค่อกของคนตัวโตเท่านั้นช่างไม่ได้ดั่งใจเลยสักนิด หึหึหึเสียงหัวเราะของคนตัวโตที่ดังขึ้นอย่างขบขันคนงามที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จนได้รับค้อนวงโตจากโฉมสะคราญ"มิได้เป็นปัญหาเลยสักนิด"จมูกโด่งที่ก้มลงซุกไซ้ลำคอขาวผ่องกระซิบชิดใบหูเล็กขาวสะอาด ขบเม้มติ่งหูนุ่มอย่างหยอกเย้า"พี่จะพิสูจน์ให้

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่45 งานมงคล

    วันมงคลของแม่ทัพหนุ่มถูกกำหนดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า แม้จะอยากแต่งเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะต้องให้เวลาว่าที่เจ้าสาวได้เตรียมตัว แม้จะมีเวลาเพียงเจ็ดวันแต่งานมงคลในครั้งนี้กลับถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างไร้ที่ติและมันเป็นเจ็ดวันที่แม่ทัพหนุ่มทุกข์ทรมานแสนสาหัส เพราะว่าที่พ่อตาราวกับจะรู้เท่าทันความคิดของเขา วางกำลังรอบจวนเอาไว้อย่างแน่นหนา จนเขาแทบจะคลั่งตาย ไม่เห็นหน้านางมาแรมเดือน เจอกันเพียงครู่ยังไม่ได้กอดไม่ได้หอมให้หายคิดถึง กลับถูกว่าที่พ่อตากลั่นแกล้งเข้าเสียแล้ว โธ่ ซ่งหลงเย่ หนอ ซ่งหลงเย่ แล้วเขาจะไปทำอันใดได้ เกิดยังฝืนดึงดัน ว่าที่พ่อตาคงได้ขุ่นเคืองใจแล้วในที่สุดวันที่ตั้งตารอคอยก็มาถึง ขบวนสินสอดของจวนแม่ทัพว่ายาวมากแล้ว ขบวนสินเดิมเจ้าสาวยิ่งยาวสุดลูกหูลูกตาเสียยิ่งกว่า เสนาบดีเมิ่งกลัวบุตรีจะลำบากหรืออย่างไรกัน ช่างสมกับเป็นงานมงคลของคุณหนูใหญ่ของตระกูลอันดับหนึ่งแห่งแคว้น เกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ชุดมงคลของเจ้าสาวงดงามสูงค่า หากมิใช่คุณหนูเมิ่งเสี่ยวหลานคงมิมีโอกาสจะได้สวมใส่ ยิ่งได้อยู่บนเรือนร่างงดงามของสตรีผู้สะคราญโฉมที่สุดในแคว้น ยิ่งส

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่44 สมรสพระราชทาน

    แม่ทัพหนุ่มที่มองเห็นร่างบางของสตรีคนรักที่นั่งอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือของบัลลังก์ที่จัดเอาไว้สำหรับเหล่าสตรีพลันยกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าใบหน้างามล่มเมืองนั้นกำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าที่วันนี้ถูกแต่งแต้มอย่างงดงามจนบุรุษที่มาร่วมงานล้วนต่างจ้องมองนาง เขาอยากจะเข้าไปโอบกอดนางให้หายคิดถึงนัก อยากเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของ บุรุษอื่นจะได้มิกล้าจ้องมองนางอีก ยิ่งพิศมองเรียวปากอวบอิ่มที่วันนี้ถูกแต้มด้วยชาดสีแดงเรื่อนั้น ยิ่งทำให้แม่ทัพหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นลูบปลายจมูกโด่งอย่างเสียอาการ กายแกร่งร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้นหลังจากที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นถังประกาศราชโองการประทานสมรสให้ชินอ๋องหมิงเว่ยหรงและคุณหนูรองเมิ่งเหลียนฮวาเป็นที่เรียบร้อย ต่อไปจึงเป็นการประกาศคุณงามความดีของแม่ทัพแห่งแคว้น แม่ทัพซ่งหลงเย่ บุรุษที่ก้าวเดินมาคุกเข่าตรงหน้าพระพักตร์อย่างสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้เหล่าสตรีที่ได้มองต่างพากันเขินอาย เหล่าคุณหนูสูงศักดิ์ที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างอยากที่จะเป็นสตรีของบุรุษผู้นี้ที่ยังคงไม่มีฮูหยินเคียงกาย แม้แต่สตรีอุ่นเตียงก็ยังไม่มีแม้แต่นางเดียว ผู้เป็นใหญ่ที่นั่งอยู่เหนือบัลลังก์พ

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่43 เดินทางปราบกบฎ

    ขบวนเสด็จของชินอ๋องหมิงเว่ยหรงที่เตรียมพร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่แคว้นหมิง ในขบวนล้วนเต็มไปด้วยคนของแม่ทัพซ่งหลงเย่แห่งแคว้นถัง และคนของชินอ๋องน่าหมั่นไส้มิงเว่ยหรง ส่วนคนของตระกูลต้วนนั้นตอนนี้ถูกสับเปลี่ยนไปเกือบหมดโดยที่อีกฝ่ายไม่เอะใจเลยสักนิดชินอ๋องหมิงเว่ยหรราบรื่นที่กำลังจะก้าวขึ้นรถม้าชะงักเท้าลง เมื่อเห็นผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้นถังกำลังเดินตรงมาด้วยรอยยิ้มเบิกบานอย่างน่าหมั่นไส้ ข้างกายนั้นเคียงคู่มากับท่านหญิงคนงามตระกูลต้วน ต้วนหรูหลิน ที่ใบหน้างามนั้นแดงซ่านประดับไปด้วยรอยยิ้มเอียงอายที่ได้รับความเอาใจจากแม่ทัพหนุ่มสองหนุ่มสาวที่ทำความเคารพบุรุษสูงศักดิ์อย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ก่อนจะขอตัวไปขึ้นรถม้า"เมื่อคืนนี้ท่านแม่ทัพซ่งคงหลับสบายกระมัง วันนี้ถึงได้ดูสดชื่นยิ่งนัก"ชินอ๋องหมิงเว่ยหรงที่เอ่ยขึ้นปรายตามองสหายร่วมทางที่ทำเพียงยกยิ้มให้อย่างยียวนมิตอบสิ่งใด ก่อนจะส่งโฉมงามขึ้นรถม้าอย่างเอาใจใส่ท่านหญิงต้วนหรูหลินที่เห็นความไม่ลงรอยของบุรุษทั้งสองยกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ มิได้ล่วงรู้เลยว่ามันเป็นเพียงแผนลวงเท่านั้น รวมทั้งรอยยิ้มอ่อนโยนและสายตาหลงใหลที่มองมายังนางของแม่ทัพหน

  • ท่านแม่ทัพ เอ็นดูข้าสักนิดได้หรือไม่   ตอนที่42 แนบชิด แต่ไม่สนิท3

    แม่ทัพหนุ่มที่สูดลมหายใจเข้าลึก มองภาพตรงหน้าด้วยความหลงใหล โฉมสะคราญที่ใบหน้านวลนั้นแดงก่ำ สะบัดผมดำสลวยตัดกับผิวขาวผ่องรวบเอาไปไว้ด้านหลังด้วยมือขาวนวลเนียนราวหยกเนื้อดี ทรวงอกอวบใหญ่ขาวผุดผาดแต่งแต้มด้วยยอดสีแดงบวมช้ำดูงดงามพุ่งชูชันจนยากที่จะถอนสายตา มองดูริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังจรดลงบนท่อนเนื้ออวบยาวใหญ่ที่ผงาดกล้าแข็งชูชันร้อนผ่าวดังแท่งเหล็กอังไฟ ที่ตอนนี้ตกอยู่ในอุ้งมือเล็กนุ่มนิ่มที่กอบกุมท่อนลำขนาดไม่ธรรมดาเอาไว้ไม่รอบ ส่วนหัวหยักแดงลื่นที่หลุบหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อน ทำให้คนตัวโตครางต่ำเสียงแหบห้าว กัดฟันกรอดอย่างเสียวซ่าน"อ่าาาส์"มือเล็กที่กอบกุมเอ็นอุ่น ครอบครองความแข็งกร้าวด้วยเรียวปากอ่อนนุ่ม ริมฝีปากจิ้มลิ้มเสียดสีกับกายแกร่งที่คับแน่นในปากเล็ก น้ำลายเหนียวใสไหลอาบชโลมท่อนลำใหญ่จนเปียกชุ่ม แกนกายใหญ่โตผลุบเข้าผลุบออกในโพรงปากร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า ลิ้นเล็กๆ เสียดสีไล้เลียบนหัวหยักบานจนกายหนาหยัดเกร็งครางกระหึ่ม เสียงครางต่ำลึกในลำคอยิ่งทำให้คนตัวเล็กยิ่งฮึกเหิม ราวกับชัยชนะเหนือคนตัวโตกำลังรออยู่ข้างหน้า"ซี๊ด..."กายหนาที่หยัดสะโพกเกร็งขึ้นซี๊ดปากอย่างซ่านสยิว มองอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status