LOGINเสียงเคาะประตูห้องทำงานเจียงหยู่เงยหน้าขึ้นมองเห็นมู่ฟ่านปิงเดินตามหลังคนงานในร้านเข้ามาในห้องเธอรีบลุกขึ้นด้วยความดีใจ
" !!!โอ๊ะฟ่านฟิงน้องมาก่อนวันที่เรานัดกันเอาไว้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าบอกพี่สาวมาเร็วใครรังแกน้องสาวคนคนเก่งของพี่หรือเปล่า" เจียงหยู่ถามด้วยความร้อนใจที่เห็นหน้าของของสาวบุญธรรมของตัวเองเข้ามาในห้อง พอเห็นแม่เสิ่นหนานเดินตามหลังฟ่านปิงเข้ามาเธอก็ยกมือไหว้แม่เสิ่นหนานและเชิญเข้ามานั่งในห้องเรียบร้อยจึงพูดคุยกันต่อ "คุนป้าสบายดีนะคะ" เจียงหยู่ถามแม่เสิ่นพอเดินจูงมือฟ่านปปิงมาลงนั่งด้วยกัน "สบายดีค่ะคุนหนูเจียง" แม่เสิ่นตอบและยิ้มให้หญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ "ว่ายังไงจ้ะสาวน้อยพี่สาวถามตอบมามีอะไรหรือเปล่าที่เข้ามาก่อนวันนัดกันตั้งหลายวันนี้นะ" เจียงหยู่หันไปหาฟ่านปิงอีกครั้งและรอคำตอบ "ไม่มีอะไรค่ะพี่สาวเพียงแต่นำลายผ้าและผ้าปักมาส่งก่อนเพราะอยากจะพาคุณแม่เข้ามาหาซื้อของที่ห้างหน่อยแค่นั้นเองค่ะพี่สาว" ฟ่านปิงตอบด้วยรอยยิ้มและเอาถุงผ้ายกให้พี่สาวเจียงทั้งสองถุงที่เธอทำต่างหาก ไม่รวมของแม่เสิ่นเพราะฟ่านปิงจะแยกลายให้แม่เสิ่นปักต่างหากและไม่ซ้ำลายกัน เจียงหยู่รับถุงผ้ามาด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจที่จะได้ลายผ้าใหม่ๆออกมาขายในร้านซึ่งตอนนี้เธอตีตลาดไปเป็นที่เรียบร้อย สามีสั่งผ้ามามายมายแถมยังสร้างโรงงานเย็บชุดเองอีกต่างหากรับช่างที่มีฝีมือละเอียดแถมยังรับตัดชุดตามสั่งอีกต่างหาก เรียกได้ว่าตั้งแต่ที่ได้ลายผ้ามาจากฟ่านปิงกิจการร้านผ้าของเธอขยายและทำกำไรได้มากมายในสองเดือนนี้สร้างความใจให้ครอบครัวของสามีตอนนี้เป็นลูกสะใภ้ยืนหนึ่งของตระกลูเป็นที่เรียบร้อย แถมยังแยกออกมาตัดชุดสำเร็จขายเองอีกต่างหากสร้างรายได้ให้ตัวเจียงหยู่มากมายจะไม่ให้รักฟ่านปิงได้อย่างไงน้องสาวคนนี้คือดาวนำโชคของครอบครัวเจียงจริงๆ ตอนนี้ผ้าที่ส่งเข้าไปประกวดอีกสิบวันก็จะรู้ผลวันนี้นี้คุณแม่กับคุณพ่อกำลังรอฟังผลงานที่เมืองหลวงจึงจะกลับมาทีเดียวพอรู้ผลแล้ว กิจการของพี่ชายกับพี่สะใภ้ก็ไม่น้อยหน้าชุดเครื่องประดับของสาววัยรุ่นออกมาวางขายที่ร้านของพี่ชายทำรายได้ถล่มทลายจนตอนนี้สองสามีภรรยา ต้องแยกกันดูแลคนละร้านแต่ก็อยู่ร้านติดกันจึงทำให้ช่วยเหลือกันได้ถ้าลูกค้าเยอะเหม่ยอิงจึงต้องจ้างคนงานเพิ่มจึงทำให้ดูแลลูกค้าทั่วถึง พอเห็นลายแบบผ้าปักกับลายแบบของชุดที่มีมาให้หลายลายทั้งวัยเด็ก วัยสาว วัยทำงานทั้งวัยรุ่นเจียงหยู่มือสั่น "พี่ต้องไปขึ้นทะเบียนก่อน" จึงจะตัดออกมาขายในแบรน์ของร้านตามที่ฟ่านปิงบอกและถ่ายรูปติดหน้าร้านขายชุดสำเร็จ ลงโฆษณาตามหนังสือพิมและนิตยาสานด้วยเพื่อโปรโมทน์สินค้าไปด้วยอีกทาง "ฟ่านปิงน้องรักของพี่ขอบใจน้องมากนะที่ให้ลายผ้าที่สวยๆให้พี่ น้องจะไปเที่ยวห้างใช่ไหมเดี๋ยวพี่จะขับรถไปส่งและพี่จะเลยไปขึ้นทะเบียนด้วยเลย เรากลับมากินมื้อเที่ยงด้วยกันนะนี้เพิ่งจะสิบโมงเองพี่จะโทรไปจองห้องก่อนเลยตกลงตามนี้นะปิงเอ๋อร์" เจียงหยู่กอดฟ่านปิงด้วยความดีใจ "คุณป้าคะลายผ้าที่ปักสวยมากค่ะหนูจะคิดเงินให้พร้อมกับปิงเอ๋อร์เลยนะคะ" เจียงหยู่พูดจบก็คิดเงินให้ทั้งสองคนแม่ลูกคนละฝาเลย ผ้าห้าผืนทำเงินให้แม่เสิ่นพันห้าร้อยหยวนทุกอาทิตย์สร้างความดีใจให้แม่เสิ่นอย่างมากมายที่ได้ลูกสะใภ้ที่ดีและไม่ให้นางฝืนปักจนไม่พักผ่อน ฟ่านปิงต้องบังคับให้เธอนอนพักกลางวัน วันละหนึ่งชั่วโมงทุกวัน ทั้งสองรับเงินแล้วเดินยิ้มออกไปจากห้องด้วยรอยยิ้มหลังจากที่กินขนมน้ำชาจนอิ่มแปล้ พี่สาวเจียงยังโทรตามพี่ชายกับพี่สะใภ้มาที่ร้านของเธอไม่ยอมให้ฟ่านปิงเดินไปหาพี่ชายของตัวเองเลย เจียงห่าวกับเหม่ยอิงแทบจะไม่เดินสองสามีภรรยา วิ่งเข้าห้องมารับลายของตัวเองด้วยรอยยิ้มและพูดคุยกันด้วยความสุขเสียงหัวเราะดังออกมาถึงข้างนอกคนงานที่เห็นเจ้านายอารมณ์ดียิ่งดีต่อพวกเขาเพราะถ้าร้านไหนเถ้าแก่อารมณ์ลูกน้องก็ลำบากทุกคนดีใจที่ได้ทำงานในร้านของเจ้านายสาว ทุกคนเดินออกมาส่งสามสาวขึ้นรถและนัดกันมื้อเที่ยง ตอนนี้จึงเป็นพี่ชายเจียงห่าวขับรถแทนพี่สาวเจียงหยู่เพราะเขาเองต้องไปขึ้นทะเบียนสินค้าที่ได้แบบใหม่จากน้องสาวเช่นเดียวกัน สองพี่น้องได้กันไปคนละแปดลายคิดดูว่าจะทำกำไรในแต่ละเดือนได้ตั้งเท่าไร เจียงห่าวส่งแม่เสิ่นกับฟ่านปิงลงที่หน้าห้างและบอก "เที่ยวให้สนุกวันหน้าพี่จะมาเดินด้วยแต่วันนี้พี่ขอไปขึ้นทะเบียนก่อนถ้าเสร็จเร็วพี่จะรีบมารับ" เขาเอาเงินส่วนตัวใส่มือให้ฟ่านปิงอีกสองพันหยวน เจียงหยู่ให้อีกสามพัน "อยากได้อะไรก็ซื้อเอา" เจียงหยู่บอกฟ่านปิง ฟ่านปิงเกรงใจพี่ชายกับพี่สาวบุญธรรมของตัวเองจะไม่รับทั้งสองก็ไม่ยอมเพราะที่ได้ค่าแบบวาดก็มากมายแล้วแต่พี่ทั้งสองบอก "วันนี้พี่ให้พิเศษกับน้องสาวที่น่ารักของพี่" ฟ่านปิงขอบคุณทั้งคนก่อนจะประคองแม่เสิ่นลงรถและโบกมือลาพี่ชายกับพี่สาวก่อนจะจับมือแม่เสิ่นเดินเข้าห้างไปหาของที่อยากจะได้ ฟ่านปิงซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให่แม่เสิ่นให้ครบอาทิตย์เลย มีทุกสีแถมชุดนอนชุดใส่ออกงานอีกสี่ชุดจนแม่เสิ่นจะเป็นลมเครื่องประดับอีกหลายชิ้นจะเอาในมิติให้ก็มีแต่ของจากยุคที่เธอจากมาจึงเลือกเอาของยุคนี้ให้แม่เสิ่น กระเป๋ารองเท้าฟ่านปิงจัดให้แม่สามีแถมพาทำผมแต่งหน้าใหม่อีก "อะไรที่ทำแล้วมีความสุขทำเถอะค่ะคุณแม่หาเงินนั่งหลังขดหลังแข็งอย่างยากลำบากเราไม่ได้เข้ามาทุกวันสักหน่อยนี้คะ ต่อจากนี้หนูจะพาคุนแม่มาเดือนละครั้งเพื่อผ่อนคลายสมองค่ะเดี๋ยวเงินจะทับตัวเราตายก่อนไม่ได้ใช้นะคะคุณแม่" ฟ่านปิงบอกแม่สามี นางเสิ่นหนานก็ได้แต่ตามใจลูกสะใภ้เพราะคนที่พาหาเงินที่ได้มามากมายคือลูกสะใภ ดีเหมือนกันก่อนที่จะได้เลี้ยงหลานอยู่บ้านออกมาเที่ยวกับ ไม่ห้ามฟ่านปิงที่พานางออกมาเปิดหูเปิดตาหาอะไรใหม่ๆให้ชีวิตมีสีสันบ้าง ฟ่านปิงพาแม่เสิ่นเดินทุกชั้นนั่งกินขนมไอศครีมและก็และร้านเสื้อผ้าผู้ชายให้พี่ชายกับสามีเท่าๆกัน ของตัวเองอีกเลือกได้ว่าไม่ลำเอียงกันสักคนก่อนจะให้ทางร้านไปส่งที่ร้านของพี่ชายจื่อเซิ้นรอบบ่ายเพราะของเยอะมากถือกับแม่เสิ่นสองคนคงไม่หมด บอกที่อยู่กันเรียบร้อยสองแม่ลูกคนละฝาก็เดินเล่นหาดูทำเลสวยๆเอาไว้เพื่อในอนาคตจะเข้ามาเปิดร้านกับเขาบ้างหรือบางที่จะซื้อเอาไว้ให้คนเช่ากินรายเดือนก็ไม่เลวฟ่านปิงคิดก่อนจะพาแม่เสิ่นเข้าสำนักงานขายของรัฐ ได้บ้านมาคนละสามหลังและตึกแถวที่สร้างใหม่ยังไม่ทันประกาศขาย มันคือความโชคดีของฟ่านปิงเธอจึงแบ่งกับแม่เสิ่นคนละห้าคูหาเอาไว้ปล่อยเช่า แม่เสิ่นใส่ชื่อเฉินซานทั้งหมดทุกหลังวันนี้สองแม่ลูกใช้เงินหมดไปเป็นแสนหยวน จนแม่เสิ่นหน้ามืดพอถอนเงินออกมาจ่ายแต่ก็ได้ตึกและบ้านมาครอบครองมันก็คุ้ม ฟ่านปิงนี้ยิ้มไม่หุบเพราะได้ของถูกใจจะว่าไปบ้านที่แม่บุญธรรมกับพี่จื่อเซิ้นก็ให้มาคนละหลัง ฟ่านปิงจะเก็บเอาไว้เข้ามาอยู่เองถ้าเธอมีลูกถึงเวลาพาพวกเขาเข้ามาเรียนในตัวอำเภอเพราะเธอคิดว่าอีกไม่นานลูกจะต้องมา รอให้อายุยี่สิบฟ่านปิงจึงจะไม่กินยาคุมและคุยกับสามีแล้วเหมือนกันตอนแรกเฉินซานไม่ยอมฟ่านปิงก็บอกเหตุผลจนเขาใจอ่อน แต่ต้องยอมตามใจสามีเรื่องที่เขามีความต้องการมีอะไรกับเธอทุกคืน จะยอมแค่ในวันที่ฟ่านปิงมีวันนั้นของเดือนฟ่านปิงจึงต้องตกลงเพราะจะห้ามไม่ให้เขามีอะไรฉันผัวเมียก็ไม่ได้เธอจึงตามใจสามี ถึงจะยังไม่รักเขาเต็มร้อยก็ตามแต่สามีก็ขยันบอกรักเธอทุกวันทุกคืนมันก็มีใจอ่อนเหมือนกันทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







