LOGIN"เอ้ยใจเย็นๆเพื่อนวันนี้ยังไม่ได้กลับบ้านเลยว่าจะไปใส่รอบบ่ายตอนไปถึงบ้านแล้ว และจะไปหาซื้อที่ดักปลาด้วยแต่ถ้านายต้องการด่วนก็ไปถามฟ่านปิงดูก่อนนะเผื่อว่าจะมีให้นายก่อน แต่ต้องไปเอาที่บ้านเองนะวันนี้ฉันคงไม่ปั่นจักรยานเข้ามาอีกแล้วละ นี้ก็จะใกล้เที่ยงแล้วว่าจะพาฟ่านปิงกินข้าวแล้วก็กลับเลย" มู่หยางบอกเพื่อนรัก
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอคุยกับน้องฟ่านปิงเป็นการส่วนตัวก่อนนะนายไปสั่งอาหารรอที่ห้องพิเศษได้เลย" จื่อเซิ้นบอกเพื่อนรัก "อือได้เดี๋ยวฉันเรียกปิงเอ๋อร์มาให้" มู่หยางบอกก่อนจะออกไปเรียกน้องสาวให้เข้าไปหาจื่อเซิ้นที่ห้องทำงานเพื่อคุยธุระต่อ เสิ่นเฉินซานจึงลุกขึ้นจะตามเข้าไปด้วยมู่หยางจึงบอกว่าเขาจะคุยธุระและทำสัญญาเรื่องสูตรอาหารกับฟ่านปิง "นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพื่อนของฉันไว้ใจได้เราไปสั่งอาหารรอที่ห้องก่อนเดี๋ยวฟ่านปิงก็จะตามมากินข้าวกับเรานี้แหละไปครับคุนป้าเสิ่น" มู่หยางชวนสองแม่ลูกให้ตามเขาเข้าไปที่ห้องรับรองส่วนตัวที่เพื่อนรักจัดให้ ส่วนมู่ฟ่านปิงก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องทำงานไปหาพี่ชายจื่อเซิ้นเพื่อคุยงานกันต่อ "ปิงเอ๋อร์ให้พี่เข้าไปด้วยไหม" เฉินซานถามภรรยาตัวน้อยด้วยความหึงหวง จะให้เขาปล่อยให้ภรรยาเข้าไปคุยงานคนเดียวในห้องแม้จะเป็นเพื่อนของพี่ชายของเธอก็เถอะยังอดห่วงไม่ได้ "เฉินซานแม่ว่าเราไปรอที่ห้องอาหารเถอะลูกเดี๋ยวน้องก็ออกมาไปคุยงานนะไม่ได้ไปเล่น" ป้าเสิ่นบอกกับลูกชายที่ตอนนี้ใหน้ำส้มแตกตั้งแต่เจอเจ้าของร้านหนุ่มแล้วรอบหนึ่งแล้ว "แต่แม่ครับ" เฉินซานขัดขืนเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดิมตามแม่กับพี่ของภรรยาไปแบบไม่เต็มใจเพราะเจอสายตาแม่มองมา ฟ่านปิงได้แต่กรอกตามองบนตาคนนี้ถ้าจะเป็นเอามาก พอฟ่านปิงเดินเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายจื่อเซิ้นก็ถามเขา "อาหารของเธอถูกปากไหมพอจะขายในร้านของพี่จื่อเซิ้นได้หรือเปล่าคะ" ฟ่านปิงถาม "เรามาตกลงเรื่องวัตถุดิบกันดีกว่าฟ่านปิงอาหารที่น้องทำอร่อยมาก" จื่นเซิ้นตอบด้วยรอยยิ้ม "น้องพอจะมีกุ้งกับปลาให้พี่ไหมวันนี้พี่จะไปรับเองตอนบ่ายคงกะให้น้องไปถึงบ้านก่อนมู่หยางบอกกับพี่ว่าน้องขังมันไว้ที่บ้านหลายโล" "อ้อมีค่ะพี่จื่อเซิ้นต้องไปรับตอนสองโมงครึ่งได้ค่ะเพราะกินข้าวเสร็จก็จะไปซื้อที่ดักปลาต่อเลย เดี๋ยวฉันจะเอาที่ขังไว้ให้พี่มาก่อนก็ได้คงจะอย่างละสิบโลขึ้นค่ะ" ฟ่านปิงตอบ "แล้วฟ่านปิงจะขายให้พี่ราคาเท่าไรกุ้งกับปลา" จื่อเซิ้นถาม "เรื่องราคาพี่สู้ราคาเท่าไรคะกุ้งฉันจะขายโลละสี่ร้อยหยวนเพราะตัวใหญ่มากปลาโลละหนึ่งร้อยหยวนพี่จื่อเซิ้นจะรับไหมราคานี้" ฟ่านปิงถาม "กุ้งเจ็ดถึงแปดตัวต่อโลถ้าพี่ขายจานละห้าร้อยหยวนยังได้เลยค่ะ ห้าตัวหรือจะแยกสี่ตัวสามตัวต่อจานสามร้อยห้าสิบถึงสี่ร้อยห้าสิบหยวนพี่ก็ได้กำไรครึ่งต่อครึ่ง ส่วนปลาพี่ก็ขายเป็นตัวไปเลยตัวละสามร้อยหยวนต่อจานเพราะพี่เป็นภัตตาคาร ส่วนผักป่าหายากก็แล้วแต่พี่จะขายถ้าฉันเก็บได้เยอะก็จะส่งให้พี่แค่ที่เดียว" จื่อเซิ้นคำนวนราคาขายแล้วเขาก็ได้กำไรเห็นๆจึงตกลงกันด้วยราคานี้เรามาทำสัญญากันเถอะฟ่านปิง "แล้วสูตรอาหารละพี่จะให้เธอเท่าไรดี" จื่อเซิ้นกำลังคิดคำนวนในใจ "ฉันมีข้อเสอพี่จะว่าอย่างไรถ้าฉันจะให้สูตรอาหารกับพี่ทุกเดือนต่อห้าสูตรและฉันขอส่วนแบ่งในเมนูที่ฉันให้พี่สองส่วนในแต่ละเดือนของรายการอาหารที่ฉันเป็นคนให้สูตรพี่จื่อเซิ้น" ฟ่านปิงต่อรองอย่างฉะฉาน โอ๊ะ!!!สาวน้อยเธอช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก "ฟ่านปิงต่อไปพี่จะรับเธอมาเป็นน้องสาวบุญธรรมของพี่นะถือว่าเธอคือดาวนำโชคของพี่และพี่ก็บอกกับมู่หยางแล้วเรื่องรับเธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของพี่เพราะพี่เป็นลูกคนเดียวของบ้านคุณแม่คงจะดีใจมากที่ได้ลูกสาวที่หัวการค้าเช่นเธอ" เอ้อมีแต่คนอยากรับเป็นน้องหรือลูกบุตรรรมเยอะจริงจะเลือกทางไหนดีละเนี้ยคนสวยเหนื่อใจ จื่อเซิ้นหัวเราะอย่างถูกใจในการตัดสินใจของฟ่านปิงที่เลือกรับส่วนแบ่งทุกเดือนไม่ยอมขายขาดแถมยังกินไปได้ตลอดชีวิตหายากจริงๆคนแบบฟ่านปิงเขาคิดในใจ "ได้ตกลงตามนี้เรามาทำสัญากันว่าเธอจะให้สูตรอาหารให้พี่ทุกเดือนสองส่วนคือรายได้แต่ละเดือนของเธอ" จื่อเซิ้นเอาสัญญาเขียนลงไปสองแผ่นและยื่นให้กับมู่ฟ่านปิงอ่านในข้อตกลงจึงลงชื่อกันทั้งสองฝ่าย มู่ฟ่านปิงก็อ่านสัญญาอย่างละเอียดจึงลงชื่อของตัวเองและเก็บใบสัญญากันไว้คนละแผ่น ฟ่านปิงแกล้งเอาเข้าถุงผ้าที่เธอสะพายแต่จริงๆเอาเข้ามิติของตัวเอง เออจริงสิพี่ชายจื่อเซิ้นพอทำสัญญากันเรียบร้อยที่จริงที่ร้านของพี่ก็มีเพลงฟังนี้นา ฉันมีเทบเพลงแปลกใหม่พี่ลองเอาไปเปิดให้ลูกค้าของพี่ฟังตอนกินข้าวมันจะทำให้ได้บรรยากาศที่ดียิ่งคู่รักมากิน แม้แต่ครอบครัวมีทุกแนวทุกเพลงที่ฉันแอบได้มาและนี้คือความลับห้ามถามถึงที่มาและห้ามบอกทุกคนว่าได้มาจากหนูนะ ถ้าพี่รับปากฉันจะให้พี่ทั้งหมดที่มีรวมทั้งเรื่องไปรับกุ้งในวันนี้ห้ามให้เอ่อว่าที่สามีกับแม่ของเขารู้นะว่าหนูแอบขึ้นไปหาลงมาแต่เช้ากับพี่ชาย " พูดจบรวดเดียวยกดื่มน้ำจนหมดแก้วและรอฟังคำตอบจากพี่ชายจื่อเซิ้น "ได้สิพี่รับปากว่าแต่มีเพลงใหม่เลยหรือ" จื่อเซิ้นถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเพราะที่นี้ยังไม่มีใครออกเทบเพลงมากนัก ฟ่านปิงจึงเอาเทบเพลงยุคเก้าสิบของภพเดิมให้ไปทั้งเพลงช้าเพลงเร็วและเพลงสากลให้ไปห้าหกตลับจื่อเซิ้นรับมาด้วยมือที่สั่นเทา "นี้คือของขวัญพบหน้าฉันให้พี่ใช้เรียกลูกเข้าร้านเยอะๆและฉันจะได้ส่วนแบ่งเยอะๆด้วย" ฟ่านปิงหัวเราะถูกใจเงินลอยมาจนเต็มหน้าของเธอแล้วตอนนี้หึๆคนจะรวยช่วยไม่ได้มีตัวช่วยของท่านตาเทพก็ดีอย่างนี้แหละ "ได้เลยน้องรักวันนี้พี่ให้กินฟรีตอบแทนเธอรวมทั้งสูตรอาหารที่ให้พี่มาด้วยสำหรับฟ่านปิงฟรีตลอดชีวิตพี่ไม่คิดเงินน้องอย่างแน่นอน ไปกันเถอะพี่อยากเอาเพลงไปเปิดฟังดูสักหน่อยก่อนจะเปิดให้ลูกค้าของร้านพี่ฟัง" จากนั้นเขาก็เดินไปส่งฟ่านปิงที่ห้องอาหารที่มู่หยางนั่งรออยู่ตอนนี้อาหารกำลังทยอยขึ้นโต๊ะจนจะครบแล้วขาดแค่รอฟ่านปิงมานั่งก็ทานได้เลย แถมจื่อเซิ้นยังบอกว่าสั่งได้เลยเต็มก่อนจะเดินออกไปด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า แม่เสิ่นจึงถามฟ่านปิง "เรียบร้อยใช่ไหมลูกปิงเอ๋อร์" "ค่ะคุณแม่เดี๋ยวพวกเราทานข้าวเสร็จแล้วรีบไปซื้อที่ดักปลากับกุ้งแล้วกับบ้านกันเลยดีกว่านะคะ เพราะพี่ชายจื่อเซิ้นต้องการเป็นจำนานมากเราไปหาและขนลงมาไว้ที่บ้านของหนูเดี๋ยวพี่ชายจื่อเซิ้นจะให้คนไปรับเองค่ะคุณแม่เรารอนั่งรับเงินได้เลยค่ะ" ฟ่านปิงบอกให้แม่เสิ่นฟังและยิ้มจนตาหยีด้วยความดีใจกับรายได้ใหม่ของครอบครัว "มาค่ะคุณแม่รีบกินเยอะๆนะคะเดี๋ยวจะได้มีแรงปักผ้าสวยๆมาส่งที่ร้านผ้าของพี่สาวเจียงหยู่ยังไงละคะ คุณแม่จะได้เงินเยอเลยค่ะ" เธอคีบอาหารใส่จานให้แม่เสิ่นด้วยความเต็มใจจนเฉินซานมองภรรยาตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่ที่เขาได้ยินเธอเรียกชายเจ้าของร้านว่าพี่ชายเขาก็โล่งใจและกินข้าวด้วยความอร่อยที่รู้ว่าเธอไม่ได้สนใจเจ้าของร้านอาหาร เพียงแต่ต้องการเงินเยอะๆเดี๋ยวสามีคนนี้จะหามาให้เธอเอง เฉินซานกินข้าวด้วยความสุขที่เห็นมู่ฟ่านปิงดูแลมารดาของเขาด้วยความใส่ใจ และรอให้เธอหันใส่ใจเขาแบบแม่บ้างเหอะก็เมียโกรธซะขนาดนั้นคงได้แต่ทำใจเพราะปากพาซวยนี้ไงที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่แบบนี้ ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งเสียใจที่พูดทำร้ายเมียของตัวเองโดยไม่ถามหาเหตุผลก่อนด้วยความใจร้อนจึงต้องรับกรรมที่เมียไม่สนใจเฉินซานคิดในใจและหดหู่กับผลของการใจร้อนและปากเร็วของตนเองทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







