LOGINหลังจากที่กินข้าวเที่ยงกันอิ่มหน่ำสำราญทั้งสี่คนก็รีบลาจื่อเซิ้นกลับบ้านไปดักปลาเอาไว้ให้พรุ่งเช้าให้เขานั้นเอง
มู่หยางพาทุกคนมาที่ร้านขายที่ดักปลา ฟ่านปิงเลือกเอาแบบเป็นลอบไม้ไผ่และไซร์เพราะเธอต้องการให้ปลาที่ดักได้ไม่ตายจะได้สดขายได้ราคาดีนั้นเอง วันนี้จะขึ้นไปขุดหลุมดักปลาเพิ่มดีกว่าซื้อถังและที่ใส่ปลาเป็นตาข่ายอีกด้วย เลือกซื้อจนพอใจแล้วทุกคนจึงจ้างรถไปส่งที่บ้านเพราะว่ามันหลายอย่างถือไม่ไหวบอกที่อยู่กับคนขับรถให้ไปส่งของถึงบ้าน จากนั้นจึงพากันกลับตอนบ่ายโมงนิดๆมาถึงบ้านแล้วก็แยกย้ายกันไปพักบ้านใครบ้านมันก่อน นัดเจอกันตอนบ่ายสามโมงเย็นทีเดียวเพื่อจะขึ้นเขาไปใส่ลอบดักปลาบนเขาและจับกุ้งเอาไว้ส่งพี่ชายจื่อเซิ้น บ่ายสองโมงกว่าๆจื่อเซิ้นขี่รถมาที่บ้านมู่หยางเพื่อจะมารับปลากับกุ้งไปขายในรอบค่ำพอมาถึงก็เรียกเพื่อนที่หน้าบ้าน มู่หยางได้ยินจึงเดินไปเปิดประตูให้เพื่อนก่อนที่จื่อเซิ้นจะถอยรถเข้าไปในบ้านเขาเอาถังมาใส่เองด้วยสี่ถังและฟ่านปิงก็เตรียมกุ้งกับปลาให้ชายหนุ่มไปอย่างละสามสิบโลก่อน จะได้ไม่เป็นที่สงสัยเธอจะให้เยอะกว่านั้นก็ได้แต่กลัวผิดสังเกตุ เพราะเมื่อวานฟ่านปิงเอามือกวาดเข้ามิติมากมายโดยเธอไม่ไปหาก็ส่งให้เพื่อนพี่ชายได้อีกหลายวัน พอเอาของขึ้นรถเรียบร้อยฟ่านปิงจึงเอาชาในภพเดิมที่เธอมีมากมายให้ชายหนุ่มไปอีกหลายห่อแต่เปลี่ยนกระดาษห่อของชาออก จื่อเซิ้นดื่มน้ำที่ฟ่านปิงให้แล้วก็รีบกลับแต่ขอกุ้งเพิ่มจากฟ่านปิงอีก ฟ่านปิงจึงให้เพิ่มไแอย่างละสิบโลก็พอ น้ำจิ้มก็ได้สูตรเป็นที่เรียบร้อยแล้วรอก็แต่กุ้งจากสองพี่น้องบ้านมู่เพียงอย่างเดียว ฟ่านปิงจึงเดินเข้าไปในบ้านแกล้งเอากุ้งออกมาเพิ่มให้พี่ชายจื่อเซิ้นและบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเอาใหม่ "ขอบใจน้องมากฟ่านปิง" วันนี้จื่อเซิ้นได้ปลากับกุ้งมากมายและจ่ายเงินให้ฟ่านปิงอย่างงามเลยฟ่านปิงเอาเงินเข้ามิติด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเงินทั้งนั้นรวยๆแล้วเราวันนี้เราทำเงินได้เยอะแยะอิๆๆเธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พอพี่ชายจื่อเซิ้นออกไปสองพี่น้องก็พากันพักผ่อนก่อนจะขึ้นเขาตอนบ่ายสามโมงไปใส่ที่ดักปลาดักกุ้ง ส่วนของรถก็มาส่งให้แล้วและที่ดักปลาดักกุ้งของมู่หยางกับฟ่านปิงเตรียมเอาไว้เรียบร้อยรอแค่สองแม่ลูกเสิ่นมาตามที่นัดหมาย "ปิงเอ๋อร์พี่จะนอนพักที่เปลหลังบ้านนี้นะมีอะไรก็เรียกพี่แล้วกัน" เสียงพี่ชายร้องบอกน้องสาวก่อนจะเดินไปนอนพักผ่อน ส่วนฟ่านปิงเข้าห้องและแวบเข้ามิติของตัวเองหันไปมองกองเงินหยวนที่พี่ชายจื่อเซิ้นจ่ายค่าปลาค่ากุ้งแล้วยิ้มแก้มปริ "รอพี่อยูตรงนั้นนะพี่เงินจ้าตอนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อนละกัน" ก่อนหน้านี้ใช้เสียงเสนองานไปหลายที่เหนื่อยละดื่มน้ำเสร็จก็เดินเข้าห้องปีนขึ้นเตียงของตัวเองแล้วหลับสบายไม่มีเสียงรบกวน จนได้เวลาสามโมงฟ่านปิงก็ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตามัดผมและเดินออกจากห้องเพื่อจะไปหาพี่ชายที่หลังบ้านพอเดินมาถึงก็เจอกับแม่เสิ่นหนานกับสามีจำเป็นที่นั่งรอเธออยู่กับพี่ชาย เฉินซานยิ้มให้ฟ่านปิงพอเห็นภรรยาตัวน้อยเดินออกมาที่หลังบ้านดูท่าทางเธอคงจะพึ่งตื่นมองดูหน้าของภรรยาด้วยความเอ็นดู "อ้อปิงเอ๋อร์มาแล้วไหวไหมลูกให้พี่เขาไปกันสองคนก็ได้นะ" แม่เสิ่นหนานบอกกับลูกสะใภ้ที่เดินมาเหมือนคนยังไม่ตื่นนอนดีทั้งที่ล้างหน้าแล้วก็ตาม "ไหวค่ะคุณแม่" ฟ่านปิงตอบและยิ้มให้แม่เสิ่นก่อนจะเดินไปหยิบตระกร้าของตัวเองสะพายขึ้นหลัง "ไปกันเถอค่ะเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน" เธอบอกทุกคน "ให้พี่ช่วยถือของไหมน้องจะได้หนักมาก" เฉินซานถามภรรยาตัวน้อยที่หยิบของเรียบร้อย "ไม่ต้องฉันไหวค่ะ" เธอตอบและเดินตามหลังแม่เสิ่นพี่ชายใหญ่เดินนำหน้าส่วนสามีจำเป็นเดินรั้งท้ายให้ ทั้งสี่คนเดินประมาณสามเค่อก็ถึงที่เมื่อวานนี้ที่ฟ่านฟิงกับแม่เสิ่นมา พอมาถึงพี่ชายก็รีบลงมือวางที่ดักปลาและกุ้งใส่เหยี่อทุกอันที่ฟ่านปิงให้มาและเดินขึ้นไปใส่เรื่อยๆพร้อมกับเฉินซาน ส่วนฟ่านปิงกับแม่เสิ่นหลังจากนั่งดื่มน้ำพักเหนื่อยครู่หนึ่งก็ลุกไปเก็บผักป่าที่แทงยอดมากมายใกล้ๆลำธารเพราะที่ตรงนี้ไม่มีชาวบ้านเข้ามาหาของป่าจึงทำให้มีผักป่าให้เก็บเยอะมากๆ แต่ก่อนที่จะเดินไปเก็บผักป่าฟ่านปิงขุดหลุมดักปลาให้พี่ชายดูสามหลุมก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงก็เก็บผักป่า พี่ชายขุดหลุมดักปลาจนเป็นที่พอใจจึงหยุดมาช่วยน้องสาวเก็บผักป่ากับเฉินซานจนพอ ทั้งสี่คนจึงชวนกันไปดูหลุมดักปลาอันแรกที่ฟ่านปิงขุดให้ดูจึงพบว่าปลาตกลงหลุมหลายตัวสร้างความดีใจให้ทุกคนยิ่งนัก วิธีของฟ่านปิงได้ผลดีปลาก็ไม่ตายอีกด้วยจึงพากันจับใส่ถังนำกลับไปทำอาหารเย็นและพี่ชายยังจับกุ้งมาให้อีกเกือบสามโลตอนที่วางกับดักเสร็จเรียบร้อยกับสามีจำเป็นของเธอที่จะทำตัวตามติดเธอตลอดและคอยพูดกับภรรยาตัวน้อย แม้ว่าฟ่านปิงจะถามคำตอบคำชายหนุ่มก็ไม่ละความพยายามและต้องการให้ฟ่านปิงยกโทษให้ก่อนที่จะแต่งนางเข้าบ้าน "ปิงเอ๋อร์พี่ช่วยถือของที่มันหนักเองน้องเดินให้สบายกับแม่ของพี่เถอะ" เฉินซานบอกกับเธอ "ไม่เป็นไรช่วยกันถือจะได้รีบเดินกลับบ้านได้เร็วขึ้น" เพราะของที่หนักเป็นสองหนุ่มเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ส่วนฟ่านปิงกับแม่เสิ่นหนานสะพายตระกร้าผักป่าและหาที่ปิดไว้อย่างดีสี่คนเดินลงมาถึงบ้านห้าโมงกว่าๆฟ่านปิงจึงทำอาหารง่ายให้ทุกคนกินกันก่อน กุ้งเผา ผัดผักป่าใส่เห็ดและต้มยำปลาซดน้ำร้อนๆสองหนุ่มกินจนอิ่มแปล้หมดข้าวไปจนเกลี้ยงหม้อไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง ส่งสองแม่ลูกกลับบ้านเรียบร้อยสองพี่น้องบ้านมู่ก็ปิดประตูบ้าน ฟ่านปิงก็พาพี่ชายเข้ามิติแยกกันอาบน้ำห้องใครห้องมันนอนพักเอาแรงเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปชนปลาลงเขามารอส่งให้พี่ชายจื่อเซิ้น ส่วนแม่ลูกบ้านเสิ่นที่เฉินซานเอาจักรยานมาด้วยก็ปั่นพามารดากลับบ้านด้วยรอยยิ้มสองแม่ลูกพูดคุยกันไปตลอดทางเรื่องของมู่ฟ่านปิงที่เก่งสารพัดที่จะทำเงินเข้าบ้าน สอบถามมู่หยางก็ได้ความว่าตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้นน้องสาวก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนสู้คนเก่งขึ้นแต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเขาบอกเฉินซาน "แม่ครับฟ่านปิงก็ยังโกรธผมไม่หายเลยถามคำตอบคำแต่ก็ดีกว่าที่ว่าเธอพูดด้วย" เฉินซานบอกกับมารดา "ตอนนี้หลายวันที่เรามาที่บ้านของเธอช่วยงานในบ้านผมรู้สึกชอบเธอมากจนอยากจะแต่งในวันพรุ่งนี้เลยครับแม่ ผมกลัวมากที่เมื่อเช้าคุนจื่อเซิ้นมองฟ่านปิงและพูดทำนองนั้นผมหวงภรรยาของผมมาก แต่ผมก็โล่งใจที่เมื่อก่อนมู่หยางไม่เคยพาฟ่านปิงไปที่ทำงานและรู้จักกับคุนจื่อเซิ้นก่อนที่จะเกิดเรื่องผมคงจะสู้คุนจื่อเซิ้นไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ผมจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอนเพราะว่าฟ่านปิงเป็นภรรยาของผมแล้วและผมจะทำทุกอย่างให้เธอรักผมตอบไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตามครับแม่ เฉินซานบอกเรื่องของตัวเองและปรึกษาแม่ไปด้วยจะได้หาทางช่วยให้ภรรยาตัวน้อยใจอ่อนรับรักเขาในเร็ววัน "แค่นี้ก็ดีแล้วลูกที่น้องยอมคุยด้วยเป็นถ้าเป็นแม่คงเอาไม้ฟาดหัวลูกตั้งแต่ที่ลูกพูดจาให้น้องเสียใจแล้วละ ค่อยเป็นค่อยไปที่น้องยอมคุยด้วยก็ดีแค่ไหนแล้วและฟ่านปิงเป็นเด็กดีมีเหตุผลและรู้ความมาก ดูซิวันนี้พาแม่ทำเงินได้หลายร้อยหยวนทั้งยังมีงานให้ทำส่งที่ร้านผ้าได้อีกตลอดต่อไปชีวิตของลูกกับน้องจะต้องร่ำรวยขึ้นๆไปเชื่อแม่สิซานเอ๋อร์ เป็นบุญของลูกที่หลุดพุ้นจากเสี่ยวชิงและอี้เหิงเพราะว่าที่ผ่านมาพวกเราไม่คาดคิดว่าแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าหมั้นหมายกันมาตั้งหลายปีจะหักหลังกันได้ลงคอ ทั้งยังลากเอาฟ่านปิงเอามาพัวพันอีกเอาความดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ดีนะที่ฟ่านปิงฉลาดไม่เช่นนั้นคงเหมือนตกนรกทั้งเป็นกับการใส่ร้ายในครั้งนี้ของสองครอบครัวอดีตคู่หมั้นของลูกทั้งสองคน นี้ละนะเขาถึงบอกเอาไว้รู้หน้าไม่รู้ใจ ดีแค่ไหนที่ลูกไม่รักเสี่ยวชิงจนหัวปักหัวปรำแม่ไม่อยากคิดเลยถ้าเป็นแบบนั้น" แม่เสิ่นพูดกับลูกชายไปตลอดทางที่กลับบ้านทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







