บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย) ตำหนักเฟิ่งอัน ห้องบรรทมหลินฮองเฮา หน้าต่างห้องบรรทมถูกแง้มออก ร่างบางปีนเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ตามมาตรฐานจารชนมือฉกาจ แคปซูลยาสลบถูกจ่อใต้จมูกของฮองเฮา ราวห้าลมหายใจต่อมาเสียงฝ่ามือกระทบเนื้อก็ดังขึ้นต่อเนื่อง เพียะ! เพียะ! เพียะ!…เพียะ! เมื่อเห็นว่าใบหน้าของศัตรูบวมฉึ่งกลายเป็นหัวหมูเรียบร้อย กริชของเผ่าฮวาล่าที่ด้ามทำจากเขาสัตว์ฝังอัญมณี ซึ่งองค์หญิงลี่นาซามอบให้เป็นของขวัญ ถูกกรีดลงบนใบหน้าด้านขวาของหลินเจาถิง บริเวณเดียวกันกับใบหน้าของเฉินชิงเหอ ถือเป็นการเอาคืนเล็กน้อยให้บิดาของนาง ก่อนกลับมาจัดการให้สมน้ำสมเนื้ออีกทีที่หลัง จากนั้นจึงปีนขึ้นไปบนเตียง ดึงเอาร่างไร้ศีรษะของว่านไทเฮาออกมาจากมิติ วางลงข้างกายหลินเจาถิง จัดท่าให้ฮองเฮานอนกอดร่างไร้วิญญาณของคู่แค้นราวกับกำลังโอบกอดคนรัก…พรุ่งนี้ตื่นมาคงมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นในวังหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ยามรุ่งอรุณของวันถัดมา ท้องฟ้าสีครามปราศจากเมฆหมอกบดบัง แสงแดดอบอุ่นยามเช้าสาดส่องโลมไล้หิมะสีขาว เกิดประกายระยิบระยับพร่างพรางราวอัญมณีล้อแสง พาให้จิตใจผ่องใสสดชื่นในเช
บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น) หลังจากถูกเซียวหนิงชิงเล่นงานปางตายในคืนนั้น ว่านไทเฮาก็ย้ายตำหนักมาอยู่อีกฝากฝั่งของวังหลัง นางไม่กล้าพำนักอยู่ ณ ตำหนักเดิมอีกต่อไป ด้วยเพราะกลัววิญญาณร้ายจะตามมาหลอกหลอน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ซู่หมัวมัวและนางกำนัลคนสนิทอีกสองนาง จึงถูกสั่งให้มานอนเฝ้าหน้าเตียงเป็นเพื่อนว่านไทเฮา เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจกวาดตามองไปทั่ววังหลัง เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆนางก็พบห้องบรรทมใหม่ของว่านซวงเถียน "ชิ คิดว่าหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้อย่างนั้นรึยัยแก่ เตรียมตัวลงนรกไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเสียเถอะ ซีซี พวกเราไปหายายแก่ว่านซวงเถียนกันเถอะนะ" เมี้ยวววว แมวทิพย์ตอบรับเสียงหวาน มันไม่เคยขัดใจนางทาสอยู่แล้ว ไปไหนไปกันซีซีพร้อมเสมอ หน้าต่างห้องบรรทมที่ลงกลอนจากภายใน ถูกแมวทิพย์ที่สามารถเดินทะลุผนังได้ปลดกลอนออก ผู้มาเยือนยามวิกาลย่องมาเข้าอย่างเงียบเชียบ จ่อแคปซูลยาสลบไปที่ใต้จมูกของซู่หมัวมัวและนางกำนัลอีกสองคน "เรียบร้อย จะได้ไม่มีใครมาขัดจังหวะช่วงเวลาเยี่ยมผู้ป่วยของคนสวย" ร่างบางก้าวข้ามตัวของหมัวมัวและปีนขึ้นไปบนเตียงของว่านไทเฮา ดวงตาเมล็
บทที่ 75 จัดการปลาที่หลุดรอดจากแห (ตอนปลาย) ส่วนพี่สาวคนโตก็แต่งงานไปกับบุตรชายของราชครู พี่เขยของเขาเย็นชาราวภูเขาน้ำแข็ง ถึงแม้ปากจะบอกว่าภักดีต่อไทเฮา ทว่ากลับไม่เคยมีบทบาทใดๆในราชสำนัก ไม่รู้ว่าหากสิ้นไทเฮาไปชีวิตของนางในตระกูลหวังจะเป็นอย่างไรต่อ… ในชั่วขณะที่ว่านหลีหมิ่นกำลังจมอยู่กับความคิดของตน จู่ๆประตูห้องขังของเขากลับเปิดออกเอง โดยที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ฉับพลันนั้นกุญแจไขโซ่ตรวนถูกโยนเข้ามาให้ถึงมือ หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง รีบคว้ากุญแจมาไขปลดพันธนาการบนร่างกาย ครั้นมือเท้าเป็นอิสระ จึงรีบวิ่งออกไปจากห้องขัง ระแวดระวังหลบมองมือปราบที่เฝ้าคุก แต่กลายเป็นว่าเหล่าผู้คุมพากันนั่งหลับไม่รู้เรื่อง นักโทษคนอื่นๆส่งเสียงร้อง ขอให้เขาช่วยปลดปล่อยตนด้วยอีกคน ทว่าด้วยนิสัยเห็นแก่ตัวและเป็นคนรักตัวกลัวตาย ชายหนุ่มจึงไม่สนใจคนอื่นๆ เร่งรุดพาตัวเองไปยังประตูทางออกที่เปิดกว้างไว้รอ ราวกับกำลังเชื้อเชิญให้เขาก้าวออกไป โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก ว่านหลีหมิ่นวิ่งผ่านออกไปทันที แต่เมื่อวิ่งพ้นประตูมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ข้อเท้าของเขาก็เจ็บปลาบ ราวกับถูกของแข็งฟาดเข้ามาอย่า
บทที่ 75 จัดการปลาที่หลุดรอดจากแห (ตอนต้น) เสียงหวูดรถไฟดังขึ้นในหูของหญิงสาว พวงแก้มพลันขึ้นสีระเรื่อ เอ่ยเสียงตะกุกตะกักทวนถ้อยคำของชายหนุ่ม "ชะ ช่วย ท่านอ๋อง อะ อาบน้ำ หรือเพคะ" เพียงแค่คิดกำเดาก็แทบพุ่ง!! ท่านอ๋องเริ่มอ่อยนางอีกแล้ว จับกดเลยดีมั้ยเนี่ย ให้ท่าเหลือเกิน! "ใช่ ช่วยข้าอาบน้ำ" สายตาของซวินเหิงเยว่พร่างพราวเต็มไปด้วยความวาดหวัง รับสั่งเสียงแหบพร่าขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากหยักแอบขบเม้มติ่งหูเล็กของเซียวหนิงชิงไปหนึ่งที หญิงสาวย่นคอหนีจากความรู้สึกจั๊กจี้ รีบลุกพรวดขึ้นมาจากตักแกร่ง ใบหน้าของนางแดงก่ำราวกับจะคั้นเลือดออกมาได้ นับวันรุ่ยอ๋องยิ่งอันตราย เผลอเมื่อไหร่เป็นต้องยั่วยวนนาง… แต่ข้อเสนอเรื่องให้ช่วยอาบน้ำก็น่าสนใจอยู่นะ เหอๆๆ ภาพอกแกร่งและหน้าท้องเป็นลอนของซวินเหิงเยว่ผุดขึ้นในความคิด 'ชิงชิงใจเย็น อย่าแสดงความแก่แดดออกมา ภพนี้เธออายุสิบหกไม่ใช่เกือบจะสามสิบอย่างในภพที่แล้ว' เซียวหนิงชิงรีบเตือนสติตัวเองก่อนลืมตัว นางจะเผลอไผลไปตกหลุมพรางชายงามจอมยั่วไม่ได้เด็ดขาด…แม้ว่าใจจริงอยากตอบตกลงเสียงดังๆก็เถอะ!! หลังจากดึงสติกลับมาได้ หญิงสาวรีบปั่นหน้าขรึม หันก
บทที่ 74 จู่โจม (ตอนปลาย) น้ำเสียงเยียบเย็นของชายชุดดำตรงหน้าดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่คมกระบี่จะบาดเข้าเนื้อผู้พ่ายแพ้รวดเร็วรุนแรงจนพรากลมหายใจ "เปิ่นหวางให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่อยากดื้อดึงไม่รับไว้ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเปิ่นหวางอำมหิต…เก็บพยานไว้แค่คนเดียวพอที่เหลือฆ่าทิ้งให้หมด!!!" สุรเสียงเหี้ยมเกรียมรับสั่งบอกผู้ติดตาม พร้อมกระชากกระบี่ในมือ ฉัวะ!!! "ขอรับ!!" ผู้ติดตามของซวินเหิงเยว่ตอบรับพร้อมเพรียง เพียงไม่นานสำนักคุ้มภัยเหวินหลงก็จบสิ้น ร่างของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนของสำนักคุ้มภัยทุกคน ถูกลากมารวมไว้ในโถงกลาง เหลยเย่และลูกน้องอีกสามคนของซวินเหิงเยว่ ถูกสั่งให้รื้อค้นเอกสารในห้องบัญชีของสำนักตามคำสั่ง ทางด้านผู้นำกลุ่มมือสังหารชุดดำ กำลังเยื้องย่างสำรวจห้องนอนของผู้ดูแลสำนักคุ้มภัยแห่งนี้ ซึ่งถูกเหลยต้งจับกุมตัวไว้ได้ตั้งแต่มาถึง ซวินเหิงเยว่นั่งลงบนตั่งข้างหน้าต่าง พลางหลับตาลงขบคิดว่าหากเป็นตัวเขา จะเอาหลักฐานการทำผิดไปซ่อนไว้ที่ไหน ผ่านไปไม่นานดวงเนตรคู่คมจึงเปิดขึ้น วรกายสูงสง่าก้าวตรงไปยังภาพแกะสลักติดผนัง ยกมือคลำไปทั่วภาพจนพบปุ่มลับที่ซ่อนไว้ และเมื่อกดลงไปตู
บทที่ 74 จู่โจม (ตอนต้น) หัวหน้ากองกำลังตระกูลว่าน ขมวดคิ้วจนเป็นปมจากความประหลาดใจ ยามได้เห็นพลุสัญญาณถูกจุดขึ้นฟ้าจากทางด้านหลังของพวกเขา สัญชาตญาณกระตุ้นเตือนให้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่ายังมิทันได้อ้าปากเอ่ยเตือนลูกน้อง พวกเขาทุกคนพลันรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใต้ฝ่าเท้า บรรดาฝูงนกบนยอดไม้พากันแตกรัง แผดเสียงร้องระงมจนแสบแก้วหู ละอองหิมะสีขาวปลิวว่อนในอากาศราวหมอกหนา บดบังทัศนวิสัยไปชั่วขณะ และเมื่อละอองหิมะจางหายไป กองทัพหลวงซึ่งนำโดยแม่ทัพใหญ่ก็เผยให้เห็น โซว่ไห่จงวัยสี่สิบกลางๆ รูปร่างสูงใหญ่กำยำน่าเกรงขามในชุดเกราะสีดำ ดวงตาคมกล้าทอประกายวาววับราวพยัคฆ์ร้ายกระหายเลือด เขาควบม้าศึกคู่ใจพุ่งตรงมายังตำแหน่งศัตรูอย่างห้าวหาญ เหล่าทหารกล้าของต้าซวินล้วนฮึกเหิม ผิดกับกองกำลังกบฏที่อ่อนล้าจากการเดินทาง ยังไม่ได้ทันพักก็ต้องเตรียมตัวรับศึกใหญ่ หัวหน้ากองกำลังตระกูลว่านหน้าเปลี่ยนสี รีบเก็บซ่อนความหวาดหวั่นนั้นไว้ ส่งเสียงตะโกนสั่งลูกน้องให้จับอาวุธพร้อมรับมือ "พวกเจ้าทุกคน จับอาวุธขึ้นมา เตรียมตัวเข้าปะทะ!! พลธนูขึ้นศร เตรียมยิง!" พลธนูขึ้นศรตามที่ผู้นำบอก และเมื่อได้ระ