หนิงเยียนนั่งอีกฝั่งหนึ่งแล้วหันหน้าไปทางหน้าต่าง ทำราวกับสองคนนั้นเป็นอากาศ
เวยอ๋องกับหยวนเซียงยังคงพลอดรักกันต่ออย่างไม่เกรงใจพระชายาเอกอย่างหนิงเยียนเลยแม้แต่น้อย
นางไม่ได้มีความผูกพันกับเจ้าคนถ่อยเลยมิได้รู้สึกอันใด ดีเสียอีก ถึงยามหย่าจะได้หย่าอย่างง่ายดาย
รถม้าหยุดหน้าวังหลวง สารถีเปิดม่านเวยอ๋องลงไปก่อน คว้ามืออนุคนโปรดไว้ หนิงเยียนเห็นเเล้วมีท่าทีเฉย ๆ ส่วนนางลงเองไม่ต้องให้คนช่วย
ตำหนักหรงในยามนี้หมอหลวงตรวจดูอาการของไท่ชางหวง พบว่าเป็นผื่นเเดงขึ้นตามตัว ไม่รู้ว่าไปโดนพิษตอนไหน หมอหลวงไม่มีทางรักษาอาการให้หายขาดได้
เหล่าท่านอ๋องต่างมาเยี่ยมท่านปู่ของพวกเขา เพราะยังไม่แต่งตั้งรัชทายาท ในยามนี้ฝ่าบาททรงรักไท่ชางหวงมาก เหล่าอ๋องทั้งหลายจึงรีบมาทำคะเเนน
ไท่ชางหวงหรือจ้าวเยว่อดีตฮ่องเต้อายุหกสิบปีต่างมองเหล่าอ๋องที่มาพร้อมหน้าพร้อมตา เหลือเเต่เวยอ๋องเท่านั้น
"เวยอ๋องเล่า" ไท่ชางหวงถามหาหลานสุดที่รัก แม้เวยอ๋องจะประสูติจากสนมคนหนึ่ง เขาก็รักหลานคนนี้มาก
ทำให้เหล่าอ๋องต่าง ๆ อดอิจฉาเวยอ๋องมิได้ โดยเฉพาะหนานอ๋องกับชูอ๋อง
"มาเเล้วพ่ะย่ะค่ะ" เกากงกงมองเห็นเวยอ๋องเดินมาพร้อมกับชายาเอกเเนบซ้าย อนุแนบขวา ช่างเป็นภาพที่ทำให้เหล่าอ๋องทั้งหลายอดที่จะขำมิได้เสียจริง ๆ
หนานอ๋องกับชูอ๋องต่างมองด้วยความแค้นใจ จ้าวเยว่มองหลานรักเดินเข้ามา เหตุใดถึงมีสตรีถึงสองนางมาด้วย
"ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง" เวยอ๋องทอดสายตามองไท่ชางหวง ที่ผื่นขึ้นเต็มตัวอย่างน่าสงสาร
"ทุกคนมาครบเเล้ว เราไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้นานเท่าใด" ไท่ชางหวงทั้งพูดทั้งไอโขลก ๆ
"ท่านปู่อย่าเอ่ยเยี่ยงนี้เลย" เวยอ๋องที่ทรงห่วงใยปู่ของเขาเป็นอย่างมาก
"ท่านปู่ต้องอายุยืนหมื่นปี" หนานอ๋องรีบประจบใหญ่
"ท่านปู่ต้องหาย" ชูอ๋องไม่น้อยหน้า
"เสด็จพ่อต้องเเข็งแรง" ฮ่องเต้จ้าวซุนรักพระบิดามาก
"ขอให้หม่อมฉันดูอาการของไท่ชางหวงได้รึไม่เพคะ" เพียงเเค่หนิงเยียนเอ่ยจบ ทุกสายตาต่างมองมาที่นางด้วยความดูแคลน
ได้ยินมาว่าสตรีนางนี้เพื่อให้แต่งงานกับเวยอ๋อง นางถึงกับวางยาเวยอ๋อง ในงานวันเกิดบิดาของตัวเอง ช่างเป็นสตรีที่น่ารังเกียจนัก
"เจ้าเป็นแค่สตรีในเรือน มิได้มีวิชาแพทย์ ริอ่านจะมาดูอาการของไท่ชางหวง สามหาวนัก" อวี้ฮองเฮาทรงกริ้วมาก ในใจนางภาวนาให้ไท่ชางหวงตายเร็ววัน
"ขออภัยฮองเฮา นางเป็นชายาของกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ" เวยอ๋องออกรับแทน แม้เขาจะชังหนิงเยียน แต่ภาพพจน์ของเขาต้องดูดีในสายตาท่านปู่
"ฮองเฮาให้นางมาดูเราเถอะ" ไท่ชางหวงเอ่ยออกไปเยี่ยงนั้น ทำให้ทุกคนตกใจ ไม่มีใครอยากให้เวยอ๋องได้หน้าหรอกนะ
หนิงเยียนเดินเข้าไปใกล้ ๆ ไท่ชางหวง พบว่าเขาเป็นผื่นคล้ายกับลมพิษ
"ถ้าเจ้ารักษาไท่ชางหวงมิได้ เตรียมตัวรับโทษได้เลย" คำพูดนี้อวี้ฮองเฮาเป็นคนเอ่ยขึ้น ทุกคนต่างดีใจที่จะได้เห็นหนิงเยียนคนหยิ่งผยองโดนลงโทษ โดยเฉพาะพี่น้องสกุลหยวน
เพียงไม่นานหนิงเยียนเดินออกมาจากม่านมุ้ง ทุกคนต่างมองนางด้วยแววตาเย้ยหยัน รอดูสิว่าอวี้ฮองเฮาจะลงโทษหญิงแพศยาอย่างไร
"หมอหลวงเข้าไป" หมอหลวงเข้าไปในม่านมุ้ง ต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ
"เจ้ารักษาไท่ชางหวงมิได้ เด็ก ๆ นำตัวนางไปลงหวาย"
"ฮองเฮาพระนางทรงเข้าใจผิดเเล้ว ไท่ชางหวงทรงอาการดีขึ้นต่างหาก" เสียงหมอหลวงผ่านม่านมุ้ง ทำให้ทุกคนต่างอึ้งงัน
คนที่ไม่สนสายตาคนอื่นอย่างหนิงเยียน ยืนกอดอกอย่างสบายใจ ในตอนนั้น นางได้ฉีดยาแก้คันให้ไท่ชางหวงเป็นที่เรียบร้อยเเล้วเดินออกมา ดูท่าคนพวกนี้คงจะรังเกียจเจ้าของร่างเดิมเป็นอย่างมากเลยละ
ทุกคนต่างเอ่ยชมยกความดี ความชอบให้กับหนิงเยียนที่รักษาอดีตฮ่องเต้จนหาย ไท่ชางหวงยังทรงรับสั่งให้เหล่าอ๋องกับชายารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ในตอนนี้หนิงเยียนก็ยังคงอยู่ในวังหลวง ยังมิได้กลับจวนอ๋อง
ในยามนี้ร่างบางชมความงามในอุทยานหลวงอย่างสบายใจ หนิงเยียนเป็นสาวยุคสองพันปี มีความมั่นใจในตัวเองสูงอีกทั้งเป็นคนมีเมตตา ใครดีกับนาง นางย่อมตอบแทนน้ำใจ นางจะทำความดีแทนหนิงเยียนคนเดิมที่ร้ายกาจเพื่อรอวันกลับโลกปัจจุบัน นางจะหาทางหย่ากับเจ้าคนถ่อยให้ได้
"สารเลวนัก เจ้าใช้มารยาอันใดกับไท่ชางหวง" อนุหยวนเซียงนั่นเอง แต่เดินมากับชายาของหนานอ๋อง อย่างหยวนเหมยซึ่งเป็นพี่สาวของหยวนเซียง
ในวันที่เวยอ๋องแต่งงานกับหนิงเยียน หยวนเหมยได้ขอร้องให้เวยอ๋องรับหยวนเซียงเป็นอนุ เพื่อกันหนิงเยียนออกจากเวยอ๋อง
พอเวยอ๋องแต่งกับหนิงเยียนได้ไม่นาน ก็มีราชโองการให้หยวนเหมยแต่งกับหนานอ๋องอย่างกะทันหัน ทำให้หยวนเหมยทำใจมิได้ ในใจนางมีเพียงเวยอ๋อง คู่ม้าเหมยเขียวโตมาด้วยกัน
หนิงเยียนได้พิจารณาหยวนเหมยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ดูภายนอกเป็นสตรีที่อ่อนหวานต่อหน้าบุรุษ แต่พออยู่ต่อหน้าสตรีด้วยกันกับกลายเป็นนางมารร้าย
ช่างตอแหลสิ้นดี
"นี่ถ้าเจ้าชอบสวามีข้า ทำไมเจ้าไม่แต่งเข้าจวนอ๋องเสียเองเล่า ให้น้องเจ้าแต่งมาทำไม แล้วตัวเจ้าเองแต่งเข้าจวนหนานอ๋องไปแล้ว จะมาวุ่นวายอันใดกับข้า" หนิงเยียนขี้เกียจเอ่ยอ้อมค้อม นางเป็นคนเถรตรง
"เจ้า !!!" หยวนเหมยนิ้วระริกด้วยความสั่นกลัว
วันนี้หยวนเหมยจะกระชากหน้ากากนังสารเลวหนิงเยียนเอง
"น้องพี่ตบข้าเร็วเข้า" หยวนเหมยนึกแผนการดี ๆ ออก หยวนเซียงตบหน้าหยวนเหมยเเล้วแหกปากร้อง
"ช่วยด้วยเจ้าค่ะ พระชายาเวยอ๋องทำร้ายพระชายาหนานอ๋อง" เสียงหยวนเซียงตะโกนขึ้นอย่างแรง
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ