Home / โรแมนติก / บ่วงแค้นพันธนาการรัก / บทที่ 2 ตระกูลเพมเบอร์ตัน สูญเสียโจลีนผู้เป็นที่รัก

Share

บทที่ 2 ตระกูลเพมเบอร์ตัน สูญเสียโจลีนผู้เป็นที่รัก

last update Huling Na-update: 2025-12-05 20:15:16

ในบรรยากาศเศร้าโศกท่ามกลางสายฝนและความมืดครึ้ม ด้านโจชัว

คุณชายเพมเบอร์ตันยืนแน่วแน่อยู่หน้าหลุมศพของโจลีน น้องสาวคนเล็กที่เขารักหมดใจ ชายหนุ่มผู้มีสายตาคมลึกซึ่งซ่อนความเจ็บปวดไว้ในความเงียบ ได้แต่จ้องมองหลุมศพด้วยสายตาเลื่อนลอยและหัวใจที่หนักอึ้ง

โจฮัน ลูกชายคนกลางในตระกูลเพมเบอร์ตัน เอื้อมมือวางลงบนไหล่ของพี่ชายเบาๆ เอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่แฝงความจริงจัง

“พี่โจชัวครับ… อย่าทำให้โจลีนต้องเป็นห่วงสิ พี่ต้องเข้มแข็งนะ”

ชายหนุ่มผมดำสะบัดหน้ามองโจฮัน แววตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมา โจชัวไม่แม้แต่จะตอบกลับ เขายืนหันหลังให้ ดวงตาจับจ้องภาพหลุมศพของน้องสาวที่รักมาตั้งแต่ยังเด็ก เหมือนเพิ่งเมื่อวานที่พวกเขาเติบโตเคียงข้างกัน

โจฮันถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“พี่… ค่ำแล้ว กลับกันเถอะครับ ถึงยังไงโจลีนก็ยังอยู่ที่นี่”

คำปลอบโยนที่ฟังดูจริงจังแต่แฝงไว้ด้วยความขี้เล่นตามนิสัยไม่ได้ช่วยให้โจชัวรู้สึกดีขึ้น แต่กลับทำให้เขารู้สึกถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางความโดดเดี่ยว

“แกมันไม่รู้อะไรหรอกโจฮัน…”

โจชัวตอบเสียงแผ่ว ทว่าแฝงด้วยความตัดพ้อ

“เฮ้อ พี่จำคำของโจลีนได้ไหมครับ ว่าไม่อยากให้ใครมาเสียใจเรื่องของเธอ”

โจฮันพูดพลางมองพี่ชายอย่างหนักแน่น

“แกกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”

โจชัวเอ่ยปฏิเสธที่จะกลับพร้อมน้องชาย ทำให้โจฮันจำต้องจากไปด้วยความอึดอัดใจ ทิ้งให้โจชัวยืนเฝ้าหลุมศพเพียงลำพัง ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มโปรยลงมา หนักขึ้นเรื่อยๆ จนร่างสูงโปร่งชุ่มโชก

เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ราวกับความหนาวเหน็บจากสายฝนและความมืดมิดรอบตัวเป็นเพื่อนร่วมทุกข์… ชายหนุ่มเผลอคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต สมัยเด็กที่เขาเคยอยู่ใต้เตียง ขณะเห็นพ่อถูกยิงเสียชีวิต และเด็กหญิงตัวน้อยผู้ช่วยเขาไว้ก็มองเห็นภาพเหตุการณ์ผ่านสายตาที่พร่ามัว

เมื่อสติกลับมา เขาจึงค่อยๆ เดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะรับสายเลขาคนสนิทที่โทรเข้ามาพร้อมข่าว

“คุณโจชัวครับ ผมสืบพบแล้ว คนที่ขับรถชนคุณโจลีนเป็นผู้หญิงครับ แต่คนที่ถูกจับคือผู้ชาย เป็นแค่แพะ”

ความแค้นในใจของโจชัวลุกโชน เขากลั้นเสียงสั่นด้วยโทสะเอ่ยถาม “ใคร…” คำถามแผ่วเบาทว่าหนักแน่น

เมื่อทราบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวตระกูลไพศาล ตระกูลที่มีอิทธิพลพอกับเพมเบอร์ตัน เขาตระหนักว่า หากจะแก้แค้นก็ต้องรอเวลาที่เหมาะสม ทิ้งคำสั่งให้เลขาคอยจับตาดูสถานการณ์ต่อไป

เมื่อกลับถึงบ้าน แม่นมวัยกลางคนที่คอยดูแลเขามาตั้งแต่เด็กตกใจรีบเข้ามาพยุง

“คุณหนูโจลีนไปสบายแล้วค่ะ นายน้อยต้องทำใจนะคะ”

แต่แม้แต่คำพูดนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้โจชัวรู้สึกดีขึ้น เขายังคงเอ่ยชื่อน้องสาวซ้ำไปซ้ำมาในความเพ้อ เจ็บปวดและไร้เรี่ยวแรงจนล้มตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า

โจฮันเดินมาถามอาการพี่ชายกับแม่นม

“พี่หลับแล้วใช่ไหมครับ”

“ค่ะ หลับเพราะไข้และเหนื่อยค่ะ”

แม่นมตอบ

แม้แต่คนอย่างโจฮันที่ดูขี้เล่นและเข้มแข็งที่สุดในสายตาคนอื่น ก็ยังแอบปวดร้าวเมื่อเห็นพี่ชายในสภาพนี้… แม่นมได้แต่มองตามชายหนุ่มทั้งสองคนด้วยความปวดใจ พลางคิดเงียบๆ ว่าแม้พวกเขาจะเติบโตและแกร่งแค่ไหน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกคนก็อ่อนแอได้เช่นกัน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 9 เข้าสู่คฤหาสน์เพมเบอร์ตัน

    ณ สวนหลังบ้านคฤหาสน์เพมเบอร์ตันดอกทิวลิปหลากสีบานสะพรั่งท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้า สวนทิวลิปทอดยาวไปจนสุดสายตาในพื้นที่จำนวน 1 ไร่ของบริเวณหลังบ้าน ดอกสีแดงสดของดอกทิวลิปตัดกับสีเหลืองสดใสขาวบริสุทธิ์ และชมพูอ่อน ทั้งหมดเรียงรายกันเป็นแถว กลิ่นหอมของดอกไม้ถูกลมพัดเบา ๆ นำพาความสดชื่นไปทั่วบริเวณ สวนดอกไม้แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ในฝันของโจลีนน้องสาวของเขา ทว่าน่าเสียดายที่น้องสาวของเขาไม่มีโอกาสได้เห็นสวนแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว“คุณโจชัวครับ คุณโจชัว!!”เสียงกึ่งวิ่งกึ่งตะโกนของชัชชัย ดังแว่วมาแต่ไกล ทำให้โจชัวที่ใช้กรรไกรตัดแต่งต้นไม้อยู่หยุดชะงักเพื่อรอฟังข่าวเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนจากก้มหน้า มายืนในท่าปกติ มือหนึ่งถอดถุงมือผ้าออกจากอีกข้าง ก่อนจะเปลี่ยนมาถอดอีกข้างหนึ่ง จากนั้นใช้หลังมือปาดเหงื่อเม็ดเล็กที่ซึมผุดออกมาจากใบหน้า แล้วรอฟังอย่างใจเย็นแฮ่ก แฮ่กเสียงหอบพร้อมกับเสียงสูดลมหายใจเข้าของชัชชัย ทำให้โจชัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มันเรื่องอะไรที่ทำให้ลูกน้องของเขาวิ่งหน้าตั้งมาขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นฟื้นแล้วครับ”“บอกแ

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 8 ความจำเสื่อม

    3 ชั่วโมงผ่านไปบรืนน...เอี๊ยด...!เสียงรถคันหรูได้เคลื่อนเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์ของตระกูลเพมเบอร์ตัน ซึ่งโจชัวได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ต่างจังหวัด ที่ดินตรงนี้เป็นมรดกตกทอดมาหลายรุ่น มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ โดยส่วนใหญ่ ครอบครัวของเขาจะมารวมตัวกันทีนี้ปีละครั้ง เพื่อใช้พื้นที่ล่าสัตว์ป่า ทว่าในครั้งนี้มันต่างกันออกไป เขาไม่ได้มาล่าสัตว์ แต่มาเพื่อแก้แค้นคฤหาสน์ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงปกคลุมไปด้วยหมอกบาง ๆ ด้านซ้ายล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำขนาดใหญ่ ทางหลังบ้านปลูกดอกไม้เอาไว้ประมาณ 1 ไร่ เพราะโจลีนน้องสาวของเขานั้นชอบแม้ภายนอกจะดูหรูหรา ภายในคฤหาสน์นั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภายนอก โถงใหญ่มีเพดานสูงโอ่อ่าประดับด้วยโคมระย้า คริสตัลห้อยระยิบระยับ ผนังปูด้วยวอลเปเปอร์สีทองจาง ๆ พื้นที่ของคฤหาสน์นั้นดูกว้างขวางแต่กลับไม่มีใครอาศัยอยู่สักคน นอกจากคนสวนกับแม่บ้านประมาณ 10 กว่าคน แต่ทุกคนได้ไปอยู่เรือนคนใช้ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร“เชิญครับคุณโจชัว ภายในบ้านผมให้แม่บ้านทำความสะอาดและจัดห้องนอนไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ”ชัชชัยพูดพลางวิ่งไปเปิดประตูอีกฝั่งให้เจ้านาย พร้อมกับเอ่ยถามอีกครั้งว่า“

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 7 จุดเริ่มต้นของการแก้แค้น

    1 เดือนผ่านไปตึก ตึก !เสียงเท้าเล็กที่ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงสูงขนาด 3 นิ้ว ก้าวเดินมาเป็นจังหวะเนิบตามเดินตามข้างถนน วันนี้เป็นวันที่เธอเหนื่อยมาก เนื่องจากการประชุมที่บริษัท เธอทำออกมาด้ไม่ดีพอ แถมยังต้องโดนผู้เป็นมารดาต่อว่ากลับมาอีก ดารินใช้ชีวิตเป็นไอด้ามาได้ 1 เดือนเต็ม ไม่เคยมีวันไหนที่เธอได้ใช้ชีวิตเป็นตัวเอง ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กก้าวขาเข้ามาในบ้านตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ ความอึดอึดมันเริ่มถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่จบไม่สิ้น และดูเหมือนว่าวันนี้มันเลยขีดจำกัดของดารินแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินออกมาจากบริษัทของไอด้า ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งทว่าในใจรู้สึกเศร้าจนถึงขีดสุด เธอเดินมาเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางเดินมาตลอดเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว บรรยากาศโดยรอบแสงสว่างเริ่มเลือนหายไป ความมืดได้เริ่มคืบคลานเข้ามา จนกระทั่งฝนเริ่มลงเม็ดปรอย ๆ จากนั้นตกแรงขึ้นเรื่อย ๆซ่าส์ ซ่าส์ !เสียงฝนกระทบกับพื้นดิน เม็ดฝนใหญ่ ๆ สัมผัสกับใบหน้าเนียน นั่นทำให้ดารินเงยใบหน้าขึ้นมา สายตาเรียวกวาดมองไปรอบ ๆ พบว่าตัวเองเดินมาไกลจนไม่พบบ้านคนสักหลัง พื้นที่รอบ ๆ

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 6 มีชีวิตใหม่ในคราบของคนอื่น

    ในห้องรับแขกของตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ หลังจากที่คุณหญิงและไอรินออกไปแล้ว ดารินนั่งเงียบก้มหน้า ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้เธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมตั้งแต่วันแรกผู้เป็นแม่จึงดูเย็นชาและห่างเหินกับเธอเช่นนี้ ท่าทีของมารดาเหมือนละครหลังข่าวที่แม่เลี้ยงมักตั้งแง่ใส่ลูกเลี้ยง“คุณดารินคะ เดี๋ยวไปที่ห้องของคุณไอด้าเลยค่ะ” ทิพย์ เลขาส่วนตัวของบ้าน พูดขึ้น พร้อมส่งสัญญาณให้เจ้หยาดกับลูกน้องตามไปด้วย “ทำไมต้องไปที่ห้องของพี่ไอด้าด้วยล่ะคะ” ดารินถามด้วยความสงสัย เธอไม่อยากจะบุกรุกห้องของคนอื่น “นับจากนี้ ทิพย์จะเรียกคุณดารินว่า ‘คุณไอด้า’ นะคะ เพื่อให้คุณซึมซับความเป็นคุณไอด้าได้เร็วที่สุด คุณต้องเข้าไปอยู่ในห้องและดูวิถีชีวิตของเจ้าของห้อง จะได้ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของตระกูลค่ะ”ดารินพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ เรียกได้เลย เพราะชีวิตฉันไม่เคยเป็นของตัวเองอยู่แล้ว” เธอตัดพ้อ ก่อนก้าวเท้าไปยังห้องนอนของพี่สาว เมื่อมาถึงห้องสุดหรูของไอด้า ห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้า โทนสีเข้ม เฟอร์นิเจอร์เป็นระเบียบ เตียงคิงส์ไซส์ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง ห้องกว้

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 5 ปฏิบัติการแปลงโฉมดารินให้กลายเป็นสาวมั่น

    กริ้ง!เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งที่ประตูบ้านหรูหราสไตล์คลาสสิก หน้าบ้านมีเหล่าสาวประเภทสองที่รูปร่างกำยำแต่ใจเป็นหญิงสองคน และลูกน้องสาวอีกหกคนยืนเรียงกันเป็นแถว สีหน้าบ่งบอกถึงความตื่นเต้นและสงสัยในงานที่ได้รับ“เจ้ เรามาแต่งให้ใครกันเนี่ย ขนกันมาเยอะขนาดนี้ จ้างแต่งหน้ากี่คนกันนะ” เจน ลูกน้องคนสนิทของเจ้หยาดเอ่ยขึ้นเสียงเบา ดวงตาเป็นประกาย ตื่นเต้นเมื่อคิดถึงค่าจ้างที่ได้รับ ซึ่งมากกว่าทำงานทั้งเดือนเสียอีก “จุ๊ ๆ ฟังนะพวกเธอ ห้ามแพร่งพรายอะไรไปเด็ดขาด งานนี้มันความลับของตระกูลเขา ถ้าพูดมากระวังตายไม่มีศพนะ” เจ้หยาดบอกอย่างจริงจัง น้ำเสียงนิ่ง แต่ทว่ามีประกายความขบขันในแววตา แอบปรายตาไปทางลูลู่ เพื่อนซี้หุ้นส่วนร้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เอ้า! อีเจ้นี่หมายความว่าไง ว่าฉันปากหมางั้นเหรอ!!! แหม ยุ่งหน่อยก็ตายไม่มีศพเหมือนกันทั้งนั้นแหละ” ลูลู่รีบตอบพลางจีบปากจีบคอ หันมองเพื่อนรักแบบประชดประชัน “อ้าวอีลูลู่!”“ว่าไงล่ะ อีเจ้!”สองสาวประเภทสองเริ่มโต้เถียงกันเสียงดังอย่างที่ทำให้ลูกน้องพากันถอนหายใจไปตาม ๆ กัน ก็เรื่องปากนี่แหละที่ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้กันมาได้“เจ้ ๆ ค

  • บ่วงแค้นพันธนาการรัก   บทที่ 4 ไม่ใช่อย่างที่คิด

    “สวัสดีค่ะ คุณหญิงลดา คุณหนูไอริน” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ดารินหันไปมอง นัยน์ตาสีน้ำผึ้งจ้องไปยังมารดาผู้ให้กำเนิด ความรู้สึกวูบไหวแล่นเข้ามาในใจเธอโดยไม่อาจห้าม คุณหญิงลดาเพียงปรายตามองลูกสาวที่พลัดพรากไปนานถึง 24 ปี ใบหน้าของดารินเหมือนกับไอด้า ลูกสาวคนโตแทบจะถอดแบบกันออกมา แต่สิ่งที่ต่างคือแววตา ไอด้ามีแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเด็ดเดี่ยว ผิดกับดารินที่แววตาดูอ่อนแอและไม่กล้าสู้ใคร“อ้าว คุณกลับมาแล้วหรือ มานั่งนี่สิ มานั่งใกล้ ๆ” เกรียงไกรส่งยิ้มพร้อมผายมือเชื้อเชิญภรรยาของเขาให้นั่งข้างดาริน “ผมดีใจจริงๆ ที่ครอบครัวเราได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง”“ไม่ล่ะ ฉันจะนั่งกับไอริน แค่เห็นหน้าก็พอแล้ว” น้ำเสียงเย็นชาของคุณหญิงลดาทำให้ดารินนั่งตัวแข็ง เธอพยายามบังคับใจให้สงบ แม้ลึก ๆ แล้วรู้สึกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้อาจไม่เป็นที่ต้องการ“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมนั่งข้างลูกเอง” เกรียงไกรยิ้มบาง พลางส่งสายตาปลอบใจดารินขณะนั่งลงข้างเธอ “วันนี้ผมให้แม่บ้านเตรียมอาหารเยอะแยะเลยนะ จะได้ฉลองที่เราได้ลูกกลับมา”“โอ้ย จะฉลองอะไรคุณ เวลานี้มันใช่เวลาฉลองไหม ไ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status