Mag-log in1 เดือนผ่านไป
ตึก ตึก ! เสียงเท้าเล็กที่ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงสูงขนาด 3 นิ้ว ก้าวเดินมาเป็นจังหวะเนิบตามเดินตามข้างถนน วันนี้เป็นวันที่เธอเหนื่อยมาก เนื่องจากการประชุมที่บริษัท เธอทำออกมาด้ไม่ดีพอ แถมยังต้องโดนผู้เป็นมารดาต่อว่ากลับมาอีก ดารินใช้ชีวิตเป็นไอด้ามาได้ 1 เดือนเต็ม ไม่เคยมีวันไหนที่เธอได้ใช้ชีวิตเป็นตัวเอง ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กก้าวขาเข้ามาในบ้านตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ ความอึดอึดมันเริ่มถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่จบไม่สิ้น และดูเหมือนว่าวันนี้มันเลยขีดจำกัดของดารินแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินออกมาจากบริษัทของไอด้า ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งทว่าในใจรู้สึกเศร้าจนถึงขีดสุด เธอเดินมาเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางเดินมาตลอดเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว บรรยากาศโดยรอบแสงสว่างเริ่มเลือนหายไป ความมืดได้เริ่มคืบคลานเข้ามา จนกระทั่งฝนเริ่มลงเม็ดปรอย ๆ จากนั้นตกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซ่าส์ ซ่าส์ ! เสียงฝนกระทบกับพื้นดิน เม็ดฝนใหญ่ ๆ สัมผัสกับใบหน้าเนียน นั่นทำให้ดารินเงยใบหน้าขึ้นมา สายตาเรียวกวาดมองไปรอบ ๆ พบว่าตัวเองเดินมาไกลจนไม่พบบ้านคนสักหลัง พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยป่า และหญ้าใบแหลมสูงลิบ เท่า ๆ ตัวของเธอ กึก ! เท้าเล็กหยุดเดินชะงัก พร้อมกับยกมือเรียวมาปาดเม็ดฝนออกจากดวงตา เนื่องจากมองไม่เห็นทาง นัยน์ตาสีน้ำผึ้งทอดมองไปข้างหน้าเห็นแสงสีส้มจากไฟด้านหน้าของรถยนต์ สาดเข้ามากระทบกับดวงตาคู่สวยจนทำให้เธอต้องหรี่ตาลงโดยอัตโนมัติ ในจังหวะนั้นเอง รถยนต์คันสีดำ ติดฟิล์มสีทึบ ค่อย ๆ เร่งความเร็วพุ่งเข้ามาชนร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างถนนจนล้มลง ปึง!! ทันทีที่รถยนต์คันหรูพุ่งเข้ามาชน ร่างเล็กก็ล้มลงไปกับพื้นทันที ดารินได้แต่คิดอยู่ในใจ เธอไม่เคยมีเรื่องราวบาดหมางกับใคร แต่ทำไมรถยนต์คันนี้ถึงจงใจพุ่งมาชนเธอ ทว่าอีกใจหนึ่งเธอก็ดีใจ หากว่าวันนี้เธอไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ทุกอย่างที่เธอหนักใจมันจะหมดไปทันที ฮึก ! เสียงสะอื้นไห้ของคนตัวเล็ก พร้อมกับเลือดสีแดงสดเริ่มไหลออกมาจากศีรษะ ก่อนสติของดารินจะค่อย ๆ ดับไป อีกด้าน “เอายังไงดีครับนาย” น้ำเสียงที่สั่นเครือของลูกน้องโจชัว ถามเจ้านายเพราะเห็นเจ้าของร่างเล็กที่ตนตั้งใจชนเมื่อครู่หมดสติไป พร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลออกมากองที่พื้นอย่างไม่หยุด “...” โจชัวนิ่งเงียบ มองหญิงสาวที่ถูกชนอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร เพราะแผนนี้เขาคิดเอาไว้ตั้งนานแล้ว และวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นให้น้องสาวของเขา ‘โจลีนต้องไม่ตายฟรี แค้นนี้คนที่ทำต้องได้รับผลกรรม หากกฎหมายทำอะไรตระกูลไพศาลไม่ได้ เขานี่แหละจะเป็นกฎหมายนั้นให้เอง’ “นายครับ” ชัชชัยเรียกเจ้านายอีกครั้ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาตั้งใจขับรถชนคน ทว่าเมื่อเหลือบไปมองใบหน้าที่นิ่งเรียบของผู้เป็นเจ้านาย ใบหน้าหล่อเหลานั้นค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นทีละน้อย มันทำให้คนขับรถอย่างชัชชัย ขนลุกขนพองไปทั้งร่าง ชั่วชีวิตนี้สาบานเลยว่าจะไม่กล้าทำให้ตระกูลเพมเบอร์ตันขุ่นเคืองใจ เพราะผลที่ตามมามันคาดไม่ถึงจริง ๆ “ลงไปดู ว่าตายหรือยัง” “ครับนาย” ชัชชัยพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูรถลงไปตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย ชายวัย 35 ปี นั่งยอง ๆ ยกมือหน้าขึ้นไปอังที่จมูก คนตัวเล็ก เพื่อเช็คว่าเธอยังหายใจอยู่ไหม เมื่อพบว่าเธอยังหายใจอยู่ ตัวเขานั้นเองกลับโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เพราะเขาเองไม่ได้อยากเป็นฆาตรกร “ยังหายใจอยู่ครับคุณโจชัว” ชัชชัยตะโกนบอกผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งตอนนี้เขานั่งอยู่บนรถ ไม่แยแสคนที่หมดสติอยู่บนพื้นเลย “เอายังไงดีครับ” “เอาขึ้นรถมา” “ครับ” ชายวัย 35 ปี ตอบรับ ก่อนจะช้อนตัวร่างเล็ก จากนั้นเดินไปเปิดประตูทางด้านหลัง ฝั่งที่เจ้านายของตนได้นั่งอยู่ “ใครบอกให้เอามาตรงนี้” น้ำเสียงเรียบตึงของโจชัว ทำเอาชัชชัยหน้าซีดเผือด หากไม่ให้เขาเอาไว้ข้างหลังจะให้เอาไว้ที่ไหน “นายจะให้ผมเอาไว้ที่ไหนครับ หากไม่ใช่ข้างหลัง คงจะเป็นฝากระโปรงรถด้านหลังแล้วนะครับ” “ตามนั้น” “อะไรนะครับ!” ชัชชัยทวนถามอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากเขาไม่เคยเห็นเจ้านายเป็นอย่างนี้มาก่อน ตั้งแต่คุณหนูโจลีนจากไป เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ถึงอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าโจชัวจะใจร้ายกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้ถึงเพียงนี้ “ต้องให้พูดซ้ำงั้นเหรอ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาย้อนถาม “ครับ ๆ” ลูกน้องที่ไม่กล้าต่อความยาวสาวความยืด ได้แต่พยักหน้ารับอุ้มดารินไปยัดไว้ที่ฝากระโปรงรถทางด้านหลัง ดีหน่อยที่เธอตัวเล็กจึงสามารถเอาตัวเข้าไปได้พอดี หลังจากที่ชัชชัยนำร่างของดารินไปไว้ด้านหลังเสร็จเขาก็รีบวิ่งมายังฝั่งคนขับ ก่อนจะหันไปบอกโจชัวว่า “เรียบร้อยครับนาย” “อืม” โจชัวตอบเพียงสั้น ๆ จากนั้นล้วงโทรศัพท์มือถือกดไปหาลูกน้องให้มาเคลียร์สถานที่ให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ใครตามตัวผู้หญิงคนนี้เจอ อีกด้านของตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ “ว่าไงเจอตัวลูกสาวของฉันไหม” น้ำเสียงอันร้อนรนของเกรียงไกร เร่งถามลูกน้องหลังจากที่ตามหาลูกสาวมาหลายชั่วโมง แต่ไม่เจอตัวเสียที “ไม่เจอเลยครับคุณเกรียงไกร” ลูกน้องคนสนิทตอบด้วยความสุภาพ นั่นทำให้ผู้เป็นบิดาร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม “โอ้ย ฉันว่าหนีไปแล้วแหละ ทำอะไรก็ไม่ดี ไม่เคยได้ดั่งใจ พอเจอปัญหาก็เอาแต่หนี แบบนี้อนาคตจะกล้าไปสู้กับอะไร” คุณหญิงลดานั่งอยู่โซฟาพูดขึ้นมาบ้าง ทำเอาผู้เป็นสามีหัวเสียหันมาขึ้นเสียงใส่ “คุณนี่มันเป็นอะไร นั่นก็ลูกของคุณเหมือนกันนะ คุณคลอดออกมาเอง จะไม่รักลูกบ้างเลยหรือไง” “ลูกของฉันมีแค่ไอด้า กับไอรีน” “คุณหญิง คุณนี่มันจริง ๆ เลย เรื่องในอดีตทำไมไม่ทิ้งมันไปบ้าง” “ก็คุณไม่ใช่หรือไงเป็นคนสร้างมันขึ้นมา” ลดาเถียงอย่างไม่ลดละ ทำให้ไอรีนเป็นผู้เอ่ยปากห้ามศึกระหว่างครอบครัวในครั้งนี้ “คุณพ่อคุณแม่คะ อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ ดารินหายไปไม่กี่ชั่วโมง บางทีอาจจะกลับมาเองก็ได้ค่ะ ไปพักผ่อนกันเถอะนะคะ เดี๋ยวไอรีนจะให้เพื่อนช่วยตามหาอีกแรง” “.....” หลังจากที่ไอรีนพูดจบ บรรยากาศภายในบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ผู้เป็นแม่เดินเข้าห้องส่วนตัวไป ทางด้านผู้เป็นพ่อก็คงขับรถออกไปด้านนอก ไปนอนที่บริษัทอีกตามเคย ไอรีนได้แต่ถอนหายใจ ทั้ง ๆ ที่รู้ทุกอย่างอยู่เต็มอก แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ณ สวนหลังบ้านคฤหาสน์เพมเบอร์ตันดอกทิวลิปหลากสีบานสะพรั่งท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้า สวนทิวลิปทอดยาวไปจนสุดสายตาในพื้นที่จำนวน 1 ไร่ของบริเวณหลังบ้าน ดอกสีแดงสดของดอกทิวลิปตัดกับสีเหลืองสดใสขาวบริสุทธิ์ และชมพูอ่อน ทั้งหมดเรียงรายกันเป็นแถว กลิ่นหอมของดอกไม้ถูกลมพัดเบา ๆ นำพาความสดชื่นไปทั่วบริเวณ สวนดอกไม้แห่งนี้เป็นสวนดอกไม้ในฝันของโจลีนน้องสาวของเขา ทว่าน่าเสียดายที่น้องสาวของเขาไม่มีโอกาสได้เห็นสวนแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว“คุณโจชัวครับ คุณโจชัว!!”เสียงกึ่งวิ่งกึ่งตะโกนของชัชชัย ดังแว่วมาแต่ไกล ทำให้โจชัวที่ใช้กรรไกรตัดแต่งต้นไม้อยู่หยุดชะงักเพื่อรอฟังข่าวเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนจากก้มหน้า มายืนในท่าปกติ มือหนึ่งถอดถุงมือผ้าออกจากอีกข้าง ก่อนจะเปลี่ยนมาถอดอีกข้างหนึ่ง จากนั้นใช้หลังมือปาดเหงื่อเม็ดเล็กที่ซึมผุดออกมาจากใบหน้า แล้วรอฟังอย่างใจเย็นแฮ่ก แฮ่กเสียงหอบพร้อมกับเสียงสูดลมหายใจเข้าของชัชชัย ทำให้โจชัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มันเรื่องอะไรที่ทำให้ลูกน้องของเขาวิ่งหน้าตั้งมาขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว“ว่ามา”“ผู้หญิงคนนั้นฟื้นแล้วครับ”“บอกแ
3 ชั่วโมงผ่านไปบรืนน...เอี๊ยด...!เสียงรถคันหรูได้เคลื่อนเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์ของตระกูลเพมเบอร์ตัน ซึ่งโจชัวได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ต่างจังหวัด ที่ดินตรงนี้เป็นมรดกตกทอดมาหลายรุ่น มีพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ โดยส่วนใหญ่ ครอบครัวของเขาจะมารวมตัวกันทีนี้ปีละครั้ง เพื่อใช้พื้นที่ล่าสัตว์ป่า ทว่าในครั้งนี้มันต่างกันออกไป เขาไม่ได้มาล่าสัตว์ แต่มาเพื่อแก้แค้นคฤหาสน์ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงปกคลุมไปด้วยหมอกบาง ๆ ด้านซ้ายล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำขนาดใหญ่ ทางหลังบ้านปลูกดอกไม้เอาไว้ประมาณ 1 ไร่ เพราะโจลีนน้องสาวของเขานั้นชอบแม้ภายนอกจะดูหรูหรา ภายในคฤหาสน์นั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภายนอก โถงใหญ่มีเพดานสูงโอ่อ่าประดับด้วยโคมระย้า คริสตัลห้อยระยิบระยับ ผนังปูด้วยวอลเปเปอร์สีทองจาง ๆ พื้นที่ของคฤหาสน์นั้นดูกว้างขวางแต่กลับไม่มีใครอาศัยอยู่สักคน นอกจากคนสวนกับแม่บ้านประมาณ 10 กว่าคน แต่ทุกคนได้ไปอยู่เรือนคนใช้ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งกิโลเมตร“เชิญครับคุณโจชัว ภายในบ้านผมให้แม่บ้านทำความสะอาดและจัดห้องนอนไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ”ชัชชัยพูดพลางวิ่งไปเปิดประตูอีกฝั่งให้เจ้านาย พร้อมกับเอ่ยถามอีกครั้งว่า“
1 เดือนผ่านไปตึก ตึก !เสียงเท้าเล็กที่ใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงสูงขนาด 3 นิ้ว ก้าวเดินมาเป็นจังหวะเนิบตามเดินตามข้างถนน วันนี้เป็นวันที่เธอเหนื่อยมาก เนื่องจากการประชุมที่บริษัท เธอทำออกมาด้ไม่ดีพอ แถมยังต้องโดนผู้เป็นมารดาต่อว่ากลับมาอีก ดารินใช้ชีวิตเป็นไอด้ามาได้ 1 เดือนเต็ม ไม่เคยมีวันไหนที่เธอได้ใช้ชีวิตเป็นตัวเอง ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กก้าวขาเข้ามาในบ้านตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ ความอึดอึดมันเริ่มถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธออย่างไม่จบไม่สิ้น และดูเหมือนว่าวันนี้มันเลยขีดจำกัดของดารินแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินออกมาจากบริษัทของไอด้า ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งทว่าในใจรู้สึกเศร้าจนถึงขีดสุด เธอเดินมาเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางเดินมาตลอดเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว บรรยากาศโดยรอบแสงสว่างเริ่มเลือนหายไป ความมืดได้เริ่มคืบคลานเข้ามา จนกระทั่งฝนเริ่มลงเม็ดปรอย ๆ จากนั้นตกแรงขึ้นเรื่อย ๆซ่าส์ ซ่าส์ !เสียงฝนกระทบกับพื้นดิน เม็ดฝนใหญ่ ๆ สัมผัสกับใบหน้าเนียน นั่นทำให้ดารินเงยใบหน้าขึ้นมา สายตาเรียวกวาดมองไปรอบ ๆ พบว่าตัวเองเดินมาไกลจนไม่พบบ้านคนสักหลัง พื้นที่รอบ ๆ
ในห้องรับแขกของตระกูลไพศาลสกุลรัตน์ หลังจากที่คุณหญิงและไอรินออกไปแล้ว ดารินนั่งเงียบก้มหน้า ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้เธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมตั้งแต่วันแรกผู้เป็นแม่จึงดูเย็นชาและห่างเหินกับเธอเช่นนี้ ท่าทีของมารดาเหมือนละครหลังข่าวที่แม่เลี้ยงมักตั้งแง่ใส่ลูกเลี้ยง“คุณดารินคะ เดี๋ยวไปที่ห้องของคุณไอด้าเลยค่ะ” ทิพย์ เลขาส่วนตัวของบ้าน พูดขึ้น พร้อมส่งสัญญาณให้เจ้หยาดกับลูกน้องตามไปด้วย “ทำไมต้องไปที่ห้องของพี่ไอด้าด้วยล่ะคะ” ดารินถามด้วยความสงสัย เธอไม่อยากจะบุกรุกห้องของคนอื่น “นับจากนี้ ทิพย์จะเรียกคุณดารินว่า ‘คุณไอด้า’ นะคะ เพื่อให้คุณซึมซับความเป็นคุณไอด้าได้เร็วที่สุด คุณต้องเข้าไปอยู่ในห้องและดูวิถีชีวิตของเจ้าของห้อง จะได้ไม่มีข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของตระกูลค่ะ”ดารินพยักหน้าเบา ๆ “ค่ะ เรียกได้เลย เพราะชีวิตฉันไม่เคยเป็นของตัวเองอยู่แล้ว” เธอตัดพ้อ ก่อนก้าวเท้าไปยังห้องนอนของพี่สาว เมื่อมาถึงห้องสุดหรูของไอด้า ห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้า โทนสีเข้ม เฟอร์นิเจอร์เป็นระเบียบ เตียงคิงส์ไซส์ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง ห้องกว้
กริ้ง!เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งที่ประตูบ้านหรูหราสไตล์คลาสสิก หน้าบ้านมีเหล่าสาวประเภทสองที่รูปร่างกำยำแต่ใจเป็นหญิงสองคน และลูกน้องสาวอีกหกคนยืนเรียงกันเป็นแถว สีหน้าบ่งบอกถึงความตื่นเต้นและสงสัยในงานที่ได้รับ“เจ้ เรามาแต่งให้ใครกันเนี่ย ขนกันมาเยอะขนาดนี้ จ้างแต่งหน้ากี่คนกันนะ” เจน ลูกน้องคนสนิทของเจ้หยาดเอ่ยขึ้นเสียงเบา ดวงตาเป็นประกาย ตื่นเต้นเมื่อคิดถึงค่าจ้างที่ได้รับ ซึ่งมากกว่าทำงานทั้งเดือนเสียอีก “จุ๊ ๆ ฟังนะพวกเธอ ห้ามแพร่งพรายอะไรไปเด็ดขาด งานนี้มันความลับของตระกูลเขา ถ้าพูดมากระวังตายไม่มีศพนะ” เจ้หยาดบอกอย่างจริงจัง น้ำเสียงนิ่ง แต่ทว่ามีประกายความขบขันในแววตา แอบปรายตาไปทางลูลู่ เพื่อนซี้หุ้นส่วนร้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เอ้า! อีเจ้นี่หมายความว่าไง ว่าฉันปากหมางั้นเหรอ!!! แหม ยุ่งหน่อยก็ตายไม่มีศพเหมือนกันทั้งนั้นแหละ” ลูลู่รีบตอบพลางจีบปากจีบคอ หันมองเพื่อนรักแบบประชดประชัน “อ้าวอีลูลู่!”“ว่าไงล่ะ อีเจ้!”สองสาวประเภทสองเริ่มโต้เถียงกันเสียงดังอย่างที่ทำให้ลูกน้องพากันถอนหายใจไปตาม ๆ กัน ก็เรื่องปากนี่แหละที่ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้กันมาได้“เจ้ ๆ ค
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงลดา คุณหนูไอริน” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ดารินหันไปมอง นัยน์ตาสีน้ำผึ้งจ้องไปยังมารดาผู้ให้กำเนิด ความรู้สึกวูบไหวแล่นเข้ามาในใจเธอโดยไม่อาจห้าม คุณหญิงลดาเพียงปรายตามองลูกสาวที่พลัดพรากไปนานถึง 24 ปี ใบหน้าของดารินเหมือนกับไอด้า ลูกสาวคนโตแทบจะถอดแบบกันออกมา แต่สิ่งที่ต่างคือแววตา ไอด้ามีแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเด็ดเดี่ยว ผิดกับดารินที่แววตาดูอ่อนแอและไม่กล้าสู้ใคร“อ้าว คุณกลับมาแล้วหรือ มานั่งนี่สิ มานั่งใกล้ ๆ” เกรียงไกรส่งยิ้มพร้อมผายมือเชื้อเชิญภรรยาของเขาให้นั่งข้างดาริน “ผมดีใจจริงๆ ที่ครอบครัวเราได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง”“ไม่ล่ะ ฉันจะนั่งกับไอริน แค่เห็นหน้าก็พอแล้ว” น้ำเสียงเย็นชาของคุณหญิงลดาทำให้ดารินนั่งตัวแข็ง เธอพยายามบังคับใจให้สงบ แม้ลึก ๆ แล้วรู้สึกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้อาจไม่เป็นที่ต้องการ“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมนั่งข้างลูกเอง” เกรียงไกรยิ้มบาง พลางส่งสายตาปลอบใจดารินขณะนั่งลงข้างเธอ “วันนี้ผมให้แม่บ้านเตรียมอาหารเยอะแยะเลยนะ จะได้ฉลองที่เราได้ลูกกลับมา”“โอ้ย จะฉลองอะไรคุณ เวลานี้มันใช่เวลาฉลองไหม ไ







