“ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว เราออกไปกันเลยไหม เดี๋ยวสายแล้วแดดจะร้อน”
“อืมๆ เราไปกันเลย”
เขาเอ่ยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกนั้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีนัดกับหญิงสาว และนี่ไม่ใช่เวลาทำงาน
ใบหน้าหล่อคมที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอนั้นชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยอะไรออกมาได้ เมื่อเห็นว่าเธอนั้นสวยจนสะกดเขาได้อยู่หมัดไปเลยล่ะ
ปกติในทุกๆวันเธอก็ดูดีและตัวหอมอยู่แล้ว แต่ในวันนี้ยิ่งดูดีดูน่ารักมากขึ้นไปอีกและเหมือนจะเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมให้เขากับการแต่งตัวมาอีกด้วย
“วันนี้คุณขับรถเองเหรอ”
เขากับเธอเดินมาที่โรงจอดรถกัน โดยที่เธอไม่เห็นว่าจะมีคนขับรถเดินตามมาด้วยเลย ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย และก็แก้อาการเขินอายเล็กๆที่อยู่ดีๆมันก็เกิดขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลนั้น
“วันนี้เป็นวันหยุดของพี่เนตร ฉันก็เลยขับแทน”
คนขับรถของเขาจะหยุดงานทุกวันอาทิตย์ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีงานเข้ามาถึงจะมีการมาทำโอทีเพิ่มเติม
ในวันนี้เขาก็เลยต้องขับรถเอง และนั้นก็เป็นความต้องการของเขาด้วย เพราะเขาตั้งใจจะพาเธอไปเลี้ยงเป็นการขอโทษ มันก็ควรจะไปกันแค่สองคน
“คุณขับเป็นแน่นะ”
เธอมาอยู่กับเขาหลายวันแล้ว แต่ไม่เคยเห็นเขาขับรถไปไหนมาไหนเองเลย มีแต่ให้คนขับรถขับให้ตลอดเลย
“อืม ฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ ตอนนั่งก็ระวังเอาไว้บ้างก็ดี”
“นี่คุณ”
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวลไป แล้วเธอจะไปร้านไหนล่ะ”
เขาเอ่ยแกล้งเธอแต่พองาม แค่เรียกให้เธอมีน้ำเสียงตกใจออกมานิดหน่อย ส่วนเขาก็มีรอยยิ้มง่ายๆออกมาแค่นั้น ก็ไม่ได้แกล้งอะไรเธอต่อ
ด้วยเขาก็ขับรถเก่งพอตัว ปกติก็ขับไปไหนมาไหนเองได้ แต่มาช่วงระยะหลังๆเขางานเยอะขึ้นก็เลยจำเป็นต้องมีคนขับรถเพื่อให้เขามีเวลาพักผ่อนบนรถได้บ้าง แค่นั้นเอง
“ฉันขอโทรศัพท์หน่อยสิ เดี๋ยวจะกดจีพีเอสให้”
พอรถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากบ้าน หญิงสาวก็เอ่ยถึงสถานที่ที่เธอจะให้เขาพาไปในทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
และคาดเดาเอาได้เลยว่าเขาจะต้องไม่เคยไปแน่ๆ เพราะจากการที่เธอนั้นรู้เรื่องของเขาผ่านผู้ช่วยส่วนของเขาอย่างกล้าหาญ ทำให้เธอรู้ว่าเขานั้นแทบไม่เคยไปเที่ยวเลย ยกเว้นเสียแต่เดินทางไปเที่ยวด้วยทำงานด้วย คนอย่างเขาถึงจะยอมออกจากถ้ำของตัวเอง
“อ่ะ”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือส่งให้กับเธออย่างไม่รอช้า เพื่อที่จะได้วางแผนในการเดินทางว่าจะใช้เส้นทางไหน ก่อนที่รถจะถูกขับออกไปยังถนนเส้นหลัก
“คุณยังไม่ได้ปลดล็อก”
พราวลลิลหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปทางเขาเมื่อมันยังไม่ได้ถูกปลดล็อกให้พร้อมใช้งาน
“580622”
นนธิวรรธน์บอกรหัสผ่านของโทรศัพท์มือถือเขากับเธออย่างไม่ห่วง เพราะไม่คิดรับมาปลดล็อกด้วยตัวเองเมื่อเขาเป็นคนขับรถ
ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำในผิดกฎจราจร แต่การให้เธอปลดล็อกให้จะง่ายกว่าเขาจะลงมือทำเอง
“ให้ฉันกดเองเหรอ”
รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เขาบอกรหัสของสิ่งที่ควรจะหวงไว้ไม่ใช่เหรอ แต่กลับดันมาบอกเธอซะเสียงดังลั่นรถเลย เขาไม่กลัวเธอแอบดูความลับของเขาเหรอ
“อืม กดได้เลย”
“คุณไม่กลัวฉันจำรหัสได้ แล้วแอบดูโทรศัพท์ของคุณเหรอ”
“ฉันไม่มีความลับอะไร อยากจะหยิบไปเล่นก็ตามสบายเลย”
เขาไม่มีความลับอะไรกับโทรศัพท์มือถือที่จำเป็นจะต้องปิดบังกับเธอ เพราะถ้าเป็นข้อมูลการทำงานนั้นจะถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีที่บริษัทและก็ที่โน๊ตบุ๊คของเขา
ก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหวงโทรศัพท์มือถือนั้นกับเธอ เธออยากจะทำอะไรก็ได้ ตามสบายเลย
“เดี๋ยวสาวๆของคุณก็ว่าฉันเอาหรอก”
เธอกดโทรศัพท์มือถือที่เป็นรุ่นเดียวกับของเธอพอดีเลยทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกไปพลาง แล้วก็เอ่ยถามอะไรไปเรื่อยเปื่อยไปพลาง
“ก็ลองดูสิว่ามีไหม”
เขาเองก็ตอบซะทุกคำถามไปพลางขับรถไปพลางเหมือนกัน เมื่อเขาไม่มีความลับอะไรจริงๆ ยิ่งเรื่องผู้หญิงเขายิ่งไม่มีใหญ่เลย เพราะแค่เธอเขาก็ปวดหัวแทบทุกวันแล้วจะให้หาใครมาปวดหัวเพิ่มกันล่ะ
“อ่ะ เอาไป ฉันจะไปร้านนี้”
กว่าจะตั้งจีพีเอสเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่ว่าใช้โทรศัพท์มือถือไม่เป็นหรอกนะแต่เพราะว่า พราวลลิลกำลังใจสั่นไปกับคำพูดของเขา ที่มันเหมือนกันแสดงความบริสุทธิ์ใจอะไรกับเธอทำนองนั้น
“อืม”
เขารับโทรศัพท์มือถือกลับคืนมาในช่วงจังหวะที่รถกำลังติดไฟแดงพอดี เลยทำให้มีเวลาที่จะติดโทรศัพท์มือถือกับที่วางด้านหน้า
และก็หันมามองหน้าเธอเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจกับการขับรถต่อ แม้ว่ารถจะยังติดไฟแดงอยู่ก็ตาม
“ยิ้มอะไร”
หันมามองหน้าเธอแล้วก็หันกลับไปยิ้ม มันหมายความว่ายังไง ทำเอาเธอสงสัยจนต้องถามออกไป
“เธอหน้าแดง”
“รถคุณแอร์เสียหรือเปล่า ร้อนจะตายอยู่แล้ว”
ใจเธอสั่นๆหวั่นไหวอยู่เมื่อตะกี้ ไม่คิดเลยว่าจะทำให้หน้าแดงจนทำให้เขาเห็นเข้าจนได้
ทำเอาเธอนั้นต้องโวยวายเสียงดัง หาเรื่องกลบเกลื่อนก่อนที่ความลับมันจะแดงออกมาให้เขารู้
“เขินเหรอ”
แต่เหมือนเขาจะรู้ทันเธอเสียแล้ว กลับพูดคำที่เธอไม่อยากจะคิดถึงว่ามันเป็นอาการอะไรแบบนั้นออกมา
“เปล่า”
คนปากแข็งอย่างเธอถึงกับปฏิเสธเสียงสูงออกไป จะเขินหรือจะเป็นอะไรเธอก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น
กับแค่คำพูดของเขาไม่กี่คำ เธอก็แค่เสียอาการไปนิดหน่อย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นมาเองนั่นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก
“อืม”
เขาพยักหน้าเล็กน้อยราวกับเชื่อคำพูดของเธอ แต่ทว่ามุมปากก็ยังยกยิ้มอยู่ราวกับรู้ทัน
“ก็บอกว่าเปล่าไง แล้วก็ไม่ต้องมารายงานฉันด้วยว่าคุยกับใครหรือไม่คุยกับใคร ฉันไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอก”
พราวลลิลถึงกับยกมือขึ้นมาลูบที่หน้าอกเบาๆเมื่อหัวใจมันดันเต้นแรงขึ้นมาซะได้หนิ่ พยายามจะทำให้มันสงบแต่ก็ไม่สงบลงเลย
เธอก็เลยแกล้งโวยวายออกไป แต่ก็เหมือนจะทำให้เรื่องมันใหญ่โตออกไปอีก เมื่อดันโวยวายเป็นเรื่องที่ทำให้ใจหวั่นไหวออกไปซะได้
“แต่ก็บอกไปแล้ว เธอคงต้องบอกคืนมา เราจะได้หายกัน”
รถติดไฟแดงอีกรอบ ทำให้เขามีโอกาสหันมามองหน้าเธอให้ได้เต็มสองตาอีกครั้ง
มองดูด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่ได้หยอกล้อกับเธอจนเธอมีอาการเขินอายออกมานั่นแหละ มันช่างน่าตลกๆจริงๆเลย
“ฉันก็ไม่มีเหมือนกัน เฮ้ย ไม่อยากคุยด้วยแล้ว ตั้งใจขับรถไปเลย ฉันจะๆพักสายตาซะหน่อย ห้ามรบกวน”
คนตัวเล็กชิงหลับตาทำเหมือนกับว่าเธอนั้นหลับก่อนที่จะหลุดปากพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
ไว้เดินทางถึงที่หมายเมื่อไหร่ ค่อยพูดคุยกับเขาก็แล้วกัน
“อืม”
“ห้ามพยักหน้าแล้วทำหน้าซื่อสัตย์อะไรแบบนั้นด้วย”
แต่พอหลับตาไปแล้ว จิตใจเธอก็ยังไม่สงบอยู่ดี ภาพในหัวที่เห็นเขาทำตัวเหมือนแฟนคนหนึ่งที่มีความซื่อสัตย์กับผู้หญิงเอามากๆ ถึงกับบ่นพึมพำออกมา
“เธอว่าอะไรนะ”
คนตัวโตได้ยินเสียงคนตัวเล็กชัดเต็มสองหูด้วยภายในรถนั้นนอกจากเสียงเบาๆของเครื่องยนต์แล้วก็ไม่มีเสียงอะไรรบกวนเสียงสนทนาระหว่างเขากับเธอเลย จนทำให้แม้แต่เสียงเงียบๆเขาก็ได้ยิน
แต่ทว่าก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เมื่ออยากจะได้ยินคำแก้ตัวจากเธอ
“เปล๊า คนจะนอนอย่ามากวน”
“อืม”
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้