“ตามนั้นนะคะพี่เนตร”
ตกเย็นหลังจากที่การตรวจตราความคืบหน้าของการก่อสร้างโดยเจ้าของโรงงานตัวจริงเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว พราวลลิลก็รีบเดินออกจากตึกที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนั้นในทันที รีบร้อนถังกับไม่ถอดชุดเซฟตี้ออกด้วยซ้ำ ใส่ติดตัวมาขึ้นรถกลับทั้งแบบนั้น
และเธอก็จัดแจงสั่งคนขับรถของนนท์ธิวรรธน์ที่ในเวลานี้ยังถือว่าเป็นเจ้านายของเธออยู่ให้ไปส่งที่เธอที่ห้างสรรพสินค้าต่อ โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของรถแม้แต่คำเดียว
“ครับ”
คนขับรถรับคำสั่งอย่างไม่เถียงสักคำเพราะเขารู้จักผู้หญิงตรงหน้าในฐานะภรรยาของเจ้าของรถคันนี้ สำหรับเขาคุณผู้หญิงก็มีสิทธิ์สั่งงานเขาได้เหมือนกับเจ้านายนั่นแหละ
“จะแวะห้างเหรอ”
นนท์ธิวรรธน์เดินมาขึ้นรถหลังจากเธอด้วยเขานั้นติดพูดคุยอยู่กับผู้รับเหมา พอมาถึงรถก็พร้อมออกแล้วเขาก็เลยยังไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัว แต่ก็สนใจคนรอบตัวอยู่นะ พอเห็นว่าได้นั่งอย่างสบายเพื่อพักบนรถแล้วก็เลยไม่กวนประสาทกลับไป
แต่ทว่าพอรถเลี้ยวออกนอกเส้นทางมาสักพักเขาก็เริ่มสังเกตรอบๆตัว พอเห็นว่าจุดหมายเดียวของถนนเส้นนี้ที่จะพาไปถึงคือห้างสรรพสินค้า เขาเลยหันไปเอ่ยกับคนข้างๆ
“ใช่ ฉันมีของสำคัญที่ต้องซื้อ”
หญิงสาวพูดโผงออกมาเลยเมื่อได้ยินเขาตั้งคำถามกับคนขับรถ เมื่อเธอนั้นเป็นคนออกคำสั่งเอง เพราะมีธุระสำคัญจะต้องมาที่ห้างสรรพสินค้าในวันนี้ให้ได้
“เธอมีเงินแล้วเหรอ”
เขาถามเธอในขณะที่รถกำลังเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า เมื่อได้ยินว่าเธอต้องการมาซื้อของสำคัญ
ก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าเธอจะออกมาเที่ยวหลังเลิกงานบ้างเพราะทำแต่งานมาทั้งวันก็คงเครียดไม่น้อย
แต่นึกเป็นห่วงเห็นว่าเธอกำลังหมดตัวกลัวจะไม่มีเงินไปใช้จ่ายซื้อของสำคัญนั้น
“ยังไม่มี”
เธอตอบอย่างไม่อาย ด้วยมีเงินติดตัวอยู่ไม่ถึงหนึ่งพันบาทด้วยซ้ำไปแถมเงินเดือนก็ยังไม่ออก การที่จะมาซื้อของที่ห้างวันนี้ก็เพราะอารมณ์โกรธแค้นจนลืมคิดไปว่าเธอไม่มีเงินติดตัว
“แต่ก็อยากจะ..”
“เดี๋ยวฉันคงเดินขอใครได้สักคนในห้างนั้น”
แต่อีกเดี๋ยวพอไปเดินในที่ที่มาเดินประจำ เธอก็คงอาจเจอคนรู้จักบ้าน ก็อาจหยิบยืมเขามาได้บ้าง
“เอาไปใช้ก่อน”
เขาหยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วหยิบเอาบัตรเครดิตใบที่ใช้อยู่เป็นประจำออกมาก่อนจะยื่นให้กับเธอได้รับเอาไว้
มันเป็นบัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินที่เขามันหยิบออกมาใช้เวลาซื้อของเพราะมันสะดวกสบาย
“ขอบใจ”
รีบยื่นมือไปรับอย่างว่องไวไม่สนว่าก่อนหน้านี้จะโดนกลั่นแกล้งมามากแค่ไหน เธอสนแค่มีเงินเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก่อนแค่นั้น เพราะไหนๆก็มาถึงแล้วจะให้กลับไปมือเปล่าก็คงน่าเสียดายแย่เลย
“อ่ะ เดี๋ยวก่อน วงเงินของบัตรไม่เกินเงินเดือนของเธอ เข้าใจ๋”
“รู้หรอกนะ”
“อ่ะ แล้วรับของจากผู้ใหญ่เขาทำกันแบบนี้เหรอ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวหน้าบูดบึ้งเล็กน้อยเมื่อถูกสั่งให้ไหว้คนตรงหน้า แต่ถึงกระนั้นก็ยอมไหว้เขาแต่โดยดีและก็ฉีกยิ้มแบบไม่จริงใจเอาเสียเลยให้แถมไปอีกหนึ่งที
“หืม ห่างเหินเชียวนะ”
การกระทำอะไรแบบนั้น ทำเอาคนที่จะต้องเสียเงินถึงกับไม่พอใจขึ้นมา ยังคงถือบัตรเครดิตเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“กราบขอบพระคุณเจ้านายมากนะคะที่กรุณาอิฉันถึงเพียงนี้ รับรองว่าจะไม่ใช่เงินเกินตัวแน่นอนค่ะ”
หญิงสาวขยับตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยจนต้นขาของเธอไปชิดกับต้นขาของเขา โน้มตัวไปด้านหน้าเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ พนมมือขึ้นตรงกลางอกแล้วกราบลงบนอกของเขา
“อืม เอาไป”
คำขอบคุณของเธอทำเอาเขามือไม้อ่อนและใจเต้นแรง รีบยกบัตรให้กับเธอแล้วเป็นฝ่ายขยับถอยตัวห่างออกจากเล็กน้อย
สายตาที่เคยมองดูเธออยู่ตลอดตั้งแต่ขึ้นรถมาด้วยกัน จำต้องเสมองออกไปนอกรถเพื่อสงบใจตัวเองให้กลับมาเต้นปกติ
“เดี๋ยวฉันซื้อของเสร็จแล้วจะโทรหานะ”
พี่เนตรคนขับรถจอดรถส่งเธอที่หน้าห้างสรรพสินค้าก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไปที่ลานจอดรถ
เธอร่ำลาคนบนรถที่อยู่ดีๆก็นั่งคอแข็งเอาเสียดื้อเสร็จก็รีบลงจากรถในทันที พร้อมโบกไม้โบกมือลา
“อืม”
ส่วนเขาก็แค่พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะสั่งให้พี่เนตรคนขับรถขับไปส่งเขาที่ประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าอีกทางหนึ่ง เพื่อที่เขาจะลงไปเดินเล่นในห้างนั้นในระหว่างรอเธอซื้อของ
“อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง”
ใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้ากันราวๆสองชั่วโมง หญิงสาวก็โทรให้เขามารับเธอกลับบ้านได้ โดยที่ตัวเขานั้นก็เดินตามๆเธออยู่ในห้างนั่นแหละ แต่ทว่าก็แสร้งขึ้นรถมาก่อนเธอราวกับว่ารอเธออยู่ในรถไม่ได้ลงไปที่ไหนเลย
“อ่ะ”
พราวลลิลกลับขึ้นรถมากับข้าวของเพียงหนึ่งถุงเท่านั้นไม่ได้ซื้ออะไรมากมายเลยสักนิด เธอได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วทุกอย่างก็จบเท่านั้น ไม่มีการใช้จ่ายเงินสิ้นเปลือง นิสัยของเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
แล้วเธอก็รีบคืนบัตรเครดิตให้กับเขา ด้วยมันไม่ใช่ของเธอก็ไม่รู้จะเก็บติดตัวเอาไวทำไม
“ฝากเธอเก็บไว้ก่อน ฉันขี้เกียจเปิดกระเป๋า”
ในมือของเขาถือถุงขนมอยู่ไม่ว่างพอจะหยิบเอากระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเก็บบัตรเครดิตใส่กระเป๋าได้หรอก ฝากเธอเอาไว้ก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร ช่วงนี้เขาก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อะไร
“เดี๋ยวถึงบ้านจะรีบคืนให้นะ”
“พี่เนตรเดี๋ยวแวะร้านอาหารก่อนถึงบ้านด้วยนะครับ”
“ได้ครับคุณนนท์”
“จะเลี้ยงข้าวเย็นฉันเหรอ”
คนตัวเล็กพอได้ยินเขาสั่งกับคนขับรถแบบนั้นก็หูตาพองเพราะความดีใจขึ้นมาในทันที ท้องของเธอกำลังหิวเลยถ้าได้กินอะไรเข้าไปเร็วๆก็คงต้องดีมากๆแน่เลย
“เปล่า”
“เชอะ”
แต่แล้วคำตอบจากปากของเขาก็ทำเอาเธอต้องเมินหน้าหนี ยังไงก็ต้องแวะไปกินข้าวด้วยกันอยู่แล้ว ยังมาปฏิเสธอีกว่าจะไม่เลี้ยง
“กินหน่อยไหม”
แล้วเขาก็ยื่นขนมเข้ามาง้อเธอถึงตรงหน้า เป็นขนมเอแคลร์ชิ้นกำลังพอดีคำที่ภายในเต็มไปด้วยครีม
“อืม ก็น่ากินดีนะ”
รับเอาขนมมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว เมื่อท้องมันร้องบอกว่าหิวไม่ควรจะหยิ่งกับเขาให้นาน ไม่อย่างนั้นอาจอดตายได้
“ห้างใกล้ปิดแล้ว ก็เลยมีของลดราคาหลายอย่าง”
“นี่คุณ”
“อันนี้ฉันจะไม่หักจากเงินเดือนก็แล้วกัน”
“จะไม่กินว่างั้น”
เขาเห็นว่าเธอถือขนมเอาไว้นานแล้วแต่ไม่ยอมกิน เขาก็เลยจะหยิบคืนกลับมาไว้ในกล่องตามเดิม
“เห็นคุณมีน้ำใจหรอกนะ ฉันก็จะพยายามกินให้ก็แล้วกัน”
เธอกินไปแล้วหนึ่งชิ้นก็ไปหยิบกินอีกหนึ่งชิ้น และพอเห็นว่าเขานั้นกินด้วย แต่ขนมมีแค่ไม่กี่ชิ้นเอง
“แคร่กๆ”
คนตัวเล็กก็เลยหยิบมาอีกหนึ่งชิ้นเพื่อยัดเข้าปากโดยที่ยังเคี้ยวชิ้นก่อนหน้านี้ไม่หมดเลยด้วยซ้ำ
เสียงกระแอมไอดังขึ้นในทันทีเพราะความรีบร้อนที่จะกินจนเคี้ยวไม่ทันจนเกิดการสำลักขึ้นมา
“นี่น้ำ ไหวไหม ทำไมไม่ค่อยๆกินล่ะ”
“แคร่กๆ ก็มันอร่อยอ่ะ”
“หึ”
นนท์ธิวรรธน์ถึงกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนหน้านี้ทำท่าแทบไม่อยากกินแต่พอตอนนี้ดันบอกว่าอร่อย
นี่ถ้าเธอเป็นเด็กเล็กๆเขาคงได้จับเธอตีก้นสักทีสองทีให้หายดื้อกันไปเลย
“แล้วนี่ถ้าคุณกินหมดฉันก็อดกินนะสิ”
“กินแค่รองท้องก็พอ เดี๋ยวถึงร้านอาหารก็ค่อยกินให้อิ่ม ไม่ต้องรีบหรอก”
“คุณไม่หิว คุณไม่รู้หรอก”
“หน้าตาเลอะเป็นลูกแมวหมดแล้ว”
ถกเถียงเขายังไม่พอยังกินน้ำตามเข้าไปอีกทั้งที่ยังมีขนมในปาก คราวนี้ทั้งน้ำทั้งขนมติดเต็มหน้าหญิงสาวเต็มไปหมด
ทำเอาเขาที่เห็นเธอในสภาพนี้เพียงคนเดียวถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว เผลอยิ้มออกมาด้วยความตลกขบขัน
คนสวยที่ไม่เคยห่วงสวยเลยจริงๆ ทำอะไรค้านกับหน้าตาได้ตลอดทุกงานเลย
“ก็คุณนั่นแหละแย่งกินทำไมล่ะ”
พอเขาบอกว่าใบหน้าของเธอเลอะเทอะ มือบางๆก็พยายามจะเช็ดเองทั้งที่มือนั้นเลอะขนม
“นั่งเฉยๆ เดี๋ยวเช็ดให้”
สภาพของเธอเริ่มแย่ เขาก็เลยรีบหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ามาเช็ดให้
“อื้อ ขอกินก่อน”
พราวลลิลยอมนั่งอยู่เฉยๆซะที่ไหนกัน เธอยังคงป้อนขนมใส่ปากตัวเองไม่เลิกทั้งที่มีเขาพยายามเช็ดหน้าให้อยู่
ก็เธอบอกแล้วว่าเธอหิว จะให้มาหยุดกินในขณะที่ยังกินไม่อิ่มแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะ ยังไงก็ต้องกินให้อิ่มเอาไว้ก่อน
“ลูกแมวจริงๆเลย”
คนตัวโตทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆไปมา ครั้นจะดุเธอก็คงไม่ได้เพราะเด็กกำลังหิวจะให้ขัดใจได้ยังไง
เขาก็เลยต้องพยายามเช็ดหน้าให้เธอและปล่อยให้เธอกินไปด้วย จนใบหน้านั้นกลับมาดูดีดั้งเดิม
และรถก็จอดที่หน้าร้านอาหารพอดิบพอดีเลย เขากับเธอก็เลยรีบพากันลงจากรถเพื่อกินอาหารเย็นนอกบ้านด้วยกันหลังจากทำงานหนักกันมาทั้งวัน
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้