เพราะได้แต่แอบมองอยู่ห่าง ๆ จึงช้ากว่าหนุ่มเพลย์บอยคนอื่นที่เข้ามาตีสนิทสองสาว ลี่คุนกับวศินได้แต่หันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา
“ไม่ทันละ” วศินยักไหล่
“กูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะจีบ กูไม่ยุ่งอยู่แล้ว ผู้หญิงชุดดำคนนั้น คงเป็นเพื่อนกับคนในบริษัทกู คนอื่นจะเอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ ได้”
“แต่ถ้ามึงจีบติด มึงจะได้หาข้ออ้างกับน้องเหม่ยหลินไง ว่ามึงมีแฟนแล้ว เธอจะได้เลิกมาตามตื้อมึงไง ไม่ดีเหรอ”
ลี่คุนได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ แต่ก็หันไปลอบมองสาวสวยในชุดดำ ที่เมื่อครู่เธอยอมรับแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากชายหนุ่มแปลกหน้ามาดื่ม ดูท่าเธอจะไม่ระวังตัวเอาเสียเลยที่ยอมดื่มแอลกอฮอล์แก้วนั้น
ไม่ช้า มารีอาก็สำลัก เพราะเธอเองก็ไม่คุ้นเคยกับแอลกอฮอล์สักเท่าไร
ท่าทางที่ไม่ประสีประสาของมารีอาทำให้ลี่คุนไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย ก่อนหน้านี้ยังมองเธอเป็นเหมือนพญาหงส์ พอเธอดื่มเข้าไปเท่านั้นแหละ เธอกลับเหมือนลูกนกหงส์หยกตัวเล็ก ๆ แทน ลี่คุนแอบยิ้มมุมปากไม่รู้ตัว ไม่รู้ทำไมตั้งแต่เจอเธอก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลย
แต่ถึงกระนั้น มันก็แค่เป็นการประทับใจเล็ก ๆ เขาไม่ได้คิดจะไปจีบหรือทำความรู้จักเธอ อย่างที่บอกเขาเห็นว่าสาวชุดแดงเพื่อนของเธอที่มาด้วย เป็นพนักงานในบริษัทของเขา
กว่าลี่คุนจะละความสนใจจากสาวสวยในสเปคของเขา หันมาคุยเล่นเรื่องทั่วไปกับวศินต่อ ในครู่ใหญ่ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากชายหนุ่มอีกคนที่เข้ากระชากแขนเพื่อนของเธอ
“แอนนี่ ไอ้หนุ่มสองคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณกับเพื่อนมาดื่มกับพวกมัน”
ที่แท้ชายหนุ่มที่ว่านี้ คือหนุ่มไฮโซเจ้าของโรงงานที่ตามจีบแอนนี่ และเขาเป็นคนให้การ์ดสมาชิกวีไอพีของคลับเฮาส์ที่นี่กับเธอ
“ใจเย็นสิคะคุณเจมส์ แอนนี่ก็แค่พาเพื่อนมาเที่ยว แล้วคุณสองคนนี้ก็แค่ผ่านมาทักทายธรรมดา ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” แอนนี่แก้ตัวพลางพยายามแกะมือของเจมส์ที่จับข้อมือเธอไว้แน่น
แต่ทว่าเจมส์กลับหันไปเอาเรื่องสองคนนั้นต่อ
“พวกมึงสองคนรู้ไหม ว่าแอนนี่เด็กใคร” เขาตวาด
“เฮ้ย มึงอย่ารุนแรงกับผู้หญิงสิวะ กูสองคนก็แค่ชวนคุยธรรมดา”
“ธรรมดาเหี้ยอะไร นี่มันมอมเหล้ากันชัด ๆ” เจมส์หันไปมองมารีอาที่นั่งมึนหน้าแดงก่ำอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่เธอจะยกมือปิดปากเพราะรู้สึกอยากอ้วก
“อุ๊บ”
ทุกคนหน้าเหวอเพราะกลัวเธอจะอ้วกใส่พวกเขา สองหนุ่มนักล่าสาวราตรีรีบขอแยกตัวทันทีก่อนที่มารีอาจจะอ้วกใส่ และก่อนที่จะมีเรื่องกับแฟนของแอนนี่ แม้พวกเขาจะเป็นนักล่าสาวเก็บแต้มก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ประเภทแย่งพวกมีเจ้าของ เพราะไม่ชอบปัญหายุ่งยากแบบนี้
“ไหวไหมแก” แอนนี่รีบถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อกี้ก็ไม่ได้ห้ามเพื่อน เห็นมารีอาเครียด ๆ กำลังคุยสนุกเลยอยากให้เพื่อนได้ปลดปล่อยและระบายความเครียดออกมา
“ไหว ๆ อุบบ” มารีอาตอบ พลางยกมือขึ้นว่าไม่เป็นไร แม้จะกลั้นความรู้สึกอยากจะอ้วกไว้เต็มที
เจมส์เห็นว่าที่นี่เสียงค่อนข้างดัง เขาจึงคว้าแขนแอนนี่ เพื่อออกไปเคลียร์ข้างนอกต่อ
“เดี๋ยวมานะมาร์ แกห้ามไปไหนนะ รอฉันตรงนี้”
มารีอาพยักหน้าหงึก ๆ แต่ยังคงยกมือปิดปากเอาไว้แน่น พอเพื่อนรักพ้นสายตาไม่ทันไร มารีอาก็มองหาห้องน้ำ ก่อนจะรีบลุกโซซัดโซเซ เพื่อจะไปอ้วกที่ห้องน้ำ
แปลกที่เธอไม่รู้สึกแค่อยากอ้วก แต่ยังรู้สึกมึนหัวและร้อนรุ่มแปลก ๆ มารีอาเพิ่งรับรู้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมาเป็นแบบนี้นี่เอง
~แค่อกหักไม่น่าประชดตัวเองแบบนี้เลย~
มารีได้แต่บ่นกับตัวเองว่าไม่ดื่ม แต่ถึงแม้เธอจะคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเธอรู้สึกเมาจนมึนหัวไปหมด ก่อนหน้าที่สองหนุ่มแปลกหน้ามาที่โต๊ะ เธอเองอยากโชว์พาวว่าไม่ได้อ่อนหัด จึงซัดเหล้าไปเสียเยอะ
มารีอาเดินเซไปมาเพื่อตรงไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งทางผ่านไปห้องน้ำจากโต๊ะเธอ ต้องเดินผ่านตรงที่ลี่คุนกับวศินนั่งอยู่
ด้วยสายตาที่จู่ ๆ ก็พร่าเบลอ มารีอาจึงรู้ว่าคอนแทกต์เลนส์ที่เธอเพิ่งหัดสวมใส่ไม่ชินตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง เธอรีบขยี้ตาทันที แต่ทว่าจากที่หล่นหายไปข้าง พอขยี้ตามั่ว ๆ ทั้งสองข้าง จนเดินเซไปชนกับเก้าอี้ของลี่คุนที่นั่งอยู่ คอนแทกต์เลนส์อีกข้างเธอก็หลุดออกไปพอดี
“ว้ายย” มารีอาร้องลั่น
“คะ คุณอย่าเพิ่งขยับนะ คอนแทกต์เลนส์ฉันหลุด” ในสายตาที่พร่าเบลอ แถมอยู่ในที่ไฟสลัว เธอแทบไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มที่เธอกำลังเอามือไปลูบคลำตามเสื้อผ้าเขาเพื่อหาคอนแทกต์เลนส์ คือท่านประธานลี่คุน เจ้าของบริษัทเธอ
ส่วนลี่คุนไม่ต้องพูดถึง เขาจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเธอคือสาวฝ่ายบัญชีบริหารที่เพิ่งเจอเธอตอนหัวค่ำ
สองมือมารีอายังคงควานหาคอนแทกต์เลนส์ ซึ่งความเป็นไปได้แทบจะเป็นศูนย์อยู่แล้วที่จะหาเจอในที่มืดแบบนี้
ลี่คุนได้แต่มองหน้าวศินที่แอบหัวเราะเขาอยู่ห่าง ๆ ที่จู่ ๆ ลี่คุน เหมือนโดนสาวรุกเข้ามาหาแบบนี้ จนเขาทำตัวไม่ถูก มารีอายังคงเอามือควานหาตามตัวลี่คุนไม่เลิก แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเวียนหัวและอยากอาเจียนมากขึ้น
“อุ๊บ”
พรวดดดดดดด
“เชี่ยละ” วศินอุทาน
เต็ม ๆ บนอกเสื้อเชิ้ตสีดำของลี่คุน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบอ้วกของมารีอา พร้อมกับร่างของเธอที่ร่วงหลับไปนอนซบอยู่ตรงหว่างขาของเขา
“เฮ้ยยยยยย”
สองหนุ่มอุทานแทบพร้อมกัน
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว