Share

ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ
ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ
Author: เซี่ยหมิงจู

บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย

last update Last Updated: 2025-04-30 07:09:35

14 เมษายน 2025 เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โรงพยาบาลประชาชนแห่งแรกภายในห้องผู้ป่วยสีขาวสะอาดตา มีหญิงชราที่มีใบหน้าเหนื่อยล้านอนอยู่บนเตียงนิ้วมือที่เหี่ยวๆ ลูบรูปถ่ายขาวดำเก่าๆ ที่ขาดรุ่งริ่งจะเห็นได้ว่าเธอดูและสัมผัสรูปภาพนี้นับครั้งไม่ถ้วนภาพถ่ายที่มีชายและหญิงนั่งเคียงข้างกัน

หลินมู่อิงยังจำได้ว่ารูปนี้ถ่ายเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 1984 ผู้หญิงในรูปอายุ 25 ปี และผู้ชายอายุ 30 ปี รูปนี้ถ่ายไว้ตอนไปขอใบทะเบียนสมรส ผู้ชายในรูปมีใบหน้าหล่อเหลาและเป็นคนอบอุ่นมาก แต่ชีวิตของเขาช่างแสนสั้น เขาจากเธอไปในช่วงฤดูหนาวปี 1987ส่วนใบหน้าของผู้หญิงกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและมีความสุข

“โจวอี้หมิง ดูเหมือนว่าฉันจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วสามสิบเจ็ดปี สามสิบเจ็ดปีที่ไม่มีคุณ ฉันได้พยายามอย่างหนักเพื่อจะใช้ชีวิตอย่างดีฉันได้ช่วยชีวิตคนมาแล้วเป็นหมื่นๆ คน แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ช่วยคุณเลยฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน มากเหลือเกิน เหลือเกิน...”

ดวงตาของหญิงชราที่ยังแจ่มใสอยู่ กลับพร่ามัวลงอย่างกะทันหันเนื่องมาจากน้ำตาที่ไหลรินออกมเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจหาสัญญาณชีพก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติในที่สุด

“ศาสตราจารย์หลิน!”

ในขณะนี้ ทุกคนในห้องผู้ป่วยต่างตกอยู่ในความโศกเศร้าอย่างรุนแรง ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ของชาติ อัจฉริยะด้านการแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้หมดลมหายใจไปอย่างสิ้นเชิงในขณะนี้

...

“หลินมู่อิง! ฉันกำลังพูดกับเธออยู่ เธอได้ยินไหม ถ้าเธอไม่ยอมไปชนบทแทนพี่ชาย ฉันจะให้เธอแต่งงานทันที ฉันหาสามีเอาไว้ให้เธอแล้ว มีคนหนึ่งในมณฑลถัดไปที่ยินดีจะจ่ายสินสอด 200 หยวนและกำลังรอที่จะแต่งงานกับเธออยู่ ถึงเขาจะมีลูกสองคนแล้ว แม้ว่าขาและเท้าของเขาจะไม่คล่องแคล่วมากนัก แต่เขาก็เป็นคนซื่อสัตย์และมีศีลธรรมที่สำคัญเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอใสนตอนนี้”

สินสอดสองร้อยหยวน ในปีพ.ศ.2519 นั้นถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พ่อม่ายที่มีลูกติดถึงสองคนและผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนพิการ ถ้าหากว่าหลินมู่อิงไม่ใช่คนที่หน้าตาสวยและอายุน้อยแบบนี้ เขายังจะยินดีจ่ายเงินสินสอด 200 หยวนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากหลินมู่อิงไม่ยอมไปชนบทแทนจางจิ้งผิงเกรงว่าซูเนี่ยนเจินคงจะขายเธอให้กับพ่อหม้ายในราคา200 หยวนเมื่อหลินมู่อิงได้ยินเสียงแหลมๆของซูเนี่ยนเจินที่ดังข้างๆเธอ จิตสำนึกของหลินมู่อิงที่ยังไม่ชัดเจนนักก็ค่อยๆกลับมาชัดเจนอีกครั้งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นห้องเล็ก ๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบง่าย ผนังที่เดิมปกคลุมไปด้วยหนังสือพิมพ์เก่าๆ จนกลายเป็นสีเหลืองเข้มตามกาลเวลา

ในเวลานี้ หลินมู่อิงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เล็กๆ ที่พิงอยู่กับผนัง ในขณะที่ ซุเนี่บยนเจินกำลังชี้นิ้วไปที่เธอ และด่าทอสาปแช่งเสียงดังจนหลินมู่อิงรู้สึกรำคาญ หลินตงพ่อของหลินมู่อิงกำลังนั่งดูดบุหรี่อยู่ข้างโต๊ะรับประทานอาหาร โดยไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย  มีกาน้ำชาเก่าๆวางอยู่บนโต๊ะไม้ ข้างในเต็มไปด้วยใบชาราคาถูกและมีไอน้ำกำลังพวยพุ่งออกมา บนปฏิทินใกล้ประตูระบุว่าเป็น ปี 1976 สีแดงอันสะดุดตาได้กระตุ้นหัวใจของหลอนมู่อิง ทันมใดนั้นความทรงจำเก่าๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอทันที

“นี่ฉัน…เกิดใหม่อีกแล้วใช่ไหม? กลับไปในยุคปี 1976 ที่ผู้คนถูกบังคับให้ออกไปอยู่ชนบทในชีวิตก่อนของเธอ แม่ของหลินมู่อิงเสียชีวิตเมื่อเธออายุได้ 8 ขวบ เธอจำได้ว่าเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และน้ำในแม่น้ำที่เย็นยะเยือกได้กลืนกินชีวิตของแม่ของเธอไป ในปีนั้นเธอได้กลายเป็นเด็กกำพร้าแม่ สองเดือนต่อมา พ่อของเธอก็แต่งงานกับซูเนี่ยนเจิน

ซูเนี่ยนเจินเป็นหญิงม่ายจากหมู่บ้านเดียวกันและมีลูกชายชื่อจางจิงผิงซึ่งอายุมากกว่าเธอหนึ่งปี ต่อมาซูเนี่ยนเจินให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวให้พ่อของเธอ ต่อหน้าคนนอก ซูเนี่ยนเจินทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาหน้าตาของเธอ เพื่อไม่ให้ใครล่วงรู้ในสิ่งที่นางปฏิบัติต่อหลินมู่อิง

ที่บ้าน หลินมู่อิงมักจะถูกเธอปฏิบัติเหมือนคนรับใช้และถูกเธอทุบตีอยู่เสมอ หากหลินมู่อิงทำอะไรบางอย่างที่ซูเนี่ยนเจินไม่พอใจ เธอจะทุบตีหลินมู่อิงอย่างโหดเหี้ยม แต่ซูเนี่ยนเจินนั้นเป็นคนฉลาดมาก เธอลงมือทุบตีหลินมูอิงในที่ที่สามารถปกปิดได้ด้วยเสื้อผ้า และหลินมู่อิงนั้นเกินกว่าจะบอกคนอื่น

เธออดทนกับเรื่องนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งปี1976 เมื่อซูเนี่ยนเจินบังคับหัเธอไปที่ชนบทแทนลูกชายของเธอ พี่ชายที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน พี่ชายที่เป็นลูกติดแม่เลี้ยงอย่างวูเนี่ยนเจินมา  หลินมู่อิงเริ่มทำงานในโรงงานเสื้อผ้าตั้งแต่อายุสิบหกปี โดยได้รับค่าจ้างเดือนละยี่สิบหยวน ตราบใดที่คนหนุ่มสาวมีงานประจำอย่างเป็นทางการ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปชนบท

เนื่องจากน้องชายและน้องสาวของเขายังเด็กอยู่ ภารกิจในการไปชนบทจึงตกอยู่ที่จางจิ้งผิง ในวันปกติเขาไม่มีงานทำและอยู่ว่างงานตลอดทั้งวัน แบบนี้แล้วเขาจะยอมไปทำงานหนักในชนบทได้อย่างไรกัน?

ดังนั้น ซูเนี่ยนเจิน จึงบังคับให้หลินมู่อิง ไปที่ชนบทแทนจางจิ้งผิงและด้วยวิธีนี้ งานของหลินมู่อิงในโรงงานเสื้อผ้าจึงสามารถขายเป็นเงินได้ ต้องบอกว่าแม่เลี้ยงของเธอเก่งเรื่องการคำนวณมาก ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลินมู่อิง ตกลงที่จะไปชนบทเพื่อหลีกเลี่ยงการแต่งงานกับผู้ชายหย่าร้างที่มีขาพิการ โชคดีที่เธอฉลาดพอที่จะขายงานของเธอที่โรงงานเสื้อผ้าก่อนที่จะลาออก

เธอขายมันไปในราคา 200 หยวน แล้วออกเดินทางไปยังชนบทพร้อมกับเงินและตั๋วไม่กี่ใบที่เก็บสะสมจากการประหยัดเมื่อก่อน หากประหยัดเงินได้200หยวน ก็จะสามีรถใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากมากนักในชนบท

ขณะที่หลินมู่อิง ทำงานแลกแต้มคะแนนอยู่ในชนบท ก็มีข่าวการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง

ด้วยความพยายามของตนเองและรากฐานการเรียนรู้ในอดีต หลินมู่อิงสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ในที่สุดในตอนที่เธอกลับเข้าเมืองเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แม่เลี้ยงอย่างซูเนี่ยนเจินก็บีบบังคับให้หลินมู่อิงมอบจดหมายตอบรับการเข้ามหาวิทยาลัยให้กับลูกชายของเธอ เมื่อหลินมู่อิงไม่ยอม แม่เลี้ยงจึงได้วางยาเธอ จากนั้นก็ส่งเธอให้กับพวกค้ามนุษย์

ปรากฏว่าคนที่ซื้อเธอไปมีอาการทางจิต เขาชอบทรมานเด็กสาวโดยการเฆี่ยนตีจนทำให้หลินมู่อิงมีรอยแผลเป็นทั้งตัว เมื่อเธอสามารถหลบหนีออกมาได้แต่ทว่ากลับไม่สามารถหนีพ้นแม่เลี้ยงของเธอได้ ซูเนี่ยนเจินถึงกับให้พวกอันธพาล100 หยวนเพื่อให้พวกนักเลงจับหลินมู่อิงไปขังเอาไว้และอย่าให้หลุดออกมาได้อีก เพื่อที่จะให้ลูกชายของเธอสามารถไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยได้อย่างราบรื่น

หลินมู่อิงถูกพวกอันธพาลขังไว้ในห้องเก็บของที่มืดมิด เธอต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจจากพวกอันธพาลทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อคนร้ายถูกจับได้ว่าก่ออาชญากรรม เธอก็หนีออกจากสถานที่อันมืดมิด สกปรก และน่าขยะแขยงแห่งนั้นได้ จากนั้นฉันก็ได้พบกับ โขวอี้หมิง อีกครั้ง ผู้ชายคนเดียวในหมู่บ้านหลี่เจียที่เคยมอบความอบอุ่นให้กับเธอในขณะที่เธออยู่ชนบท

แต่ในเวลานั้น หลินมู่อิงสูญเสียความหวังในชีวิตไปแล้ว ร่างกายและจิตใจของเธอพังทลายจนไม่อาจจดจำได้ เธอไม่ต้องการที่จะยอมรับใครอีกแล้ว แม้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้ถูกละเมิด แต่เธอกลับ... รู้สึกขยะแขยงเมื่อเห็นผู้ชาย

เป็นเวลาสองปีที่ โจวอี้หมิง ดูแลหลินมู่อิง และทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้เธอหายดีกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง มันทำให้เธอเริ่มยอมรับทุกสิ่งรอบตัวและจุดประกายความหวังในการมีชีวิตอยู่ของเธอขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานั้น โจวอี้หมิงเปรียบเสมือนแสงสว่างที่พร่างพราย คอยส่องสว่างให้กับโลกที่มืดมิด และสิ้นหวังของเธอ

ในปี 1984 โจวอี้หมิงขอเธิแต่งงานไม่ใช่ว่าเธอไม่ยินดีแต่งงานกับเขา แต่กลัวว่าเธอจะเป็นตัวถ่วงที่จะฉุดรั้ง โจวอี้หมิง เช่นกัน เนื่องจากเขาประสบความสำเร็จในอาชีพการงานแล้วในเวลานั้น  โจวอี้หมิง วัย 30 ปีดูเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง การกรนะทำทุกอย่างของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยและเหมาะสม

หลินมู่อิงซึ่งเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จะเป็นคนที่คู่ควรกับเขาได้อย่างไร? จนในที่สุดเขาบอกว่าเขาตกหลุมรักเธออย่างลึกซึ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอเขาได้รอคอยเธอมานาน

เมื่อมองไปที่ดวงตาของโจวอี้หมิงที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเธอ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาเธอจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของโจวอี้หมิงและตกลงแต่งงานกับเขา ช่วงเวลาหลังแต่งงานเป็นวันที่มีความสุข มั่นคงที่สุด และสนุกสนานที่สุดในชีวิตของหลินมู่อิง

แต่ทว่าน่าเสียดายที่เชือกป่านมักจะขาดตรงส่วนที่บางที่สุดเสมอ และความโชคร้ายมักจะมีมากกกว่าความโชคดีในชีวิตของหลินมู่อิง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 2 ข้อตกลง

    หลังจากใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขได้เพียง 3 ปี โจวอี้หมิง ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย การแพทย์ในสมัยนั้นยังไม่ดีเท่าสมัย หลังจากตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเขาก็ไม่ไดบอกให้เธอรู้เขาปกปิดอาการป่วยของตัวเองเอาไว้ในทางกลับกัน เขากลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาเงิน โดยตั้งใจที่จะให้หลินมู่อิงมีชีวิตที่มั่นคงและรุ่งเรืองหลังจากที่เขาเสียชีวิต เมื่อเธอพบว่าเขาป่วย มันก็สายเกินไปแล้ว เขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่ได้นานนัก บนเตียงในโรงพยาบาลโจวอี้หมิง จับมือหลินมู่อิงเอาไว้แน่นเขาพูดสั่งเสียเป็นเวลานานและพูดหลายๆ อย่างหลินมู่อิงรู้ว่าโจวอี้หมิงรักเธอมากเสมอ เธอทำผิดพลาดหลายสิ่งหลายอย่างและทำให้เขาผิดหวังหลายต่อหลายครั้ง เธอต้องการเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อรักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอและทำให้เขามีความสุข สนุกสนาน และผ่อนคลาย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้วหลินมู่อิงต้องการที่จะตายพร้อมกับผู้ชายของเธอหลังจากที่เขาเสียชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถสัญญาได้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและแก่ไปด้วยกัน ถ้าได้ตายด้วยกันก็คงจะดี อย่างน้อยที่สุดบนเส้นทางสู่โลกใ

    Last Updated : 2025-04-30
  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 3 ตัดขาดจากตะกูลหลิน

    ถึงอย่างไรก็ตามหลินตง เขาก็คือพ่อแท้ๆ ของหลินมู่อิง เมื่อเขาได้ยินลูกสาวพูดคำเหล่านี้ทีละคำและเห็นรอยแผลเป็นบนร่างกายของเธอ เขาก็รู้สึกใจสลายเล็กน้อย เมื่อเขามองดูภรรยาของเขาอีกครั้ง ดวงตาของเขากลับดูไม่เป็นมิตรนัก“คุณมักจะปฏิบัติต่อมู่อิงอย่างรุนแรง และผมก็มักจะมองข้ามเรื่องนี้ไป โดยคิดว่าความสามัคคีในครอบครัวคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่ครั้งนี้คุณกลับลงมือหนักเกินไป”เมื่อซูเนี่ยนเจินได้ยินหลินตงพูดเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำเป็นดูเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำเดือด และเสียงของเขาก็สูงขึ้นอีกเล็กน้อย“ยังไงหญิงสาวที่ไร้ค่าก็ต้องส่งไปอยู่ชนบท ลูกสาวก็เสียเงินเปล่าๆ คุณยังต้องพึ่งพาลูกชายเลี้ยงตัวเองตอนแก่อีก คุณได้เฝ้าดูจิ้งผิงเติบโตขึ้น เขาไม่อาจทนกับความยากลำบากที่ต้องเดินทางไปชนบทได้จริงๆ!ในฐานะพ่อ คุณควรจะสั่งให้เธอรีบไปที่ชนบท” ซูเนี่ยนเจินยืนกอดอกพูดด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมากหลินตงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ ในเวลานี้ หลินมู่อิงยืนอยู่ไม่ไกลจากพ่อของเธอ ราวกับว่าเธอกำลังมองคนแปลกหน้า หลินตงหยิบไปป์ขึ้นมา เติมยาเส้นใหม่ แล้วจุดไฟ เขาสูดควั

    Last Updated : 2025-04-30
  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 4 การปรากฏตัวของมิติ

    หลินมู่อิงไม่ได้มองย้อนกลับไปที่หลินตงเธออยากออกไปจากที่นี่เต็มที ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังคำโบราณกล่าวเอาไว้ว่าการมีแม่เลี้ยงพ่อแท้ๆก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยงด้วยเช่นกันและสิ่งที่เธอพบเจอมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กสามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี“มู่อิง คราวหน้าเธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ ฉันล้มเหลวในการเป็นพ่อ...”หลินตงลุกขึ้นและอยากจะเดินไปหาหลินมู่อิง แต่ขาของเขากลับรู้สึกหนักอึ้งจนไม่สามารถที่จะขยับได้ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ถึงแม้ว่าหลินตงจะรู้สึกละอายใจอยู่บ้างแต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเขาทำได้แค่ทำใจยอมรับและบอกให้ลูกสาวดูแลตัวเองให้ดีเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้“ฉันเข้าใจแล้ว และมันคงจะดีกว่าที่ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องห่วงถึงแม้ว่าฉันจะลำบากฉันก็จะไม่กลับมาหาพวกคุณนับตั้งแต่วันนี้พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก”หลินมู่อิง ตอบกลับหลินตงโดยไม่มีคำว่า พ่อหลุดออกจากปากของเธอแม้แต่คำเดียว และเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง หลินมู่อิงไม่ได้กลับไปที่ห้องเล็ก ๆ คับแคบของเธอ ที่นั่นคือที่ที่ตระกูลหลินใช้เก็บข้าวของต่า

    Last Updated : 2025-05-01
  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 5 เตรียมตัวออกเดินทาง

    ชีวิตในชาติก่อนเธออุทิศตนให้กับการศึกษาแพทย์และยุ่งอยู่กับการรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนอยู่เสมอดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาอ่านนวนิยาย อย่างไรก็ตาม สาวๆ หลายคนในห้องทดลองของเธอชอบอ่านนวนิยายเพื่อฆ่าเวลา เธอยังได้ยินพวกเขาคุยกันไปด้วยขณะกินอาหารปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดกับเธอไม่เหมือนกับที่เหล่าสาวๆพูดถึง หลังจากได้ดื่มน้ำพุจิตวิญญาณอีกครั้งแล้ว หลินมู่อิงก็รู้สึกมีพลังมากขึ้น เธอยังคงรู้สึกปวดเล็กน้อยจากบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ บนร่างกาย แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าอาการต่างๆ คงได้รับการรักษาและความเจ็บปวดจากบาดแผลที่โดนทุบตีก็บรรเทาลงแล้วกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือไม่มีเครื่องมือในห้องปฏิบัติการที่นี่ ไม่เช่นนั้น หลินมู่อิงก็คงอยากจะศึกษาจริงๆ ว่ามีธาตุชนิดใดบ้างที่อยู่ในนั้นซึ่งมีคุณสมบัติในการซ่อมแซมร่างกายมนุษย์อย่างทรงพลังเช่นนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอเกิดใหม่ครั้งนี้ พระเจ้าจะมอบของขวัญอันทรงพลังให้กับเธอเดิมที หลินมู่อิงตั้งใจไว้ว่าจะต้องให้แน่ใจว่า โจวอี้หมิง จะมีสุขภาพแข็งแรงในชีวิตนี้ และตอนนี้เธอก็ได้รับพรจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณแห่งนี้ แม้ว่า โจวอี้หมิง อยากป่วยก็เป็นเรื่องยาก เมื่อเธอคิดถึงเรื

    Last Updated : 2025-05-01
  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 6 ซื้อของ

    "สาวน้อยคนนี้สวยทีเดียว และมีความตระหนักในอุดมการณ์สูง เธอมีความสุขมากที่ได้ไปชนบท มีแสงสว่างในดวงตาของเธอ!"“เธอสวยทีเดียวและมีอุดมการณ์สูงมาก คนหนุ่มสาวจำนวนมากมาที่นี่อย่างไม่เต็มใจ และยังมีเพียงไม่กี่คนที่คาดหวังเหมือนคุณ!”หลังจากที่หลินมู่อิงออกจากสำนักงานไป พนักงานในสำนักงานก็ยังคงพูดคุยและชื่นชมกันด้วยรอยยิ้มหลังจากออกจากสำนักงานสหพันธ์เยาวชนแล้ว หลินมู่อิงก็รับจดหมายแนะนำตัวและไปที่เกสต์เฮาส์ที่ไม่สะดุดตาเพื่อเข้าพัก จากนั้นเธอก็ไปที่สหกรณ์จัดหาและการตลาดที่นี่และซื้อของบางอย่างมีลูกอมผลไม้เนื้อแข็ง 2 กิโลกรัม ลูกอมกระต่ายขาว 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 2 กิโลกรัม น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม แป้ง 10 กิโลกรัม ข้าวสาร 10 กิโลกรัม สบู่ 2 ก้อน เสื้อผ้าเรียบง่าย 2 ชุด ผ้าอนามัย 4 เส้น กะละมังเคลือบ 1 ใบ แก้วน้ำ แปรงสีฟันและยาสีฟัน หวี กระจก ฯลฯปริมาณที่ซื้อมาไม่ได้มาก และเธอกลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของผู้คน แต่ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อแต่ละรายการมากนัก แต่เมื่อนำมารวมกันก็ยังเป็นกองใหญ่“สาวน้อย คุณซื้อสิ่งของมากมายสำหรับงานแต่งงานของคุณหรือเปล่า” ในตอนแรกพนักงานขายค่อนข้างหยิ่งยโสเมื่อมองดูเ

    Last Updated : 2025-05-01

Latest chapter

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 6 ซื้อของ

    "สาวน้อยคนนี้สวยทีเดียว และมีความตระหนักในอุดมการณ์สูง เธอมีความสุขมากที่ได้ไปชนบท มีแสงสว่างในดวงตาของเธอ!"“เธอสวยทีเดียวและมีอุดมการณ์สูงมาก คนหนุ่มสาวจำนวนมากมาที่นี่อย่างไม่เต็มใจ และยังมีเพียงไม่กี่คนที่คาดหวังเหมือนคุณ!”หลังจากที่หลินมู่อิงออกจากสำนักงานไป พนักงานในสำนักงานก็ยังคงพูดคุยและชื่นชมกันด้วยรอยยิ้มหลังจากออกจากสำนักงานสหพันธ์เยาวชนแล้ว หลินมู่อิงก็รับจดหมายแนะนำตัวและไปที่เกสต์เฮาส์ที่ไม่สะดุดตาเพื่อเข้าพัก จากนั้นเธอก็ไปที่สหกรณ์จัดหาและการตลาดที่นี่และซื้อของบางอย่างมีลูกอมผลไม้เนื้อแข็ง 2 กิโลกรัม ลูกอมกระต่ายขาว 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 2 กิโลกรัม น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม แป้ง 10 กิโลกรัม ข้าวสาร 10 กิโลกรัม สบู่ 2 ก้อน เสื้อผ้าเรียบง่าย 2 ชุด ผ้าอนามัย 4 เส้น กะละมังเคลือบ 1 ใบ แก้วน้ำ แปรงสีฟันและยาสีฟัน หวี กระจก ฯลฯปริมาณที่ซื้อมาไม่ได้มาก และเธอกลัวว่าจะดึงดูดความสนใจของผู้คน แต่ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อแต่ละรายการมากนัก แต่เมื่อนำมารวมกันก็ยังเป็นกองใหญ่“สาวน้อย คุณซื้อสิ่งของมากมายสำหรับงานแต่งงานของคุณหรือเปล่า” ในตอนแรกพนักงานขายค่อนข้างหยิ่งยโสเมื่อมองดูเ

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 5 เตรียมตัวออกเดินทาง

    ชีวิตในชาติก่อนเธออุทิศตนให้กับการศึกษาแพทย์และยุ่งอยู่กับการรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนอยู่เสมอดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาอ่านนวนิยาย อย่างไรก็ตาม สาวๆ หลายคนในห้องทดลองของเธอชอบอ่านนวนิยายเพื่อฆ่าเวลา เธอยังได้ยินพวกเขาคุยกันไปด้วยขณะกินอาหารปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดกับเธอไม่เหมือนกับที่เหล่าสาวๆพูดถึง หลังจากได้ดื่มน้ำพุจิตวิญญาณอีกครั้งแล้ว หลินมู่อิงก็รู้สึกมีพลังมากขึ้น เธอยังคงรู้สึกปวดเล็กน้อยจากบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ บนร่างกาย แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าอาการต่างๆ คงได้รับการรักษาและความเจ็บปวดจากบาดแผลที่โดนทุบตีก็บรรเทาลงแล้วกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือไม่มีเครื่องมือในห้องปฏิบัติการที่นี่ ไม่เช่นนั้น หลินมู่อิงก็คงอยากจะศึกษาจริงๆ ว่ามีธาตุชนิดใดบ้างที่อยู่ในนั้นซึ่งมีคุณสมบัติในการซ่อมแซมร่างกายมนุษย์อย่างทรงพลังเช่นนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอเกิดใหม่ครั้งนี้ พระเจ้าจะมอบของขวัญอันทรงพลังให้กับเธอเดิมที หลินมู่อิงตั้งใจไว้ว่าจะต้องให้แน่ใจว่า โจวอี้หมิง จะมีสุขภาพแข็งแรงในชีวิตนี้ และตอนนี้เธอก็ได้รับพรจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณแห่งนี้ แม้ว่า โจวอี้หมิง อยากป่วยก็เป็นเรื่องยาก เมื่อเธอคิดถึงเรื

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 4 การปรากฏตัวของมิติ

    หลินมู่อิงไม่ได้มองย้อนกลับไปที่หลินตงเธออยากออกไปจากที่นี่เต็มที ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังคำโบราณกล่าวเอาไว้ว่าการมีแม่เลี้ยงพ่อแท้ๆก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยงด้วยเช่นกันและสิ่งที่เธอพบเจอมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กสามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี“มู่อิง คราวหน้าเธอต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ ฉันล้มเหลวในการเป็นพ่อ...”หลินตงลุกขึ้นและอยากจะเดินไปหาหลินมู่อิง แต่ขาของเขากลับรู้สึกหนักอึ้งจนไม่สามารถที่จะขยับได้ ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ถึงแม้ว่าหลินตงจะรู้สึกละอายใจอยู่บ้างแต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเขาทำได้แค่ทำใจยอมรับและบอกให้ลูกสาวดูแลตัวเองให้ดีเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้“ฉันเข้าใจแล้ว และมันคงจะดีกว่าที่ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องห่วงถึงแม้ว่าฉันจะลำบากฉันก็จะไม่กลับมาหาพวกคุณนับตั้งแต่วันนี้พวกเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก”หลินมู่อิง ตอบกลับหลินตงโดยไม่มีคำว่า พ่อหลุดออกจากปากของเธอแม้แต่คำเดียว และเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง หลินมู่อิงไม่ได้กลับไปที่ห้องเล็ก ๆ คับแคบของเธอ ที่นั่นคือที่ที่ตระกูลหลินใช้เก็บข้าวของต่า

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 3 ตัดขาดจากตะกูลหลิน

    ถึงอย่างไรก็ตามหลินตง เขาก็คือพ่อแท้ๆ ของหลินมู่อิง เมื่อเขาได้ยินลูกสาวพูดคำเหล่านี้ทีละคำและเห็นรอยแผลเป็นบนร่างกายของเธอ เขาก็รู้สึกใจสลายเล็กน้อย เมื่อเขามองดูภรรยาของเขาอีกครั้ง ดวงตาของเขากลับดูไม่เป็นมิตรนัก“คุณมักจะปฏิบัติต่อมู่อิงอย่างรุนแรง และผมก็มักจะมองข้ามเรื่องนี้ไป โดยคิดว่าความสามัคคีในครอบครัวคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่ครั้งนี้คุณกลับลงมือหนักเกินไป”เมื่อซูเนี่ยนเจินได้ยินหลินตงพูดเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำเป็นดูเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำเดือด และเสียงของเขาก็สูงขึ้นอีกเล็กน้อย“ยังไงหญิงสาวที่ไร้ค่าก็ต้องส่งไปอยู่ชนบท ลูกสาวก็เสียเงินเปล่าๆ คุณยังต้องพึ่งพาลูกชายเลี้ยงตัวเองตอนแก่อีก คุณได้เฝ้าดูจิ้งผิงเติบโตขึ้น เขาไม่อาจทนกับความยากลำบากที่ต้องเดินทางไปชนบทได้จริงๆ!ในฐานะพ่อ คุณควรจะสั่งให้เธอรีบไปที่ชนบท” ซูเนี่ยนเจินยืนกอดอกพูดด้วยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมากหลินตงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ ในเวลานี้ หลินมู่อิงยืนอยู่ไม่ไกลจากพ่อของเธอ ราวกับว่าเธอกำลังมองคนแปลกหน้า หลินตงหยิบไปป์ขึ้นมา เติมยาเส้นใหม่ แล้วจุดไฟ เขาสูดควั

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 2 ข้อตกลง

    หลังจากใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขได้เพียง 3 ปี โจวอี้หมิง ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย การแพทย์ในสมัยนั้นยังไม่ดีเท่าสมัย หลังจากตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเขาก็ไม่ไดบอกให้เธอรู้เขาปกปิดอาการป่วยของตัวเองเอาไว้ในทางกลับกัน เขากลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาเงิน โดยตั้งใจที่จะให้หลินมู่อิงมีชีวิตที่มั่นคงและรุ่งเรืองหลังจากที่เขาเสียชีวิต เมื่อเธอพบว่าเขาป่วย มันก็สายเกินไปแล้ว เขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่ได้นานนัก บนเตียงในโรงพยาบาลโจวอี้หมิง จับมือหลินมู่อิงเอาไว้แน่นเขาพูดสั่งเสียเป็นเวลานานและพูดหลายๆ อย่างหลินมู่อิงรู้ว่าโจวอี้หมิงรักเธอมากเสมอ เธอทำผิดพลาดหลายสิ่งหลายอย่างและทำให้เขาผิดหวังหลายต่อหลายครั้ง เธอต้องการเวลาเพิ่มขึ้นเพื่อรักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอและทำให้เขามีความสุข สนุกสนาน และผ่อนคลาย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้วหลินมู่อิงต้องการที่จะตายพร้อมกับผู้ชายของเธอหลังจากที่เขาเสียชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถสัญญาได้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและแก่ไปด้วยกัน ถ้าได้ตายด้วยกันก็คงจะดี อย่างน้อยที่สุดบนเส้นทางสู่โลกใ

  • ป่วนรักยัยตัวร้ายกับนายใสซื่อ   บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย

    14 เมษายน 2025 เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โรงพยาบาลประชาชนแห่งแรกภายในห้องผู้ป่วยสีขาวสะอาดตา มีหญิงชราที่มีใบหน้าเหนื่อยล้านอนอยู่บนเตียงนิ้วมือที่เหี่ยวๆ ลูบรูปถ่ายขาวดำเก่าๆ ที่ขาดรุ่งริ่งจะเห็นได้ว่าเธอดูและสัมผัสรูปภาพนี้นับครั้งไม่ถ้วนภาพถ่ายที่มีชายและหญิงนั่งเคียงข้างกันหลินมู่อิงยังจำได้ว่ารูปนี้ถ่ายเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 1984 ผู้หญิงในรูปอายุ 25 ปี และผู้ชายอายุ 30 ปี รูปนี้ถ่ายไว้ตอนไปขอใบทะเบียนสมรส ผู้ชายในรูปมีใบหน้าหล่อเหลาและเป็นคนอบอุ่นมาก แต่ชีวิตของเขาช่างแสนสั้น เขาจากเธอไปในช่วงฤดูหนาวปี 1987ส่วนใบหน้าของผู้หญิงกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและมีความสุข“โจวอี้หมิง ดูเหมือนว่าฉันจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วสามสิบเจ็ดปี สามสิบเจ็ดปีที่ไม่มีคุณ ฉันได้พยายามอย่างหนักเพื่อจะใช้ชีวิตอย่างดีฉันได้ช่วยชีวิตคนมาแล้วเป็นหมื่นๆ คน แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ช่วยคุณเลยฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน มากเหลือเกิน เหลือเกิน...”ดวงตาของหญิงชราที่ยังแจ่มใสอยู่ กลับพร่ามัวลงอย่างกะทันหันเนื่องมาจากน้ำตาที่ไหลรินออกมเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจหาสัญญาณชีพก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติในที่สุด“ศาสตราจารย์หลิน!”ในข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status