Share

9/1 คืนแรก

last update Last Updated: 2024-12-18 16:04:24

เมืองหลวง ต้าหย่ง

ปีนี้ฮูหยินผู้เฒ่ามีอายุเจ็ดสิบปี

ทางด้านบุตรชายคนโตอย่างเหยาซือหม่าจึงตั้งใจจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิดให้มารดา แม้จะไม่ใช่งานใหญ่โต แต่ก็มีหน้าตาในระดับหนึ่ง

หลายปีมานี้สกุลเหยาได้รับการพระราชทานตำแหน่งจากฝ่าบาทจนมีหน้ามีตาขึ้น เช่น หลานสาวคนที่ห้า ได้เป็นถึงท่านหญิงแห่งต้าหย่ง หรือหลานชายคนรองซึ่งได้รับการเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพจากผลงานการปราบจลาจลที่ท่าเรือสินค้า และคุณหนูสามยังได้ออกเรือนไปกับคุณชายกง ทำให้เวลานี้ สกุลเหยา นับว่าสามารถกู้ชื่อเสียงในอดีตได้บ้าง

บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานจึงมีแขกระดับสูง ห้าสกุลใหญ่แห่งเจียงหนานยังเดินทางมาร่วมงานด้วย พร้อมทั้งมีการทาบทามเพื่อเจรจาเรื่องหมั้นหมายของคุณหนูสี่ที่ยังไม่ออกเรือน

คุณหนูสี่ เหยาหลิงหว่าน อายุสิบหกปี เป็นสาวงามผุดผาดที่สะพรั่งพร้อม ในเมืองหลวงแห่งนี้ ชื่อเสียงความงดงามของนางเลื่องลือยิ่ง อีกทั้งนางยังบรรเลงเพลงพิณได้ไร้ที่ติ ความสามารถยิ่งเสริมความงามของนางให้เจิดจรัส

ฮูหยินผู้เฒ่าจึงเชิดหน้าได้อย่างเต็มภาคภูมิเวลาคนเอ่ยชมหลานสาวคนนี้ของนาง

ไหนจะมีคุณชายรองอย่างแม่ทัพเหยาอี้ร่างอีก คืนนี้ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มแย้มเบิกบานใจยิ่ง

“เจ้าช่างน่าอิจฉาเสียจริง ดูเถิด คุณหนูคุณชายสกุลเหยาช่างชวนให้ข้าริษยานัก” ฮูหยินสกุลถงกล่าวอย่างชื่นชม หากว่าตนยังมีบุตรชายที่ไม่แต่งภรรยา ย่อมต้องทาบทามคุณหนูสี่ผู้นี้มาให้ได้

“กล่าวหนักไปแล้ว สตรีงดงามก็เป็นเพียงเรื่องงดงาม ผู้ใดจะเทียบหลานสะใภ้เจ้าได้ ได้ยินว่านางโดดเด่นด้านอักษรยิ่ง กระทั่งท่านเจียงแห่งหอสังคีตยังเอ่ยชม”

“กล่าวหนักไปแล้วๆ หลานสะใภ้ข้าพอจะมีทักษะอยู่บ้างเท่านั้น” ฮูหยินถงเอ่ยต่อ นางจำได้ว่าสกุลเหยายังมีคุณหนูใหญ่ และคุณหนูห้า “ว่าแต่คุณหนูใหญ่และคุณหนูห้าเล่า วันนี้ไม่เห็นหน้าเลย”

“คุณหนูห้าได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านหญิงอยู่แดนเหนือ ย่อมกลับมาไม่ได้อยู่แล้ว” แม่สื่อจางเอ่ย

“ข้าลืมไปเลย ช่างเลอะเลือนยิ่ง”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด หลานสาวผู้นี้ถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงอยู่ห่างไกลยิ่ง ข้าเกรงว่าจะเดินทางกลับมาลำบากจึงไม่ได้เรียกตัวมา” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ย มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ทั้งๆ ที่ในใจมีความขุ่นข้องสายหนึ่งเกิดขึ้นมา นางเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดเหยาอี้เหยาจึงไม่คิดจะมาเยี่ยมเยียนหรือส่งจดหมายมาถามไถ่สักฉบับ

ดูท่าในใจหลานผู้นี้ของนางจะไม่พอใจในสกุลเหยายิ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าจึงตัดขาดนางแล้วเช่นกัน แต่ที่ยังต้องรับหน้าว่าเป็นท่านย่าของนาง ก็เพื่อประโยชน์ให้เหยาหลิงหว่านแต่งเขาสกุลดีๆ จะได้ไม่เหมือนเหยาอี้อิงที่แต่งกับบัณฑิตฐานะปานกลาง ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ยอมรับหลานเขยผู้นี้ จึงไม่ค่อยใส่ใจ ให้ออกจากสกุลไปเงียบๆ ใครถามถึงคุณหนูใหญ่ นางก็บอกว่าป่วย ส่งตัวกลับบ้านเกิดไปรักษา

“เป็นข้าคงทำใจให้หลานสาวจากบ้านไปไกลถึงเพียงนี้ไม่ได้ นับถือท่านในเรื่องนี้จริงๆ”

ฮูหยินผู้เฒ่าตอบยิ้มแย้ม “ฮูหยินถง เรื่องนี้ฝ่าบาททรงพระราชทานแต่งตั้ง ข้าจะหาขัดโองการก็ไม่ได้”

“ท่านพูดถูกแล้วฮูหยินผู้เฒ่า เป็นข้าเลอะเลือนไปชั่วขณะ”

“คุณหนูห้าผู้นี้ ใช่ที่เคยหมั้นหมายกับหลี่โหวหรือไม่” ฮูหยินผู้เฒ่าสือเอ่ยคำ หมายจะเหน็บแนมเรื่องที่สกุลเหยาเคยถูกสกุลหลี่ส่งจดหมายยกเลิกการหมั้นหมายจนเป็นข่าวฉาวโฉ่ “ท่านช่างใจกว้างนัก ถึงกับสามารถทำใจยกเลิกการหมั้นหมายระดับนี้ได้”

“แผ่นดินย่อมมาก่อน เรื่องส่วนตัวเช่นนี้สกุลเหยาต้องยอมรับให้ได้” ฮูหยินผู้เฒ่าตอบนิ่ม จิบชาตบท้าย “หากพวกท่านเป็นข้า ก็คงทำเช่นกัน”

“ย่อมต้องทำเช่นนั้น” ฮูหยินสือตอบ

บ่าวคนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าสถานการณ์อึมครึม ประจวบเหมาะกับที่มีคนมาเรียนนางเรื่องแขกคนพิเศษ จึงยอบกายลงพร้อมกับกระซิบให้ฮูหยินผู้เฒ่าฟังอย่างจงใจ

“ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ หลี่โหวมาอวยพรวันคล้ายวันเกิดท่านเจ้าค่ะ”

“หลี่โหวรึ” ถ้อยคำกระซิบนั้นดังพอให้บรรดาฮูหยินจากวงสนทนาได้ยินกันทั่วหน้า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าไม่เชื่อ ก่อนจะได้เห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสีน้ำเงินองอาจสวมชุดผ้าคลุมสีเข้มมาทางนี้

มองอย่างไรก็คือหลี่โหวไม่ผิดแน่

แปลกยิ่ง สกุลหลี่ได้ยกเลิกงานหมั้นหมายกับสกุลเหยาแล้ว แล้วหลี่โหวมาได้อย่างไร หรือว่าเขาจะต้องตาต้องใจเหยาหลิงหว่านจึงตั้งใจมาทาบทาม?

ในใจฮูหยินสือมีแต่คำถาม พร้อมความริษยา คราวก่อนคุณหนูสามก็แย่งหลานเขยนางไป

“ฮูหยินผู้เฒ่า ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดท่านจึงตั้งใจมาอวยพร ขอให้ท่านอายุยืน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแด่สกุลเหยารุ่นต่อไป” ท่วงท่ากริยาหรือการพูดจาของหลี่โหวสุขุมนุ่มนวล ตั้งแต่เดินเข้ามาในงาน ไม่มีหญิงสาวสกุลใดที่ไม่มองเขา

เหยาหลิงหว่านที่นั่งอยู่ไกลๆ ในวงสนทนาของคุณหนูชนชั้นสูงยังมองอยู่เป็นนานก่อนจะได้สติเมื่อเหยาอี้ร่างเรียกนาง

“เชิญนั่งเถอะ ไม่เช่นนั้นข้าจะอธิบายต่อบรรพบุรุษอย่างไรที่ให้หลี่โหวคุกเข่า” ฮูหยินผู้เฒ่าครุ่นคิดเงียบๆ หลายปีมานี้สกุลหลี่ตีตัวออกห่างชัดเจน กระทั่งหนังสือยกเลิกการหมั้นหมายของเหยาอี้เหยาก็ไม่ได้ส่งมา ทางด้านนางไม่รู้จะทักท้วงอย่างไรจึงไม่ได้ทวง

ยามนี้นางจึงไม่แน่ใจว่างานหมั้นหมายได้ยกเลิกไปแล้วหรือไม่?

“ข้าน้อยเกรงว่ามามือเปล่าจะน่าเกลียด จึงนำของเล็กน้อยๆ ติดมาด้วย หวังว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่ดูแคลนว่าเป็นของเล็กน้อย”

บ่าวรับใช้คนสนิทของหลี่หลินผู่นำของขวัญในกล่องไม้มะเกลือมอบแด่นาง ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ของเล็กน้อย

ฮูหยินผู้เฒ่ารักษาท่าทีสงบภายใต้ใบหน้าอันราบเรียบ แต่ในใจไม่พอใจยิ่ง หกเจ็ดปีที่นางถูกคนเหน็บแนมเรื่องสกุลหลี่ถอนหมั้น ยังคงฝังลึกในใจ

“ขอบคุณหลี่โหวที่เดินทางมาอวยพรยายแก่เช่นข้า” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยต่อ “แต่ข้าจำไม่ได้ว่าได้เรียนเชิญท่านไป”

“ข้าน้อยมาโดยไม่ได้รับเชิญ หวังว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะให้อภัย” หลี่หลินผู่ยิ้มแย้ม เข้าใจความไม่พอใจของฮูหยินผู้เฒ่าสำหรับสิ่งที่สกุลหลี่ได้ทำ เมื่อหลายปีก่อนสกุลเหยาประสบความลำบาก เป็นสกุลหลี่ที่ตีตัวออกห่าง ใช้เท้าถีบหัวเรือส่งก่อน มาวันนี้ฐานะสกุลเหยาดีขึ้น จึงอาจจะคิดว่าสกุลหลี่มาสนิทด้วยเพื่อหวังผลประโยชน์

“ไม่กล้าๆ ข้าเพียงอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านมีธุระใดจึงมาหาข้ากันแน่”

“ฮูหยินผู้เฒ่า เช่นนั้นข้าน้อยขอเข้าเรื่องเลย”

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ว่าอะไรที่จะพูดต่อหน้าเหล่าบรรดาฮูหยิน หลี่หลินผู่จึงเอ่ยคำ “เรื่องหมั้นหมายของข้าและอี้เหยายังคงเป็นดังที่ทำสัญญาไว้”

หลี่หลินผู่จงใจใช้คำเรียกขานอย่างสนิทสนม แทนที่จะเรียกว่าคุณหนูห้าเพื่อแสดงความชิดเชื้อ

“ปีนั้นท่านโหวส่งจดหมายยกเลิกงานหมั้นมา หรือข้าเลอะเลือนไปแล้ว"

“เรียนฮูหยินผู้เฒ่า จดหมายครานั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตกลงใดๆ หนังสือยกเลิกหมั้นหมายจึงไม่ได้ถูกส่งมา ดังนั้นการหมั้นหมายของข้าและอี้เหยายังคงเป็นเช่นเดิม”

“หลี่โหว คำพูดเช่นนี้ไม่ดูไร้ความรับผิดชอบหรือ ท่านเห็นสกุลเหยาเป็นสกุลเล็กๆ ที่สามารถยกเลิกหรือหมั้นหมายได้ตามใจชอบหรือ”

“ข้าน้อยไม่มีข้อแก้ตัว หากสกุลหลี่ทำให้ท่านขุ่นเคืองใดๆ ข้าขอรับผิดชอบด้วยการคุกเข่าให้ท่าน จนกว่าท่านจะอภัยให้ข้า”

หลี่หลินผู่คุกเข่าลงอีกครั้งต่อหน้าธารกำนัลมากมาย ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับไปไม่เป็น ทั้งรู้สึกใบหน้าร้อนจัดเพราะกำลังถูกหลี่โหวบีบให้นางยอมรับการขออภัยจากเขา

“หลี่โหว ลุกขึ้นเถิด ข้าแก่เกินจะรับโทษที่ปล่อยให้ท่านคุกเข่าเช่นนี้”

เหยาอี้ร่างหันหลังกลับในทันทีเพื่อกลับเรือน ในใจคิดแต่ว่าเกิดเรื่องยุ่งยากแล้ว

สกุลเหยารวมทั้งท่านย่าไม่ทราบเรื่องที่น้องสาวคนที่ห้าของตนหายตัวไปเพราะเบื้องบนปิดข่าว ส่วนเขาเองตั้งใจไม่บอกที่บ้านเพราะรู้ว่าทางนี้ไม่สนใจเหยาอี้เหยาอยู่แล้ว

แต่เมื่อเร็วๆ นี้เขาได้รับข่าวจากคนใกล้ชิดนาง บอกว่านางปลอดภัยดี ตอนนี้ฉู่ซื่อจื่อยังรับนางกลับเข้าจวนเพื่อรักษาต่อ เขาจึงวางใจ กลับมาที่จวนอีกครั้งตามคำสั่งท่านพ่อ

ทว่าตอนนี้ไม่ได้แล้ว หลี่โหวมาทวงสัญญาหมั้นหมาย เหยาอี้เหยาต้องลำบากแน่

เหยาอี้ร่างจึงตั้งใจเขียนจดหมาย ส่งขึ้นทางเหนืออย่างเร่งด่วน

เรือนพักของเหยาอี้เหยาคือเรือนเดิมที่เคยอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างภายในยังคงเหมือนเดิมจนนางแปลกใจ

แสดงว่าหลายปีมานี้ เรือนนี้ไม่รับแขกเลย

เหยาอี้เหยาจัดเก็บข้าวของให้เข้าที่ รวมทั้งเก็บถั่วแดงไว้ในผ้าเช็ดหน้า แล้วใส่ไว้ในกล่องไม้เล็กๆ อีกชั้น รออากาศอุ่นเมื่อใด นางจะปลูกถั่วแดงเมล็ดนี้

“คุณหนูเหยา ไม่ทราบว่าท่านต้องการสาวรับใช้หรือไม่ หากท่านต้องการ ข้าจะให้คนที่ไว้ใจได้มาอยู่กับท่าน” จินเฟยเอ่ยถาม

“ไม่ต้องหรอกองครักษ์จิน ข้าน้อยดูแลตนเองได้” เดิมจวนสกุลฉู่ก็ไม่มีบ่าวรับใช้มากนัก อีกทั้งฉู่ซีเย่เอง ก็ยังไม่มีสาวใช้ข้างตัวสักคน นางที่เป็นแค่ผู้อาศัยจะกล้าไปมีข้ามหน้าข้ามตาเขาได้อย่างไร

“เช่นนั้นหากท่านขาดเหลือสิ่งใด แจ้งได้ที่พ่อบ้านซุน หรือข้าก็ได้”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

“คุณหนูเหยา คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของงานเทศกาลฤดูหนาว ไม่ทราบว่าท่านต้องการออกไปร่วมเทศกาลหรือไม่”

“ข้าไปได้รึ”

“ซื่อจื่อเตรียมรถม้าไว้ให้ท่านแล้ว หากท่านต้องการ เพียงออกปากเท่านั้น”

“ขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อ แต่วันนี้ข้าขอพักอยู่ที่จวนดีกว่า” เทศกาลฤดูหนาวครึกครื้นน่าไป แต่วันนี้นางเดินทางรอนแรมมาทั้งวัน ไหนจะถูกทุบตีไปเมื่อครู่อีก ร่างกายเริ่มทนความหนาวไม่ไหวแล้วจึงขอไม่ไปดีกว่า

“เช่นนั้นไม่รบกวนท่านแล้ว คุณหนูเหยา พักผ่อนเถิด”

“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” นางพึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้เอ่ยถามฉู่ซีเย่เลยว่าคืนนี้เขาสะดวกให้นางนอนด้วยหรือไม่ หรือจะให้นางรอไปก่อน

“มีอันใดไม่สะดวกหรือขอรับ”

“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าน้อยมีคำถามเล็กน้อย…ไม่ทราบว่าคืนนี้ซื่อจื่อจะกลับมาหรือไม่เจ้าคะ” ถ้าเขากลับมา นางจะได้นั่งรอ

“กลับขอรับ”

ดีเยี่ยม นางจะรอเขากลับมา

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณที่เป็นธุระให้เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาส่งจินเฟย นางรีบปิดประตูลงเมื่อเขาหันหลัง ก่อนจะรีบวิ่งไปที่เตาผิงในเรือน นางนั่งผิงไฟคลายหนาวจนกระทั่งสาวรับใช้หาบน้ำอุ่นมาให้อาบ นางจึงลุกไปเปิดประตู ให้พวกนางเข้ามา

“ที่เหลือข้าจัดการเอง พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ” อาการช่วงเย็นหนาวยิ่ง นางจึงไม่อยากให้ใครต้องมาทนหนาว

“เช่นนั้นพวกข้าน้อยขอลา” บรรดาสาวรับใช้ได้รับคำสั่งมาแล้วว่าอย่ารบกวนคุณหนูเหยา หากนางไม่ได้สั่ง ก็ไม่ต้องเจ้ากี้เจ้าการ พวกนางจึงถอยกลับไปรอคำสั่ง

เหยาอี้เหยาปลดชุดที่ชื้นน้ำออก ปล่อยเส้นผมสีดำดุจขนกาให้คลายออก เท้าขาวผ่องก้าวลงไปในอ่าง ชะล้างความสกปรกและเศษฝุ่น

“สบายจัง”

รอยยิ้มหวานแต้มบนใบหน้า คืนนี้นางจะนอนกับฉู่ซีเย่เป็นคืนแรก

กิ่งต้นอิ๋งชุน (ต้นมะลิสายพันธุ์หนึ่ง) ถูกดึงโน้มลงมา มือเรียวสวยแตะกลีบบาง ครั้นดึงมือกลับมา กลิ่นหอมคล้ายจะติดปลายนิ้วมาด้วย

กลิ่นคล้ายนางอยู่บ้าง…

“แปลกนัก วันนี้เจ้าไม่ดื่มสุรารึ” ฉู่ซีห่าวเดินขึ้นมาบนหอสุรา หลังปิดงานในฐานะเจ้าเมืองของเทศกาลฤดูหนาวแล้ว

“ท่านไม่ใช่ชอบพูดให้ข้าเพลาๆ ลงบ้างไม่ใช่รึ” ฉู่ซีเย่ไอเล็กน้อย เขาจึงจิบน้ำชาหลายคำ

“อิ่นจื่อ สุขภาพเจ้าช่วงนี้ดูคล้ายจะแย่ลง” หัวคิ้วของฉู่ซีห่าวเป็นปม “ให้ผู้อาวุโสฉู่ลองตรวจดีหรือไม่”

“ข้าเพียงไอเล็กน้อย ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“ไม่กระมัง ช่วงนี้ข้าสังเกตว่าเจ้าผอมลง เนื้อหายไปหลายชั่ง” ฉู่ห้าวพูดสมมติฐานในใจ “นี่เป็นเพราะเจ้าเลี้ยงแมลงคุณไสยหรือไม่”

“ใช่แล้วทำไม ไม่ใช่แล้วทำไม” ฉู่ซีเย่พูดคลุมเครือ มือเอื้อมไปเทกาสุรามาถือ แต่ไม่ดื่ม

“เป็นข้าทำให้เจ้าต้องลำบาก” ปีนั้นเป็นฉู่ซีห่าวขอร้องให้เขาช่วยนาง หลายปีมานี้ฉู่ซีเย่จึงใช้ชีวิตตนเองเลี้ยงแมลงคุณไสย

"ข้าไม่ลำบาก"

ฉู่ซีเย่ยิ้มเล็กน้อย เขารู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คนดีปานนั้น ที่เขาช่วยนาง เพราะเขาอยากช่วย แม้ตอนนั้นจะอยากปล่อยให้นางตายจริงๆ แต่ไม่นานก็หายโกรธ

ไม่อยากให้นางตายอีก...

“พี่ชายข้า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ท่านต้องมาเกรงใจ วันนี้พวกเราอย่าพูดเรื่องนี้เลย มาดื่มสักหน่อยเถอะ”

“ดื่มได้ แต่น้อยลงหน่อย”

“ข้าไม่รู้จักคำว่าน้อยลงหน่อย”

“เจ้านี่น่ะ” ฉู่ซีห่าวชนจอก พูดเรื่องที่อีกฝ่ายบอกก่อนหน้านี้ “เรื่องแม่นางจางที่เจ้าขอ ข้าให้คนสืบแล้ว นางยังอยู่ในเมือง”

ฉู่ซีเย่แปลกใจที่นางยังกล้าอยู่ในเมือง

“ข้าให้คนไปจับนางมาได้ หากเจ้าต้องการ”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวจะกลายเป็นข้ารังแกคนของนางอีก” ฉู่ซีเย่ตอบเรียบๆ จดจำนางที่ออกโรงปกป้องคนเช่นจางลี่ได้

“นางมีจิตใจดี”

“คนโง่งมกับคนดี ก้ำกึ่งกันมาก ท่านต้องดูให้ดี”

“ถึงอย่างงั้นแต่เจ้าก็รับนางกลับเข้าจวนไม่ใช่รึ อิ่นจื่อ เจ้ายอมรับเถอะ นางเป็นเด็กดี เจ้าจึงอยากช่วย”

“ข้าเพียงเสียสติไปชั่วขณะ” ฉู่ซีเย่ยกสุราหมดจอก

“เจ้าดื่มน้อยลงหน่อย คืนนี้จะเมามายกลับจวนได้อย่างไร นางอยู่ที่จวนของเจ้านะ”

ฉู่ซีเย่ชะงักมือ คำพูดว่านางรอเขาอยู่ที่จวน เป็นความรู้สึกชนิดหนึ่งที่วนอยู่ในท้อง

“ข้าหาสนใจไม่”

อีกครึ่งชั่วยามต่อมาฉู่ซีเย่ก็กลับจวน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status