อรุณีมาลาเข้าห้องน้ำเมื่อออกมาพบศิวัชยืนรออยู่
“ออ พี่อยากขอเวลาคุยด้วย”
หญิงสาวมองนาฬิกา
“เรื่องอะไรคะ”อเธอถามสีหน้าไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ใด
“เรื่องลูกกับเรื่องของเรา” ชายหนุ่มตอบตรงๆ
“วันนี้ดึกแล้วฉันไม่อยากคุย แต่ถ้าคุณจะคุยคุณก็มาที่นี่พรุ่งนี้เช้า ฉันจะอยู่ที่นี่จนถึงเที่ยง” อรุณีมาลาตัดสินใจทำตามที่อิงควัตบอก คุยกันให้รู้เรื่องสักทีก็ดีเหมือนกัน
ศิวัชหน้าตาแจ่มใสขึ้นทันที
“ได้ครับออ พรุ่งนี้พี่จะมาแต่เช้าขอบคุณออมาก” ชายหนุ่มจับมือเธอกุมไว้ แต่อรุณีมาลาสลัดทิ้งทันที แววตาเธอบอกชัดเจน 'อย่าแตะต้องตัวฉัน' หญิงสาวเดินกลับเข้างานเร็วๆ ชายหนุ่มรีบเดินตาม
“พี่ขอโทษ ออกับลูกจะขึ้นห้องเลยไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่ต้องค่ะ”
หญิงสาวเดินมาถึงโต๊ะพอดี อรุณประภารออยู่เธอถามน้องสาวฝาแฝด
“ออพาเด็กขึ้นไปนอนเลยไหม เดี๋ยวพี่ช่วยแล้วจะออกไปข้างนอกกับพี่แทน”
“พิณออกไปเลยก็ได้ ออพาลูกขึ้นเองได้” หญิงสาวพูดให้พี่สาวสบายใจ
“ไม่เป็นไรครับแม่พิณ เดี๋ยวพ่อไปส่งต้นกล้าเอง” เด็กชายพูดอย่างมั่นใจ เพราะพ่อบอกไว้ว่าจะไปส่งแล้วพรุ่งนี้จะมาหา
ศิวัชอุ้มเด็กหญิงต้นข้าวที่เริ่มงอแงเพราะง่วงนอน คุณศิตาเดินมาทักก่อนกลับ
“อากลับก่อนนะจ๊ะหนูออ แล้วพบกันวันหลังนะลูก พาเด็กๆ ไปทานขนมที่บ้านกัน”
หญิงสาวพนมมือไหว้เป็นการลาผู้แก่วัยกว่า
“ค่ะคุณอา ออขอตัวก่อนนะคะ”
ท่านยิ้มรับ หันไปคุยกับลูกชาย
“วัชจะไปส่งลูกๆ ก่อนใช่ไหม งั้นแม่กลับก่อนนะ” ท่านให้คนขับรถที่บ้านมารอรับแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าลูกชายจะจัดการธุระเสร็จเมื่อไหร่
“ครับแม่ เดี๋ยวผมตามกลับไป”
คุณศิตาก้มลงหอมแก้มต้นกล้าและต้นข้าวที่พ่ออุ้มอยู่
“วันหลังไปเล่นบ้านย่านะลูก”
“ครับ” เด็กชายพูดเสียงใสไม่มีวี่แววง่วงผิดกับน้องสาว
เมื่อแยกย้ายกันหมดแล้ว อรุณีมาลาเดินจูงมือเด็กชายไปในโซนห้องพักที่แบ่งส่วนชัดเจนกับห้องจัดเลี้ยง มีลิฟท์ขึ้นคนละตัว ศิวัชเดินตามมีเด็กหญิงซบบนบ่าอย่างง่วงเต็มที
เธอหยุดที่หน้าลิฟท์
“ส่งแค่นี้พอค่ะ ตรงนี้เป็นส่วนที่พักของลูกค้าโรงแรม คุณไม่ใช่คนเข้าพักไม่ควรขึ้นไป”
ศิวัชยอมทำตามที่เธอบอกแต่โดยดี ส่งตัวเด็กหญิงให้เธอต้นข้าวสลึมสลือส่งเสียงประท้วงนิดหน่อยแต่ก็เงียบลงไปเมื่อมารดาลูบหลังให้นอนต่อ
ต้นกล้ากดลิฟท์อย่างคุ้นเคย เด็กชายหันมามองศิวัช
“พ่อรีบมานะพรุ่งนี้ ต้นกล้าจะรอ”
“ครับลูก” ศิวัชรับปาก อรุณีมาลาพาลูกก้าวเข้าลิฟท์ เธอไม่พูดอะไรอีก ชายหนุ่มมองจนประตูลิฟท์ปิดลงจึงหันหลังกลับเตรียมตัวจะกลับบ้าน
“วัชคะ ทำไมคุณฉีกหน้าลินขนาดนี้ ลินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” เสียงหนึ่งตัดพ้อจากด้านหลัง ศิวัชหันไปมอง
“ผมทำอะไรคุณเหรอลิน” ดร.หนุ่มเหนื่อยหน่ายใจ เห็นทีเขาต้องพูดตรงๆ กับญาติสาวคนนี้สักที
“ใครๆ เขาก็รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน ทำไมวัชเดินตามยายนั่นกับลูกมันทั้งคืน” เกวลินเสียงดัง
“ยายนั่นที่คุณว่าน่ะเมียผม ลูกมันที่คุณพูดถึงก็ลูกผม ส่วนคุณที่บอกว่าเป็นแฟนผมนั่นคุณคิดเอาเองทั้งนั้น ผมไม่เคยไปไหนมาไหนกับคุณ ไม่เคยจีบ ไม่เคยทำอะไรให้คุณคิดไปไกลกว่าความเป็นญาติเลยนะลิน”
“วัช!....”
“ถ้าคุณไม่หยุดระราน ไม่หยุดเอาเมียกับลูกผมไปพูดให้เสียหาย ผมจะให้ครอบครัวคุณย้ายออกจากเกาะรังนก เกาะอาจจะต้องมีผจก.คนใหม่สักที จะได้เคลียร์อะไรที่มันคาราคาซังหลายๆ อย่างไปด้วย”
“ไม่นะคะ พ่อลินเป็นผู้จัดการเกาะมานาน วัชจะให้ย้ายไปไหน”
“เป็นมานานและอิ่มมานาน อย่าคิดนะลินว่าคนอื่นไม่รู้ว่าพวกคุณทำอะไรอย่าให้ต้องเอาตรงนี้มาพูดกัน คุณน่าจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนชอบพูดมาก”
ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น
อรุณีมาลาเปิดประตูห้องพัก ต้นกล้าวิ่งเข้าไปกระโดดขึ้นที่นอน หญิงสาววางลูกลงบนเตียงของต้นข้าว ที่เป็นเตียงเด็กขนาดสามฟุตครึ่ง
ห้องนี้เป็นห้องพักส่วนตัวของเธอซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม และไม่ได้เปิดให้แขกพัก หญิงสาวมีแผนจะแยกห้องนอนให้ลูกฝาแฝดเมื่อเด็กๆ อายุครบห้าขวบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“คุณแม่ที่นี่จะแยกห้องนอนให้ต้นกล้าไหมคับ” เด็กชายถาม
“แยกสิลูก หรือต้นกล้าไม่กล้านอนคนเดียวไปนอนกับแม่ได้นะ” เธอตอบขณะที่เตรียมชุดนอนให้ต้นกล้า ส่วนต้นข้าวน่าจะไม่ต้องได้ใช้เพราะหลับไปแล้ว
เด็กชายชี้มือเข้าหาตนเอง “กล้าชื่อต้นกล้าก็ต้องกล้านอนสิคับ”
หญิงสาวมองลูกอย่างเอ็นดู ยังไม่อธิบายว่าต้นกล้าไม่ได้แปลว่ากล้าหาญ เพราะเห็นว่าลูกยังเด็ก เด็กชายพูดเจื้อยแจ้วต่อ
“มีคนบอกว่ากล้าเป็นลูกไม่มีพ่อด้วยล่ะคุณแม่”
หญิงสาวตกใจ เรื่องถูกนินทาเธอรู้อยู่แต่ไม่คิดว่าจะมีใครพูดให้เด็กชายได้ยิน
“ใครพูดลูก”
“ยายป้าปากแดงกับเพื่อนๆ” เด็กชายหมายถึงเกวลินและเพื่อน และไล่เรียงต่อ
“แล้วก็มีคนที่เสริฟน้ำในงาน เขาก็พูดกันกับลุงแก่ๆ ต้นกล้าไม่รู้จัก”
“ยายป้าปากแดง ใครกันลูกทำไมลูกไปเรียกเขาแบบนั้น ไม่น่ารักเลย” มารดาถาม
“เขาไม่น่ารักกับแม่กับต้นกล้าก่อน ผู้ใหญ่ไม่น่ารักเด็กก็ไม่เห็นจะต้องน่ารักเลยคุณแม่” เด็กชายพูดหน้าตาบูดบึ้ง
“ต้นกล้าครับ คนอื่นทำไม่ดีกับเราตัวเขาก็ดูไม่ดี แต่ถ้าเราทำไม่ดีตอบ ตัวเราก็จะเป็นคนไม่ดีเหมือนเขา ต้นกล้าอยากเป็นแบบเขาเหรอ” หญิงสาวสอนลูก
ต้นกล้ามองแม่ แต่เขาก็เห็นพ่อว่ายายพวกนั้นไปหลายคำ แล้วพ่อเป็นคนไม่ดีด้วยรึเปล่า คิดไปคิดมาสมองเล็กๆ ลงความเห็นว่าแม่ใจดีเกินไป ต่อไปเรื่องนี้เขาต้องบอกพ่อคนเดียว แต่ปากเด็กชายก็รับคำแม่ ลูกผู้ชายจะต้องทำให้ผู้หญิงสบายใจ
“ต้นกล้าจะไม่ทำแล้วคับแม่”
“แล้วต้นกล้าเสียใจไหมคับ ที่มีคนว่าลูกไม่มีพ่อ” หญิงสาวถามลูกจริงจัง
“เสียใจทำไมคุณแม่ ก็ต้นกล้ามีพ่อแต่เขาไม่รู้กันเองต่างหาก” เด็กชายพูดทันควัน
“แล้วตกลงยายป้าปากแดงคือใครคะ” อรุณีมาลายังสงสัยอยู่
“ก็....คนที่มากอดแขนพ่อในงานไงคุณแม่ แล้วสักพักต้นกล้าเห็นเขาไปคุยกับคุณย่า คงจะฟ้องที่พ่อว่าเขา” ต้นกล้าพูด ทำให้อรุณีมาลาตกใจ
“ไม่เอานะลูกทีหลังลูกอย่าพูดเอง เขาคุยอะไรกับใครถ้าเราไม่ได้ยินกับหู จะไปว่าเขาไม่ได้ค่ะ”
“งั้นทีหลังต้นกล้าจะไปฟังใกล้ๆ เลยคับ ต้นกล้าง่วงแล้ว” เด็กชายเริ่มไม่สนุกกับการซักไซ่ไล่เรียงของแม่
หญิงสาวมองลูกอย่างรู้ทัน แต่ไม่ว่าอะไร เธอมองลูกชายอย่างหนักใจต้นกล้าฉลาดขึ้นทุกวัน แถมกล้าพูดกล้าแสดงออก อีกหน่อยเธอคงรับมือลูกชายไม่ไหวแน่
“งั้นก็ไปอาบน้ำนอน แม่เตรียมชุดให้แล้วเดี๋ยวแม่อาบน้ำให้” หญิงสาวพูดแต่เด็กชายส่ายหน้า
“ต้นกล้าโตแล้ว ลูกผู้ชายต้องอาบน้ำเองฮะ”
หญิงสาวขำ “ลูกผู้ชายอายุสี่ขวบครึ่งเหรอลูก เอ้า..ลูกผู้ชายก็ลูกผู้ชาย”
เมื่อมาถึงจุดพักรถมอเตอร์เวย์อรุณประภาได้จอดรถเพื่อแวะทำธุระส่วนตัวและเผื่อเด็กๆ หิว ศิวัชที่ตามมาไม่ห่างจอดรถใกล้กัน ชายหนุ่มเห็นอรุณีมาลาอุ้มเด็กชายต้นกล้าลงจากรถ ส่วนอรุณประภาพาเด็กหญิงต้นข้าวเข้าห้องน้ำ ให้สองแม่ลูกนั่งคุยกันเงียบๆ สักพักชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหา ต้นกล้าเรียกเขาดังลั่น“คุณพ่อ แม่ให้ต้นกล้าไปนอนบ้านพ่อแล้วคับ” ศิวัชยิ้มอย่างดีใจ เขาหันไปหาเธอ “ขอบคุณนะครับออ” “วันเดียวนะคะลูก พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านนะ” หญิงสาวคุยกับบุตรชาย ต้นกล้าพยักหน้ายิ้มแป้น “คับ” เธอเลือกจะรักษาคำพูดที่บอกว่าจะให้ลูกนอนที่บ้านพ่อสักสองสามวันเมื่อวันก่อน โดยไม่เอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้งอีก เพราะต้นกล้ากับต้นข้าวไม่ผิดอะไร ไม่ว่าเรื่องของผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไรเธอไม่ควรเอาลูกมารองรับอารมณ์ของตนเอง“งั้นแยกกันตรงนี้เลยไหมออ” อรุณประภาตามมาสมทบ แต่อรุณีมาลาบอกว่า“ให้ต้นกล้ากับต้นข้าวไปกับคุณวัชก่อนก็ได้ พิณแวะไปส่งเราที่โรงแรมก่อนได้ไหม จะไปเอารถ” “ออไปกับพี่ก็ได้ พรุ่งนี้พี่ไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วเลยไปส่งออที่โรงแรม คุณพิณจะได้เข้าบ้านพักผ่อนเลย” ศิวัชพูดแต่อรุณีมาลาอยากอยู่
ศิวัชอยู่ดูแลต้นกล้าและต้นข้าว นายหัวภาคย์มาทานอาหารเช้ากับหลานๆ แล้วจึงขอคุยกับอัญญาและอิงควัตเป็นการส่วนตัว"ในฐานะที่หนูอัญเป็นพี่สาวคนโต ผมเลยอยากจะขอคุยเป็นงานเป็นการก่อนแล้วกันนะ" นายหัวเริ่ม"คุณลุงคะคุยกันแบบปกติก็ได้ค่ะ" อัญญาแย้ง อิงควัตพยักหน้าเห็นด้วย"นั่นสิครับคุณลุง" "งั้นลุงไม่อ้อมค้อมนะ ขอพูดตรงๆ เลยเรื่องลูกชายลุงกับหนูออ ตอนนี้ไม่ว่าความสัมพันธ์เขาสองคนจะเป็นแบบไหน ลุงจะไม่ยุ่งตรงนั้น แต่ต้นกล้ากับต้นข้าวเป็นหลานของลุง เป็นลูกไอ้ด็อกมันลุงกับแม่ไอ้ด็อกจะขอร่วมดูแลเด็กๆ ในฐานะปู่กับย่าบ้าง หวังว่าทางฉัตรอรุณคงไม่รังเกียจ""ไม่รังเกียจเลยค่ะคุณลุง จริงๆ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว คุณศิวัชเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทอดทิ้งลูกเรื่องนี้อัญกับคนอื่นๆ เข้าใจค่ะ แต่อย่างที่คุณลุงว่า ความสัมพันธ์ในอนาคตของออกับคุณวัชจะเป็นแบบไหน ก็อยู่ที่เขาสองคนจะตกลงกันเอง เราก็ทำได้แค่ซัพพอร์ตอยู่ห่างๆ" อัญญาพูด"จริงๆ ลุงอยากทาบทามขอหมั้นหนูออกับเจ้าด็อกไว้เลย แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ใช้เวลา ลุงแค่อยากให้ทางหนูอัญเข้าใจว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากจัดการทุกอย่างให้สมเกียรติ แต่ก็รอว่าเจ้าด็อกมั
“หยุด นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้น” กรธัชตะโกนสั่งแต่พวกมันต่อสู้เปิดฉากยิงใส่ตำรวจก่อนฝ่ายจนท.จึงยิงตอบโต้กันนานเกือบสิบห้านาที ฝ่ายคนร้ายคนหนึ่งถูกวิสามัญ คนที่มากับรถตู้ที่เหลืออีกสามคนจึงยอมมอบตัว โดยยกมือขึ้นโยนปืนมาข้างหน้าด้านชัยพลและแทนไท กระสุนจากปืนของร้อยเอกหัวหน้าชุดจับกุมเจาะเข้าที่ขาซ้ายของแทนไทจนเขาล้มลง กรธัชตรงเข้าไปยึดปืนจากแทนไทและใส่กุญแจมือ ส่วนคนอื่นๆ ต่างจัดการกับชายฉกรรจ์ทั้งสามคน ในจังหวะช่วงชุลมุนชัยพลหนีขึ้นรถถอยออกจะหนีแต่เขาไปได้ไม่ถึงยี่สิบเมตรก็เจอกับรถคันหนึ่งที่จอดขวางทาง พร้อมกับเมฆาที่ลงมาจากรถ ยิงไปที่ล้อเพื่อหยุดการหลบหนี ชายฉกรรจ์หลายคนกรูลงมาล้อมรถเขาไว้กระชากร่างชัยพลลงมากองกับพื้น เขาหน้าถอดสีเมื่อเห็นนายหัวภาคย์ลงมาเป็นคนสุดท้ายชัยพลทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นทำทีว่าไม่สู้ แต่เมื่อนายหัวเดินมาใกล้ๆ เขาชักปืนออกมาจะยิงแต่ถูกเตะปืนจนกระเด็นหลุดมืออย่างรู้ทัน และจากนั้นโดนกระทืบอีกหลายที“สำหรับที่มึงจะทำร้ายหลานกู และกับทุกความระยำที่พวกมึงทำกับเพศแม่ ถ้ามึงไม่ตายในคุกกูจะส่งคนไปฆ่ามึงเอง มึงจำไว้” นายหัวทิ้งท้ายก่อนที่กรธัชจะเ
ศิวัชพาต้นกล้าและต้นข้าวไปส่งให้อรุณีมาลา เด็กสองคนเริ่มงอแงเพราะง่วงนอน“พ่อจะมานอนกับเราไหม” ต้นกล้าถามศิวัชเหลือบตามองอรุณีมาลาที่กำลังพาต้นข้าวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำด้านในห้อง“มาสิ เดี๋ยวพ่อรีบกลับนะลูก” เขาทำเสียงกระซิบกระซาบต้นกล้าพูดแบบไม่มีเสียงตอบกลับ “โอเคคับ”งานเลี้ยงยังดำเนินไปอยู่อย่างสนุกสนานแต่อรุณประภาอ้างว่าเวียนศีรษะ ขอตัวลุกจากโต๊ะหลังที่น้องสาวฝาแฝดขอตัวไปห้องน้ำไม่นานนัก แทนไทและชัยพลจึงถือขอโอกาสขอตัวออกจากงาน เขาบอกเจ้าภาพว่า“เราขอตัวกลับไปนอนก่อนนะครับ รู้สึกมึนๆ” เมฆายิ้ม “ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานของเราสองคน” เมื่อแทนไทและชัยพลขับรถออกไปจากบริเวณงาน สีหราชก็มาถึง “เรียบร้อย” เขาพูดเพียงสั้นๆ เข้าใจกันได้ดี เจ้าภาพปล่อยให้งานเลี้ยงดำเนินไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องขยายเสียงและไฟ แต่สมาชิกหลักในครอบครัวและจนท. รวมถึงคนที่มาช่วยหายเข้าไปในห้องประชุม ต่างรอฟังความเคลื่อนไหวจากผลงานในวันนี้อรุณประภาและอรุณีมาลาเข้ามาสมทบหลังจากที่เด็กๆ หลับแล้ว เธอสองคนนั่งโต๊ะเดียวกับอัญญา“เจ้าแฝดล่ะ” พี่สาวคนโตถาม“หลับแล้วค่ะ ให้พี่เลี้ยงอ
งานเลี้ยงเริ่มเวลาหนึ่งทุ่ม แต่อิงควัตให้อรุณีมาลากับอรุณประภาลงไปในงานเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที เพื่อให้ดูเด่นมากพอ“พี่จะดูหลานให้เอง ออกับพิณต้องระวังตัวนะ ถ้าไม่ชอบมาพากลให้ถอยเลย” อิงควัตดูความเรียบร้อยให้น้องสาวทั้งคู่ คืนนี้คู่แฝดสาวสวยมากทั้งสองคน“รอบๆ งานจะมีจนท.ที่แฝงตัวมา พวกเขาจะคอยจับตาอีกทาง” “ค่ะพี่อิง” สองสาวรับคำ ด้านอิงควัตแม้จะห่วงน้องแต่เขาคิดว่าทั้งสองคนน่าจะเอาตัวรอดได้อรุณีมาลาและอรุณประภามองหน้ากัน “ไม่เป็นไรนะพิณ หลังจากคืนนี้เราจะสลัดไอ้ผู้ชายเฮงซวยออกไปจากชีวิตแบบถาวร ด้วยการส่งมันเข้าคุก” “เดี๋ยวนะออ ใส่อารมณ์จังผู้ชายเฮงซวยที่ว่านี่รวมดร.ด้วยรึเปล่า” อรุณประภาถาม แต่คนอีกกลุ่มที่นั่งฟังผ่านไมโครโฟนพากันหัวเราะ อรุณีมาลาไม่ตอบเธอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้างานสองสาวเลือกนั่งโต๊ะที่ว่างโต๊ะหนึ่ง จากนั้นไม่นานแทนไทและชัยพลก็มองเห็นพวกเธอ สองคนพากันลุกมาหาคู่แฝดสาวทันที“พิณมานั่งที่นี่เอง แทนรอตั้งนาน” แทนไทนั่งลงข้างๆ เขาคิดว่าคนรักยังเคืองอยู่ “ยังโกรธแทนอยู่รึเปล่าครับ แทนขอโทษอีกทีนะ” ชายหนุ่มหันมาหาอรุณีมาลา“วันนั้นขอโทษออด้วยนะครับ พอด
ศิวัชมาส่งอรุณีมาลาที่บ้านพักส่วนตัวของเธอ ส่วนลูกๆ อยู่กับนายหัวภาคย์ คุณปู่คุยสนุกจนเด็กๆ ชอบที่จะอยู่ด้วย นายหัวบอกว่า"เอ็งพาแม่หนูเข้าบ้านไปเถอะ ท่าทางอยากพัก ส่วนหลานๆ อยู่กับปู่ดีกว่าเนอะลูก" ด้วยเหตุนี้ในรถจึงเหลือแค่เธอและเขาสองคน เมื่อเขาจอดรถหน้าบ้านหญิงสาวจึงรีบลงหยิบกระเป๋าลงมา แล้วเดินเข้าบ้าน เธอหันมามองเมื่อศิวัชหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาลงจากรถ"คุณเอาของคุณลงมาทำไม" นี่เขาคงไม่ได้คิดจะพักที่นี่หรอกนะ เธอคิดในใจ"ลูกกับอออยู่ไหน พี่ก็อยู่ที่นั่นล่ะ" เขาพูดง่ายๆ รอให้เธอเชิญเข้าบ้านคงไม่มีวันนั้น"แต่นี่บ้านฉัน บ้านส่วนตัวคุณควรกลับไปนอนที่ตึกใหญ่" หญิงสาวไล่ตรงๆ"แล้วออไม่กลัวนายชัยพลเหรอ ถึงไม่ให้พี่อยู่ด้วย รึว่า.. " เขาหยุดพูด"รึว่าอะไร" หญิงสาวเสียงขุ่น"รึว่าออเคยให้ความหวังเขา เรื่องจะมีลูกคนใหม่แบบที่เขาพูด"ฉาด... เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น เมื่ออรุณีมาลาลุแก่โทสะเพราะคำถามของเขา ศิวัชหน้าหันไปตามแรงตบ ชายหนุ่มกระชากร่างของเธอมาชิดร่างก้มลงจูบทันที หญิงสาวยกมือขึ้นดันอกกว้าง มือจิกข่วนลงไปตามผิวเนื้อของเขาแบบไม่เลือกที่ เธอเบี่ยงหน้าหนีริมฝีป