Home / รักโบราณ / พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง / ตอนที่ 6  ความรู้สึกใดกันแน่!!

Share

ตอนที่ 6  ความรู้สึกใดกันแน่!!

last update Last Updated: 2025-03-18 01:35:38

 

“เจ้านี่ช่างไร้มารยาทเสียจริง ท่านอ๋องบอกแล้วว่า…”

“เจ้าออกไปก่อน”

“ได้ยินหรือไม่ ท่านอ๋องบอกให้เจ้าออกไป ยังเสนอหน้ายืนอยู่ทำไมอีก”

เฟิ่งจื่อหลิงหันไปมองสตรีที่โวยวายอยู่ด้านหลังเขาอย่างหมดความอดทน

“ที่ข้าพูด หมายถึงเจ้าเซียงถงเหยา เจ้าออกไปก่อน”

“หม่อมฉัน!! แต่ว่าท่านอ๋องเพคะ”

“ออกไป”

“ท่านอ๋องเพคะ แต่ว่าพวกเรายังคุยกันไม่จบนะเพคะ”

“หลงอี้!!”

“ก็ได้เพคะ หม่อมฉันออกไปก่อนก็ได้”

เซียงถงเหยาเดินออกไปด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับมองหน้าหลินเย่ด้วยความไม่ชอบใจเท่าใดนัก แต่ หยางหลินเย่ไม่ได้มองนางแม้แต่น้อย สายตานางมองไปที่บุรุษหนุ่มที่ไม่ได้พบมาร่วมเดือนตรงหน้านาง

“เจ้ามีสิ่งใดอยากจะพูดก็พูดเถอะ เอาแต่ส่งสายตาเกลียดชังนั่นมาให้ข้า จะให้ข้าคิดเช่นไร นี่เจ้าคงมิได้มาที่นี่เพราะความหึงหวงข้าหรอกกระมัง”

“หึ คิดมากไปแล้ว ต่อให้ท่านจะเสพสมกับเหล่าสตรีอีกสักสิบคนอยู่ในห้องนี้ก็มิใช่เรื่องของข้า”

“ดูท่าแล้วพระสนมคงเหงาที่หาคนชวนทะเลาะไม่ได้ จึงได้มาหาเรื่องข้าถึงที่นี่สินะ”

“ข้าจะมาถามข่าวของมี่อิน ท่านเอานางไปไว้ที่ใดกันแน่เหตุใดจึงไม่ยอมปล่อยนางออกมาเสียที”

เฟิ่งอ๋องรู้ว่านางคงหาโอกาสถามเรื่องนี้มานานแล้ว เขาเองเป็นฝ่ายที่ไม่ไปหานางและไม่หาเรื่องนางอีก เพราะเขากำลังคิดหาทางออกเรื่องนี้

เขาไม่ได้ต้องการแต่งงานกับสตรีที่เกลียดเขา และยิ่งสตรีตรงหน้านี้คือน้องสาวของสหายร่วมศึกด้วยแล้ว เขาจึงเลี่ยงที่จะปะทะคารมกับนาง

แต่พบว่าทุกครั้งที่พบนาง เขากลับเกิดความรู้สึกบางอย่าง จะว่าใจอ่อนก็ไม่ใช่ แต่สายตาของนางที่มองเขาด้วยความเกลียดทุกครั้งที่พบกัน มันทำให้เขาอยากเอาชนะนาง

“เจ้าทำตามข้อตกลงของเราหรือยัง”

“ข้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ท่านและยังไม่เคยคิดฆ่าตัวตายอีก หากท่านยังมีความเป็นคนอยู่ก็ควรปล่อยมี่อินออกมาได้แล้ว”

“พระสนม เจ้าใช้คำพูดและสายตาเช่นนี้ขอร้องผู้อื่นเช่นนั้นหรือ ที่ชุนฮัวของเจ้ามิได้สอนหรือว่าเวลาขอร้องผู้อื่นให้ทำตัวเช่นไร”

หลินเย่รู้สึกโมโหเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้นางเพียงแค่ต้องการมาสอบถามเรื่องของมี่อิน แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาพบเขา นางกลับโมโหเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ และตอนนี้แทบอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ

 นางพยายามข่มใจเอาไว้และนึกถึงเพียงมี่อินที่เป็นดั่งพี่น้องของนางเพราะเติบโตมาด้วยกัน นางจึงยอมคุกเข่าขอร้องเขา

“ขอท่านอ๋องโปรดเมตตา ปล่อยมี่อินด้วยเพคะ”

หลินเย่ก้มหน้าหลับตาและพูด นางไม่เคยคิดว่าจะต้องทำเช่นนี้มาก่อน เฟิ่งอ๋องเองก็ไม่คาดคิดว่านางจะทำเพื่อสาวใช้คนหนึ่งได้ถึงเพียงนี้ ทั้งกิริยาอ่อนช้อยงดงามที่นางทำและน้ำเสียงที่พูดออกมาทำเอาเขาใจอ่อนยวบจนแทบอยากจะไปประคองนางขึ้นมาแล้วกอดเอาไว้ แต่ก็ลืมนึกถึงไปว่า....นางยังคงเกลียดเขาอยู่

“ลุกขึ้นเถอะ คนของเจ้าข้าจะส่งไปให้ทีหลัง”

“ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะปล่อยนางกลับมาเมื่อใดเพคะ”

“ทำไม หากว่าพวกเจ้าพบกันแล้ว จะวางแผนหนีออกไปอีกงั้นหรือ”

หลินเย่ไม่ตอบ นางเพียงหันหน้าหนี เฟิ่งอ๋องเดินมาพร้อมกับรวบตัวนางเข้ามากอดเอาไว้และจับที่ปลายคางนางเชิดขึ้นมาเพื่อให้สบตาเขา

“มองข้าแล้วตอบคำถามสิ พระสนมคิดว่าตำหนักอ๋องของข้า นึกอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปได้งั้นหรือ”

“ปล่อยข้านะ”

“ทำไม เจ้าทนไม่ไหวแล้วงั้นหรือ เจ้าฝืนทำท่านอบน้อมได้เพียงไม่เท่าใดก็เผยตัวตนออกมาเช่นนี้ ข้าควรจะช่วยเจ้าดีหรือไม่!!”

“ท่านรับปากแล้ว ท่านเป็นฉีอ๋องแห่งฉีโจว คิดว่าคงไม่ผิดคำพูด”

“หึ ก็ได้ ข้าไม่ผิดคำพูด แต่ค่าตอบแทนเล่า ข้าคิดว่าเจ้าต้องจ่ายเสียหน่อยนะพระสนม”

หลินเย่เริ่มส่งสายตาระแวงมาที่เขาเมื่อเฟิ่งอ๋องเริ่มกอดนางแน่นขึ้นนางพยายามเบี่ยงหน้าหนีแต่ไม่อาจสู้แรงมือของเขาได้ 

“อยู่นิ่งๆ หากเจ้าอยากได้สาวใช้ของเจ้าคืนก็ทำตามที่ข้าสั่ง”

“คนเลว…อื้อ..ปล่อยข้านะ คนสารเลว!!”

เฟิ่งอ๋องก้มลงจูบนางซ้ำแล้วซ้ำอีกจนนางเริ่มต่อต้านไม่ไหว ลิ้นสากหนาล้วงเข้าไปลิ้มลองในรวงปากที่หวานราวน้ำผึ้งแตกต่างกับสายตาและคำพูดของนางที่ใช้กับเขายิ่งนัก มือหนาค่อยๆจับใบหน้านางขึ้นมารับจูบของเขา หลินเย่เองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดต้องยอมให้คนที่เกลียดที่สุดมาทำเช่นนี้

 แต่หากนางไม่ยอม มี่อินก็ไม่รอด แต่เรื่องที่เขาฆ่าพี่สาวนางเล่า….คิดได้เช่นนี้นางจึงได้กัดเขาเข้าไปเต็มแรงจนเลือดเขาออก

“เจ้าอยากจะลองดีกับข้างั้นสินะ!!”

“ออกไปนะ ท่านรับปากข้าแล้ว ข้าก็ทำตามใจท่านแล้ว พวกเราถือว่าหายกัน”

“นี่เจ้า!!”

“ปล่อยข้านะ นังแพศยานั่นอยู่ที่ใด!!”

เสียงโวยวายด้านนอกดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออกมา สตรีอีกคนที่หลินเย่ไม่เคยพบหน้าเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับมองไปที่ท่านอ๋องที่เลือดไหลอยู่มุมปาก

“พี่จื่อหลิงเกิดสิ่งใดขึ้น นี่เจ้า…กล้าทำร้ายท่านอ๋องเชียวหรือ นังมารร้าย”

“เพี๊ยะ!!”

“อาจู!!”

“พระสนม พระองค์ปลอดภัยหรือไม่เพคะ”

“หลานมู่เอ๋อร์ เจ้ามาได้อย่างไร หลงอี้!!”

“ข้าอยากมาเห็นหน้าพระสนมของท่านน่ะสิ นี่หรือองค์หญิงที่ชุนฮัวส่งมาอีกคน ครั้งนี้จะมาทำร้ายผู้ใดอีกเล่า อย่าได้คิดมาเผยอหน้าอยู่ตรงนี้ พี่จื่อหลิงไม่เหมือนหยวนซื่อที่เจ้าจะใช้มารยาทำให้เขาลุ่มหลงได้”

“หยุดนะ!! หลานมู่เอ๋อร์ เจ้าออกไปก่อน”

“พี่จื่อหลิง แต่นางถึงกับทำร้ายท่าน”

“ข้าบอกให้เจ้าออกไป!!”

“เดี๋ยวก่อน”

หลินเย่เป็นผู้ที่เรียกนางเอาไว้ 

“เจ้ามีสิ่งใดจะ…”

“เพี๊ยะ…..เพี๊ยะ”

“โอ๊ย นี่เจ้า…กล้าตบข้างั้นหรือ!!”

เฟิ่งอ๋องรู้แรงของนางดีเพราะเคยประมือกัน หากนางยังลงมือ หลานมู่เอ๋อร์ได้บาดเจ็บหนักแน่

“พระสนม หยุดนะ!!”

“ตบแรกข้าตบแทนอาจู นางเป็นคนของข้า ไม่ใช่คนที่เจ้านึกอยากจะตบก็ตบได้ ตบที่สองข้าตบให้ความไร้มารยาทของเจ้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้ามาเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ข้าไม่มีธุระอะไรกับท่านอ๋องของเจ้าแล้ว พวกเจ้าอยากทำสิ่งใดกัน ก็เชิญ!! อาจู พวกเรากลับ!!”

“พระสนม เจ้าหยุดก่อน!!”

“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งข้า ท่านอ๋องสั่งพวกสตรีที่รายล้อมพระองค์ไม่ให้มายุ่งกับข้าได้ก่อนเถอะ หึ…. สันดานผู้ชาย มักมากไม่สิ้นสุด”

“เจ้า…เหตุใดหยาบคายเช่นนี้ ท่านอ๋องเพคะ”

“หลงอี้ เจ้าพานางไปส่ง”

“ไม่ต้อง!! ข้ามาเอง…ก็กลับเองได้ เชิญท่านอ๋องตามสบาย”

หลินเย่เดินออกมาจากห้องทรงงานและเดินรุดกลับตำหนักอย่างรวดเร็วมีอาจูเดินตามไม่ห่าง เมื่อถึงตำหนักแล้ว นางจึงสั่งให้อาจูนั่งลงที่โต๊ะและหยิบยาที่ครั้งก่อนอาจูนำมาใส่แผลให้นางมาทาให้อาจู

“พระสนมเพคะ หม่อมฉันไปหายาทาเองก็ได้เพคะ ยานี่…”

“เจ้าอยู่เฉยๆ เหตุใดเจ้าช่างโง่นัก นางมาตบข้าไม่ได้หรอก เจ้าไปรับฝ่ามือแทนทำไม ดูสิ มีเลือดออกด้วย รอเดี๋ยวนะ ข้าจะเช็ดออกให้”

“พระสนมดีกับบ่าว หม่อมฉันอยู่รับใช้พระองค์ ย่อมต้องอยากปกป้องพระองค์ เป็นหน้าที่ของบ่าวเพคะ”

“อาจู แม้เจ้าจะเป็นสาวใช้ แต่ข้าไม่เคยเห็นเจ้าเป็นบ่าวไพร่เจ้าอย่าดูถูกตัวเอง มานี่ อยู่เฉยๆข้าจะใส่ยาให้”

หลินเย่ค่อยๆใส่ยาให้นางพร้อมกับถาม

“ผู้ที่ตบเจ้าคือผู้ใดกัน”

“นางชื่อหลานมู่เอ๋อร์ เป็นบุตรสาวคนรองของท่านเจ้ากรมคลังเพคะ”

“เหตุใดลูกขุนนางกรมคลังจึงเข้านอกออกในห้องทรงงานท่านอ๋องได้ นางมิใช่พระสนมของเขางั้นหรือ”

“พระสนมคงเข้าใจผิดแล้วเพคะ แม่นางหลานมิใช่พระสนมหรือขุนนาง แต่เป็นน้องสาวของ…”

หลินเย่เห็นว่าอาจูนิ่งเงียบไป เหมือนว่านางไม่อยากพูด แต่ตอนนี้นางเองก็ไม่อยากรู้เรื่องของเขา

“ช่างเถอะ หากเจ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องบอก แล้วอีกคน ข้าหมายถึงสตรีคนแรกที่อยู่ในห้อง”

“อ่อ นั่นแม่นางเซียงถงเหยา เป็นเป็นบุตรแม่ทัพเซียงและสหายของท่านอ๋องเพคะ”

“หึ สหายเข้ากอดจูบกันด้วยหรือ ข้าพึ่งรู้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 3  งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่  

    งานอภิเษกองค์หญิงจินลั่วเฟยงานอภิเษกยิ่งใหญ่ดังคำประกาศที่ฝ่าบาทได้แจ้งเอาไว้จริงๆ บัดนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงของชุนฮัวต่างพากันตกแต่งซุ้มดอกไม้และประดับธงมงคลทั่วทุกบ้าน และทางวังหลวงยังจัดให้มีขบวนรถม้าเพื่อแห่ขบวนคู่บ่าวสาวของราชวงศ์ตามธรรมเนียมของชุนฮัวด้วยเช่นกันบ่าวสาวในชุดสีขาวบริสุทธ์ปักด้วยเพชรและทองทั้งตัวจากช่างฝีมือดีของในวังที่เพียรตัดชุดนี้ขึ้นมาอย่างประณีต องค์ชายฟงเจ้าหนานจับมือองค์หญิงจินลั่วเฟยขึ้นรถม้าที่ประดับด้วยดอกไม้พร้อมกับรับตะกร้ามาจากสาวใช้ ในนั้นบรรจุแผ่นทองเต็มสองตะกร้า เพื่อให้ทั้งคู่โปรยแจกราษฎรในเมืองหลวงระหว่างที่ขบวนแห่เริ่มออกจากวังหลวง“ข้าน่าจะมาแต่งที่ชุนฮัวบ้างนะ พิธีการของที่นี่ช่างน่าสนใจยิ่งนัก”“พระองค์อยากแต่งที่ชุนฮัวหรืออยากได้พระสนมที่ชุนฮัวเพิ่มเพคะ”“เปล่านะๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าอย่าเข้าใจข้าผิด เจ้าดูสิ พวกเขานั่งรถม้าโบกมือให้ประชาชนที่มารอร่วมยินดีกับพวกเขาทั้งสองข้างทาง ช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ในฉีโจวเราไม่มีพิธีแบบนี้เกิดขึ้นเลยสักครั้ง”“ชุนฮัวเป็นเช่นนี้มานานแล้วเพคะ เพียงแต่ว่านานๆถึงจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เหล

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 2  พิธีสู่ขอองค์หญิง    

    แคว้นชุนฮัว“หลินเย่ ถึงแล้ว”“จื่อหลิง เหตุใดจึงหนาวเช่นนี้เพคะ”“ตอนนี้ชุนฮัวคงเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว มาเถอะ ข้าจะสวมเสื้อคลุมกับถุงมือให้”“ขอบพระทัยเพคะ”“หลินเย่ พี่เฟิ่งพวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง”“อ้อ เจ้าหนานหลินเย่คงไม่ค่อยชินเท่าไหร่น่ะ เห็นบ่นว่าหนาวลั่วเฟยล่ะ”“พานางไปดื่มชาร้อนด้านในก่อนเถอะ ลั่วเฟยบอกให้กข้ามารับพวกท่านเข้าไปด้านในก่อน อีกห้าสิบลี้กว่าจะถึงชุนฮัว ต้องพักที่นี่ก่อน”“ได้สิ อีกเดี๋ยวข้าจะตามเข้าไป แล้วเนี่ยฝานกับลั่วเจินเล่า”“พวกเขาเข้าไปแล้วขอรับ”“ได้ เช่นนั้นข้าจะรีบพาหลินเย่ตามเข้าไป”“ได้ขอรับ”“หลินเย่ ไหวหรือไม่”“จื่อหลิง หนาวจังเลยเพคะ หม่อมฉันไม่อยากออกไปเลย”“มาเถอะ ข้าพยุงเจ้าไปเองนะ ลั่วเฟยให้เจ้าหนานมาตามเราเข้าไปด้านใน อยู่ตรงนี้จะหนาวนะ ไปเถอะหลินเย่ค่อยๆเดินออกมาด้านนอกรถม้าที่จอดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมก่อนถึงแคว้นชุนฮัว นางเดินลงจากรถม้าและรีบโผเข้ากอดเฟิ่งอ๋องทันทีเพราะความหนาวเย็นเขาพยุงนางและพาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมที่คนที่เหลือนั่งดื่มชารออยู่ ลั่วเฟยเมื่อเห็นหลินเย่เดินเข้ามาจึงรีบนำเตาอุ่นมือวิ่งเอาไปให้นาง“หลินเย่ นี่เตาอุ่นมื่อ เจ้าอุ้มเอ

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนพิเศษ 1 เดินทางกลับแคว้นชุนฮัว

    “พี่หญิงข้าจะรีบไปรีบกลับนะเจ้าคะ ท่านอยู่ที่นี่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ”“ไปเถอะเจ้าไม่ต้องห่วงข้ากับท่านพ่อนะ เที่ยวให้สนุก”“แม่ชีหลาน ไว้พบกันวันขึ้นเขานะ”“ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”ท่านอ๋องหันไปมองหน้าสหายที่ตะโกนบอกกับหลานผิงอันอยู่ข้างรถม้าของเขา เฟิ่งจื่อหลิงรู้สึกว่าท่าทีของสหายข้างๆแปลกไป หลายวันมานี้เขาขอตัวไปเฝ้าและรับอาสาส่งยาของท่านหมอไปที่จวนสกุลหลานนอกเมืองและมักจะหายไปหลายชั่วยามในแต่ละวัน“เจ้าจะรอจนนางกลับไปบำเพ็ญเพียรก่อนจึงจะยอมบอกความรู้สึกหรืออย่างไร”“ท่านอ๋อง พระองค์ทรงตรัสอะไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงแต่....”“อย่ามาใช้คำพวกนี้กับข้า เป็นสหายกับเจ้ามาหลายปี มาตอนนี้จะมาเรียกข้าเช่นนี้ บอกข้ามาเจ้ากำลังตกหลุมรักเข้าแล้วสินะ”“จื่อหลิงเจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล ข้าน่ะ...”“พี่ใหญ่ ท่านพี่ พวกท่านคุยอะไรกันอยู่เพคะ”“อ้อ...หลินเย่ข้ามีอะไรจะบอกเจ้าด้วย คือว่า..”“ก็ได้ๆ เฟิ่งจื่อหลิงเจ้าคนเจ้าเล่ห์ ข้ายอมรับ เจ้าอย่าพึ่งบอกหลินเย่นะ นางหวงหลานผิงอันยิ่งกว่าผู้ใดเสียอีก”“เรื่องนี้น้องรองของเจ้าก็รู้สินะ”“ใช่ นางรู้”“แล้วเหตุใดให้หลินเย่รู้ไม่ได้เล่า”“น้องสามไม่เหมื

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 40 สัญญาใต้ดวงดาว  (ตอนจบ )

    “หม่อมฉันเองก็มีความสุขมากเพคะ ที่พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้ เสียดายที่ท่านพ่อหลานมาไม่ได้”“ใต้เท้าหลานคงต้องรักษาตัวอีกสักพัก เขาตามไปอยู่ที่วัดกับแม่ชีหลานอาจจะทำให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นมาก็เป็นได้”“ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเพคะ”พวกเขาเข้ามาร่วมวงสนทนาเป็นวงใหญ่เมื่อท่านอ๋องและพระชายามาร่วมด้วยทำให้กลุ่มของพวกเขาเสียงดังกว่าผู้ใดในงานเลี้ยงจนเป็นที่จับตามอง“องค์ชาย หากว่าท่านกลัวว่าฝ่าบาททของชุนฮัวไม่ยกองค์หญิงให้ เช่นนั้นข้าจะเป็นตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าวไปสู่ขอให้ท่านดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง พระองค์ตรัสจริงหรือไม่เรื่องนี้กล่าวเล่นๆไม่ได้นะเพราะข้าจริงจังมาก”“ข้าไม่ได้กล่าวเล่นๆ ในเมื่อช่วยให้พวกท่านสมหวังได้เหตุใดจึงจะช่วยไม่ได้กันเล่า ถือโอกาสพาหลินเย่กลับไปเยี่ยมบ้านด้วย ใช่หรือไม่เนี่ยฝาน”“ดี ยอดเยี่ยม ขบวนรถม้าครั้งนี้คงราวกับคาราวานขนส่งสินค้าข้ามแดนเลยกระมังดูจากผู้ที่ร่วมเดินทางแล้วมีมากเหลือเกิน”“เป็นหน้าที่ท่านกับหลงอี้แล้วล่ะที่ต้องดูแลพวกเราตอนเดินทาง ว่าอย่างไรองค์ชายฟงเจ้ายังกลัวอยู่หรือไม่”“หากว่าท่านอ๋องเอ่ยปากขนาดนี้ มีทุกคนช่วยพูด ข้าเชื่อว่างานนี้ฝ่าบาททไม่ยอมก็ต้

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 39 ข่าวดีล่าสุด

    งานแต่งตั้งพระชายาท่านอ๋องชุดสีแดงสลับขาวปักเลื่อมลายนกยูสีทองบนฉลองพระองค์พร้อมกับเครื่องประดับสีทองถูกสวมลงบนเรือนร่างของพระสนมหยางหลินเย่ เมื่อเกี้ยวจอดอยู่หน้าตำหนักเพื่อมารับพระสนมไปที่ท้องพระโรงเพื่อทำพิธีแต่งตั้งพระชายา “เมื่อขึ้นเกี้ยวนี้ไปกลับเข้ามาอีกครั้งต้องเป็นพระชายาแล้วนะหลินเย่ เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าภารกิจหลังจากนี้เจ้ากับท่านอ๋องต้องร่วมใจกันทำเพื่อชาวฉีโจว”“เจ้าค่ะพี่รอง พี่ใหญ่เล่าเพคะ”“พวกเขาไปรออยู่ที่ท้องพระโรงแล้ว เหลือข้ากับผิงอันรอส่งเจ้าที่ตำหนัก”“พี่หญิง”“น้องพี่…วันนี้เจ้างดงามมากจริงๆ ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดีเชื่อใจและมั่นใจในกันและกัน เจ้ากับท่านอ๋องคือคู่ที่สวรรค์ลิขิต ไปได้แล้วข้ากับลั่วเจินจะไปรอเจ้าที่ท้องพระโรง”“เจ้าค่ะ”หยางหลินเย่เดินขึ้นเกี้ยวอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นพระราชพิธีเพื่อแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระชายา ชุดแดงขาวปักนกยูงสีทองยางลากพื้นเมื่อนางเดินถือหนังสือแต่งตั้งสีทองเดินขึ้นยังท้องพระโรงด้านในนั้นมีเฟิ่งอ๋องที่สวมชุดสีเดียวกันกับนางนั่งที่ประทับรออยู่แล้วเพื่อสวมรัดเกล้าพระชายาให้กับพระชายา เมื่อเดินไปยังหน้าพระที่นั่งที่รายล้อมไปด้วยเหล่าข

  • พระสนมที่รักของเฟิ่งอ๋อง   ตอนที่ 38  บทรักข้ามคืน

    หลินเย่กลับมาที่ห้องบรรทมอีกครั้งในตอนค่ำเพื่อเสวยมื้อค่ำกับท่านอ๋อง ซึ่งตอนนี้ทำท่านั่งโกรธอยู่ที่โต๊ะเสวยพร้อมกับสีหน้าเรียบเฉยอย่างที่เขาเคยทำเมื่อเริ่มโกรธ“ท่านอ๋องเพคะ เนื้อไก่นี่อร่อยนะเพคะ พระองค์ลองชิมดูเพคะ”เขาทำเพียงแค่มองและขยับเนื้อไก่นั้นเอาวางไว้ริมชาม คนที่ตักให้ถึงกับขำกับท่าทางของคนตัวโตตรงหน้าที่งอนราวกับเด็กๆพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่สนใจนาง“ท่านอ๋อง…..”“จื่อหลิง….”หลินเย่งัดไม้ตายสุดท้ายมาเมื่อนางขยับตัวเข้ามาใกล้เขาและจงใจใช้อกอวบแน่นนั้นบดเบียดแขนของเขาอย่างจงใจจนคนที่ถูกยั่วนั้นใบหูเริ่มแดงขึ้น“ท่านพี่….ไม่สนใจหม่อมฉันจริงหรือเพคะ”คำว่า “ท่านพี่” ของนางเกือบทำให้เขาใจอ่อน แม้ว่าจะรีบยกชามข้าวขึ้นมาบดบังรอยยิ้มนั้นเกือบไม่ทันแต่ไม่นานเขาก็กลับมาตีหน้าเฉยชาอีกครั้ง“ข้าจะกินข้าว”“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์อยากจะกิน….อย่างอื่นเสียอีก…เฮ้อ เช่นนั้นก็เชิญพระองค์เสวยไปก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน”“จะ…เจ้าไม่กินหรือ…”เสียงที่เริ่มสะอึกเพราะคำว่า “อาบน้ำ” ที่นางบอกทำให้คนฟังคิดไปไกลจนเตลิดแต่ยังไม่เท่ากับสิ่งที่นางกำลังจะทำ“ใช่เพคะ วันนี้ร้อนอบอ้าว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status