LOGINทันทีที่ประตูห้องปิดลง เมฆินทร์ก็วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างตัวอย่างแรงจนน้ำกระฉอกเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ ร้ายกาจ และเต็มไปด้วยความพึงพอใจในแผนการที่เขาเพิ่งสร้างขึ้น
เขารีบกดโทรศัพท์ หาใครบางคน
"ฮัลโหล ไอ้ยุ" เมฆินทร์กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างเด็ดขาด "มึงพาเมย์กลับกรุงเทพฯ เลยนะ"
เขาเว้นจังหวะเล็กน้อยเพื่อฟังคำตอบ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีการประนีประนอม
"ทำยังไงก็ได้... รีบออกรถเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องอยู่รอใครทั้งนั้น"
เมฆินทร์ กดวางสายทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้โต้แย้ง เขายืนมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟแห่งการครอบครอง ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม
"พี่อนุญาต ให้เธอกลับได้... แต่ถ้าเธอไม่ได้ กลับเอง... ก็โทษใครไม่ได้นะ จารวี"
เมฆินทร์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างสบายอารมณ์ เขารู้ดีหนทางเดียวที่เธอจะกลับได้คือไปกับวายุและเมย์... แต่แผนการของเขาจะทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่กับเขา...ที่นี่
จารวีรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าทันที เธอต้องแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้ว่าวายุขับรถมา และถ้าเมย์กลับไปกับวายุจริง ๆ ก็เท่ากับเธอ ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ตามแผนการที่เธอไม่รู้ตัว
จารวีกดโทรออกหา เมย์
<ตื๊ด ๆ ... ตื๊ด ๆ ...>
เสียงรอสายดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงสัญญาณอัตโนมัติที่คุ้นเคย "ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้"
(…?)
จารวีกัดริมฝีปากแน่น เธอพยายามโทรซ้ำอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม โทรศัพท์ของเมย์ถูกปิดเครื่อง
"เมย์ปิดมือถือทำไม? หรือว่าแบตหมด? แต่ทำไมถึงรีบออกไปโดยไม่รอฉันเลย!" จารวีคิดในใจ
เธอทรุดตัวลงพิงกับผนังอย่างหมดแรง เธอเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ในทันที มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
"พี่เมฆ...!"
เธอนึกถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาตอนที่เขาอนุญาตให้เธอกลับไปกับเมย์ได้อย่างง่ายดาย
"พี่อนุญาต ให้ จี๊ด... กลับพร้อมเมย์ได้..."
ตอนนี้เธอถูกทิ้งไว้ที่นี่ โดยไม่มีรถ ไม่มีใครให้ติดต่อ และไม่มีทางกลับกรุงเทพฯ ในทันที การที่วายุและเมย์ออกไปโดยไม่รอเธอ ยืนยันชัดเจนว่านี่คือความต้องการของเมฆินทร์
จารวีกำโทรศัพท์แน่นในมือ มองไปยังประตูห้องของเมฆินทร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความหวาดหวั่น... เธอทำอะไรไม่ได้เลย!
ความรู้สึกถูกหักหลังและถูกกักตัวทำให้หญิงเดินออกจากห้องพักด้วยสีหน้าบึ้งตึง เธอต้องหาทางระบายความอัดอั้น ไม่ว่าจะเป็นแผนการร้ายกาจของเมฆินทร์หรือไม่ก็ตาม เธอกวาดสายตาสำรวจรอบรีสอร์ทที่เงียบสงบ พลางหาทางออกให้กับตัวเอง
สายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ใกล้โซนต้อนรับ เธอรีีบสาวเท้าเข้าไปถามพนักงานทันท
"พี่คะ มอเตอร์ไซค์คันนี้ให้เช่ารึเปล่าคะ"
พนักงานหนุ่มยิ้มตอบอย่างสุภาพ
"อ๋อ เป็นบริการฟรีของทางรีสอร์ทเลยครับคุณลูกค้า แค่เติมน้ำมันเองก็พอ"
จารวีเห็นกุญแจเสียบคาอยู่กับรถ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้า เธอรู้สึกเหมือนเจอทางรอด พนักงานยังไม่ทันพูดจบ เธอก็ทรุดตัวลงนั่งบนเบาะพร้อมบิดกุญแจ
<แคว๊ก!>
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นพร้อมกับความสะใจ แต่ยังไม่ทันได้บิดคันเร่ง ก็มีมือหนาอุ่นจัดข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดสวิตช์กุญแจจนเครื่องดับสนิท
จารวีชะงัก เธอค่อย ๆ มองตามแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พับขึ้นอย่างลวกๆ ไล่สายตาขึ้นไปจนปะทะกับใบหน้าหล่อเหลาที่ยืนค้ำอยู่ข้างตัว
"พี่เมฆ มีอะไรอีกคะ" เธอถามเสียงห้วน
"จะไปไหน!"
"ทำไมคะ แค่มอเตอร์ไซค์คันเดียว มันเหาะข้ามเกาะไปได้หรอกค่ะ ยัยเมย์ก็กลับไปแล้ว นี่คงเป็นแผนของพี่สินะ"
เมฆินทร์ไม่ได้ตอบคำถาม เขายิ้มมุมปากด้วยความพอใจในปฏิกิริยาของเธอ มือของเขายังคงปิดกุญแจไว้อย่างเป็นต่อ
"พี่ถามว่า...จี๊ดจะไปไหน" น้ำเสียงของเขาอ่อนลง แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยอำนาจ
"จะไปไหนได้ล่ะคะ" จี๊ดเชิดหน้า
"แค่ขับรถเล่นรอบเกาะแค่นี้ไม่ได้เหรอ"
"แล้วขับเป็นเหรอ?"
"ทำไมจะขับไม่เป็นคะ เด็กต่างจังหวัดเขาก็ขับเก่งกันทุกคนนั่นแหละ"
ทันทีที่พูดจบ เมฆินทร์ก็ใช้มือข้างที่ว่างดึงแขนเธอให้ลุกออกจากเบาะอย่างรวดเร็ว เขาก้าวนั่งลงแทนที่อย่างหน้าตาเฉย จากนั้นก็ตบเบาะด้านหลังเบาๆ เป็นเชิงสั่ง
"ขึ้นมาสิ"
"อะไรนะคะ" จารวีทำหน้างง
"พี่บอกให้ขึ้นมา" เขาสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง "ก็อยากขับรถชมวิวไม่ใช่เหรอ พี่จะพาไป"
"จี๊ดไปคนเดียวก็ได้"
"พี่บอกให้ขึ้นก็ขึ้นสิ!" น้ำเสียงทุ้มต่ำติดจะดุเล็กน้อย
จารวีกัดฟันกรอด ก่อนจะก้าวขาขึ้นคร่อมเบาะด้านหลังอย่างทุลักทุเลเพราะกระโปรงยาวๆ ที่เธอใส่ เมฆินทร์ไม่ได้สนใจอาการของเธอ เขายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับตัวเองที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ตามแผน
พอรถออกตัวได้สักพัก จารวีก็หงุดหงิดกับชุดของตัวเอง กระโปรงที่ทั้งร้อนและไม่เหมาะกับการซ้อนมอเตอร์ไซค์ เธอเหลือบไปเห็นร้านขายเสื้อผ้าที่กำลังจะขับผ่าน
"พี่เมฆ! พี่เมฆ จอด ๆ ๆ เดี๋ยวนี้เลย!"
เมฆินทร์จอดข้างร้านขายของที่ระลึกและเสื้อผ้าอย่างว่าง่าย เธอรีบลงจากรถและวิ่งปรี่เข้าไปที่ร้าน ชุดที่เธอหยิบมาคือ กางเกงลายช้าง ที่ดูแสนจะสบาย กับเสื้อลายดอกสีสดใส และเสื้อกล้ามซับในสีขาวตัวหนึ่ง เธอหันไปถามแม่ค้าอย่างรวดเร็ว
"พี่คะ ขอเปลี่ยนชุดในห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ"
แม่ค้าพยักหน้า เมฆินทร์ที่ยืนเท้าสะเอวดูเหตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ ก็เดินเข้าไปจัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อยในขณะที่เธอเข้าไปเปลี่ยน
ไม่นานจารวีก็เดินออกมาพร้อมชุดใหม่ที่รับกับบรรยากาศทะเลได้อย่างลงตัว รอยยิ้มของเธอสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"เท่าไหร่คะ"
"คุณผู้ชายที่มาด้วยจัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ"
"เท่าไหร่คะ เดี๋ยวจี๊ดจะโอนให้"
เขาไม่ตอบ เพียงแต่เดินนำออกไปที่รถมอเตอร์ไซค์ เธอจึงรีบพับถุงเสื้อผ้าแล้ววิ่งตามไป
"เดี๋ยวจี๊ดซื้อเองค่ะพี่เมฆ"
"ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องมาคืนพี่"
ขณะที่หญิงสาวกำลังก้าวขาขึ้นรถ เมฆินทร์ก็บิดคันเร่งออกตัวทันทีด้วยความเร็วที่ไม่ทันตั้งตัว จนทำให้ร่างของเธอเซจนหน้าอบอวบอึ๋มไปชนกับแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างแรง
<ตุบ!>
หัวใจของจารวีเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อความอุ่นจากแผ่นหลังของเขาสัมผัสกับหน้าอกของเธอ
"นี่ไง" เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมพูดว่า "เมื่อกี้ที่ชนหลังพี่...จ่ายด้วยไอ้นี่แทนล่ะกัน"
<ตุบ! >
ใบหน้าเห่อร้อนขึ่นมาทีนที เธอใช้กำปั้นทุบไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ หนึ่งครั้งด้วยความเขินผสมความหมั่นไส้
"เกาะดีๆ นะ เดี๋ยวตก" พูดเสร็จ เขาก็บิดรถออกตัวไปตามถนนบนเกาะทันที
"เดี๋ยว! มีใบขับขี่ไหมคะ!" จารวีต้องตะโกนถามแข่งกับเสียงลม
"อะไรนะ! พี่ไม่ได้ยิน ลมแรง!" เขาแกล้งทำเสียงไม่ได้ยิน
จารวียื่นหน้าเข้าไปใกล้แผ่นหลังของเขาอีกครั้งเพื่อถามให้ชัด ทันใดนั้นเมฆินทร์ก็หันหน้ากลับมาเล็กน้อย พร้อมกับใช้ปลายจมูกโด่งของเขาสูดไปที่แก้มของเธอเบาๆ หนึ่งครั้ง
<ฟอด>
"อุ๊ย!" จารวีสะดุ้งสุดตัวและหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ภาพนี้มันเหมือนภาพคู่รักที่มาเที่ยวกัน เหมือนคนที่กำลังมีความสุขและไม่มีเรื่องในใจติดค้างกันเลยแม้แต่น้อย
พวกเขามาหยุดพักที่จุดชมวิวแห่งหนึ่ง จารวีเดินเก็บภาพทิวทัศน์ทะเลจากมุมสูงอย่างเพลิดเพลิน เธอแพนกล้องไปยังด้านข้างของเมฆินทร์ที่ยืนเท้าแขนอยู่กับราวกันตก สายตาคมกำลังมองออกไปยังทะเลไกล ๆ
เธอละสายตาจากกล้องแล้วมองชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ตีกันยุ่ง ก่อนจะหันกลับมากดถ่ายรูปเขาเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ เธอถอนหายใจแผ่วเบาขณะมองรูปนั้น
ความคิด "พี่เมฆ...คนใจดีคนนั้นนะ ตอนนี้ทำไมถึงใจร้าย เจ้าเล่ห์ และบ้าอำนาจได้ขนาดนี้นะ..." เธอถอนหายใจอีกครั้ง
"ไปกันต่อหรือยังครับ" เสียงทุ้มของเขาถามขึ้น
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้า เดินตามไปขึ้นรถ
"หิวหรือยังครับ หาอะไรกินก่อนไหม" จังหวะนั้น เมฆินทร์ก็ถามเธอขึ้น
เธอพยักหน้ารับ ทั้งคู่จึงขับรถไปเรื่อย ๆ มองหาร้านอาหาร แต่บริเวณจุดชมวิวไม่มีร้านอาหารให้เลือกมากนัก มีเพียงเพิงที่ขายของและของกินเล่นเท่านั้น จารวีไม่ได้เรื่องมากอยู่แล้วด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด
"พี่เมฆ ทานได้ไหมคะ" เธอชี้ไปยังร้านขายลูกชิ้นปิ้งริมทาง
"ได้สิ ใครล่ะจะกินไม่เป็น"
"ดีเลยค่ะ" จารวีตอบด้วยรอยยิ้ม แล้วเอื้อมมือเรียวของเธอไปจับที่มือหนาอุ่นๆ ของเขา แล้วลากให้เดินตามเหมือนกับผู้ใหญ่ที่พาเด็กน้อยข้ามถนน
การกระทำนั้นทำให้เมฆินทร์ถึงกับหน้าร้อนผ่าว เลือดในกายกำลังสูบฉีดอย่างแรง
"อะไรกันเมื่อกี้" เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะมองแผ่นหลังของเธอที่จูงมือเดินนำไปอย่างอบอุ่นและน่าหลงใหล
"ลุงคะ เอาอันนี้ อันนี้ อันนี้ แล้วก็....อันนี้ด้วยค่ะ เอามาอย่างละสองไม้" เธอปล่อยมือจากเขาไปชี้ที่ตู้ขายลูกชิ้นปิ้งอย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่เขายังตกอยู่ในภวังค์กับสัมผัสเมื่อครู่
"ทั้งหมดแปดสิบบาทครับ"
ในจังหวะที่จารวีกำลังจะล้วงเงินในกระเป๋า เมฆินทร์ก็สะดุ้งตื่นจากภวังค์ "เดี๋ยว พี่จ่ายเอง" เขายกมือถือขึ้นมาเตรียมจะโอนจ่าย
"ลุงไม่ได้รับโอนหรอกคุณ มันทันสมัยเกินไป สายตาลุงก็ไม่ดี จนโดนลูกค้าหลอกโอน ใส่เลขศูนย์ขาดก็มี ไม่ใส่ก็มี ขายได้ร้อยบาท เขาโอนมาสิบบาทก็มี เลยไม่ได้รับแล้ว"
จารวียิ้มให้กับความซื่อของลุง แล้วยื่นแบงค์ร้อยให้ "เอาน้ำเปล่าสองขวดด้วยค่ะ ขวดละสิบบาท ร้อยนึงพอดี ไม่ต้องทอนนะคะ"
เมฆินทร์ยืนมองผู้หญิงตรงหน้าพร้อมกับความรู้สึกบางอย่าง เขารู้สึกเหมือนไม่ได้เห็นแววตาแบบนี้ของเธอมานาน ตั้งแต่คืนนั้นที่เขาทำผิดพลาดกับเธอ มาจนถึงวันนี้...วันที่เขาได้เห็นแววตาที่สดใสและรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติของเธออีกครั้ง
"พี่เมฆ...พี่เมฆคะ...คิดอะไรอยู่ จี๊ดเรียกตั้งนาน"
"ปะ...เปล่าครับ"
เธอรับไม้ลูกชิ้นปิ้งที่ร้อนๆ มาจากลุง แล้วยกขึ้นมาเป่าก่อนจะยื่นเข้ามาป้อนเขา
<ฟิ้ววๆ>
"อ๊ะ...ลองชิมสิคะ...ระวังร้อนนะคะ..." เธอยิ้มกว้าง
เขาก้มลงกัดลูกชิ้นหนึ่งลูกดึงรูด ไปหนึ่งลูก
จนลุงขายลูกชิ้นปิ้งที่มองแล้วก็ยิ้มตามไปด้วย"ถือสิคะ...จะให้ป้อนจนหมดไม้เหรอคะ จี๊ดก็จะกิน"
เมฆินทร์รับไม้ลูกชิ้นในมือเธอไปถือไว้ พร้อมกับมองใบหน้าที่ดูสดใสของเธอในตอนนี้ จี๊ดก้มหน้าหยิบไม้ลูกชิ้นของตัวเองขึ้นมาดึงรูดกินอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วเดินนำไปที่รถมอเตอร์ไซค์
เธอเปิดขวดน้ำ ยกดื่มไปอึกหนึ่ง แล้วยื่นอีกขวดให้กับเขา แต่เขามองขวดที่เธอกำลังดื่มอยู่ แล้วแย่งมาพร้อมกับพูดว่า
"พี่อยากดื่มขวดนี้มากกว่า"
เธอทำหน้างง พร้อมกับพึมพำเบาๆ "ดีไม่เท่าไหร่ ก็หาเรื่องแสดงอำนาจอีกตามเคย!"
ปริศนาชายชุดดำตัดภาพกลับมายังในรถขณะที่เมย์และเมฆินทร์ ภายในรถ เมย์ยังคงคาใจเรื่องเหตุการณ์ที่คอนโดของจารวี"พี่เมฆ... เรื่องชายชุดดำวันนั้น ตกลงพี่ว่ามันเป็นใครกันแน่" เมย์เริ่มถาม น้ำเสียงจริงจังขึ้นทันทีที่ไม่มีจารวีอยู่ด้วยเมฆินทร์ขมวดคิ้ว มือหนากำพวงมาลัยแน่น เขามองกระจกข้างด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ "พี่ก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่มันมีบางอย่างที่พี่รู้สึก แปลก""แปลกยังไงคะ?""คำพูดของมันไง ที่พูดกับจี๊ดว่า 'จำฉันไม่ได้เหรอ' ถ้าเป็นสตอล์กเกอร์ที่คลั่งไคล้ผลงานการถ่ายแบบ มันควรจะพูดอะไรที่บ่งบอกถึงการชื่นชม หรือต้องการครอบครอง ไม่ใช่คำถามที่เหมือนเป็นการ ทวงความจำ แบบนั้น"เมย์พยายามคิดตาม "หรือว่าจะเป็นศัตรูของจี๊ดตอนสมัยเรียน? หรือตอนที่เธอเป็นนักกีฬา?""พี่ก็คิดอยู่ แต่นั่นมันเรื่องนานมาแล้ว แถมจี๊ดก็บอกว่าเธอไม่มีปัญหากับใครเลย" เมฆินทร์ถอนหายใจ "แต่ที่สำคัญคือ... ปฏิกิริยาของมันตอนที่เห็นพี่""ปฏิกิริยาอะไรคะ?""มันเหมือน ตกใจ มากกว่าที่จะกลัว หรือโกรธที่ขัดขวางการทำร้ายจี๊ด พอพี่ถีบมันออกไป มันพยายามจะดึงหมวกคลุมหน้ากลับมากกว่าจะคว้ามีด มันอยากจะปิดบังตัวตนมากจริง ๆ"เมย์ชั่งใจ
อากาศบนภูยามค่ำคืนช่างหนาวเหน็บเสียจนต้องขดตัว แต่ความหนาวนี้ก็มิอาจเทียบได้กับความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในเต็นท์...ในเต็นท์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แสงไฟดวงน้อยส่องให้เห็นเงาตะคุ่มๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างเร่งเร้า ริสา ถูกรุกเร้าจนเสียงหอบหายใจขาดห้วง มือเล็กจิกลงบนแผ่นหลังกว้างของธนาอย่างลืมตัวเพื่อยึดเหนี่ยวตัวเองไว้กับความรู้สึกที่พุ่งทะยานธนาจูบเธอหนักหน่วงและดูดดื่มราวกับจะกลืนกินทุกอณูของร่างกาย เสียงกระซิบพร่าๆ คลอไปกับเสียงผ้าปูที่นอนเสียดสี... เป็นภาพที่ใครเห็นก็รู้ว่าคนข้างในกำลังใช้ความหนาวเป็นข้ออ้างในการมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างไร้ขีดจำกัด!"ไอธนา มึงดับไฟด้วย!" เสียงตะโกนของเมฆินทร์ ดังข้ามมาพรึ่บ! ไฟในเต็นท์ก็ดับลง เหลือเพียงความมืดมิดที่ช่วยปกปิดความเร่าร้อนที่ดำเนินต่อไป...(...!...)เมฆินทร์ดึงจารวีเข้ามากอดไว้แน่นจนร่างบางแทบจะจมหาย ซบใบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมๆ ของเธอ กลิ่นหอมหวานของเธอปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบให้ตื่นขึ้นทันที อ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นจนความหนาวที่มีอยู่มลายหายไปสิ้น"หนาวจัง... ขอกอดหน่อยนะ" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าว รดริน
เมย์กลับมาหาจารวีที่คอนโดในเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เมย์ก็โวยวายด้วยความตกใจ"อะไรนะ! นี่ฉันทิ้งแกไว้คนเดียวแป๊บเดียว เกิดเรื่องเลยเหรอ! แบบนี้ที่แกรู้สึกว่าเหมือนมีคนตามแกมองแกอยู่ มันก็เรื่องจริงสิ! สต๊อกเกอร์ไหม? พวกที่ชื่นชมผลงานแกผ่านที่แกถ่ายแบบกับพี่จีน่าหรือเปล่า? ไม่สิ... ถ้าเป็นพวกคลั่งไคล้ ถึงขนาดต้องเอามีดจี้คอกันเลยเหรอ! แต่แกก็ไม่มีศัตรูที่ไหนนี่" เมย์รัวใส่ด้วยความสงสัย"ฉันคุ้นเสียงนะ เหมือนเคยได้ยินเสียงที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก... มันพูดว่าจำฉันไม่ได้เหรอ ... ใคร? ฉันต้องจำใครได้?" จารวีพึมพำเมย์รีบสรุป "เท่ากับว่ามันตามแกอยู่ตลอด คิดดูสิ ไม่งั้นมันจะรู้ได้ยังไง ว่าแกอยู่คนเดียวได้ถูกจังหวะแบบนี้ เพราะปกติเราจะอยู่ด้วยกันตลอด""อือ... ก็จริงของแกนะเมย์""ดีนะที่ตอนนั้นพี่เมฆอยู่ด้วย" เมย์เผลอหลุดปาก"เดี๋ยวก่อนยัยเมย์! แกหมายความว่ายังไง นี่เป็นแผนของแกเหรอ""แฮ่ ๆ ๆ ... ขอโทษที ฉันอยากให้แกกับพี่เมฆได้เจอกัน ได้คุยกันบ้างอ่ะ""อย่าไปว่าเมย์เลยครับ พี่เป็นคนขอให้เมย์ช่วยเอง ก็พี่เป็นห่วงเรานี่" เมฆินทร์รีบสวนขึ้นจารวีสบตาเมฆินทร์อย่างอ่อนใจ แต่ในใ
บทสนทนาทางโทรศัพย์เมฆินทร์กับเมย์"ฮัลโหลเมย์ พี่มีเรื่องจะถามหน่อย" เสียงทุ้มกรอกลงไปในโทรศัพท์"พี่โทรมาพอดีเลย เมย์ก็มีเรื่องจะบอก" ปลายสายตอบกลับทันที "คือพี่จีน่ามาชวนจี๊ดไปถ่ายแบบ แต่พี่ไม่ต้องตกใจนะ ยังไม่ได้ออกจากงาน แค่ชวนให้ลองดูเฉยๆ""แล้วจี๊ดว่าไง? ตกลงไหม?" เขารีบถามด้วยความสนใจ"ดูเหมือนจะสนใจนะ" เธอตอบเสียงอ้อมแอ้ม "พี่จีน่าพูดถูก ถ้าจี๊ดยังอยู่กับความกลัวแบบนี้เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นปกติ? ให้ลองดูก็ดีเหมือนกัน""พี่ไม่มีสิทธิ์ห้ามอะไรเขาอยู่แล้ว ฝากเมย์ดูแลด้วยนะ" เขาเน้นย้ำ"เมื่อกี้พี่กำลังจะถามอะไรเมย์นะ?" เธอถามย้อนขึ้น"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ไว้เจอกันพี่ค่อยถามก็ได้ วันหยุดนี้พี่จะกลับกรุงเทพฯ เมย์ช่วยพี่หน่อยได้ไหม?ทำยังไงก็ได้ให้พี่ได้เจอจี๊ดสักครั้ง" เขาขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง"จะโอเคเหรอพี่? เดี๋ยวแม่จะว่าไหม?" เมย์กังวล"แค่ครั้งเดียวนะเมย์ ช่วยพี่หน่อยเถอะ พี่มีเรื่องจะคุยกับจี๊ด และก็อยากเจอหน้า ขอแค่ครั้งเดียวจริงๆ""ก็ได้ค่ะ เมย์จะพยายาม" เธอยอมรับปากบทสนทนาของเมฆินทร์กับเพื่อนหลังวางสายจากเมย์ เมฆินทร์กดโทรศัพท์หาวายุทันที"วายุ ช่วงนี้มึงว่างไหม? ช่วยกูคิ
6 เดือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าทรมาน สำหรับเมฆินทร์ที่ถูกย้ายไปเชียงใหม่ และจารวีที่ทำงานที่กรุงเทพฯ มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเหมือนขาดใจ เพราะเขาไม่มีโอกาสได้ดูแลเธอ ส่วนจารวี... แม้จะยังรัก... แต่ความหวาดกลัวก็ยังคงฝังลึกและเจ็บปวดจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจารวีทำงานในบริษัทของครอบครัวเมฆินทร์ภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวดของ นภา รองประธานบริษัทผู้มีอำนาจล้นเหลือ ครอบครัวของเมฆินทร์ประกาศชัดเจนว่าห้ามใครมายุ่งหรือทำอันตรายเธอโดยเด็ดขาดนภาจัดการไล่พนักงานที่เคยซุบซิบนินทาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงหรือพูดในทางไม่ดีออกไปทั้งหมด และกำชับห้ามใครคิดร้ายอีกต่อไปการปฏิบัติของทุกคนในบริษัทต่อจารวีเหมือนเป็นลูกสาวคนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งตัวเธอเองก็รู้สึกอึดอัดใจกับสถานะที่ได้รับ แต่นภาต้องการชดใช้ความผิดที่ลูก ๆ ของเธอเคยทำพลาด ไม่ว่าจะในอดีตของเมย์ หรือในปัจจุบันของเมฆินทร์ การดูแลเธอในระดับนี้จึงยังน้อยไปด้วยซ้ำในความรู้สึกของผู้เป็นแม่วันเวลาที่ผ่านไปได้ช่วยเยียวยาจิตใจของจารวีให้ดีขึ้น แต่ก็ยังมีเงื่อนปมบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจของเธอเสมอมา วันนี้ ความคับข้องใจนั้นกำลังจะถูกคลี่คลายลง เมื่อมีหญิงสา
ล็อบบี้และสติของเมย์เมฆินทร์อุ้มร่างที่ไร้สติของจารวีวิ่งออกมาจากลิฟต์ไปยังล็อบบี้อย่างบ้าคลั่ง สภาพเขาตอนนี้มีแต่ร่องรอยการต่อสู้ เหงื่อท่วมกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนก เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอย่างไรต่อบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ใครก็ได้! เรียกรถ! เรียกรถพยาบาล!พนักงานที่เคาน์เตอร์ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกับภาพชายคลั่งที่อุ้มหญิงสาวตัวซีดเซียวเมย์วิ่งตามมาติด ๆ คว้ากระเป๋าจี๊ดไว้แน่น เธอเห็นความตกตะลึงจนสติแตกของพี่ชาย จึงพุ่งเข้าใส่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันทีเมย์เสียงเฉียบขาดและเร่งรีบ ตอนนี้ต้องการรถไปส่งที่ท่าเรือข้ามเกาะด่วนที่สุด! เร็วเข้า! ตอนนี้!เธอชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเมฆินทร์ พยายามใช้ไพ่ตายที่สร้างขึ้นมาผู้หญิงคนนี้... เธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง... ฉันกลัวว่าเธอจะ แท้งลูก! ให้รีบไปส่งที่ท่าเรือข้ามฝั่ง! ตอนนี้! เครื่องมือการแพทย์และสถานพยาบาลบนเกาะนี้มันไม่พอแน่ ๆ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก... รีสอร์ทของคุณจะรับผิดชอบไม่ไหว!พนักงานรีบประสานงานกันอย่างตื่นตระหนกโดยทันที เมื่อได้ยินคำว่า 'แท้งลูก' และ 'รับผิดชอบไม่ไหว'เมฆินทร์หันไปมองน้องสาว ใบ





![ความลับประธานหม้าย [20+ Soft BDSM]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

