Share

บทที่ 24

Author: โม่เสียวชี่
เป็นคำพูดที่น่าขำเช่นนี้อีกแล้ว

เฉียวหว่านนึกอยากหัวเราะ แต่ในใจกลับขมขื่นมากกว่า สุดท้ายจึงหัวเราะไม่ออก

ฮูหยินหลินกุมมือของนางไว้ ท่าทีอ่อนโยนยิ่ง “จริงอยู่ ฐานะจวนโหวเราทุกวันนี้ไม่อาจเทียบเท่าในอดีต แต่ภาษิตว่าเรืออับปางก็ยังมีเศษตะปูอีกสามพัน วันหน้าหากหมิงอ๋องคิดกลับมาเมืองหลวงอีก ก็ต้องพึ่งพาจวนโหวของเรา”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินยังคงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง “จริงอยู่ การทำเช่นนี้แม่เองก็เห็นแก่ตัว เซียวเหิงเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกล้า สร้างผลงานสู้รบไว้ไม่น้อย ปัจจุบันตระกูลเซียวยิ่งเรืองอำนาจอยู่ในราชสำนัก และเจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่สู้พอพระทัยต่อจวนโหวนัก เพราะฉะนั้น หากต้องการให้ยวนเอ๋อร์ได้แต่งเข้าตระกูลเซียวอย่างราบรื่น เจ้าก็ไม่อาจหาคู่ครองที่มีอิทธิพลเทียบเท่าได้ และหมิงอ๋อง...ก็นับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว”

เฉียวเนี่ยนเข้าใจในที่สุด

ว่าไปแล้ว การแต่งงานของนางขึ้นอยู่กับการประเมินผลประโยชน์ที่ลงตัวของหลายฝ่าย

จวนโหวต้องพึ่งพาตระกูลเซียว หมิงอ๋องต้องอาศัยอิทธิพลของจวนโหว เช่นนั้นการเลือกคู่ของนางจึงไม่มีความสำคัญใดๆ อีก

“เช่นนี้นี่เอง” นางเอ่ยปากเบาๆ คล้ายกับรู้สึกโล่งอก

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (5)
goodnovel comment avatar
Yiwha Hong
อิบ้านี่เป็นไรของมัน ใจบอกรักน้อง แต่การกระทำกับความคิดคืออคติกับเนี่ยนเนี่ยนทุกดอก คนในโลกถูกหมดยกเว้นเนี่ยนเนี่ยน
goodnovel comment avatar
ป๋องแป๋งตะแคงปี้
คือพี่ฟังก่อน เอะอะวีนลูกเดียวเมนส์มาป้ะคะ
goodnovel comment avatar
Ann-Earth Oua-nguan
หมดคำจะพูดกับคนบ้านนี้ เอะอะก็โยนความผิดให้น้องอย่างเดียว
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 972

    เฉียวเนี่ยนถอยออกมาจากกระโจมของฉู่จืออี้การสนทนาของพวกพี่ชาย นางก็ฟังเข้าใจเป็นธรรมดา แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรำคาญ จึงไม่ฟังเสียเลยอย่างไรเสีย หนังสือยอมจำนนกับตัวองค์หญิงก็ถูกส่งมาแล้ว คงไม่อาจส่งคนกลับไปอีกได้ส่วนสุดท้ายแล้วผู้ที่จะอภิเษกกับองค์หญิงผู้นี้จะเป็นใคร ก็ไม่ใช่เรื่องที่เฉียวเนี่ยนจะเข้าไปยุ่งได้เพียงแต่ว่า หากสุดท้ายฉู่จืออี้ยังคงต้องอภิเษกกับองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิก นางก็คงไม่เหมาะที่จะอยู่ข้างกายฉู่จืออี้อีกต่อไปคิดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดถอนหายใจยาวไม่ได้บริเวณกลางอกนั้นขมขื่นเจ็บปวดอย่างรุนแรงขณะที่กำลังคิดอยู่ หนิงซวงก็ไม่รู้โผล่มาจากที่ไหน คว้าแขนเฉียวเนี่ยนไว้ “คุณหนู บ่าวได้ยินว่ามีองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกเสด็จมาเจ้าค่ะ รูปโฉมงดงามนัก พวกเราไปดูหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ?”หัวใจของเฉียวเนี่ยนเหมือนถูกบีบรัดขึ้นมา นางเองก็พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรเพียงแต่คิดว่า จะงดงามสักเพียงไหนกันเชียว?จึงไม่ได้ปฏิเสธ และถูกหนิงซวงดึงไปยังกระโจมหลังหนึ่งนอกกระโจมมีทหารสองนายเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน ทั้งคู่ก็เพียงคารวะ ไม่มีท่าทีจะขัดขวางบางทีอาจคิดว่าเฉียวเน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 971

    ประโยคนี้ เป็นการถามฉู่จืออี้คำพูดนี้เอ่ยออกมา ทำให้ภายในกระโจมเงียบลงไปในทันทีทุกคนต่างมองไปที่ฉู่จืออี้ แต่ฉู่จืออี้กลับเผลอมองไปทางเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวสายตาทั้งสองสบกัน เฉียวเนี่ยนรีบหลบตา แม้นางเองก็อยากรู้คำตอบของฉู่จืออี้ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ใช่เวลาที่จะจ้องเขาและเมื่อเห็นสายตาที่เฉียวเนี่ยนหลบไป ฉู่จืออี้ก็หลุบตามองต่ำลง เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าจะไม่แต่งภรรยา"ไม่แต่งภรรยา?คือไม่แต่งกับองค์หญิงกลุ่มชนเตอร์กิกผู้นั้น หรือว่าไม่แต่งกับผู้ใดเลย?ในใจของเฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงคำพูดนี้ของฉู่จืออี้แต่ไม่ทันจะคิดต่อ พี่ห้าก็ตะโกนขึ้น "ไม่ใช่สิ! ในนี้บอกไว้ชัดเจนว่า องค์หญิงแห่งเผ่าทูเจี๋ยอยากแต่งกับท่านอ๋องแห่งแคว้นจิ้งของพวกเรานี่นา! ตอนนี้คนที่มีตำแหน่งเป็นท่านอ๋อง ก็เหลือแต่ท่านพี่ใหญ่นี่ไม่ใช่หรือ?"ก่อนหน้านี้เคยมีหมิงอ๋อง แต่ก็ตายไปนานแล้วมิใช่หรือ?"..."ฉู่จืออี้เงียบลง ไม่เอ่ยตอบอีกประโยคนี้ เขาเองก็เห็นมาตั้งแต่แรกแล้วและเมื่อเฉียวเนี่ยนได้ยินพี่ห้าพูดเช่นนั้น ก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที รีบหันไปมองฉู่จืออี้ก็เห็นเขานิ่งเงียบ สีหน้าเคร่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 970

    ได้ยินเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดตกใจไม่ได้ "ข้าก็เคยสงสัย แต่เขาไม่รู้วิธีแก้พิษเยือกมรณะ..."พูดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็ราวกับเพิ่งตาสว่าง "พี่ใหญ่หมายความว่า แม้แต่เจ้าสำนักแห่งสำนักราชาโอสถก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้พิษเยือกมรณะได้อย่างไร?"เมื่อความเป็นไปได้นี้ผุดขึ้นมา เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกว่าหัวใจเย็นเยียบลงไปครึ่งหนึ่งหากในโลกนี้ แม้แต่เจ้าสำนักของสำนักราชาโอสถก็ช่วยท่านพี่เซียวไม่ได้ แล้วจะมีใครช่วยได้อีกเล่า?พิษของท่านพี่เซียว หรือว่าจะไม่มีทางแก้จริงๆ?เห็นสีหน้าของเฉียวเนี่ยนซัดลงฉับพลัน ฉู่จืออี้ก็รีบปลอบ "เขาไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่ยังไม่ได้ศึกษา เจ้าก็เคยบอกไม่ใช่หรือ ว่าเขาพูดเองว่าเจ้าสำนักสำนักราชาโอสถไม่เคยคิดค้นยาถอนพิษเยือกมรณะมาก่อน? บางที วันนั้นที่เขาทิ้งเจ้าไว้บนดาดฟ้าแล้วรีบร้อนจากไป อาจจะเพราะกลับไปศึกษาแก้พิษก็ได้"คำพูดนี้ของฉู่จืออี้ อย่างน้อยก็ทำให้เฉียวเนี่ยนมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเฉียวเนี่ยนพยักหน้ารัว "อืม คงเป็นอย่างนั้น อาจารย์ก็เคยบอกว่า พิษเยือกมรณะไม่ใช่พิษร้ายแรงอะไร มันเพียงแต่เกิดปฏิกิริยากับพิษสลายกระดูก จึงอยู่ในร่างท่านพี่เซียวได้นานขนาดนี้ บางทีเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 969

    “พระพุทธรูปหยกสององค์นั้น ข้าเคยมีโอกาสได้เห็นครั้งหนึ่ง มีค่ามหาศาล” ฉู่จืออี้ว่าพลางมองไปทางเฉียวเนี่ยน “เจ้ายินยอมจะให้พวกเขาหรือ?”“พระพุทธรูปหยกสององค์นั้น ข้าไม่ใส่ใจนักหรอก ท่านย่าเป็นคนตระกูลมู่ ย่อมไม่อยากเห็นตระกูลมู่ตกต่ำ เพียงแต่...” เฉียวเนี่ยนถอนหายใจหนึ่งเฮือก “แต่ตระกูลมู่ต้องการไม่เพียงพระพุทธรูปหยกสององค์ พวกเขายังต้องการตัวข้าด้วย”ได้ฟังดังนั้น ฉู่จืออี้ก็ขมวดคิ้วทันที น้ำเสียงก็พลันขรึมขึ้น “นั่นมันหมายความว่าอย่างไร?”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “หัวหน้าตระกูลมู่บอกว่า ในห้องหนังสือท่านปู่ของมู่ซ่างเสวี่ยในสมัยยังมีชีวิต ได้แขวนภาพวาดอยู่หนึ่งภาพ เขาบอกว่าข้ากับสตรีในภาพนั้นเหมือนกันอย่างยิ่ง บอกว่าข้าคือกุญแจเปิดขุมทรัพย์”สีหน้าของฉู่จืออี้ยิ่งอึมครึม “พวกเขาให้เจ้าติดตามไปแคว้นถังรึ?”“อืม” เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อยฉู่จืออี้ถามต่อ “แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่า ต้องรอจนศึกสงบ รอให้ข้ากลับไปยังเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”แท้จริงแล้วนี่เป็นเพียงคำพูดถ่วงเวลา แต่ในความคิดของนาง ตระกูลมู่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นแน่ ไม่แน่ว่าอาจจะติดตามนางกลั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 968

    เฉียวเนี่ยนหยิบเสื้อผ้าสะอาดที่วางอยู่ข้างๆ มาสวมให้ฉู่จืออี้ แล้วจึงเอ่ย “ข้าไม่เคยกลัวพี่ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นตอนฆ่าวัวหรือตอนที่กลับมาด้วยสภาพเต็มไปด้วยเลือด ข้าก็เพียงแต่คิดว่าตกลงแล้วต้องเคยล่าเหยื่อมากี่ตัวถึงจะฟันลงอย่างเฉียบขาดเช่นนี้ ต้องฆ่าคนมากี่คนถึงจะไม่ใส่ใจว่าตนเองเปื้อนเลือดไปทั้งตัว”พูดมาถึงตรงนี้หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็บีบแน่นขึ้นมานางพยายามหายใจลึกสองครั้งจึงทำให้ตนเองพอจะเอ่ยออกมาอย่างสงบได้ “ทั้งๆ ที่... ท่านเป็นถึง่ทานอ๋องแท้ๆ”ควรจะอยู่สูงส่งเสวยสุขในลาภยศไม่ใช่ต้องเสี่ยงตายเช่นนี้ ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของเฉียวเนี่ยน หัวใจของฉู่จืออี้ก็เหมือนถูกบางสิ่งค่อยๆ ข่วนอยู่ พูดไม่ได้ว่าปวด แต่กลับอึดอัดอย่างยิ่งสงครามโหดร้าย ความตายและการบาดเจ็บย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่มีใครรับประกันได้ว่าในสงครามหนึ่งครั้งใครจะตายใครจะรอดเขาเองก็เช่นกันเมื่อเกราะถูกสวมบนกาย ดาบยาวที่คาดเอวชี้ไปยังศัตรู เขารู้ดีว่ามีอาวุธนับไม่ถ้วนเล็งมาที่เขาแล้วเช่นกันกลัวหรือไม่?ในฐานะแม่ทัพ เบื้องหลังเขามีราษฎรแคว้นจิ้งนับหมื่นนับพัน จะเอ่ยว่ากลัวได้อย่างไร?แต่ใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 967

    เฉียวเนี่ยนรีบขานรับ “ยังเจ้าค่ะ! พี่รองรอสักครู่!”ว่าจบก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดอย่างรวดเร็ว จึงเปิดม่านกระโจมแล้วเดินออกไปก็เห็นว่าพี่รองได้เปลี่ยนเสื้อผ้าของเผ่าทูเจี๋ยออกแล้ว ยืนอยู่หน้ากระโจมเฉียวเนี่ยนอดถามไม่ได้ “พี่รองมีธุระอะไรหรือ?”พี่รองขมวดคิ้ว มองไปยังกระโจมของฉู่จืออี้แวบหนึ่ง “พี่ใหญ่บาดเจ็บ ข้า...”“ข้าไปดูเอง!”เฉียวเนี่ยนตกใจ ยังไม่รอให้พี่รองพูดจบก็รีบเดินไปยังกระโจมของฉู่จืออี้ทหารองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้ากระโจมเห็นว่าเป็นเฉียวเนี่ยนก็ไม่ห้ามปรามเฉียวเนี่ยนเปิดม่านกระโจมแล้วเข้าไป “พี่ใหญ่ ท่านบาดเจ็บตรงไหน... กัน”คำพูดยังไม่ทันจบ นางก็หน้าแดงจัดแล้วฉู่จืออี้รีบสวมกางเกงด้วยความลนลานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เจ้า ข้า ข้าไม่เป็นไร เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเล็กน้อย”สายตาของเฉียวเนี่ยนจึงตกลงบนร่างท่อนบนเปลือยเปล่าของฉู่จืออี้เห็นว่าที่แผ่นหลังและแขนของเขามีรอยบาดแผลอยู่หลายแห่งแต่ตามที่ฉู่จืออี้ว่า ก็ไม่ใช่บาดแผลร้ายแรงอะไรเพียงให้แพทย์ทหารมาทายาและพันแผลก็พอแล้วพี่รองต้องมาเรียกนางด้วยตัวเองทำไมกัน?เฉียวเนี่ยนก็เข้าใจขึ้นมาทันที ว่าตนถูกพี่รองแกล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status