จือหลิงที่กรีดร้องปลดปล่อยความเสียวซ่านออกมา ทอดกายหอบหายใจอยู่ใต้ร่างแกร่งที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเคลื่อนไหว ยังคงขับเคลื่อนสะโพกสอบเข้าออก ตอกย้ำบนกายนางครั้งแล้วครั้งเล่า แรงกระแทกที่ตอกอัดจนลืมไปว่านี่เป็นครั้งแรกของนาง แรงส่งจากเบื้องล่างทำให้นางแทบขาดใจ สัมผัสรุนแรงจากร่างหนาที่เบื้องล่างกระทุ้งท่อนเอ็นเร็วรัว มือหนาข้างหนึ่งจับกระชับเอวบาง ให้รับแรงส่งจากด้านล่าง มือหนาอีกข้างบีบขย่ำอกอวบที่สะท้อนขึ้นลง ปากหนาคอยป้อนจูบร้อนแรงเกินต้าน จนนางเสร็จสมครั้งแล้วครั้งเร่า กว่าร่างหนาจะปลดปล่อยสายธารขาวขุ่นฉีดเข้าร่างของนาง นางก็แทบจะขาดใจตายอยู่รอมร่อ
~อ่าาาาส์~
เสียงคำรามทุ้มต่ำของบุรุษที่เกร็งกระตุก ขยับสะโพกสอบเนิบนาบ รีดน้ำขุ่นข้นที่คั่งค้างออกมาทุกหยาดหยด ก่อนจะถอดถอนแกนกายออกจากร่องบุปผางามที่บวมแดงจนดูน่าสงสารมองของเหลวขาวขุ่นไหลย้อนออกมาจากร่องเล็กด้วยสายตาผ่าวร้อน ก่อนพลิกร่างบางให้นอนตะแคงข้างพากายหนาของตัวเองลงไปนอนซ้อนแผ่นหลังบาง ปากหนาบรรจงจูบซับแผ่นหลังขาวผ่องชื้นเหงื่อคลอเคลียใบหน้าหล่อเหลาไปตามแนวสันหลังเล็ก มือหนาสอดเข้ามาบีบคลึงอกอวบเอาไว้ในอุ้งมือใหญ่ อีกข้างจับขาเรียวมาเกยบนสะโพกเกร่งก่อนจะเอื้อมประคองเนินเนื้ออวบอูมที่ยังคงแดงช้ำจากศึกรักเมื่อครู่โดยที่นางไร้เรี่ยวแรงที่จะเอ่ยห้าม ปล่อยให้บุรุษที่พรากความบริสุทธิ์ของนางเชยชมเรือนร่างนางเสียให้พอ ดวงตาอ่อนล้าหลับลงช้าๆ อย่างต้องการพักผ่อน แต่ต้องสะดุ้งเกร็งร่างขึ้นอีกครั้ง เมื่อท่อนเนื้อแข็งลื่นนั้นสอดใส่มาจากด้านหลัง เขามิได้แค่ต้องการเชยชมนางแค่เพียงภายนอกอย่างที่คิด แต่กลับเข้ามาสำรวจในกายนางอีกครั้งทั้งๆ ที่พึ่งสุขสม ร่างบางที่เกร็งกายขึ้นโดยสันชาตญาณ นางไม่ไหวแล้ว
"อึก ไม่ พอเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว~"
แต่มีหรือที่เขาจะฟัง กลับสาวสะโพกเกร่งเสียดแทงนางในท่านอนตะแคงข้าง ยกเข่านางขึ้นข้างหนึ่งดันจนชิดอก โจนจ้วงด้วยจังหวะรุนแรงมาจากด้านหลัง ปากเล็กได้แต่ครวญครางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน บุรุษบ้านี่ไปตายอดตายอยากมาจากที่ใดกัน นางถูกทารุณจากชายผู้นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเวลาล่วงเข้าสู่ยามอิ๋น( 3.00-4.59น) พายุเสน่หาถึงได้จบลง
แสงแดดที่สาดส่องมาตามช่องว่าง ทำให้ร่างเล็กที่ปวดร้าวไปทั้งช่วงล่างสะดุ้งตกใจตื่น ก่อนดวงตาตื่นตระหนกจะกวาดมองไปข้างกายที่มีแผงอกเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้ามเยี่ยงชายชาตรีที่อุ่นร้อนของใครบางคนกำลังซ้อนกายกอดก่ายนางอยู่ สายตาตื่นตะลึงที่ไล่จากแผ่นอกกว้างมาตามลำคอแกร่งและปลายคางล่ำสัน ปากแดงได้รูปและจมูกโด่งคมสัน ดวงตาร้อนแรงที่ยังคงปิดสนิท คิ้วกระบี่ที่พาดเหนือดวงตาปิดสนิทนั้นขับให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ่งมีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายนางพลันเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นเรื่องจริง ท่วงท่าความแนบสนิทที่เกิดขึ้นยังฉายชัด ทุกสัมผัสยังคงติดตรึง กลิ่นอบอวลของน้ำขาวขุ่นที่หลั่งไหลครั้งแล้วครั้งเล่ายังตลบอบอวลอยู่ในอากาศ บนเตียงที่ยับยู่ยี่และเต็มไปด้วยคราบการร่วมรักอย่างบ้าคลั่ง รวมไปถึงรอยเลือดเป็นด่างดวงตอกย้ำว่านางได้เสียความบริสุทธิ์ให้บุรุษแปลกหน้า และ นางก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเสียด้วย
กายบางที่ร้อนผ่าวเพราะความอับอาย กระถดกายออกจากร่างหนาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด รีบหยิบอาภรณ์ที่นางถอดทิ้งไว้เมื่อคืนมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ กดข่มความเจ็บร้าวกลางร่าง และอาการปวดศีรษะที่เข้าโจมตีนางอย่างรุนแรง นางต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่อีกฝ่ายจะตื่น ไม่อย่างนั้นคงได้มีเรื่องวุ่นวายตามมาเป็นแน่
ด้วยความเร่งรีบจึงไม่ทันสังเกตว่าร่างกำยำของบุรุษบนเตียงกำลังขยับ เมื่อสวมอาภรณ์ที่ยับย่นเรียบร้อยร่างบางจึงรีบผลุนผลันเพื่อพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ก้าวที่กำลังจะก้าวพลันชะงัก หัวใจเหมือนร่วงหล่นมากองแทบเท้า เมื่อเสียงของบุรุษที่นางไม่อยากได้ยินดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"นั่นเจ้าจะไปไหน"
ทั้งร่างพลันแข็งทื่อ ค้างอยู่ในท่านั้น ไม่ยอมหันไปมองบุรุษด้านหลัง ที่น้ำเสียงดุดันนั้นกำลังออกคำสั่งกับนาง
"หันกลับมาเดี๋ยวนี้"
แต่มีหรือที่นางจะฟัง เท้าเล็กกลับถลาพุ่งตัวไปยังประตู ที่เปิดออกกว้าง แต่ไม่ใช่เพราะฝีมือนางหรอกนะ
"โม่เหยียน น้องรัก"
เสียงสตรีที่เปิดประตูเข้ามาโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว ทำให้ร่างบางที่ขาเรียวนั้นยังคงสั่นเทาถึงกับหงายหลัง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่มีแผ่นอกและแขนแกร่งรับร่างของนางเอาไว้มิให้หงายหลังก้นจ้ำเบ้า ไม่เช่นนั้นช่วงล่างของนางคงได้ระบมกว่าเดิมเป็นแน่
"โม่เหยียน!!!"
OoO!
ใบหน้าของสตรีที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นทำให้นางอยากร้องไห้ แต่ใบหน้าของบุรุษและสตรีที่ยืนอยู่ด้านหลังสตรีผู้นั้นที่นางรู้จักเป็นอย่างดีนั้น ทำให้นางอยากหายไปจากตรงนี้
"หลิงหลิง!!!"
และแล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง จือหลิงนางได้ให้กำเนิดคุณหนูใหญ่ของตระกูลหยาง นาม หยางซือเชี่ยน ที่แปลว่าความสุขและความงดงาม โดยท่านย่าของเด็กน้อยเป็นผู้ตั้งให้ ทารกเพศหญิงที่นำความสุขทั้งมวลมาสู่จวนตระกูลหยางเมื่อหนูน้อยเชี่ยนเชี่ยนมีอายุได้สามเดือน ข่าวที่น่ายินดีก็เกิดขึ้นอีกครั้ง คือฮูหยินน้อยได้ตั้งครรภ์บุตรคนที่สองจือหลิงที่ยังจดจำความเจ็บปวดในการคลอดบุตรได้เป็นอย่างดีได้แต่ฝืนยิ้มอย่างฝืดเฝื่อน แม้จะรู้สึกยินดีที่นางจะมีบุตรเพิ่มอีกคน แต่สามีและแม่สามีจะมิให้นางได้หายใจหายคอบ้างเลยหรืออย่างไร สามีนางก็กระไร ช่างขยันขันแข็งในการทำบุตรยิ่งนัก ฮูหยินผู้เฒ่าหยางที่ดีใจอย่างที่สุด หวังอย่างยิ่งว่าหลานผู้นี้จะเป็นหลานชายสืบทอดสกุล"ดีนัก ดีดีดี"หญิงชราที่พึมพำอยู่เช่นนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม จนนางกล่าวคำใดไม่ออกแม้เพียงครึ่งคำสามีนางก็ช่างประเสริฐดีแท้ ขยันหมั่นเพียรผลิตเจ้าก้อนแป้งอยู่ทุกค่ำคืนมิได้ขาด ภายในปีนี้ สรุปแล้วนางตั้งครรภ์บุตรถึงสองคน เมื่อครบกำหนดคลอดนางก็คลอดหลานชายตัวอวบอ้วนให้แม่สามีได้เชยชมสมดังใจ บุตรชายผู้นี้ของนางเป็นบิดาของเขาที่ตั้งนามให้ นามว่า หยางเล
"แล้วหลังจากนั้นว่านอิงฮวานางก็ลอบเข้ามาหาพี่ในห้องนั้น โดยมีคนของพี่คอยเปิดทางให้ แล้วทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เจ้ารู้"สองร่างที่กอดก่ายกันอยู่ในถังน้ำใบใหญ่ มีไอความร้อนลอยกรุ่น กลิ่นหอมจากมวลดอกไม้ลอยคละคลุ้งตลบอบอวลโอบรอบกายของทั้งสอง"ร้ายกาจมาก ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว"เสียงหวานที่พึมพำขึ้น จนร่างสูงต้องดึงรั้งร่างบางขึ้นมาสบสายตา ยกมือหนาขึ้นเกี่ยวปอยผมที่ตกลงมาบดบังใบหน้างามทัดใบหูเล็กอย่างอ่อนโยน "หากไม่ทำเช่นนั้น เกรงว่าจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกไม่จบไม่สิ้น พี่เองก็มิได้อยากใช้วิธีสกปรกเช่นนี้กับนาง"จือหลิงที่ช้อนตามองอีกฝ่าย ก่อนจะยกยิ้มหวานขึ้น"ข้ามิได้ว่าท่านเสียหน่อย ข้าว่าสตรีมากเล่ห์ผู้นั้นต่างหากเล่า ร้ายกาจยิ่งนักที่คิดจะแย่งชิงสามีข้า"จือหลิงที่แนบริมฝีปากอวบอิ่มกับปากหนา ส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า ร่างเล็กป่ายปีนขึ้นมาทาบทับร่างแกร่งกำยำ ภายในห้องอาบน้ำร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง ด้วยไฟพิศวาสที่สองร่างร่วมกันจุดกรี๊ดดดดดเสียงกรีดร้อง ตามด้วยเสียงร้องไห้คร่ำครวญของสตรีที่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าบุรุษข้างกายไม่ใช่บุรุษที่ตนปรารถนา แต่กลับเป็นชายที่นางคุ้นหน้าคุ้นตาเป
คุณชายหานหลี่เหลียง คุณชายตระกูลคหบดีเก่าที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อว่านอิงฮวา คอยดูแลเอาอกเอาใจตลอดสามปีที่ผ่านมา บุรุษที่มอบใจรักให้นางอย่างมั่นคง แม้จะไม่เคยได้ความรักตอบแทน ก็ยังคงเฝ้ามองนาง ทำทุกอย่างตามที่นางร้องขออย่างโง่เขลา ถูกนางอันเป็นที่รักใช้ความรักที่เขามีให้ เป็นเครื่องมือ เพียงนางร้องขอ เขาก็ยินดีหาทุกอย่างมาประเคนให้ แม้กระทั่งยาปลุกกำหนัดไร้สีไร้กลิ่นที่ราคาแพงแสนแพงและหายาก เพียงนางต้องการ ก็ได้มาครอบครองโดยง่าย แม้จะล่วงรู้การกระทำทุกอย่างของนาง แต่ก็ยินยอม ขอแค่ให้นางนั้นมีความสุขและสมหวังในสิ่งที่นางปรารถนา เขาก็พร้อมจะยอมรับกับความเจ็บปวดและผิดหวัง แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะโดนจับตัวมาโดยบุรุษหน้าตาดุดัน ก่อนจะถูกบังคับให้กินน้ำแกงถ้วยหนึ่งที่ส่งกลิ่นหอมคุ้นจมูก เมื่อน้ำแกงถ้วยนั้นไหลผ่านลำคอรสชาติที่คุ้นลิ้นนั้น เขาจำได้ดีว่ารสมือเช่นนี้เป็นฝีมือของผู้ใด น้ำแกงที่สตรีที่เขารักปักใจมักจะทำให้เขาชิมเสมอตลอดระยะสามปีที่ผ่านมา ว่ามันอร่อยพอหรือยังที่นางจะทำให้บุรุษที่นางรักได้กินมัน ที่ผ่านมานางมักจะฝึกฝนทำอาหารด้วยความตั้งใจ เพื่อรอให้ใครคนหนึ่งกลับมากินฝีมือของนาง ซึ่งบุรุษผู้
แม่ทัพหยางโม่เหยียนที่มองการกระทำของคนตัวเล็กด้วยหัวใจที่เต้นแรง รู้สึกตื่นเต้นกับทุกอย่างที่นางทำ แม้จะดูเงอะงะแต่กลับทำให้เขาเกร็งไปตลอดทั้งร่าง ลูกกวางน้อยของเขากลายร่างเป็นพยัคฆ์สาวเสียแล้วมือบางที่ลูบไล้เรือนร่างกำยำสะเปะสะปะ ริมฝีปากอวบอิ่มที่นุ่มร้อน ขบเม้มใบหูสะอาดของเขาดังที่เขาเคยทำกับนางจนกายหนากระตุกเกร็งไปทั้งร่าง จูบซับขบเม้มมาตาสันกรามแกร่ง กดจุมพิตตรงปลายคางสากระคายที่มีไรหนวดจางๆ ขบเม้มมาตามลำคอแข็งแกร่งลากไล้ปลายลิ้นผ่านลูกกระเดือกที่ดูมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ มือเล็กที่ปลดสายคาดเอว ดึงรั้งอาภรณ์ออกจากกายแกร่ง โดยมีผู้เป็นเจ้าของให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนอาภรณ์หลุดออกจากเรือนร่างกำยำ ปรากฏภาพความสมบูรณ์แบบที่ทำให้ร่างบางถึงกับชะงัก แม้จะรู้สึกอับอายจนใบหน้างามร้อนผ่าว ดวงตากลมโตดูตื่นตระหนกแต่ก็พยายามข่มกลั้นความอายเพื่อเอาอกเอาใจผู้เป็นสามีแม่ทัพหยางโม่เหยียนที่เฝ้ามองนางอยู่ ต้องยกมือหนารั้งลำคอระหงลงมามอบจุมพิตหวานละมุนให้รางวัลสำหรับความน่ารักนั้น นางกำลังทำให้เขาคลั่งกับความน่ารักของนาง นางช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก"ร่างกายนี้เป็นของเจ้า หลิงเอ๋อ"ริมฝีปากหนาที่ผล
จือหลิงที่เงยใบหน้างามเปรอะเปื้อนน้ำตาขึ้นมองใบหน้าเจ้าของอ้อมแขนอุ่นที่โอบประคองนางเอาไว้นัยน์ตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มหน่วยตา มองใบหน้าบุรุษตรงหน้าด้วยสายตาพร่าเลือน ก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ ขับไล่หยาดน้ำตาจนหยดล่วงเปื้อนแก้มนวลเม็ดโต ทำให้คนมองใจกระตุกสงสารโฉมสะคราญจับใจจือหลิงเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษที่โอบกอดนางอยู่ถึงกับตกตะลึง หัวใจที่บอบช้ำเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ปากอวบอิ่มเผยอขึ้นจนสั่นระริก"เหตุใดจึงเป็นท่าน"เสียงหวานแหบเครือเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาหวิว กลัวภาพตรงหน้าเป็นเพียงภาพฝัน มือเล็กนุ่มนิ่มที่สั่นเทาจึงยกขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยแผ่วเบาเหมือนกลัวว่าใบหน้านี้จะหายไป"ร้องไห้ด้วยเหตุใดกัน หืม"เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยขึ้น ยิ่งตอกย้ำว่านางมิได้ฝันไป ปากอวบอิ่มแดงเรื่อยกยิ้มขึ้นด้วยความยินดีจนสั่นระริก"เป็นท่าน หยางโม่เหยียน อึก ฮื้ออ ฮื้ออ"จือหลิงที่ร้องไห้โฮอย่างสุดจะกลั้น ทั้งดีใจ ทั้งโล่งใจ ที่เขามายืนอยู่ตรงหน้า มิได้อยู่ในห้องนั้น ซุกซบใบหน้านองน้ำตากับแผงอกกำยำ โอบกอดลำคอแกร่งอย่างลืมอาย ปล่อยให้น้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนอาภรณ์ตรงอกแกร่งจนเปียกชุ่ม"นิ่งเสียค
"เจ้าก็อยู่ที่นี่หรือโม่เหยียน แม่ดีใจยิ่งนัก เจ้าทั้งสองเข้าใจกันแล้วใช่หรือไม่""ขอรับท่านแม่"แม่ทัพหยางโม่เหยียนที่ลุกขึ้นประคองร่างของมารดาตนมานั่งพร้อมเอ่ยตอบแค่ก แค่ก แค่กจือหลิงที่ขยับกายจะปฏิเสธ ต้องหยุดคำพูดลงเมื่อเสียงไอแหบแห้งของหญิงชราดังขัดขึ้น พร้อมมือเหี่ยวย่นนั้นยกขึ้นนวดคลึงศีรษะ"ท่านแม่ ไม่สบายหรือเจ้าคะ"มือบอบบางที่รินชาส่งให้ พร้อมกับเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นท่าทางของผู้เป็นแม่สามี เมื่อวานท่านยังดูปกติและแข็งแรงดีอยู่เลย"คนแก่ก็เช่นนี้ สามวันดีสี่วันไข้ เจ้าอย่าได้กังวล แล้วโม่เหยียนมารับน้องกลับเรือนหรือ"ฮูหยินผู้เฒ่าหยางที่เอ่ยตอบลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปถามบุตรชายตน"ไม่ชะ.."แค่ก แค่ก แค่กจือหลิงที่ตั้งท่าจะปฏิเสธ ต้องสงบคำอีกครั้ง เมื่อเสียงไอแห้งๆ ของแม่สามีดังขึ้น"ตามท่านหมอมาดูเสียหน่อยดีกว่านะเจ้าคะ""ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ประเดี๋ยวก็หาย""เช่นนั้นก่อนกลับอยู่รับสำรับกับแม่นะ มิได้ร่วมโต๊ะกับเจ้าทั้งสองพร้อมหน้าเสียหลายวัน"เสียงของหญิงชราที่กล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเศร้า ที่ดูเหมือนจะเศร้ามากจนเกินไป มองนางด้วยความคาดหวัง จนจือหลิงได้แต่ยิ้ม