แชร์

ตอนที่ 2 บอสคนใหม่

ผู้เขียน: Tiwa
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-16 01:49:24

“น่าเสียดายเนอะเบลล์ที่ท่านประธานคนใหม่มีภรรยาแล้ว พี่ได้ยินคนกระซิบมานะว่าท่านประธานคนใหม่หล่อมาก อิจฉาเบลล์จังได้ทำงานกับท่าน” พี่แก้วรุ่นพี่ที่ทำงานของฉันเดินมาชวนคุยถึงว่าที่ท่านประธานคนใหม่ที่จะมาบริหารแทนพ่อของเขา ฉันยังไม่ได้ข้อมูลว่าใครที่จะมาบริหาร แต่ฉันคาดหวังว่าลูกชายคงจะดีเหมือนท่านประธานของฉัน การทำงานร่วมกันจะได้สะดวก

“เบลล์ยังไม่ได้ข้อมูลเลยค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร หน้าตาเป็นยังไง” ฉันพูดตามความจริง ทั้งที่เลขาอย่างฉันควรจะได้ข้อมูลของบอสคนใหม่

“ดูเป็นความลับยังไงไม่รู้เนอะ” พี่แก้วเม้าท์มอยด้วยการกระซิบกระซาบ

“ใช่ค่ะ เบลล์ก็คิดแบบนั้น” ฉันอมยิ้มและกระซิบกลับ ได้แต่ภาวนาขอให้ว่าที่ท่านประธานคนใหม่ดีได้สักครึ่งของท่านประธานคนเก่าก็พอ

สองอาทิตย์ต่อมา...

วันเปิดตัวท่านประธานคนใหม่

วันนี้ที่บริษัทดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พนักงานทุกคนต่างยืนรอเพื่อต้อนรับท่านประธานคนใหม่ ซึ่งก็เหมือนเดิมฉันที่เป็นเลขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสคนใหม่ของฉันชื่ออะไร หน้าตาเป็นเช่นไร ได้ยินเพียงคำเล่าลือว่ากลับมาจากเมืองนอกพร้อมภรรยาและเป็นผู้ชายที่แสนดีมาก แค่ได้ฟังว่าเเสนดี ฉันที่ต้องร่วมงานอย่างใกล้ชิดด้วยก็เบาใจขึ้นมาก

แต่แล้ว! เมื่อฉันมองเห็นบุคคลที่เดินเคียงข้างกายท่านประธานคนเก่า ความเบาใจที่มีเมื่อครู่มันได้หดหายไปหมด ยิ่งได้ฟังว่านี่คือประธานของบริษัทคนใหม่ ความปั่นป่วนวิ่งพล่านในหัวใจของฉันทันใด

ฉันจะร่วมงานกับเขาได้อย่างไรในเมื่อหัวใจและสมองของฉันยังไม่ลืมเลือนเรื่องราวเมื่อหกปีก่อนสักนิด

หกปีก่อนหน้านี้...

“เบลล์มาถ่ายรูปด้วยกันเร็ว” เสียงของมิ้มเพื่อนสาวคนเดียวที่ฉันมีดังขึ้น มิ้มเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทที่สุด ไว้วางใจที่สุด ฉันรักมิ้มมากเพราะเธอแสนดี ดีกับฉันทุกอย่าง ฐานะทางบ้านของมิ้มร่ำรวยมาก แต่เธอก็ลดตัวมาคบกับฉันที่แสนจะยากจน

“จะดีเหรอ ฉันว่าแกถ่ายกับครอบครัวแกเถอะ” ฉันพูดอย่างถ่อมตัว เรากำลังถ่ายรูปรับปริญญาวันเรียนจบ เป็นรูปคนในครอบครัวทั้งนั้น ฉันเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งจะให้เสนอหน้าก็ยังไงอยู่ ถึงจะสนิทกันแต่ฉันก็ต้องรู้จักเจียมตัวใช่ไหมล่ะ

“อย่ามาพูดแบบนี้นะเบลล์ แกคือเพื่อนรักของฉันเท่ากับว่าแกก็เป็นคนในครอบครัวของฉันด้วย” มิ้มเดินมาจูงมือฉันเพื่อเข้าร่วมการถ่ายรูปครั้งนี้ แล้วฉันก็ขัดไม่ได้ จึงเข้าร่วมในการถ่ายรูปครั้งนี้ด้วย

“คืนนี้เลี้ยงฉลองกันนะเบลล์ ห้ามเบี้ยว แกต้องไปให้ได้เข้าใจไหม ฉันจะไปรับแกที่บ้านเองแต่งตัวสวย ๆ ไว้รอเลยนะ” หลังจากถ่ายรูปเสร็จมิ้มก็เอ่ยปากชวนฉันอีกครั้ง ทุกทีฉันมักเบี้ยวนัดเที่ยวเพราะไม่อยากนอกลู่นอกทาง อยากช่วยน้าวันทำงานมากกว่า แต่ว่าครั้งนี้ฉันคงต้องไปเพราะเพื่อนของฉันกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ

“อืมได้ดิ แล้วจะรอนะ” ฉันฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนคนสวย มิ้มสวยมากจริง ๆ และยังเป็นคนดีอีกด้วย ฉันโชคดีมากที่ได้มิ้มเป็นเพื่อน

“กรี๊ด อ้าย กรี๊ด!”

ระหว่างที่ฉันและมิ้มกำลังจะแยกจากกันเพื่อกลับบ้าน เสียงเหล่านักศึกษากรีดร้องอย่างตื่นเต้นดังขึ้น เสียงดังกล่าวทำให้ฉันและมิ้มหันไปมอง ภาพที่ฉันเห็นคือผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ในชุดสูทพร้อมดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ในมือ เขาเดินตรงมาที่เราสองคน ฉันไม่ได้มีอาการเขินอายแต่อย่างใดเพราะผู้ชายคนที่เดินมาไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกพิเศษอะไร แต่จะว่าไปก็มีดีใจนะเพราะเพื่อนของฉันกำลังมีความสุข ฉันเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะทำให้มิ้มมีความสุขตลอดไป

“ยินดีด้วยนะครับคนเก่ง” เขาฉีกยิ้มและยื่นดอกไม้ให้มิ้มเพื่อนสนิทของฉัน มิ้มยิ้มและยื่นมือรับช่อดอกไม้

“ขอบคุณนะคะ” มิ้มรับช่อดอกไม้แล้วโผกอดผู้ชายตรงหน้า

“หลังจากเรียนจบที่ต่างประเทศเราจะแต่งงานกันนะครับคู่หมั้นของพี่” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าฟัง ซึ่งเพื่อนสนิทของฉันยิ้มรับอย่างสุขใจ

“ยินดีด้วยนะแก” ฉันฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขให้เพื่อนสนิทที่ฉันรักที่สุด ชีวิตของมิ้มสมบูรณ์แบบมาก คู่หมั้นก็แสนดี ดีทุกอย่างเลย

“ขอบใจนะเบลล์ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปรับ ห้ามเบี้ยวนะ”

“อื้ม ไม่เบี้ยวอยู่แล้ว”

หลังจากนั้นฉันก็เปลี่ยนชุดและนั่งรถประจำกลับมาบ้าน งานรับปริญญาของฉันน้าวันไม่ว่างจึงมาไม่ได้ ฉันเข้าใจและน้อมรับในโชคชะตา แค่น้าวันส่งเรียนจนจบก็ดีมากแล้ว

ผู้ชายที่เดินมาหามิ้มเขาชื่อ ‘กองทัพ’ เป็นคนรักของมิ้ม พี่กองทัพนิสัยดีเป็นกันเอง เขาคือผู้ชายอบอุ่นที่ผู้หญิงใฝ่หา อายุของพี่เขาน่าจะแก่กว่ามิ้มสามปี พี่กองทัพและมิ้มคบหาดูใจกันมาหลายปีจนกระทั่งทั้งสองหมั้นกันเมื่อไม่นานมานี้ มิ้มเล่าว่าครอบครัวของพี่กองทัพเอ็นดูมิ้มมาก มิ้มเป็นผู้หญิงที่หลาย ๆ คนต่างอิจฉา เธอเพียบพร้อมดูดีมีทุกอย่าง แม้กระทั่งคนรัก แตกต่างจากฉันที่ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากน้าวัน

งานเลี้ยงฉลองเกิดขึ้นที่โรงแรมที่พ่อของมิ้มเป็นเจ้าของโรงแรม ทุกอย่างในงานดูสวยหรูแปลกตา ถ้าหากฉันไม่มีเพื่อนแบบมิ้ม คงไม่มีโอกาสได้มายืนสัมผัสบรรยากาศในงานแบบนี้แน่นอน

งานเริ่มไปเรื่อย ๆ เริ่มดึกเริ่มเหลือแต่วัยรุ่น ฉันที่ไม่เคยดื่มโดนเพื่อนยุแยงให้ดื่มจนมึนเมา แทบไม่มีแรงเดิน โลกนี้มันหมุนติ้วแสงสีจากไฟทำฉันปวดหัวตุบ ๆ

“เฮ้ย! เบลล์แกไหวไหม เดี๋ยวฉันให้คนไปส่ง” เสียงมิ้มดังก้องเข้ามาในโสตประสาทด้านการรับฟัง แต่เปลือกตาฉันมันหนักอึ้งจนไม่สามารถลืมตามองภาพตรงหน้า

“ม่าย ม่ายต้อง ลามบากแกเลย ฉานหวาย” ฉันว่าด้วยน้ำเสียงหย่อนยาน มือบางหยิบแก้วเหล้ามากระดกดื่มอีกครั้ง พอดื่มแล้วก็หยุดไม่ได้ มันก็อร่อยดี

“พอเลยแก ดูแล้วพรุ่งนี้คงไปส่งฉันไม่ไหวชัวร์ เบลล์นะเบลล์ถ้ารู้ว่าเมาแล้วเป็นแบบนี้ฉันไม่ให้แกกินหรอก” เสียงของมิ้มดังขึ้นอีกครั้งพร้อมมีคนดึงแก้วเหล้าออกจากมือ คงจะเป็นมิ้มนั่นแหละ

“ไหว ฉันไปส่งแกด้าย ซาบายมั่ก อย่าลืมคิดถึงฉันนะ ฉันร้ากแก ร้ากร้ากที่สุดเลย” ฉันควานมือดึงร่างของมิ้มเข้ามากอดมาหอม รู้สึกได้ทันทีเลยว่าเวลาเมาแล้วฉันจะเป็นอีกคน ทั้งที่ความจริงเวลาไม่ดื่มฉันเป็นผู้หญิงเงียบ ๆ รู้จักเจียมตัว หลังจากที่ฉันกอดแขนเล็ก ๆ ของมิ้มไว้ก็รู้สึกเหมือนแบตในตัวหมด หนังตาหนักอึ้งและทุกอย่างของฉันก็ดับวูบไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 9 แมวขโมย(2)

    สองเดือนต่อมา...บ้านชานเมือง“แม่เบลล์คะหนูมีเรื่องจะบอกค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่ใบหู ความจริงไม่ต้องกระซิบก็ได้เพราะตอนนี้เราอยู่กันสองคน น้าวันไปซื้อของกับเพื่อนข้างบ้าน“อะไรคะ” ฉันฉีกยิ้มสดใสอีกทั้งทำหน้าอยากรู้อยากเห็นให้สมกับที่ลูกสาวกำลังเล่นใหญ่ ก็หมูน้อยทำหน้าทำตาเหมือนมันเป็นความลับสุดยอด“ตาหนุ่มข้างบ้านเป็นแฟนยายวันของหนูค่ะ” หมูน้อยกระซิบที่หูอีกรอบ“ฮะ หนูรู้ได้ไงคะ” น้าวันเนี่ยนะมีแฟน อันนี้ฉันตกใจจริง“ก็ตาหนุ่มกับยายวันชอบยิ้มให้กัน แล้วตาหนุ่มก็บอกให้หนูเรียกว่าคุณตาเหมือนที่เรียกยายวัน ตาหนุ่มยังบอกอีกนะคะว่าให้หนูช่วยบอกยายวันให้รับรักตาหนุ่มที” หมูน้อยเล่าเป็นฉากเป็นตอนด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจังมากตาหนุ่มคงเป็นคนที่น้าวันพูดถึงบ่อย ๆ ได้ยินว่าเมียแกตายไปปีกว่าแกเสียใจมาก น้าวันเลยเข้าไปชวนคุยไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะกลัวแกเหงา กลัวจะตรอมใจจะว่าไปเวลาน้าวันเล่าถึงตาหนุ่มน้ำเสียงน้าก็ดูมีความสุข น้าวันของฉันมีความรักใช่ไหมเนี่ย“แล้วหนูทำไมบอกว่าตาหนุ่มกับยายวันเป็นแฟนกันคะ เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้”“ก็อาทิตย์ก่อนที่แม่เบลล์ไม่มา ตาหนุ่มถือดอกไม้ช่อเบอเริ่มมาขอยายวันเป

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 9 แมวขโมย

    หลายวันต่อมาเวลา 22:45 น.คอนโด“ค้างด้วยกันสิ” เสียงของสามีเพื่อนที่ข่มขู่จนได้ฉันมาเป็นเมียอีกรอบ วนกลับเข้ามาในลูปเดิม เกิดความผิดพลาดอีกครั้ง เรียกว่าซ้ำซากง่ายกว่า ไม่สมควรได้รับการอภัยโทษ“ไม่ค่ะ แค่นี้ก็ละอายใจมากแล้ว” ฉันปฏิเสธพร้อมทั้งลุกจากเตียง อยากจะหายไปจากคนตรงหน้าเต็มกลืน“อย่าพูดแบบนี้สิครับที่รัก เมื่อกี้เรายังมีความสุขกันอยู่เลย เย็นชาจัง” พี่กองทัพลุกขึ้นมากอดและจูบที่ต้นคอใช่ค่ะ สุดท้ายฉันก็กลัวมิ้มจะเห็นคลิปนั้น ฉันยอมกลับมาเป็นของเล่นของสามีเพื่อน ยอมให้เขาย่ำยี ดีกว่าให้เพื่อนที่แสนดีเสียใจ ฉันยังคงเป็นคนโง่มันคือความบังเอิญหรือพี่กองทัพตั้งใจไว้อยู่แล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อเพื่อนที่แสนดีของฉันโทรมาบอกเล่าให้ฟังว่าเธอต้องไปต่างประเทศด่วนและอาจจะไปอยู่ที่นู่นสองถึงสามเดือน เธอบอกว่ากลับมามีเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังและยังย้ำว่าฝากดูแลท่านประธานด้วยมันเลยเหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว!แมวขี้ขโมย แอบเอากันตอนเมียเขาไม่อยู่ความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน จากนั้นหลังเลิกงานฉันต้องมาบำเรอกามอารมณ์ให้สามีของเพื่อนทุกวัน จนฉันรังเกียจตัวเ

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 8 เลวทราม

    เวลา 17:54 น.“บอสจะให้ดิฉันไปส่งที่ไหนคะ” ฉันเอ่ยถามสามีของเพื่อน ก็ตอนนี้เขานั่งอยู่ในรถของฉัน สาเหตุมาจากข้ออ้างที่ว่ามิ้มเอารถกลับไปและเขาไม่มีรถกลับบ้าน เขาจึงอาศัยรถฉันเพื่อมาพบคุณดนัย หลังจากเจรจาธุรกิจเรียบร้อยเราทั้งคู่นั่งอยู่ในรถโดยที่ฉันนั่งประจำที่คนขับ“คอนโดเดิม จำได้ไหม” เขาว่ามาแบบนี้ แล้วฉันจะตอบว่าอะไรดีล่ะ เปิดประเด็นมาแบบนี้เลยเหรอ จำได้ ก็จะหาว่าฉันใส่ใจ จำไม่ได้ ก็จะว่าเสแสร้งใช่ไหมสุดท้ายฉันเลือกที่จะไม่ตอบ ขับรถไปตามเส้นทางของคอนโดหรูที่ฉันไม่เคยลืม เพราะฝังใจ การเงียบ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับบางเรื่อง แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่อง“ขอโทษนะ” แล้วจู่ ๆ สามีของเพื่อนที่เป็นบอสของฉันก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา“ขอโทษอะไรคะบอส” ฉันหันหน้ามองเขาเพียงนิดและกลับมาโฟกัสเส้นทาง“ห่างเหินเกินไปนะเบลล์”“รัศมีค่ะ สำหรับบอสควรเรียกฉันแบบนั้น”“หึ” เขาแค่นเสียงในลำคอจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง เราทั้งสองต่างคนต่างเงียบ จนกระทั่งรถจอดที่หน้าคอนโดหรู“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง แต่วานคุณรัศมีถือของขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ผมด้วยนะครับ” พี่กองทัพยกยิ้มมุมปาก“คือ...” ฉันอึกอักอึดอัดไปหมด ในหัวเริ่มสับ

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 7 วัวสันหลังหวะ

    ออกจากคอนโดมาแล้วฉันเดินตามทางถนน เดินร้องไห้ไม่สนใจว่าใครจะมอง ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ทั้งที่ใจหนึ่งก็เตรียมไว้แล้วว่าสักวันพี่กองทัพคงเบื่อแต่พอเกิดขึ้นจริง ๆ กลับรับไม่ได้ ไหนจะเสียใจกับเรื่องที่เขาให้ไปเอาเด็กออก เสียใจที่รักคนผิด เสียใจที่เกิดมาโง่ มันรู้สึกจุกแน่นอกไปหมด ไม่เข้าใจหัวใจผู้ชายคนนี้ทำด้วยอะไรถึงคิดฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขได้ลง ทำไมตัดสินใจได้เร็วขนาดนั้น หรือว่าเขาไม่มีหัวใจชีวิตของฉันในตอนนี้มีเพียงเช็คเงินสดห้าแสนบาทเท่านั้นที่ติดตัวมา เหลือญาติคนเดียวที่มีมาตั้งแต่เด็กและลูกในท้องที่กำลังจะเกิด ฉันคงต้องเอาเช็คไปขึ้นเงินแม้จะไม่อยากใช้แต่ก็ต้องใช้เพราะไม่มีทางเลือก จากนั้นก็ซมซานกลับไปหาน้าวันที่พึ่งทางใจสุดท้ายของฉันมารหัวขนที่เขาเรียกเป็นเด็กเกิดจากความผิดพลาดก็จริง แต่ฉันไม่คิดจะฆ่าเด็กในท้องอย่างที่เขาบอกไว้ ฉันจะเก็บลูกไว้ ใจฉันไม่ดำขนาดฆ่าลูกในไส้ตัวเองได้ลงคอ ฉันทำไม่ได้ ยังไงก็ทำไม่ได้ เด็กไม่รู้เรื่อง เมื่อเขามาเกิดเขาควรได้เกิด ฉันจะดูแลเองและพี่กองทัพกับฉันไม่มีวันเจอกันอีกหลังจากที่จัดการเรื่องเช็คเรียบร้อย ฉันกลับมายืนที่ห้องเช่าเก่า ๆ ยืนทำใจก่อนจะเข้า

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 6 มารหัวขน

    สองเดือนต่อมา...ฉันยังคงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดของพี่กองทัพ อยู่แค่ที่นี่จริง ๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย วันนั้นที่พี่กองทัพบอกจะพาไปร้านสักก็ไม่ได้ไป เพราะจู่ ๆ พี่กองทัพเขาก็เปลี่ยนใจออกไปคนเดียวซะงั้นและเขายังสั่งห้ามฉันไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด ฉันก็เชื่อฟังพี่กองทัพกลับมานอนที่นี่ทุกคืน เขาทำให้ฉันเผลอใจรักจนได้ รักทั้งที่ไม่ควรจะรัก ทว่าพักหลังเขาดูแปลกไป เขาไม่เรียกร้องเรื่องบนเตียงกลับมาถึงเข้าห้องนอนกอดฉัน เช้าตื่นมาเขาก็ไป ทุกวันนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไรเพราะเรื่องส่วนตัวฉันไม่มีสิทธิ์ถามและต้องบอกก่อนว่าแม้ฉันกับมิ้มจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของมิ้มสักนิดเพราะฉันคิดอยู่เสมอว่าฉันต่ำต้อยกว่ามิ้มจึงไม่อยากถาม ถ้าเรื่องไหนมิ้มอยากเล่ามิ้มก็จะเล่าให้ฟังเอง ฉันจึงไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของพี่กองทัพมิ้มยังคงทักไลน์มาหาอยู่บ่อย ๆ ฉันก็ยังคุยกับเธอปกติแม้จะนอนกกผัวเธออยู่ก็ตาม โคตรจะหน้าด้านไร้ยางอาย รู้สึกผิด รู้ว่าบาปแต่ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้มิ้มรู้เรื่อง กลัวเธอเสียใจที่โดนคนรักและเพื่อนเลว ๆ อย่างฉันหักหลังและตอนนี้มันเลวร้ายมาก เพราะฉันมันไม่สำนึก ไม่รู้จัก

  • พันธะรักพันธนาการร้าย   ตอนที่ 5 ห้ามรักพี่

    ช่วงเย็นฉันออกไปเก็บเสื้อผ้าบางส่วนและบอกน้าวันว่ามีคนจ้างทำงานเป็นงานพิเศษ มีที่พักให้ น้าวันไม่เอะใจอะไรสักนิดเพราะว่าฉันรับจ้างทำงานหลายอย่างมาตลอด น้าวันก็เลยไว้ใจเวลาสามทุ่มพี่กองทัพเดินเข้ามาในห้องของคอนโดหรู ที่ฉันรู้ว่ามันหรูเพราะฉันเห็นแล้วไงมันหรูมาก ๆ สูงหกสิบชั้นได้มั้ง ย่านคนมีเงินอยู่กันทั้งนั้น คนจนอย่างฉันไม่มีทางได้เฉียดเข้ามาเหยียบหรอก “พี่กินข้าวมาหรือยังคะ”“ทำไมอะ เบลล์อยากไปกินข้างนอกเหรอ” พี่กองทัพถอดเสื้อหนังออก เดินไปแขวนไว้ตรงที่แขวนใกล้ ๆ ตู้เสื้อผ้า“เปล่าค่ะ เบลล์จะบอกว่าเบลล์ทำเผื่อพี่ไว้อยู่ในครัวค่ะ อาหารบ้าน ๆ ไม่รู้พี่จะกินได้ไหม” ฉันก็แค่ทำเผื่อแผ่มนุษย์ร่วมห้องก็แค่นั้น เป็นความเคยชินที่ชอบทำกับข้าวเผื่อใครสักคนเพื่อเตือนตัวเองว่าฉันไม่ได้ตัวคนเดียวพี่กองทัพมายืนด้านหลังโซฟาแล้วโน้มตัวมาหอมแก้มฉัน กลิ่นน้ำหอมอบอวลใกล้ ๆ ตัวฉัน ตึก ตึก ตึก ใจมันเต้นแรง สั่นไหวแปลก ๆ นี่ฉันกำลังคิดไม่ซื่อกับคนรักของเพื่อนงั้นเหรอ ไม่ดิ ไม่ได้ มันผิด ฉันต้องห้ามรู้สึก “ขอบใจนะ กินข้าวกันปะ”“เบลล์กินแล้วค่ะ” ฉันต้องนิ่ง ต้องนิ่งให้มากกว่านี้ อย่าใจสั่นเพียงเพราะเขาหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status