Share

บทที่ 3

คนที่โทรมาคือพี่ชายคนสนิท ทั้งสองจบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์แห่งเดียวกัน แต่เขาจบก่อนเธอสองปี เขาเคยไปเรียนที่ต่างประเทศ และตอนนี้ก็มีชื่อเสียงมากในจีน

เขาดูแลตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด

ดังนั้นจึงถือได้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

“ว่าไงคะ” เธอรีบรับสายอย่างรวดเร็ว

“พี่มีคนไข้ แต่ตอนนี้พี่ติดธุระด่วนไปไม่ได้ เธอช่วยไปแทนพี่หน่อยสิ”

ซ่งหยุนหยุนเหลือบดูนาฬิกา วันนี้เธอไม่มีเคสรักษาคนไข้นอก ช่วงบ่ายมีผ่าตัดสองเคส ดังนั้นเธอจึงว่างในช่วงเช้า “โอเคค่ะ”

“ที่อยู่คือ สวนกุหลาบ เฟสเอ ห้องสามศูนย์หก เธอแค่บอกเขาว่ามาหาคุณฮั่ว คนเฝ้าประตูจะแจ้งเอง”

“อืม”

“อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ และอย่าถามคำถามอะไรมาก เธอแค่รักษาเขาก็พอ” ฝั่งนู้นกำชับมา

“เข้าใจแล้วค่ะ”

ซ่งหยุนหยุนรับปาก หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอก็นั่งแท็กซี่ไปยังสถานที่แห่งนั้น

ที่แห่งนี้คือเขตพื้นที่ระดับไฮเอนด์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระดับสูง

คนเฝ้าประตูกันเธอไว้ เธอจึงบอกว่ามาหาคุณฮั่ว คนเฝ้าประตูจึงโทรไปยืนยันก่อนที่จะให้เธอเข้าไป

เธอกดกริ่งที่ห้องสามศูนย์หก

ประตูเปิดอย่างรวดเร็ว

ฮั่วซุนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เสิ่นจือเฉียน “คุณคือ...”

ซ่งหยุนหยุนเข้าใจสิ่งที่เสิ่นจือเฉียนพูดแล้วว่า ผู้ป่วยรายนี้ดูเหมือนจะให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก และเธอก็ไม่อยากทำให้ตัวเองมีปัญหาเพราะเรื่องนี้ เธอจึงสวมหน้ากากอนามัยไปด้วย

“หมอเสิ่นให้ฉันมาที่นี่แทนเขาค่ะ”

ฮั่วซุนเหลือบมองชุดปฐมพยาบาลในมือของเธอ “คุณรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?”

“รู้ค่ะ หมอเสิ่นแจ้งฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันไม่บอกใครแน่นอนค่ะ”

ฮั่วซุนคิดว่าเสิ่นจือเฉียนคงไม่เรียกใครมาซี้ซั้ว จึงอนุญาตให้เธอเข้าไปข้างใน

เขาพาซ่งหยุนหยุนเดินผ่านโถงรับแขกขนาดใหญ่ ขึ้นไปยังชั้นสองก่อนจะถึงห้องนอน

ในห้องปิดไฟมืดสนิท เธอจึงเอ่ยถามว่า “ปิดไฟมืดขนาดนี้ หมอจะรักษาได้ยังไงคะ?”

เมื่อเจียงเหยาจิงได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง จึงดึงเสื้อคลุมที่โยนทิ้งไว้ข้าง ๆ มาปิดใบหน้าของเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เปิดไฟ”

ฮั่วซุนเปิดไฟ

จู่ ๆ ภายในห้องก็สว่างขึ้น

ซ่งหยุนหยุนรู้สึกคุ้นเสียงนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เธอเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง เลือดบนเสื้อเชิ้ตสีขาวแห้งเหือดกลายเป็นสีแดงเข้ม

เธอไม่ได้ใส่ใจมากนัก คิดแค่มาที่นี่เพื่อรักษาคนไข้

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตน ดังนั้นเธอเองก็ระวังตัว

เธอวางชุดปฐมพยาบาลไว้บนโต๊ะ แล้วเปิดฝากล่องออก จากนั้นหยิบกรรไกรแพทย์ออกมาตัดผ้ากอซบริเวณแผลที่บาดเจ็บ

ไม่นานเธอก็เห็นว่าบาดแผลมีการรักษาด้วยผ้ากอซธรรมดา ๆ เท่านั้น พอตัดผ้ากอซออกก็พบว่าบาดแผลถูกแทงสองแผลทางด้านขวาของซี่โครง

เธอทิ้งกรรไกรและทำความสะอาดแผลอย่างเชี่ยวชาญ

การเคลื่อนไหวของเธอเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

“คุณแพ้ยาชาหรือเปล่าคะ?” เธอถาม

ถึงแม้จะตรวตสอบแล้วว่าบาดแผลไม่ลึก และข้างในไม่เสียหาย แต่ยังก็ต้องเย็บแผล

ต้องใช้ยาชาเฉพาะที่

น้ำเสียงของเธอนิ่งสงบ แตกต่างจากน้ำเสียงตื่นตระหนกเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นถึงแม้จะได้ยินเสียงของเธอ เจียงเหยาจิงก็ฟังไม่ออก

เขาเชื่อมั่นในฝีมืออันคล่องแคล่วของเธอ จึงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่แพ้ครับ”

ซ่งหยุนหยุนผสมยาชาแล้วฉีดบริเวณที่ต้องการเย็บ

ผ่านไปสองนาทียาชาออกฤทธิ์ เธอจึงเริ่มลงมือเย็บแผล

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เรียกได้ว่าเร็วมากเลยทีเดียว

มือของเธอติดเลือด “ฉันขอเข้าไปล้างมือในห้องน้ำนะคะ”

“ชั้นล่างมีห้องน้ำ คุณไปใช้ได้เลยครับ” ฮั่วซุนกล่าว

เธอเดินออกไป

หลังจากแน่ใจแล้วว่าเธออยู่ชั้นล่าง ฮั่วซุนจึงปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามา

“รู้ข้อมูลแล้วครับ คนเมื่อคืนนี้มาจากฝ่ายมู่ฉิน อาจเป็นเพราะคุณกำจัดสายลับทั้งหมดที่เธอจัดตั้งในบริษัทออกไปหมด เธอจึงจนตรอกและต้องการฆ่าคุณ”

เจียงเหยาจิงลุกขึ้นนั่งบนเตียง เสื้อผ้าของเขาดูไม่เรียบร้อย แต่ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บควรจะอยู่ในช่วงอ่อนแอ กลับมีรัศมีทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ

เขาเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเคร่งขรึมราวกับสระน้ำลึก “ผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอหรือเปล่า?”

ฮั่วซุนชะงักก่อนกระซิบว่า “ใช่ครับ ผมตรวจสอบพบว่าเธอติดต่อกับซ่งลี่เฉิง เรื่องนี้ดูมีลับลมคมใน ซ่งลี่เฉิงระบุชื่อของคุณในการแต่งงานครั้งนี้อย่างชัดเจน กลับไม่ใช่เจียงเหยาเทียน เป็นไปได้ว่าเธอคือคนบงการ”

“เธอให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับฉันหลายต่อหลายชิ้นแล้ว ถ้าฉันไม่ให้อะไรเธอตอบแทนสักหน่อยจะดูเหมือนฉันไม่รู้จักบุญคุณ” เขาแค่ออกนอกประเทศไปทำธุระ แต่กลับมีคนใช้ประโยชน์จากการที่เขาไม่อยู่ทำให้เกิดปัญหามากมาย

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉยเมย แต่กลับหยุดความเย็นชาที่อยู่ลึกเข้าไปนัยน์ดวงตาของเขาไม่ได้ “ฉันได้ยินมาว่าเจียงเหยาเทียนเปิดคลับชื่อ เสน่หา อยู่แถว ๆ ถนนจงซิน”

ฮั่วซุนเข้าใจทันที “ไม่มีที่สำหรับพวกเขาในบริษัทอีกต่อไปแล้ว พวกเขาได้รายได้จากคลับแห่งนั้น ถ้าถูกปลดออก ผมคิดว่าชีวิตของพวกเขาในอนาคตจะต้องแย่ ๆ”

“ไปเถอะ” เจียงเหยาจิงพูดเบา ๆ

ขณะที่ฮั่วซุนเดินลงไปชั้นล่างซ่งหยุนหยุนก็กำลังจะขึ้นไปชั้นบนพอดี

ฮั่วซุนรู้ว่าเสิ่นจือเฉียนคงบอกเธอแล้วก่อนที่จะส่งเธอมา พูดได้ว่าเป็นทั้งคำสั่งและคำเตือน “ถ้าเรื่องในวันนี้หลุดออกไป คุณได้ตายอย่างไร้เกียรติแน่นอน”

หากข่าวเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเจียงเหยาจิงไปถึงหูของมู่ฉินและเจียงเหยาเทียน เธอต้องแย่แน่ ๆ

“ฉันจะเก็บเป็นความลับค่ะ” ซ่งหยุนหยุนก้มหัวลง “ฉันจะไปเอาชุดปฐมพยาบาลแล้วกลับเลยค่ะ”

เธอขึ้นไปชั้นบนเห็นชายคนนั้นหันหลังอยู่ที่ประตู เสื้อเปื้อนเลือดบนตัวของเขาถูกถอดออกเผยให้เห็นแผ่นหลังบางและกว้าง เอวเล็กแทบจะไม่มีไขมันเชื่อมต่อกับแนวบั้นท้ายหนาได้สัดส่วน ดูแข็งแกร่ง

“ยังไม่จากไปเหรอ?” ชายคนนั้นไม่ได้หันกลับมา แต่ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมอง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉี่ยยช้าผสมกับเหน็บแนม

ซ่งหยุนหยุนพลันก้มศีรษะลงทันที เมื่อสักครู่เหมือนเธอตกอยู่ในภวังค์

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status