“ กรี๊ด คุณภวิช นี่คุณพาฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย อร้ายยยยฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกคุณหรอกนะ ” มินตรากรีดร้องเมื่อได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่อง เมื่อคืนหล่อนเผลอหลับไปที่คอนโดของเขาที่ลากเธอไปพอสายๆของวัน เขาก็ลากเธอมา เล่นเกมส์บ้าบออะไรก็ไม่รู้ ชื่อเกมส์ IDPA คือเกมส์ยิงปืนเพื่อฝึกการป้องกันตัว เหมือนสถานการณ์จริงแต่ลูกกระสุนไม่ใช่ของจริง แต่ไหงกลายเป็นเธอที่ต้องโดดเดี่ยวด้วย
“ ช่วยพวกผมหน่อยไม่ได้หรือไง ก็แค่เกมส์เองหน่ะมิน คุณจะซีเรียสทำไม ” ภวิช สวมถุงมือหนังสีดำ ชุดกันกระสุนกางเกงขายาว การแต่งกายเหมือนตำรวจชุดสืบสวนเหมือนที่เธอชอบดูหนังฝรั่ง เขาเก็บโทรศัพท์ยัดเข้าล็อคเกอร์พร้อมล็อคกุญแจแล้วโยนให้ทัชที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“ กฤษ นายบอกให้เขาจัดทีมให้แข่งกับเราพร้อมแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ครับ ”
“ แล้วไหนคุณบอกเล่นเกมส์ เล่นเกมส์บ้าอะไรหน้าที่ฉันเป็นตัวประกันนี่อ่ะนะ ต้องใส่หมวกอะไรด้วยก็ไม่รู้ แล้วมันใส่ยังไงเนี่ย ” เธอบ่นอย่างหัวเสียเกมส์อะไรจับมาเธอมามัดให้ยืนอยู่กลางแจ้งเนี่ยนะ บ้าชัดๆ ได้ยิงบ้างคงดีนี่ไม่มีสิทธิ์ได้สู้เลย หน้าง้ำงอของหญิงสาวทำให้ภวิชยิ้มกว้างหล่อนพยายามจะสวมเสื้อกันกระสุนเพียงแค่รูดซิบแต่ก็ยังไม่ทันรูดเสร็จเธอก็คว้าหมวกกันน็อคขึ้นมาสวม
“ ไหนดูสิ ” เขาเดินไปหาเธอที่ใส่หมวกอย่างทุลักทุเล สายชลมองผู้เป็นนายพร้อมรอยยิ้มบางๆ ถ้าสาวๆเห็นคงใจละลายไม่น้อย
“ ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย ” เขาพูดเสียงอ่อนเชิดคางหญิงสาวขึ้นแล้วติดล็อคให้ ภวิชดูหล่อมากในชุดแบบนี้ผมรองทรงสีดำที่เริ่มยาวตาเรียวคมคิ้วเข้มมันทำให้เขายิ่งน่าหลงใหล ไหล่กว้างร่างสมส่วนที่ดูแข็งแกร่งและสมชายชาตรีเอกลักษณ์ของเขาที่ธรรมชาติให้มา เมื่อตาสบตาภวิชหรือจะห้ามใจได้
“ อะฮึ่ม ” เสียงกระแอมของกฤษทำเอามินตราได้สติผละร่างภวิชออกทันที ภวิชหันกลับไปมองกฤษด้วยสายตาอาฆาตแต่ไม่ได้จริงจังอะไร ลูกน้องสามคนก้มหน้าอมยิ้มเล็กน้อย ก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนกล้าหักหน้าเจ้านายพวกเขาสักคนมีแต่เชื้อเชิญให้นายเขาสัมผัสและไม่แคร์สายตาพวกเขาด้วย แต่คราวนี้เห็นทีลูกน้องสนิททั้งสามคงได้แกล้งนายไปอีกนานเพราะผู้หญิงคนนี้แตกต่างไปจากผู้หญิงทุกคน
“ คุณนี่ ยังไงถึงเนื้อถึงตัวฉันตลอด นิสัยไม่ดี นี่แนะ เพี้ยะ ” เธอฟาดไปที่ต้นแขนเขา แล้วก็กึ่งเดินกึ่งวิ่ง
“ นี่มิน คุณทำร้ายผู้มีพระคุณแบบผม งั้นหรอ เจอดีแน่ หยุดเลยนะ ”
“ กรี๊ด ผู้มีพระคุณหื่นแบบนี้ เนี่ยหรอ นี่คุณจะวิ่งไล่ฉันทำไม่หยุดเส่ ” ร่างบางที่ตอนแรกกึ่งเดินกึ่งวิ่ง กลายเป็นวิ่งสปีดยิ่งกว่าวิ่ง 800 เมตรเห็นจะได้ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังของชายหนุ่มที่ตนเพิ่งประทุษร้ายเขาไป เขายังวิ่งไล่ตามเธอมาติดๆ ลูกน้องสนิทสามคนหัวเราะดังลั่นเมื่อเจ้านายหนุ่มวิ่งตามออกไปด้วยรอยยิ้ม นานมากแล้วที่ไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มได้น่ามองขนาดนี้ ส่วนใหญ่หน้าขรึมตลอดยิ่งทำงานด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะนิ่งขนาดไหน นี่ต้องขอบคุณที่บังเอิญเกิดเรื่องแบบนี้กับมินตราทำให้เจ้านายของเขาได้พักผ่อนซะบ้างไม่งั้นก็บ้างานเป็นว่าเล่น
“ มินมาให้ผมทำโทษเดี๋ยวนี้เลย ” เขาพูดหยอกเย้าเมื่อวิ่งเข้าใกล้ตัวของเธอ
“ ไม่มีทาง แบร่ ”เธอหันมาแลบลิ้นให้เขา
“ ตุ๊บ อุ้ย โอ้ย ขอโทษค่ะ / ขอโทษครับ ฟึ่บ ” ร่างหญิงสาวชนกระทบกับใครบางคนทำให้หญิงสาวเซจนแทบหงายหลังล้มแต่กลับมีมือมารวบเอวเธอให้ทรงตัวไว้ได้ คนที่วิ่งตามมาแผ่สายตารังสีอำมหิตไปยังคนที่กอดเอวหญิงสาวที่เขาหมายตาไว้จนลูกน้องทั้งสามคนที่วิ่งตามมารับรู้ได้
“ ฟึ่บ ขอบใจ ” เขาไม่รอช้าที่จะไปกระชากหญิงสาวให้ออกจากอ้อมกอดนั้นจับมือเธอไว้แน่นกระชับเข้าหาตัวมืออีกข้างโอบเอวหญิงสาวแทนมองชายตรงหน้าเล็กน้อย จะบอกว่าหวง ก็คงไม่เถียง จะตอบเลย ว่าใช่ ก่อนจะหันไปถามหญิงสาวข้างกาย
“ เจ็บตรงไหนรึเปล่า ”
“ ปะเปล่าค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร ”
“ ขอบคุณมากนะคะ คุณและก็ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ดูทางให้ดี ” หญิงสาวในอ้อมแขนของภวิชเอ่ยขึ้น
“ ไม่เป็นไรหรอกครับผมชะชื่อ........ ” การแนะนำตัวต้องเก็บกลืนเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงดักคอของชายคนที่อยู่ข้างหญิงสาว
“ ไปกันเถอะมิน ไหนคุณบอกว่าหิวไงเดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวหรอก ”
ภวิชตอนแรกที่เห็นชายคนอื่นโอบเอวหญิงสาวเขาก็หน้างอแล้ว นี่ทั้งขอบคุณแถมผู้ชายคนนี้ยังมองมินตราด้วยสายตาเดียวกับเขาอีกแถมเธอยังคุยด้วยเหมือนไม่รู้สึกอะไร หน้าเขานี่ยิ่งงิกงอกว่าเดิม มินตราจะรู้อะไรไหมนั่นว่าคนเอาแต่ใจและเลือดร้อนอย่างภวิชกำลังทำนิสัยเหมือนเด็กทั้งที่เขาไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหน เขาโอบเอวหญิงสาวให้เดินสายตาชำเลืองมองผู้ชายที่เขาเดินผ่านไม่วายส่งกระแสบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายถึงกับสะท้าน แววตาเยือกเย็นแบบนั้น........ลูกน้องทั้งสามก็มองผู้ที่ทำให้เจ้านายหนุ่มของพวกเขาหงุดหงิดก่อนจะเดินผ่านไป......