Masuk“ซุปเปอร์เดอลุกซ์แป้งหนานุ่ม สปาเก็ตตีขี้เมาทะเล ขนมปังกระเทียม ปีกไก่บาร์บีคิว แล้วก็ผักโขมอบชีสได้แล้วค่ะ”
น้ำเสียงใสๆ ของพนักงานเสิร์ฟที่ร้านพิซซ่าในห้างแถวบ้านดังขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร… และสายตาเปล่งประกายแวววาวของฉันก็โปรยมองไปยังจานอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายแล้วก็ทำให้ท้องร้องขึ้นมาทันที นานแล้วที่ไม่ได้มากินอาหารนอกบ้านแบบนี้ เพราะว่าป๊ากับหม่าม้าฉันเป็นคนประหยัดทั้งคู่แถมยังไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง สองคนนั้นไม่ค่อยชอบกินพวกฟาสต์ฟู้ดเหมือนวัยรุ่นอย่างเรา ครั้งล่าสุดที่ป๊ายอมพาฉันมากินของอร่อยๆ ในห้างก็ตอนมอสาม ตอนนั้นฉันทำคะแนนสอบได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของห้อง หม่าม้าบอกว่าอาหารในห้างราคามันแพงเกินจริง คนที่ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดและเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแบบหม่าม้าย่อมรู้ดี เฮ้อ… ครอบครัวของฉันจริงจังกับทุกๆ เรื่องในชีวิตจนเกินไปนะฉันว่า ต่างกันลิบลับกับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันในเวลานี้ พี่เอ็มดูจะไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอนาคตของตัวเองเลย “แค่นี้พอไหม อยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะครับแฟน” รอยยิ้มเจ้าชู้ถูกโปรยมาพร้อมกับน้ำเสียงกวนๆ ก่อนที่สายตาคู่คมจะเหลือบมองไปยังเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะอีกรอบ “พอแล้วพี่เอ็ม… สั่งมาตั้งเยอะแยะขนาดนี้ จะกินเข้าไปหมดได้ยังไง” ที่สั่งมามันก็เยอะเกินไปสำหรับสองคนแล้ว แถมราคามันก็แพงมากด้วย ยืมตังค์เพื่อนเพื่อแต่งตัวหล่อแล้วพาแฟนมาหาของอร่อยกิน… บ้าบอจริงๆ เลยพี่เอ็ม แล้วจะหาเงินที่ไหนไปใช้คืนเขาล่ะเนี่ย คงจะขอผ่อนเอาแหละฉันว่า “หมดสิ! พี่กินจุ ผึ้งก็กินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีแรง มีแฟนดอใหญ่เอาดุไม่ควรหมดแรงง่ายๆ เข้าใจไหม” ไอ้บ้า! ไอ้ตัวทะลึ่ง! ปากพูดจ้อไม่หยุดส่วนมือก็หยิบพิซซ่าในถาดวางลงในจานให้ฉันพร้อมกับบีบซอสเป็นรูปหัวใจให้ด้วย “ได้กินของอร่อยๆ ก็คลายเครียดดีเหมือนกันนะพี่เอ็ม” ไหนบอกว่าตัวเองกินจุ ไม่เห็นจะตักอะไรเข้าปากเลยสักคำ เอาแต่นั่งจ้องฉันกินอยู่นั่นแหละ ว่าแต่เขาฉันเองก็ละสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายข้างบ้านคนนี้ไม่ได้เลยเหมือนกัน พี่เอ็มเป็นคนที่มีเบ้าหน้าคมเข้ม จมูกโด่งสวย ริมฝีปากได้รูป แววตาดุดันแต่มีความละมุนอ่อนโยนเวลามองฉัน ยกเว้นตอนกำลังเอา ที่เหมือนจะพ่นไฟออกมาเผาผลาญฉันให้แหลกลาญ “พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปเที่ยวกับพี่นะผึ้ง” ใบหน้าคมคายถามขึ้นมาก่อนจะตักเส้นสปาเก็ตตีเข้าปาก จากนั้นก็จ้องมองฉันที่ยังคงนั่งเงียบอยู่อย่างรอคอยคำตอบ “ไม่เอาอ่ะ ไม่ไป ผึ้งจะอ่านหนังสืออยู่บ้าน แล้วป๊าคงไม่อนุญาตให้ผึ้งไปด้วย” ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย ปกติการขอออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนในวันหยุดมันก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แถมฉันยังโกหกไม่ค่อยจะเก่งอีกด้วย “ผึ้งก็บอกป๊าไปว่า… อาจารย์ที่โรงเรียนนัดให้ไปติว เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยสิผึ้ง” ใบหน้าหื่นยิ้มร้ายแบบคนที่มีความคิดเจ้าเล่ห์ แบบนี้ต้องคิดจะพาฉันออกไปเอากันที่ไหนสักแห่งแน่ๆ “ถ้าป๊าจับได้ขึ้นมาแย่เลยนะพี่เอ็ม” “ถ้าไม่มีใครบอกป๊า ป๊าก็ไม่รู้หรอก เรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนอยู่แล้ว ออกไปเปิดหูเปิดตา… ไปร้องคาราโอเกะ ดูหนัง แล้วก็หาของอร่อยกินด้วยกัน แบบที่คนเป็นแฟนกันเขาทำกันน่ะ” ไอ้ที่พูดมาแต่ละอย่าง มันต้องใช้เงินทั้งนั้นเลยนะ! หลังจากที่กินอิ่มจนพุงกาง พี่เอ็มก็เดินจูงฉันกลับมายังรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ ฉันเร่งให้เขารีบพากลับบ้านก่อนจะผิดเวลาไปมากกว่านี้ คนตัวโตพาฉันซิ่งต่ออีกไม่กี่นาทีก็ถึงปากซอยเข้าบ้าน จากนั้นจึงจอดรถให้ฉันลงตรงใต้ต้นไม้ใหญ่เหมือนเดิม ฉันรีบกระโดดลงจากรถแล้วสาวเท้ากลับบ้านอย่างรวดเร็ว และเมื่อกลับถึงบ้านเสียงดุๆ ของป๊าก็ดังขึ้นมาทันที “ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านช้าเลยผึ้ง” โอ๊ย... ถึงบ้านช้ากว่าเวลาปกติแค่ครึ่งชั่วโมงเอง “พอดีเพื่อนสั่งพิซซ่ามาเลี้ยงวันเกิดตอนหลังเลิกเรียนอ่ะป๊า ก็เลยต้องอยู่ช่วยกิน วันนี้ผึ้งไม่กินข้าวเย็นที่บ้านแล้วก็ขอขึ้นห้องไปอ่านหนังสือเลยก็แล้วกันนะ” ตั้งแต่คบกับพี่ชายข้างบ้าน สกิลในการพูดโกหกของฉันก็ค่อยๆ อัพเลเวลขึ้น ฉันอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินไปนั่งประจำที่ตรงโต๊ะหนังสือ ช่วงเวลาที่พี่ชายข้างบ้านไม่มากวนคือนาทีทองที่ฉันจะได้ทบทวนตำราเรียนและเตรียมสอบอย่างเต็มที่ โอย… แย่แล้วฉัน ยังอ่านไม่ทันจบบทก็รู้สึกง่วงเต็มที ข้อสอบย้อนหลังวิชาเคมีก็โคตรยาก ไหวไหมเนี่ยผึ้ง แผนวิทย์-คณิตฯ มันไม่ค่อยจะเหมาะกับฉันสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็ต้องจำใจเรียนเพื่อครอบครัว ว่าแต่คืนนี้พี่เอ็มเขาหายไปไหนของเขานะ ไม่เห็นเรียกฉันให้ยื่นหน้าลงไปหา ไม่เห็นมาออกกำลังกายตรงสวนหย่อมหลังบ้าน แล้วก็ไม่หาทางขึ้นมาเอาฉัน ไม่โทรมา ไม่ไลน์มา… ไม่มาก่อกวน อะไรกันเนี่ย แปลกมาก ฉันว่าฉันเองแหละที่อาการหนัก พี่เอ็มเงียบไปไม่ถึงสองชั่วโมงฉันก็คิดถึงเขาจะแย่ หรือว่า… คืนนี้เขาให้ฉันพัก เพื่อเตรียมจะจัดหนักให้วันพรุ่งนี้ อืม! ต้องใช่แน่ๆ ฉันรู้จักคนอย่างพี่เอ็มดี เฮ้อ! แบบนี้ฉันคงต้องโกหกป๊าเพื่อหาทางออกไปกับเขาสักครึ่งวัน ไม่อย่างนั้นไอ้พี่เอ็มคนหื่นต้องเป็นฝ่ายหาทางขึ้นมาหาฉันที่ห้องให้ได้แน่ๆ!“เล้าโลมก่อนไง พอเข้าไปในห้องจะได้ใส่เลย” พอพูดจบประตูลิฟต์ก็เปิดทันที และประตูลิฟต์เปิดออกยังไม่ทันสุด ฉันก็โดนเขาฉุดไปตามทางเดิน“ถึงแล้ว ห้องนี้ไง ห้องชั้นสูงๆ แบบนี้ วิวน่าจะสวยนะผึ้ง”เมื่อเราทั้งคู่เปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องพบกับความตกตะลึง หืม! สมชื่อเลิฟโฮเทลจริงๆ โรงแรมแฟนซีที่ซ่อนอยู่ในซอยใกล้ๆ บ้าน ออกแบบตกแต่งเพื่อคู่รักมาเอากันโดยเฉพาะ ภาพเขียนอีโรติกที่ติดอยู่ตามผนังห้องยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเราทั้งคู่ให้ลุกโชน และเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ดูแล้วน่าจะใหญ่กว่าเตียงที่บ้านฉันสองเท่าก็กำลังร้องเรียกให้เราสองคนรีบๆ กระโจนเข้าไปพี่เอ็มรีบถอดเสื้อยืดสีดำโยนทิ้งไปทันที มือเรียวยาวปลดหัวเข็มขัดของตัวเองออก แล้วดึงกางเกงยีนส์ขาดๆ ให้ร่วงไหลลงมาตรงปลายเท้า ส่วนบ็อกเซอร์สีเข้มๆ ของเขา ฉันเป็นคนดึงมันลงมาเองแหละ “อา~ ผึ้ง” คนตัวโตครางขึ้นมาอย่างชอบใจเมื่อโดนฉันจู่โจม พอเห็นความใหญ่โตของเขาฉันก็ทนไม่ไหวรู้ตัวอีกทีร่างเล็กบอบบางก็นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา มือเล็กๆ ที่กำลำเอ็นของเขาไม่รอบรีบคว้าหมับตรงกลางลำก่อนจะค่อยๆ ขยับริมฝีปากเข้าไปใกล้ๆ แล้วใช้ปลายลิ้นเล็กตวัดเล้าเลียตั้งแต่ป
คนตัวโตที่กำลังส่งยิ้มกว้างแววตาเป็นประกายระยิบระยับ รีบยื่นฝ่ามือสากๆ มาจับนมฉันเหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิดเรื่องหื่น… ขอให้ไว้ใจพี่เอ็ม “ไอบ้า! นี่มันข้างถนน” พอโดนฉันดุก็ผลักมือออกแล้วเปลี่ยนมาลูบแก้มเนียนนุ่มของฉันแทน“ผึ้ง! พี่รอตั้งนาน นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” คำว่านานของพี่เอ็มนี่มันยังไงกันวะ ฉันออกมาช้าแค่สิบนาทีเอง “นี่เพิ่งจะสิบโมงสิบห้าเองนะพี่เอ็ม” ย่นจมูกใส่คนตัวโตที่ยังคงยิ้มพริ้มกรุ้มกริ่มมองฉัน เงาสะท้อนของความรักมันสื่อออกมาจากดวงตาคู่คมของพี่ชายข้างบ้านอย่างชัดเจนวันนี้พี่เอ็มดูหล่อกว่าเมื่อวานซะอีก แล้วนั่นไปแอบเจาะหูตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากจะตัดผมทรงไอดอลเกาหลีแล้ว ยังไปหาต่างหูแบบเดียวกันมาใส่อีก เชื่อเขาเลย! แต่เห็นแบบนี้แล้วก็อดส่งยิ้มน่ารักไปให้เขาไม่ได้ ถ้าหากจะมีสิ่งหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ฉันมีความสุขมากและอยากจะตื่นขึ้นมาเจอในทุกๆ วัน สิ่งนั้นก็คือพี่เอ็มของฉันนี่แหละถึงแม้ว่าเขาจะหื่นแต่เขาก็เป็นไอ้ตัวความสุขของฉัน! “วันนี้ผึ้งน่ารักมากเลยรู้ไหม” ในที่สุดคนหน้าหล่อก็ป้อนคำหวานให้ฉันเสียที เสียงหวานซะด้วย “พอพี่เห็นผึ้งเดินออกมาจากปากซอยพี่แม่งเงี่ยนเลยว่ะ” เออ
ร่างเล็กบอบบางล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนนุ่ม น่าเสียดายที่มันเป็นผ้าปูที่นอนผืนใหม่ เลยไม่มีกลิ่นกายของพี่เอ็มหลงเหลืออยู่ ส่วนมือเรียวสวยก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่เห็นว่าพี่เอ็มจะส่งข้อความอะไรมาเลย โอย! คิดถึง นี่พี่เอ็มเขาหลับอยู่หรือยังไงถึงไม่ยอมโทรมา ไลน์มาก็ยังดี ปกติเห็นติดฉันยิ่งกว่าอะไร ติดแฟนเข้าเต็มๆ แล้วฉัน สมาธิจะอ่านหนังสือก็ไม่ค่อยจะมีเพราะมัวแต่คิดถึงเขา สุดท้ายฉันก็เลยต้องเป็นฝ่ายส่งข้อความถึงเขาก่อน Line >> 🍯 Honey: ทำไมเงียบจัง! ทำอะไรอยู่ที่ไหนเนี่ย [ ไม่อ่าน…. 5 นาทีผ่านไปก็ยังไม่อ่าน เกือบ 10 นาทีแล้วก็ยังไม่ยอมอ่าน อย่าบอกนะว่าหลับอยู่!] อ่านแล้ว!! ในที่สุดก็อ่านซะที อ่านปุ๊บตอบปั๊บแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย 🐸 เอ็ม จักรวาล: แฟนเงี่ยนเหรอครับ [ โอ๊ย! ไอ้บ้า ] 🍯 Honey: พี่เอ็ม! ในหัวคงมีแต่เรื่องอย่างว่าสินะ 🐸 เอ็ม จักรวาล: พี่ก็เงี่ยน แต่อยากให้ผึ้งได้พักอ่านหนังสือบ้าง เลยออกมาปลดปล่อยข้างนอกกับคนอื่นแทน [ ปลดปล่อย! หมาย
“ซุปเปอร์เดอลุกซ์แป้งหนานุ่ม สปาเก็ตตีขี้เมาทะเล ขนมปังกระเทียม ปีกไก่บาร์บีคิว แล้วก็ผักโขมอบชีสได้แล้วค่ะ” น้ำเสียงใสๆ ของพนักงานเสิร์ฟที่ร้านพิซซ่าในห้างแถวบ้านดังขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร… และสายตาเปล่งประกายแวววาวของฉันก็โปรยมองไปยังจานอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายแล้วก็ทำให้ท้องร้องขึ้นมาทันที นานแล้วที่ไม่ได้มากินอาหารนอกบ้านแบบนี้ เพราะว่าป๊ากับหม่าม้าฉันเป็นคนประหยัดทั้งคู่แถมยังไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง สองคนนั้นไม่ค่อยชอบกินพวกฟาสต์ฟู้ดเหมือนวัยรุ่นอย่างเรา ครั้งล่าสุดที่ป๊ายอมพาฉันมากินของอร่อยๆ ในห้างก็ตอนมอสาม ตอนนั้นฉันทำคะแนนสอบได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของห้อง หม่าม้าบอกว่าอาหารในห้างราคามันแพงเกินจริง คนที่ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดและเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแบบหม่าม้าย่อมรู้ดี เฮ้อ… ครอบครัวของฉันจริงจังกับทุกๆ เรื่องในชีวิตจนเกินไปนะฉันว่า ต่างกันลิบลับกับผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันในเวลานี้ พี่เอ็มดูจะไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอนาคตของตัวเองเลย “แค่นี้พอไหม อยา
ฉันถือกระเป๋านักเรียนเดินมุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์ รู้สึกอยากจะบ้าตายกับตัวเองเพราะไม่เจอพี่ชายข้างบ้านจอมหื่นแค่ชั่วโมงเดียวก็คิดถึงเขาแล้ว อาการหนักเหมือนกันนะเรา… อย่าว่าแต่เขาเลย พี่ชายข้างบ้านจอดมอเตอร์ไซค์รอฉันอยู่ตรงป้ายรถเมล์เป็นที่เรียบร้อย หัวเปียกๆ ยุ่งๆ แบบคนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ พอเห็นฉันเดินออกมาก็โปรยยิ้มหล่อมาแต่ไกล ฉันก็เลยต้องรีบส่งยิ้มสวยๆ ตอบไปในทันที ตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกวันแล้วฉัน แถมยังผูกพันกันมากขึ้นทุกที เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ มือใหญ่ก็ยื่นนมกล้วยเกาหลีมาตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มละมุน จริงๆ แล้วพี่เอ็มก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ใส่ใจแฟนและเอาใจเก่งมากคนหนึ่งเลยล่ะ นอกจากเขาจะรู้ว่าฉันชอบอะไร บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าเขารู้ทันความคิดของฉันอีกด้วย ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นวัยรุ่นฉันเห็นเขาแอบมองฉันอยู่ห่างๆ บางวันก็มาคอยดักรอฉันอยู่ตรงป้ายรถเมล์แล้วเดินตามฉันกลับบ้าน ช่วงวันหยุดก็ชอบเข้าไปเดินวนเวียนเหล่มองฉันในเซเว่น และเวลาที่ฉันโดนป๊าดุแล้วออกมานั่งร้องไห้ตรงรั้วหลังบ้านเขาก็เดินมาเกาะรั้วมองฉัน ยืนทำหน้าเศร้
“หื่นจริงๆ เลยพี่เอ็ม แล้วไอ้นี่มันแข็งได้ตลอดเวลาเลยหรือยังไง” พูดพร้อมกับคว้าหมับตรงแท่งเอ็นอุ่นที่แข็งขยายจนสุดแล้วรูดสาวมันเบาๆ เพื่อแกล้งเร้าให้เขายิ่งมีอารมณ์ “แล้วจะให้พี่ทำไง พี่นอนกอด นอนสูดกลิ่นตัวหอมยั่วเยของผึ้งทั้งคืน ตื่นมาก็แข็งสิวะ ปกติผู้ชายเวลาตื่นนอนตอนเช้าคxยแม่งก็แข็งกันทั้งนั้นแหละ”พูดจบก็สูดปากคราง ตาเยิ้มเคลิบเคลิ้มมองมือขาวเนียนของฉันที่กำลังชักสาวลำรักให้เขาเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง “ให้พี่เอาเลยนะผึ้ง โดนพี่กระแทกแรงๆ ก่อนไปโรงเรียน รับรอง ฟิน! อารมณ์ดีไปทั้งวัน” แล้วฉันจะทำอะไรได้ ปฏิเสธเขาได้เหรอ ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันมันพ่ายแพ้ให้แก่เขาไปตั้งนานแล้ว! นี่ขนาดเขายังไม่ทันได้เล้าโลม ความชุ่มฉ่ำก็หลั่งล้นออกมารอเบิกทางจนเยิ้ม… ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มน่ารักถูกเขาฉกจูบโดยไม่ทันตั้งตัว ปากหยักระดมจูบฉันอย่างบ้าคลั่ง บดขยี้ขบดูดไม่บันยะบันยัง ลิ้นหนาถูกสอดแทรกเข้ามากวาดต้อนในโพรงปากอุ่นอย่างร้อนเร่าจนร่างฉันอ่อนระทวยเช้าๆ แบบนี้… ผู้ชายเขามีอารมณ์มากขนาดนี้เลยเหรอ ริมฝีปากของฉันเริ่มปวดแสบ ได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ร่างแกร่งโถมลงมานัวเนียกอดรัดร่างบอบบ







