สาธิมาในร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานตื่นตอนยามซือโดยสาวใช้ของนางที่ตามมาจากจวนทั้งสองคน ฟางหลิวหลิวกับฟางมู่ตาน ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ
ทั้งคู่เป็นหลานสาวของแม่นมที่เคยเลี้ยงมารดาของเซี่ยเสี่ยวหลานมาก่อน จึงส่งให้มาดูแลลูกสาวของคุณหนูของนางก่อนที่จะกลับไปบ้านเดิม ตั้งแต่มารดาของเซี่ยเสี่ยวหลานเสียชีวิตเพราะร่างกายไม่แข็งแรงจึงขอกลับไปตายที่บ้านเดิมและบิดาก็อนุญาติให้กลับไป จึงส่งหลานสาวมาแทนทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าบิดาสงสาร จึงรับมาเลี้ยงให้เป็นเพื่อนของลูกสาวและให้คอยดูแลแทนเวลาที่ท่านไม่อยู่ลูกจะได้มีเพื่อน "พี่สองคน เข้ามาช่วยข้าอาบน้ำด้วยเจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานเรียกสองสาวพี่น้อง "คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ" พอได้ยินเสียงจากข้างในทั้งสองสาวก็รีบเปิดประตูเข้ามา สองพี่น้องช่วยกันพยุงร่างของคุณหนูของตนเข้าห้องน้ำด้วยความสงสารแต่พูดอะไรไม่ได้ "เจ็บมากไหมเจ้าคะ" ฟางหลิวถามและเอามือลูบตามรอยสีกุหลาบเต็มร่างกายของคุณหนูของนาง "ไม่เป็นไรข้าทนได้ คอยดูเถอะข้าจะเอาคืนมันทุกคนที่ทำร้ายข้า พี่ทั้งสองต้องช่วยข้านะเจ้าคะ"สาธิมาในร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานพูดขึ้นในอ่างอาบน้ำ "เจ้าค่ะคุณหนู" ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน "ดีมากเจ้าค่ะ" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดก่อนจะวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนต้องหาทางหย่ากับไอ้แม่ทัพหน้าโง่คนนี้ให้ได้ก่อนจะกลับไปอยู่ที่จวนกลับบิดาต่อไป "พี่ฟางมีใครมาหาเรื่องข้าไหมตอนที่ข้าหลับ" "ไม่มีเจ้าค่ะมีแค่พ่อบ้านที่มาบอกว่า ถ้าคุณหนูตื่นแล้วให้ไปหาท่านแม่ทัพที่ห้องหนังสือเจ้าค่ะคุณหนู" ฟางหลิวตอบ "อือ ข้าหิวแล้วพี่มีอะไรให้ข้ากินไหมเจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานถามหาอาหารเพราะตอนนี้เธอหิวมากเพราะเมื่อคืนร่างนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย สองสาวใช้แยกหน้าที่กันคนหนึ่งแต่งตัวคนหนึ่งไปอุ่นอาหารมาให้กับคุณหนูของตนอย่างรวดเร็ว สาธิมาในร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานกินข้าวอย่างหิวโหยทั้งจืดชืด แต่ก็ต้องกินเพราะหิวมาก 'วันหลังทำกินเองดีกว่า แต่กลับไปทำที่จวนของท่านพ่อดีกว่า ไม่ทำจวนบ้านี้หรอกหาวิธีไปหย่ากับไอ้แม่ทัพหน้าโง่' เซี่ยเสี่ยวหลานคิดในใจ "ข้าอิ่มแล้วไปกันเถอะเจ้าค่ะ พี่ฟาง พี่มู่" "เจ้าค่ะคุณหนู" เซี่ยเสี่ยวหลานบอกสองสาวใช้ ก่อนจะเดินตามกันไปที่จวนใหญ่ของท่านแม่ทัพโจวหลี่เฉิง จัดให้เราอยูเกือบท้าจวนเลยแฮะ ก็ดีไม่ต้องเจอกันบ่อยเหม็นขี้หน้าไอ้หน้าปลากะโฮ่ เดินไปพลางคิดฉายาสามีไปในตัวหึๆโง่ดีนักมันเป็นแม่ทัพมาได้ไงวะสาธิมาในร่างเซี่ยเสี่ยวหลานคิดในใจ ห้องหนังสือโจวหลี่เฉิงที่นั่งทำงานอยู่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาดื่มจนหนักและเขาหอกับเซี่ยเสี่ยวหลานเพื่อจะลงโทษที่นางวางยาเขา จนทำให้เขาไม่ได้แต่งงานกับซือเหลียนเหมยสาวคนรักที่ตั้งใจจะแต่งกันตอนที่เขามาจากชายแดน หลังจากออกรบมาหนึ่งปีได้แต่ส่งจดหมายรักถึงกันแต่ก็ต้องมาพังเพราะน้องสาวต่างมารดาที่นางอาศัยอยู่ในจวนด้วย ทั้งที่ตอนเขาไปจวนก็ไม่เคยเห็นหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยสักครั้งหนึ่ง จนวันที่จัดงานเลี้ยงขึ้นที่จวนโดยเชิญสาวคนรักกับแม่ของนางมางาน เพื่อจะเปิดตัวเจ้าสาวของตัวเองแต่คิดไม่ถึงสาวน้อยหน้าหน้าตาใสซื่อ จะวางยาปลุกกำหนัดเขาจนได้เสียเป็นเมียจึงทำให้เขาเกลียดเซี่ยเสี่ยวหลานมากเมื่อวานก็ต้องแต่งนางเข้าจวน เพราะคนที่มางานเลี้ยงเห็นกันหมดว่าเขามีอะไรกับน้องสาวของคนรักเมื่อคืน เขาจึงเข้าหอแก้แค้นที่ทำให้คนรักของเขาเสียใจและจะเขาทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียใจเหมือนกันกับคนรักของเขา เขาจะไปรับซือเหลียนเหมยและจะขอให้นางมาเป็นฮูหยินเอกส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นฮูหยินรองรอง ถ้าไม่ยอมเขาก็จะหย่าให้นางเพราะไม่ได้รักเซี่ยเสี่ยวหลาน วันนี้เขาจะพูดกับเซี่ยเสี่ยวหลานให้รู้เรื่อง เสียงเคาะประตูจากคนสนิท "ฮูหยินเอกมาถึงแล้วขอรับท่านแม่ทัพ" "เข้ามา" เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าไปคนเดียวให้พี่สาวทั้งสองรอที่หน้าห้องหนังสือ แม่ทัพหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองภรรยาหมาดๆของตัวเองก็ตกตะลึง เซี่ยเสี่ยวหลานนางสวยมากนางแม้ไม่แต่งแต้มอะไรเลย หน้าผ่องใสมีเลือดฝาด ผิวขาวดังหิมะ นอนด้วยกันมาสองครั้งไม่เคยเห็นหน้ากันชัดๆ หึสวยแล้วอย่างไร จิตใจคตคนรักพี่สาวยังกล้าแย่งได้ คิดแล้วก็ส่งสายตาเย็นชา "นั่งสิ จะยืนค้ำหัวข้าอีกนานไหม" เสียงแม่ทัพพูดเสียงดัง เซี่ยเสี่ยวหลานก็สะดุ้งแต่ก็มีสติขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน !!!!โอ๊ะแม่เจ้าสามีของน้องหล่อมากแต่ปากหมาปัดตกเวทีไปเรียบร้อย เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็จ้องหน้าของสามีของเจ้าของร่างเดิมอย่างอาฆาตแค้น ที่เมื่อคืนนี้โดนไอ้หน้าหล่อปากหมารังแกทั้งคืน เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งลงที่เก้าอี้และพูดเข้าประเด็นทันที "มีอะไรก็พูดมาเลยเจ้าค่ะไม่ต้องอ้อมค้อม" แล้วมองหน้าตากับไม่หลบในเมื่อนางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมที่กลัวคนและยอมคน จนโดนทำลายทั้งชีวิต แถมคิดว่าความผิดที่ไม่ได้แต่งกับคนรักของตัวเองเป็นของนางอีก โจวหลี่เฉิงมองหน้าของภรรยาที่ได้มาอย่างไม่ตั้งใจก็ชะงักแววตาของนางในวันนี้มันช่างแตกต่างกับวันที่ตื่นขึ้นมาในวันที่มีงานเลี้ยง "อ้อนี้คงจะเป็นธาตุแท้ของเจ้านี้เองพอได้แต่งเข้าจวนก็กลายเป็นอีกคนทันที" โจวหลี่เฉิงพูดใส่หน้าเซี่ยเสี่ยวหลานทันทีที่นางถามกับ "มันก็ไม่แปลกเพราะสถานที่มันสอนให้ต้องเข้มแข็งแก้ตัวไปก็ไม่มีประโยนช์ ในเมื่อปักใจเชื่อว่าข้าทำผิดอยู่แล้วนี้ ถ้าจะสืบกันจริงๆมันก็ไม่ยากสำหรับแม่ทัพใหญ่ ที่จะสืบว่าใครมันกล้าวางยาของตัวเองในจวนแต่ถ้ารู้แล้วกลัวจะทำใจไม่ได้มากกว่า" "เจ้าพูดเรื่องอะไรในเมื่อตัวเองทำแล้วจะโยนความผิดไปให้ใครอีก!!" โจวหลี่เฉิงตะคอกเซี่ยเสี่ยวหลานเสียงดังจนคนข้างนอกสะดุ้งไปตามๆกัน "ก็นะข้าก็ยังสงสัยมาตลอดว่าในเมื่อข้าไม่เคยพบหน้าของท่านเลยด้วยซ้ำจะมาวางยาให้มาเป็นสามีของข้ามันก็ยังไงอยู่จริงไหมท่านแม่ทัพ ทั้งยังกล่าวหาว่าข้าแอบหลงรักว่าที่พี่เขยของตัวเองอีกหน้าตาก็งั้นๆแถมโง่อีกต่างหาก" เซี่ยเสี่ยวหลานสวนกลับตรงๆ "เจ้าว่าใครโง่ เซี่ยเสี่ยวหลาน" โจวหลี่เฉิงโกรธจนตัวสั่น "ผู้ใดร้อนตัวก็รับไปสิ แต่ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ได้โง่จะโกรธทำไมเจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานสวนกับพูดหน้าตาเฉยและไม่ได้กลัวที่แม่ทัพตะคอกเธอเลยสักนิด เข้ามาสิฉันก็สู้ตายถ้าทำร้ายฉันรับรองว่าสาธิมาคนนี้ขอสู้ตาย วิชาต่อสู้ก็เรียนมาทุกอย่างหมดเงินไปเป็นแสนๆจะกลัวอะไร เราเข้ารับการต่อสู้แบบทหารฝึกอีก ฝรั่งตัวโตเราก็ล้มมันมาแล้ว กับแค่ไอ้ผัวหน้าวอกฉันยอมสู้ตาย สาธิมาคิดในใจและจ้องตาสามีไม่หลบ โจวหลี่เฉิงโกรธจนตัวสั่นจึงคิดหาทางทำร้ายจิตใจของนางและพูดขึ้น "ข้าจะแต่งซือเหลียนเหมยเข้ามาเป็นฮูหยินเอก ส่วนเจ้าเป็นแค่ฮูหยินรอง ถ้าไม่พอใจก็เอาใบหย่าไปและออกจากจวนข้าไปได้เลย" แต่ถ้าเขารู้ว่าในภายหน้าคำพูดนี้มันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวของเขาเองในวันนี้โจวหลี่เฉิงจะไม่เอ่ยออกมาเลยสักคำ สาธิมาตาลุกวาบอย่างดีใจไม่ต้องรอนานในที่สุดก็สำเร็จนางรีบตอบแบบไม่ต้องคิดเลยสักนิด "ได้ข้าต้องการจะหย่าและจะออกจากจวนของท่านในวันนี้จะไม่อยู่ให้เป็นเสนียดของให้ท่านแน่นอน ที่ผ่านมาข้าอโหสิให้คิดซะว่าให้หมามันกินคนบางคนก็เก่งกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ แต่ก็หน้าสมเพชที่ความรักบังตาจนมืดบอด ไม่รู้จักมารยาของผู้หญิง" แม่ทัพใหญ่โจวหลี่เฉิงโกรธเซี่ยเสียวหลานมากที่ท้าทายและว่าเขาโง่จึงเขียนใบหย่าให้กับภรรยาทันที เซี่ยเสี่ยวหลานรีบเขียนชื่อในใบหย่าทันที เพราะกลัวสามีจะเปลี่ยนใจที่นางไม่พูดต่อจนจบเพราะกลัวว่าแม่ทัพจะไม่รีบเขียนใบหย่าให้นาง ตอนนี้นางได้ใบหย่าเรียบร้อยมาแล้ว จึงไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกเป็น "เย้ เป็นอิสระแล้วเรา" *0*/ ภาพในหัว "เป็นเจ้าทำตัวเอง ที่จริงถึงข้าจะแต่งพี่สาวของเจ้าเข้าจวน เจ้าก็ยังสามารถอยู่ในจวนของข้าได้ เว้นแต่เจ้าจะทำใจยอมรับที่พี่สาวของตัวเองที่ข้ารักได้เป็นฮูหยินใหญ่ไม่ได้" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดหลังจากเขียนใบหย่าเรียบร้อยและต่อไปใครจะกล้าแต่งหญิงหม้ายที่สามีหย่าให้ทั้งที่พึ่งแต่งเข้าจวนเมื่อวานเหอะ สาธิมาในร่างของเซี่ยเสี่ยวหลานตอบกลับไปว่า "มองหน้าข้าไว้ดีๆนะเจ้าคะข้าดีใจมากที่ท่านเขียนใบหย่าให้ข้า ไม่ต้องกลัวเรื่องคนจะนินทาเพราะมันกินแทนข้าวไม่ได้เขาเหนื่อยก็หยุดพูดไปเอง แต่อิสระภาพคือสิ่งที่ข้าต้องการ ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะหาสามีไม่ได้หรอกเจ้าคะ ผู้ชายไม่ได้มีแค่ท่านคนเดียวในโลกที่ที่กว้างใหญ่เพียงนี้ และไม่ต้องกลัวเพราะว่าข้าเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้ ไม่ได้เป็นง่อยที่จะคอยให้สามีหาเลี้ยงตัวของ ข้ามีสองมือสองเท้าเดินได้เจ้าคะท่านแม่ทัพโจว เพราะข้าไม่ได้โง่เหมือนใครบางคนและคนที่นินทาไม่ได้หาเลี้ยงตัวข้าทำไมข้าต้องแคร์คนอื่นด้วยละ ตัวข้าคนนี้ไม่เคยคิดจะแย่งสามีกับใครแค่กะดออันเดียวจะแย่งมาทำไมเจ้าคะ อ้อข้าจะบอกให้เป็นตัวอย่างของคนมักมากเมียเยอะสามสี่คนแต่ในจวนไม่เคยมีความสุขเลย ลูกเมียที่แก่งแย่งกันเอง และก็แย่งสมบัติกันพี่น้องฆ่ากันเอง จะโทษใครละนอกจากความมักมากและเห็นแก่ตัวของผู้ชายที่สันดานเห็นแก่ตัว ที่มีให้เห็นแทบทุกจวนในเมืองนี้เลยละนะลาขาดเจ้าค่ะ ท่าน แม่ ทัพ" เธอจงใจย้ำคำสุดท้ายก่อนจากลากันวันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด