LOGINจอภาพขนาดใหญ่ด้านหลังยังคงฉายคลิปวิดีโอต่อไป บทเพลงเปียโนที่เคอซานเหมยบรรเลงในวิดีโอนั้นเหมือนกับบทเพลงที่เซิ่นหรูซวงบรรเลงทุกประการ ประสานเสียงกันได้อย่างลงตัวผู้ชมด้านล่างเวทีต่างพากันส่งเสียงฮือฮาเพราะเว่ยอวิ่นลู่พูดยอมรับกับปากของตัวเองว่าลอกเลียนแบบเพราะเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่เคอซานเหมย และเคอซานเหมยเป็นคนคนหนึ่งที่มีอยู่จริงข้อมูลที่ถาโถมเข้ามานั้นท่วมท้นมากเสียจนกรรมการและผู้ชมด้านล่างเวทีต่างตกตะลึง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา“เธอเตรียมตัวมาดีมากเลยนี่” เซิ่นหรูซวงได้ยินเสียงเย็นเยียบของตัวเอง พยายามระงับซ่อนความโกรธที่แทบไม่มีคนรู้เอาไว้ “เธอเคยสืบค้นข้อมูลของเคอซานเหมยมาก่อน ถึงได้รู้เรื่องของเธอมากขนาดนี้”หยาดน้ำตาสีใสหยดลงมาจากปลายหางตาของเว่ยอวิ่นลู่ เธอยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกคิดถึงปนโล่งใจ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกพร้อมยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “หรูซวง ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอเข้าใจฉันผิด ฉันเองก็เข้าใจ”“แต่ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจฉันบ้าง ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอเองก็วางแผนให้อาเหมยและห่วงใยเธอมากขนาดนี้ ถ้าฉันรู้ บางทีฉันคงไม่เลือกเดินเส้นทางนี้หรอก”ในขณะที่พูด เธอก็ยิ้มรา
หลังจากคลิปวิดีโอเริ่มฉายไปได้ประมาณครึ่งนาที ผู้ชมต่างเงียบกริบทุกคนต่างฟังออกได้ในทันทีว่าในคลิปวิดีโอ เคอซานเหมยกำลังเล่นเพลง ‘ความปรารถนา’ท่าทีของแฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่เปลี่ยนจากความดูถูกเหยียดหยามในตอนแรกเป็นความประหลาดใจ และในท้ายที่สุดใบหน้าของพวกเขาก็แข็งค้างพวกเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา รีบร้อนพิมพ์ค้นหาเวลาที่เร็วที่สุดที่เพลง ‘ความรัก’ ของเว่ยอวิ่นลู่ปล่อยออกมาด้วยนิ้วมือสั่นเทาถ้าเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่เคอซานเหมย ถ้าอย่างนั้นระหว่างเพลง‘ความปรารถนา’ และเพลง ‘ความรัก’ ก็ต้องมีเรื่องการลอกเลียนแบบเข้ามาเกี่ยวพันอย่างแน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหาว่าเพลงเปียโนสองเพลงนี้เพลงไหนถูกปล่อยออกมาก่อนกัน และเพลงไหนที่ลอกเลียนแบบวันที่ถ่ายทำคลิปวิดีโอแสดงไว้อย่างชัดเจนที่มุมขวาบนของจอภาพสิ่งที่ต้องหาตอนนี้คือวันที่เพลง ‘ความรัก’ ของเว่ยอวิ่นลู่ปล่อยออกมา“เดี๋ยวก่อน ดูบนเวทีสิ”แฟนคลับคนนั้นยังไม่ทันได้กดค้นหาก็โดนคนด้านข้างขัดจังหวะขึ้นเสียก่อนเขาเงยหน้าขึ้นมองบนเวที สายตาจ้องเขม็งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เว่ยอวิ่นลู่เดินจากที่นั่งผู้ชมขึ้นไปยังบนเวที เวลานี้ เธอยืนอยู่
ไม่กี่วินาทีต่อมา ภาพก็ปรากฏชัดเจนมากขึ้นเป็นภาพของห้องเปียโนที่แสนเรียบง่าย พร้อมเปียโนที่แค่มองก็เห็นได้ว่าเป็นเปียโนราคาถูกหนึ่งหลัง และหญิงสาวงดงามสะอาดตาที่สวมชุดเดรสลายดอกไม้เรียบ ๆ รวบผมครึ่งศีรษะ เธอก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย ปอยผมคลอเคลียอยู่บริเวณด้านข้างใบหน้า“ครูคะ โอเคแล้วค่ะ”น้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนเยาว์ดังก้องขึ้นในวิดีโอ หญิงสาวที่ปรากฏในวิดีโอไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมา น่าจะเป็นเสียงของคนที่กำลังถ่ายวิดีโอเมื่อได้ยินเสียงนี้ คนส่วนใหญ่ในห้องแสดงล้วนรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมากขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิด เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เร็วสิคะคุณครู ไม่ต้องเขินหรอก บทบรรเลงเสียงเปียโนที่เพราะขนาดนี้เราก็ต้องอัดไว้ให้ดีสิคะ”ทุกคนค่อย ๆ หันไปมองเซิ่นหรูซวงช้า ๆ และกระจ่างแจ้งในทันทีเสียงในคลิปวิดีโอคล้ายกับเสียงของเซิ่นหรูซวงในตอนนี้มาก ดังนั้นคนที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่คือเซิ่นหรูซวง!หญิงสาวในคลิปวิดีโอเอียงศีรษะพลางยิ้มบาง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความระอาใจ แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “โอเค ถ้าเธอบอกว่าได้ก็คือได้ล่ะนะ”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนค่ะ!”
เว่ยอวิ่นลู่กำมือแน่น แต่สีหน้าก็ยังดูนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากยิ่งเป็นช่วงเวลาแบบนี้ ยิ่งต้องใจเย็นและคุมสถานการณ์ให้ได้นิ่งเท่านั้นถึงจะชนะ ไม่ให้เซิ่นหรูซวงได้ทำสำเร็จแน่เว่ยอวิ่นลู่เอาแต่จ้องมองไปที่เวทีตลอด แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของเวทีนั้นทันทีสายตาเธอชะงักไปนิดนึง มีแววตาบางอย่างฉายวาบขึ้นมา แล้วเธอก็ค่อย ๆ ก้มหน้าลง“เป็นอะไรไป?”ซิงจือเหยียนเหมือนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน แล้วกระซิบข้างหูเธอ เสียงที่พูดออกมาก็นุ่มทุ้มใจของเว่ยอวิ่นลู่เต้นตึกตักนิดนึง เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก คุณไม่ต้องกังวลนะ”ดวงตาที่สวยคมเข้มของซิงจือเหยียนดูลึกลับและมืดมิดไปอีกท่ามกลางบริเวณที่นั่งผู้ชมที่ค่อนข้างมืดสลัว เขาหล่อจนเกินจริงมาก ๆ เว่ยอวิ่นลู่มองแล้วก็หน้าแดงใจเต้น “มองฉันแบบนี้ทำไมเหรอ?”ซิงจือเหยียนพูดว่า “ฉันจำได้ว่าเพลงของเซิ่นหรูซวงมีจุดขัดแย้งกับเพลงของเธออยู่หน่อยนะ”เว่ยอวิ่นลู่ตะลึงไปเล็กน้อยถ้าเธอจำไม่ผิด เรื่องบทเพลงนี้ ซิงจือเหยียนเคยได้ยินเซิ่นหรูซวงเล่นแค่ครั
“เพลงที่เล่นไม่ใช่เพลง “ความรัก” ของเว่ยอวิ่นลู่เหรอ? เป็นเพลง “ความปรารถนา” ของเคอซานเหมย แต่นั่นก็เป็นผลงานของเว่ยอวิ่นลู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"“เซิ่นหรูซวงบ้าไปแล้วหรือ? เอาอีกแล้ว? บทเรียนครั้งเดียวยังไม่ทำให้เธอยอมแพ้อีกเหรอ ก็บอกไปหมดแล้วว่าเคอซานเหมยก็คือนามแฝงของเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่หรือไง? ไม่รู้จักจบจักสิ้นจริง ๆ!”“นั่นสิ ฉันว่าเธอคงอิจฉา เห็นเว่ยอวิ่นลู่กำลังจะคว้าแชมป์ ก็เกิดอิจฉาตาร้อน ทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ดี คนอื่นก็อย่าหวังมีความสุขด้วยทำนองนั้น!”จวงเหมยจับใจความชื่อของเคอซานเหมยได้อย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้ว แววตามีความประหลาดใจแวบหนึ่งเมื่อมีทีมรักษาความปลอดภัยอยู่ตรงนั้น กลุ่มผู้ชมก็ไม่ได้พูดคุยกันนาน พวกเขาถูกบังคับให้หยุดพูด ทำให้จวงเหมยอยากฟังต่อก็ทำไม่ได้ชื่อของเคอซานเหมย ดูเหมือนเธอจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เผลอหันไปมองเว่ยอวิ่นลู่ที่อยู่ด้านหลังซ้ายมือโดยไม่ตั้งใจเพียงแวบเดียวเท่านั้น ความสงสัยในใจของจวงเหมยก็ยิ่งลึกมากขึ้นถึงแม้เว่ยอวิ่นลู่จะยังคงรักษาความสงบและอ่อนโยนเหมือนปกติ แต่จวงเหมยก็สังเกตเห็นความรู้สึกกังวลและความกลัว
ซิงจือเหยียนพูดเสียงเบาว่า “ได้สิ เดี๋ยวฉันให้ผู้ช่วยจัดการ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก”เว่ยอวิ่นลู่เม้มปากยิ้ม “ขอบคุณนะคะ อาเหยียน”จวงเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกเสียดายการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่รอบชิงชนะเลิศให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าแข่งขันมาโดยตลอด ดังนั้นเกณฑ์การให้คะแนนในรอบชิงชนะเลิศจึงแตกต่างจากรอบแรกและรอบคัดเลือกเล็กน้อย โดยมีคะแนนสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานอิสระอยู่ที่ห้าเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้สัดส่วนจะไม่สูงมากนัก แต่ก็สามารถส่งผลต่อคะแนนและอันดับโดยรวมได้ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ จึงเลือกเล่นเพลงที่พวกเขาแต่งขึ้นเองมีแค่เซิ่นหรูซวงเท่านั้นที่ไม่ได้เลือกเพลงที่ตัวเองแต่งซ้ำยังเป็นเพลงที่เว่ยอวิ่นลู่แต่งขึ้นมาอีกด้วยนั่นหมายความว่า คะแนนห้าเปอร์เซ็นต์ของเซิ่นหรูซวงหายไป ถ้าเธอไม่ได้บรรเลงได้ยอดเยี่ยมจนน่าทึ่งจริง ๆ ก็คงยากที่จะสู้กับผู้เข้าแข่งขันเก่ง ๆ คนอื่นได้เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างเซิ่นหรูซวงกับเว่ยอวิ่นลู่แล้ว จวงเหมยก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีคนที่มาในงานส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่ จวงเหมยภาวนาให้แฟนคล







