เฟนด์คิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “พวกเขาไม่ใช่ตระกูลเล็ก ๆ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะกล้ามาสร้างปัญหาให้ฉันอีก และมันจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของฉัน!”สกายเลอร์กำมือแน่นเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น “บ้าเอ๊ย คนพวกนั้นมันโง่ กล้าดียังไงถึงคิดลักพาตัวภรรยาของคุณ! ตระกูลเซนอสไม่ควรมีอยู่อีกต่อไป!”เฟนด์พยักหน้า “อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป แค่ฆ่านักสู้และหัวหน้าตระกูลเซนอสซะ พวกสาวใช้และคนงานคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ปล่อยพวกเขาไป!”“รับทราบครับ!” สกายเลอร์พยักหน้า เขาคิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “แต่ถ้าตระกูลนี้ถูกกำจัดหมด แล้วทรัพย์สินของพวกเขาล่ะ? มันมีเยอะมาก!”“งั้นก็เพียงขายทรัพย์สินพวกนั้นออกไปในราคาต่ำ พยายามหาเงินเพิ่ม จากนั้นแบ่งครึ่งเท่า ๆ กัน โดยเอาเงินครึ่งหนึ่งไปบริจาคให้กับการกุศล ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือโอนเข้าบัญชีของฉัน!” เฟนด์พูดหลังจากที่คิดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขาอยู่พักหนึ่ง“ครับ ผมจะจัดการตามนี้!” สกายเลอร์พูดอย่างมีความสุข “มันนานมากแล้วที่ผมไม่ได้ต่อสู้ และผมก็โหยหามัน ฮ่าฮ่า!”ไม่นานสกายเลอร์จากไปหลังจากที่พวกเขาคุยกันเสร็จ เฟนด์ก็ขับรถออกไปเพื่อจ้างสาวใช้ พ่อครัว และพนักง
“ไป ๆ มันเป็นเรื่องดี ไปจัดการให้เร็วเลย พวกนายจะรู้สึกเป็นเกียรติมากถ้ามีโอกาสเป็นบอดี้การ์ดของคนคนนั้น!” สกายเลอร์พูดกับพวกลูกศิษย์ทันทีพร้อมโบกมือ“เป็นไปได้ยังไง? ตระกูลไหนที่พวกเราต้องไปเป็นบอดี้การ์ดให้? ยอดเยี่ยมมากเลยเหรอ?” ลูกศิษย์หญิงยิ้มเล็กน้อย คิดว่าอาจารย์ของเธอคงจะไม่ปฎิเสธเธอจึงพูดว่า “อาจารย์คะ ฉันขอจองคนหนึ่งได้ไหม? อาจารย์ไม่ได้พูดเหรอว่าถ้าได้บอดี้การ์ดเป็นผู้หญิงคงจะดี?”สกายเลอร์ตกลงหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน “เดี๋ยวก่อน ก่อนที่เธอจะออกไป หาผู้ใต้บังคับบัญชาหญิงที่มีฝีมือการต่อสู้สูงสักสิบคน เพราะมันจะดีกว่าถ้าพวกเขาเป็นบอดี้การ์ดหญิง วิธีนี้มันคงทำให้สงสัยได้ยากและมันสะดวกมากกว่าตอนที่พวกเขาไปเป็นเพื่อนภรรยาของเฟนด์ในระหว่างช้อปปิ้งและเรื่องอื่น ๆ!”“ไม่มีทาง พวกเขาอยากได้แค่บอดี้การ์ดหญิงเหรอ? เราไม่มีโอกาสเหรอ?” สีหน้าของศิษย์ชายมืดลงหลังจากได้ยิน ท่าทางของอาจารย์ของเขาดูเหมือนจะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก แต่มันจะไม่ใช้เรื่องดีสำหรับเขา“ทำไมอาจารย์ไม่ตอบล่ะ? ฉันก็เป็นลูกศิษย์ที่โดดเด่นของอาจารย์นะ อาจารย์ควรใส่ใจฉันด้วยสิ!” ลูกศิษย์หญิงเม้มริมฝีปากส
“คุณออร์คิด ทำไมคุณถึงอยากทำงานนี้?” เธอถามเบา ๆ ขณะที่เธอเดินไปข้างออร์คิดออร์คิดเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดเบา ๆ ว่า “เอเลนเป็นลูกศิษย์ของราชาแห่งสงคราม ถ้าเธอเป็นคนขอเสนอที่จะไปทำงานนี้แสดงว่ามันคงจะดีจริง ๆ ฉันสงสัยว่าเราอาจจะได้ทำงานเป็นบอดี้การ์ดของเทพีแห่งสงครามก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงจะสะดวกกว่าถ้าเราอยู่เคียงข้างเทพีแห่งสงคราม ไม่งั้นทำไมพวกเขาถึงอยากได้บอดี้การ์ดหญิง?”หญิงสาวมีความสุขหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ฟังดูดีนะ เป็นไปได้สูงที่พวกเขาอาจจะได้ไปทำงานให้กับเทพีแห่งสงคราม ถ้าพวกเขาอยากได้บอดี้การ์ดผู้หญิงมากกว่านอกจากนี้ ราชาแห่งสงครามเซเลสติโนยังกระตือรือร้นที่จะช่วยทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะเทพีแห่งสงครามคราม?คนอื่น ๆ เริ่มยกมือขึ้นเมื่อเห็นว่ามีสามคนเข้าร่วมแล้ว ไม่นานก็ได้คนครบทั้งสิบคน“เอาล่ะ ทุกคนกลับไปได้แล้ว ขอบคุณทุกคนมากที่แวะมา!” สกายเลอร์บอกให้คนอื่น ๆ กลับไปก่อนหลังจากที่พวกเขาออกไปหมดแล้ว เขาก็พูดกับผู้หญิงสิบคนนี้ว่า “ไปที่ห้องของฉันแล้วฉันจะบอกพวกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมด!”เมื่อพวกเธอทั้งหมดเข้ามาในห้อง สกายเลอร์ก็ปิดประตูหลังจากที่เขาเดินเข้ามา“อาจาร
“โอ้พระเจ้า จริงเหรอเนี่ย? คือท่านนักรบสูงสุด? เขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้ก่อนหน้านี้!” เอเลนกระโดดด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ฉันไม่เคยเจอท่านเลยสักครั้ง ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เห็นท่าทางที่สง่างามของท่านนักรบสูงสุดด้วยตาของฉันเอง!”"ใช่! คือท่านนักรบสูงสุด โชคดีที่ฉันตัดสินใจมาทำงานเป็นหนึ่งในสิบบอดี้การ์ด ถ้าฉันไม่เลือกแบบนี้ฉันคงเสียใจมาก ๆ เป็นเกียรติมากที่ได้เป็นบอดี้การ์ดและรับใช้เขา!” ดวงตาของออร์คิดเปล่งประกายด้วยความสุข เธอเป็นพันตรีหญิงและยังเป็นแฟนคลับเขาด้วย “ฉันยินดีเสียสละชีวิตถ้าฉันได้อยู่เคียงข้างกับท่านนักรบสูงสุดและได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา!”หญิงสาวอีกคนหน้าแดง “มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเราได้อาบน้ำและนอนกับท่านนักรบสูงสุด!”“อะแฮ่ม ๆ...พวกเธอพูดว่าอะไรนะ? พวกเธอไปที่นั้นเพื่อทำงานเป็นบอดี้การ์ด ฉันไม่ได้ขอให้เธอไปเป็นสาวใช้และไปเป็นคู่นอนของท่านบนเตียง!” สกายเลอร์พูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าพวกเธอจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแรงมากอย่างนี้ หลังจากที่ได้รู้ว่าพวกเธอจะได้ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับท่านนักรบสูงสุดอย่างไรก็ตาม ขนาดเขาที่คิดว่าเขาตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเฟนด์คือท่านนักรบสูงสุด และ
“ยังไงก็ตาม มีเพียงพวกเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องในวั้นนี้ เพราะงั้นจงเก็บไว้เป็นความลับ เนื่องจากท่านนักรบสูงสุดไม่ได้ประกาศตัวตนของเขาออกไป เขาอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข” สกายเลอร์ เซเลสติโนพูดออกมาหญิงสาวคนหนึ่งที่อยากนอนกับท่านนักรบสูงสุดยกมือขึ้นทันทีและตะโกนว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง เราหวังก็ว่าท่านนักรบสูงสุดจะได้มีชีวิตที่สงบสุขปราศจากความกังวล เราจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแน่นอน!"“อย่าคิดอะไรไปไกลเลย ท่านนักรบสูงสุดแต่งงานแล้ว แม้แต่ลูกของเขาก็ไม่เด็กแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ท่านอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”สกายเลอร์ถอนหายใจเบา ๆ และหันไปหาทุกคน “ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์!”“เฟนด์ วู๊ด!” ในตอนนั้นเองเอเลนก็เข้าใจในทันที เธอไปร่วมงานวันเกิดของนายใหญ่เทย์เลอร์เพื่อร่วมสนุกด้วย เธอไปงานปาร์ตี้นั้นคนเดียวและแกล้งทำเป็นไม่รู้จักสกายเลอร์ เซเลสติโนความจริงก็คือเธอรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น“โอ้พระเจ้า เขาคือท่านนักรบสุงสุดและที่เทพีแห่งสงครามพูดอย่างนั้นในสิ่งที่เขาพูดในวันนั้นอย่างจงใจก็เพื่อช่วยท่านนักรบสูงสุดปกปิดตัวตนของเขา!”ในที่สุดเอเลนก็เข้าใจเรื่อง
ตอนบ่ายสองโมง เฟนด์ก็กลับมาถึงบ้านมีแม่บ้านห้าถึงหกคน คนทำความสะอาด พ่อครัว และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสี่คนจากทั้งสองกะยืนอยู่ที่สนามหญ้า รวม ๆ แล้วก็มีอย่างน้อยสิบสองคนหลังจากที่แนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว เฟนด์ก็มองไปที่ฟีโอน่าและถามว่า “เป็นไงบ้าง? พอใจไหม?”“อือ พอใจ!” ฟีโอน่าพยักหน้าอย่างพอใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้สึกเหมือนเป็นเจ้านาย วันข้างหน้าเธอจะได้สั่งสอนแม่บ้านแล้ว! เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานกว่าห้าปีแล้ว“โอ้ ในอนาคตพวกคุณจะต้องฟังคำแนะนำของเจนนี่นะ โอเคไหม?” หลังจากที่ครุ่นคิดแล้วเฟนด์ก็พูดกับแม่บ้านว่า “ในอนาคตเจนนี่จะบอกให้พวกคุณทราบว่าพวกคุณจะได้รับค่าตอบแทนเท่าไร และเธอจะแนะนำตลาดที่คุณต้องไปและงานอื่น ๆ ด้วย”“ฉัน?” เจนนี่ประหลาดใจกับคำชมเชยนั่นเฟนด์พยักหน้า “ใช่ เธอจะได้เป็นหัวหน้าแม่บ้าน สำหรับเงินเดือนของเธอ ฉันจะเพิ่มให้เป็นสองเท่า!” เขาพูดอย่างจริงจัง“ค่ะ นายท่าน!” เจนนี่พยักหน้า หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุข เธอรู้สึกว่าเธอตัดสินใจถูกและเลือกตามเจ้านายถูกคน “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ นายท่าน!”“อ่า ไม่เป็นไร!” เฟนด์พูดออกมาอย่างมีความสุข“เดี๋ยวก่อน เฟนด
เพราะยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในช่วงนั้นอีกแล้ว แม่ของเขาอายุมากขึ้น และเธอก็สมควรที่จะมีชีวิตที่ดี อย่างน้อยที่สุด เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวประหยัดเหมือนเมื่อก่อน “แม่ยายพูดถูก แม่ประหยัดเกินไป ไม่ต้องลังเลถ้าอยากซื้อในสิ่งที่แม่อยากได้ เราไม่ได้มีชีวิตเหมือนสมัยก่อนแล้ว ตอนบ่ายนี้ผมว่างนะ ให้ผมพาแม่ออกไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรืออะไรก็ได้!”“ลูกชาย แม่ไม่ต้องการสิ่งของพวกนั้น ตอนนี้แม่ก็มีอาหารที่ดีกินดี มีเสื้อผ้าที่ดีใส่และมีชีวิตที่ดี แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว!” โจแอนรีบพูด การที่ได้เห็นลูกชายของเธอประสบความสำเร็จทุกอย่างได้อย่างทุกวันนี้ เธอก็พอใจแล้ว เมื่อไม่กี่ปีที่ก่อน สิ่งเดียวที่เธอฝันและหวังไว้คือ ให้เฟนด์ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยจากสนามรบ เป็นโชคดีของเธอที่ความฝันของเธอเป็นจริง ไม่เพียงแต่เขาจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยเท่านั้น เขายังกลับมาในฐานะผู้ชายที่มีเกียรติและประสบความสำเร็จอีกด้วย โชคชะตาช่างเมตตาต่อเธอนักและปฏิบัติต่อเธออย่างดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา“แม่ แม่พูดอะไรนะ? เราไม่ได้ขาดแคลนเงินแล้ว ดังนั้นเราน่าจะไปซื้อเสื้อผ้าหรือของบางอย่างให้แม่นะ!” เฟนด์ยืนกรานด้วยรอยยิ้ม“ใ
“บอดี้การ์ด?” เมื่อฟีโอน่าได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเธอก็หมองลง เธอจ้องไปที่เฟนด์อย่างโกรธจัด สูดหายใจเข้าลึก ๆ และปล่อยออกมา “เฟนด์ นายจะไปประกวดนางงามเหรอ? พวกนี้เป็นบอดี้การ์ดแบบไหนกัน? พวกเธอทั้งหมดดูเหมือนดอกไม้และอัญมณี พวกเธอจะเป็นบอดี้การ์ดได้ยังไง?”เฟนด์พูดไม่ออก เขาไม่รู้จะอธิบายออกไปยัง ทำได้เพียงแต่ยิ้มอย่างขมขื่น “แม่ครับ ผมขอให้เพื่อนช่วยหาบอดี้การ์ดให้ ผมไม่ได้บอกว่าต้องการผู้ชายหรือผู้หญิง และไม่คิดว่าเขาจะเลือกทีมบอดี้การ์ดหญิงล้วนให้ผม!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เอเลนรู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรม ส่วนตัวแล้วเธอกลัวว่าเฟนด์จะไล่พวกเธอไปเมื่อเธอคิดบางอย่างได้ เธอก็ก้าวออกมาเพื่อแสดงความรู้สึกของเธอ “มีอะไรผิดปกติเหรอถ้าเป็นผู้หญิง? คุณไม่ควรดูถูกผู้หญิงนะ เราทุกคนเป็นวีรบุรุษหญิงที่นำเกียรติยศมาสู่ประเทศ ขนาดประเทศนี้ยังไว้วางใจให้เราปกป้อง แล้วอะไรทำให้คุณคิดว่าเราไม่สามารถปกป้องคุณได้?”ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปที่เฟนด์ “ถ้าพี่ชายไม่หล่อขนาดนี้ พวกเราก็คงไม่มา!”เอเลนไม่ได้หมายถึงแค่ความดูดีของเฟนด์เท่านั้น แต่เธอยังหมายถึงการปรากฏตัวของเขาและออร่าของเข