Share

นามแฝงในเพลง

Author: Chalam whale
last update Last Updated: 2025-09-11 10:43:06

นามแฝงในเพลง

มือของสงครามที่ยื่นให้

ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วง

โปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหน

บนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ

“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง

“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานาน

สงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน

“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”

“มันไม่ใช่แค่เพลงเดียวด้วยซ้ำ มันเอาเครดิตหลายเพลงไปยัดเป็นชื่อมัน แล้วขายวนไปเรื่อย ๆ จนเธอไม่ได้แม้แต่เศษเงินค่าลิขสิทธิ์”

เสียงสงครามฟังนิ่ง แต่ทุกประโยคกรีดลงในใจร้อยดาวทีละแผล โปเต้เองยังลอบมองหน้าหัวหน้าใหญ่ รู้ดีว่าเฮียเก็บเรื่องนี้ไว้นานเพราะมันคือหมากเด็ด สงครามเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตาคมดั่งเหยี่ยวมองเธออย่างคนอ่านใจทะลุ

“ฉันเคยบอกแล้ว คนที่คิดทรยศฉันไม่มีทางรอด กันจ์มันไม่รอดหรอก” ร้อยดาวเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอเห็นความหวังอยู่ในเงาสีเข้มในตาเขา

“แล้ว แล้วฉันต้องทำยังไงคะ” เสียงเธอสั่น แต่สายตากลับนิ่งขึ้นเหมือนพยายามตัดสินใจในใจตัวเอง มือบางคลายจากชายเสื้อ กำแน่นเข้าหากันแทน

สงครามโน้มตัวไปข้างหน้า เลื่อนแฟ้มเอกสารมากองไว้ตรงหน้าเธอ มือใหญ่ของเขายื่นออกมา วางลงบนแฟ้มเหมือนยื่นสัญญาใหม่ที่ไม่มีคำพูด

“เพลงนั้นต้องกลับมาอยู่กับคนที่แต่งมันจริง ๆ”

“ถ้าเธอพร้อม ฉันจะดึงมันคืนมาให้ ไม่ใช่แค่ฉบับลิขสิทธิ์ในกระดาษ แต่ฉันจะให้เธอร้องมันเองบนเวทีด้วยชื่อของเธอ”

คำพูดนั้นทำให้หัวใจร้อยดาวสั่นสะท้าน โปเต้เหลือบตามองเธอแล้วกระตุกยิ้มมุมปากนิด ๆ นี่คือวิธีของสงครามที่จะปิดปากศัตรูเก่าและซ่อมแผลใจเด็กที่เขาดันมากับมือ

แต่สงครามไม่ได้ยื่นมือให้ฟรี ๆ เขาโน้มตัวลงอีกนิด น้ำเสียงเปลี่ยนไปเข้มขึ้น เหมือนบีบให้คนฟังต้องกลืนเลือดตัวเองก่อนจะเดินหน้าสู้

“เธอพร้อมจะยอมรับอดีตนี้ต่อหน้าทุกคนหรือเปล่า”

“ถ้าวันหนึ่งนักข่าวถาม เธอกล้าพูดไหมว่าเธอถูกเอาเปรียบ ถูกกินแรง และยังยืนอยู่ได้เพราะตัวเองไม่ยอมพัง”

ร้อยดาวกลืนน้ำลาย รอยน้ำใสในดวงตาคลอรื้นขึ้นมาอีกรอบ มือเล็กของเธอสั่นน้อย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยกขึ้นวางทับหลังมือใหญ่ของสงคราม

มันเหมือนการจับสัญญาใจที่ไม่มีลายเซ็น แต่เป็นพันธะที่หนักกว่า เพราะมันคือความจริง ที่เธอจะต้องพูดออกมาด้วยตัวเอง

“ฉันจะทำค่ะ ฉันจะเอาเพลงของฉันคืนมา”

โปเต้เอื้อมมือไปแตะบ่าร้อยดาวเบา ๆ เหมือนส่งแรงใจ

สงครามเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อีกครั้ง สีหน้าคมเข้มยังนิ่งราวกับคนที่มองหมากทั้งกระดานทะลุแล้ว

“จำไว้นะดาว”

“เวทีของคนซื่อสัตย์มันเล็กกว่าคนเลว แต่คนเลวจะไม่ยืนอยู่ได้ตลอดไป” เสียงเฮียกระทบผนังห้องเงียบกริบ ร้อยดาวยิ้มทั้งน้ำตา เธอกำแฟ้มเอกสารแน่นอย่างคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่หนีอีก

และมือของสงคราม ต่อให้แข็งกระด้างขนาดไหน สำหรับเด็กสาวที่เคยโดนโลกวงการเล่นงานซ้ำ ๆ มันยังเป็น “มือที่อบอุ่นที่สุด” มือที่พร้อมจะกระชากอดีตคืนมาให้เธอยืนบนเวทีด้วยชื่อของตัวเองอีกครั้ง

ห้องพักศิลปินเงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศหายใจเบา ๆ หมาเล็กสองตัวที่พวกเขาเก็บมาเลี้ยงวิ่งเล่นจนพุงกาง หลับพังพาบอยู่ข้างโซฟา บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้ม ร้อยดาวกับมาคินนั่งเผชิญหน้ากันโดยไม่มีใครเปิดทีวี ไม่มีเสียงดนตรี มีแค่เสียงหัวใจที่เต้นชัดขึ้นทุกคำที่เธอกำลังพูด

ร้อยดาวเล่าเรื่องทุกอย่างให้มาคินฟัง ตั้งแต่วันแรกที่เธอยังเป็นเด็กฝึกที่ไม่มีใครมองเห็น วันนั้นที่กันจ์หลอกให้เธอเซ็นขายเพลง วันแรกที่เธอเห็นเพลงของตัวเองถูกเปิดบนเวทีใหญ่ในชื่อคนอื่น มือเธอกำซองโน้ตเพลงเก่าเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะหายไปอีกครั้ง

“มาคิน ถ้าฉันพูดออกไปหมด คนจะมองว่าฉันเรียกร้องความสงสารมั้ย” เสียงเธอสั่นเหมือนคนที่ยังไม่มั่นใจพอ ดวงตาร้อยดาวฉ่ำน้ำตา แต่ในนั้นก็ซ่อนร่องรอยของความกล้าเล็ก ๆ ที่เริ่มผลิบานทีละน้อย

มาคินฟังทุกคำเงียบ ๆ ไม่แทรก ไม่แก้ ไม่ตัดสินใจแทน

เขาเอื้อมมืออุ่นไปแตะหลังมือเธอบนโต๊ะ ลูบเบา ๆ ให้รู้ว่าทุกประโยคเธอพูดได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรังเกียจอดีตของเธอ

“ถ้าเธออยากสู้ ฉันจะสู้ไปด้วย” เสียงเขานุ่มแต่ชัดเจนจนร้อยดาวได้ยินเหมือนมีใครมากระซิบข้างหัวใจ

มาคินไม่ใช่คนพูดคำหวานพร่ำเพรื่อ แต่ทุกประโยคของเขาหนักแน่นพอจะซับหัวใจที่อ่อนล้าของเธอได้เสมอ เธอยกมืออีกข้างมากุมมือเขาไว้แน่น แววตาเหมือนเด็กผู้หญิงที่กลัวจะเสียมันไปอีกครั้ง แต่เขาก็กระชับมือกลับโดยไม่พูดเยิ่นเย้อ

“ฉันกลัวถ้าพี่กันจ์เอาเรื่องนี้มาโยนกลับใส่ฉัน”

“ฉันไม่อยากให้เธอต้องลำบากเพราะฉันด้วย” ร้อยดาวพึมพำเสียงเบา เธอมองไปที่ซองโน้ตเพลงในมือ ริมฝีปากสั่นน้อย ๆ เหมือนจะร้องไห้อีกรอบ

มาคินส่ายหน้าช้า ๆ เขาใช้ปลายนิ้วเชยคางเธอให้สบตา

ดวงตาของเขานิ่ง อบอุ่น และซื่อตรง เหมือนคนที่เธอไว้ใจได้แม้โลกภายนอกจะพังหมด

“ฟังนะร้อยดาว เพลงนี้เธอเขียนด้วยน้ำตา เธอมีสิทธิ์จะร้องมันด้วยหัวใจของเธอเอง”

“ส่วนไอ้กันจ์นั่น มันไม่ใช่ปัญหาของเธอคนเดียวอีกต่อไปแล้ว”

“ฉันอยู่ตรงนี้ และจะอยู่ตรงนี้เสมอ”

คำว่า “อยู่ตรงนี้” ของเขาไม่ใช่แค่คำปลอบใจ แต่มันคือ “ข้อตกลง” ระหว่างคนสองคนที่รักกันโดยไม่มีสัญญาใดผูกมัด นอกจากคำสัตย์ที่ต่างฝ่ายให้กันเอง ร้อยดาวสะอื้นเบา ๆ ก่อนจะหัวเราะออกมานิด ๆ ทั้งที่น้ำตายังเต็มขอบตา

เธอพึมพำเหมือนคนโล่งอกที่สุดในโลก

“ขอบคุณนะมาคิน” เธอซบหน้าลงบนไหล่เขา กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ของเขาคุ้นเคยจนเธอรู้สึกเหมือนกลับบ้าน มาคินโอบไหล่เธอไว้เต็มอ้อมแขน ใช้ปลายนิ้วลูบผมเธอเบา ๆ เหมือนกล่อมให้ใจเธอหยุดสั่น

สุนัขสองตัวใต้โต๊ะยังนอนหายใจฟืดฟาด เสียงเครื่องปรับอากาศยังคงทำงานเงียบ ๆ แต่เสียงหัวใจของร้อยดาวกับมาคินกลับดังชัดขึ้นกว่าที่เคยเป็น

ข่าวลือแพร่สะพัดเหมือนไฟลามทุ่งว่า กันจ์ กำลังจะปล่อยเพลงเก่าเวอร์ชั่นรีเมค โดยให้เด็กใหม่ของค่ายตัวเองมาร้องเปิดตัว เรียกกระแสซ้ำให้ตัวเองดังกลับมาอีกรอบ

ร้อยดาวนั่งกอดแฟ้มเอกสารสัญญาในห้องประชุมเล็ก ๆ ของค่าย แผ่นกระจกใสตรงหน้า ทำให้เธอเห็นภาพ สงคราม นั่งประจันหน้ากับกันจ์ที่หัวเราะร่วนเหมือนยังมั่นใจ โปเต้ยืนกอดอกอยู่มุมห้อง สีหน้าเหมือนคนพร้อมจะกระโจนเข้าเคลียร์หากทุกอย่างเลยเถิด

กันจ์ใส่นาฬิกาหรู เสื้อสูทตัดเย็บเนี้ยบ นั่งไขว่ห้างอย่างคนเหนือกว่า เขาวางแฟ้มข้อเสนอขายสิทธิ์เพลงลงบนโต๊ะด้วยราคาที่เห็นแล้วร้อยดาวยังสะอึก

“อยากได้เพลงนี่คืนเหรอ ได้สิ แต่ราคามันก็ต้องคู่ควรหน่อย”

“ฉันอุตส่าห์ทำให้เพลงมันดัง เธอจะเอาคืนไปง่าย ๆ ได้ไง”

เสียงกันจ์เอ่ยเยาะในห้องประชุม กวนประสาทเหมือนทุกครั้ง

ร้อยดาวที่นั่งหลังห้องกระจกขบฟันแน่น มือสั่นน้อย ๆ แต่ยังพยายามฟังทุกคำอย่างไม่ลุกหนีอีกต่อไป

สงคราม เลื่อนแฟ้มหลักฐานที่โปเต้เตรียมมาวางต่อหน้ากันจ์ ในนั้นมีสำเนาสัญญาเดิมพร้อมโน้ตปรับแก้ที่ระบุว่ากันจ์เคยละเมิดข้อตกลง หาผลประโยชน์ส่วนตัวเกินสิทธิ์หลายครั้ง

“อย่าเล่นแง่เลยกันจ์ ฉันรู้นิสัยนายดี” สงครามเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตาคมเหลือบมองคู่สนทนาเหมือนคนจับไต๋ออกหมด

“จะเรียกราคาเวอร์ ๆ ก็ได้ แต่มั่นใจเหรอว่าถ้าฉันให้ทนายเล่นเกมย้อน จะเหลือค่าหัวนายในวงการอีกนานแค่ไหน” เสียงเขาไม่ได้ดัง แต่ทุกคำกดต่ำชัดเจนเหมือนก้อนเหล็กทับคอ กันจ์ขยับยิ้มเหย ๆ แต่คิ้วเริ่มกระตุกเพราะรู้ว่าสงครามไม่ได้ขู่เปล่า

โปเต้ยื่นข้อเสนอใหม่พร้อมซองเอกสารอีกฉบับตัวเลขถูกหั่นลงครึ่งหนึ่งแต่เป็นราคาที่สงครามตั้งใจให้ “แฟร์” ต่อทุกฝ่าย

“ฉันซื้อกลับไปในราคาชอบธรรม นายจะได้เงิน นายจะยังพอมีหน้ากลับไปทำค่ายของนายได้”

“แต่ถ้านายยังเล่นบทสุนัขข้างถนน ฉันก็จะลากนายไปนอนกองในศาล แถมหมดค่าหัวแบบถาวร”

เสียงสงครามนิ่งกริบแต่ตัดทางหนีทุกประตู กันจ์เม้มปากขยับจะพูดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในที่สุดเขาแค่พ่นลมหายใจแรง แล้วเซ็นสัญญาคืนสิทธิ์แบบไม่มีทางต่อรอง

หลังประตูห้องเปิดออก ร้อยดาวเผชิญหน้ากับกันจ์อีกครั้ง

ดวงตาเธอไม่อ้อนวอน ไม่กลัวอีกแล้ว เธอเพียงสบตาเขาตรง ๆ

“เพลงนั้น ฉันเขียนด้วยหัวใจของฉัน ต่อให้คุณเอาไปทำเงินได้อีกกี่เวอร์ชั่น มันก็ไม่ใช่ของคุณตั้งแต่ต้นอยู่ดี” กันจ์ปรายตามองเธอแล้วเบือนหน้าหนี เพราะเขารู้ดีว่าคนที่ไม่มีวันโกงเธอได้อีกแล้ว…คือเธอในตอนนี้

หลังจากวันนั้นผ่านไปเพียงไม่กี่วัน โปเต้ยื่นแฟ้มจดทะเบียนลิขสิทธิ์เพลงเวอร์ชั่นใหม่ให้ร้อยดาวด้วยมือของเขาเอง ชื่อผู้ประพันธ์ถูกแก้ไขเป็น “ร้อยดาว วสุวรางค์” เต็มตัว ไม่มีนามแฝง ไม่มีเจ้าของร่วมอีกแล้ว

ร้อยดาวมองกระดาษแผ่นนั้น น้ำตาไหลเงียบ ๆ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับสดใสเหมือนดอกไม้ที่บานท่ามกลางพายุ

มาคินยืนอยู่ข้างเธอ มือของเขาวางบนไหล่เธอแน่นเหมือนกำลังส่งแรงใจ

“ถึงเวลาที่เธอจะได้ร้องมันในชื่อของเธอเองสักที” เสียงมาคินกระซิบข้างหู ก่อนจะกอดเธอแน่นขึ้นเหมือนกลัวว่าความฝันนี้จะหายไปอีก

สงครามมองทั้งคู่แล้วแค่นหัวเราะนิด ๆ เหมือนคนที่ลงมือจัดฉากไว้ให้ตั้งแต่ต้นโปเต้ยักคิ้วให้เฮียแบบรู้กันดีว่าหมากตัวนี้มันคุ้มค่าแค่ไหน

“เพลงนี้จะได้ออกเวทีอีกครั้งในชื่อของเจ้าของตัวจริง”

โปเต้พูดเหมือนประกาศลั่นค่าย แล้วพวกทีมโปรดิวเซอร์ท ี่ได้ยินข่าวก็ปรบมือเบา ๆ อย่างเข้าใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   เก็บหมอกใส่หัวใจ (ตอนจบ)

    ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   สองคน สองหมา

    ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   After Party

    AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   เวทีใหญ่ที่ภาคภูมิใจ

    เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   กำลังใจจากครอบครัว

    กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร

  • มัดใจยัยร้อยเล่ห์   วันแถลงข่าว (สถานะที่ต้องตอบ)

    วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status