Share

ตอนที่ 5 มินิคอนเสิร์ต

last update Last Updated: 2025-12-13 21:34:00

“มินิคอนเสิร์ตเพื่อระดมทุนมอบให้บ้านเด็กกำพร้าและสนับสนุนชมรมดนตรีในโครงการจากรุ่นพี่ชมรมเขาจัดขึ้น”

เอวายื่นกระดาษประชาสัมพันธ์ที่ได้มาให้จิวารีดูรายละเอียดด้านใน

“เราไปกันนะจิ๋ว”

จิวารีรับแผ่นกระดาษประชาสัมพันธ์จากมือเพื่อนมาอ่านแบบผ่าน ๆ ตา และส่งคืนให้เอวา

“ไม่เอาอ่ะ...ฉันไม่ไปหรอก” ถึงแม้ในใจนั้นอยากจะตอบตกลงแต่ราคาหน้าบัตรก็ทำให้คิดหนักอยู่

“แต่ฉันซื้อบัตรให้แกเรียบร้อยแล้ว” หยิบบัตรมินิคอนเสิร์ตออกมาจากกระเป๋ายกขึ้นโชว์สะบัดไปมาพร้อมรอยยิ้ม

“ยังไงแกก็ต้องไปกับฉัน” ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนแบบลอยหน้าลอยตา

“แล้วแม่แกอนุญาตให้ไปเหรอ?”

“เพิ่งจะเกิดเรื่องแท้ๆ” จิวารีตั้งคำถามอ้างเหตุการณ์ในวันนั้น

“แม่อนุญาตอยู่แล้ว...เพราะดินก็ไปด้วย” ตอบอย่างอารมณ์ดี นี่คงจะมัดมือชกอิทธิพลอีกคนกระมัง

หลังเหตุการณ์ลอบทำร้ายร่างกายในครั้งนั้น พิมพ์พรรณแม่ของเอวาได้ไหว้วานให้อิทธิพลช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องเรื่องความปลอดภัยให้กับเอวาแทนเธอที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งในเรื่องธุรกิจ สองหนุ่มสาวที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจึงไม่มีปัญหาหรือคิดว่าเป็นภาระใด ๆ คุณหนูเอวาที่ชอบทำอะไรตามความสบายใจของตัวเองจนเคยชิน โดยมองข้ามความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งข้อนี้ทำให้พิมพ์พรรณเป็นห่วงอยู่เสมอ

“แต่พ่อคงไม่ให้ฉันไปหรอก” จิวารีพูดตัดบท และไม่อยากให้ความหวังเพื่อน

แต่เอวาซะอย่างเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

“และฉันก็ซื้อบัตรให้พี่แจ็คแล้วด้วย”

“ถ้าพี่แจ็คไปพ่อโจก็ต้องอนุญาตให้แกไปแน่นอน”

คุณหนูเอวาสายเปย์ยืดอกพูดแบบภาคภูมิใจกับความชาญฉลาดของตัวเอง นี่แค่รุ่นพี่ที่แอบชอบมาร่วมจัดมินิคอนเสิร์ต เธอยอมทำทุกทางเพียงเพื่อจะได้ไปให้กำลังใจเขาที่ขอบเวทีสินะ จิวารีมองหน้าเพื่อนสาวที่นั่งดูบัตรคอนเสิร์ตยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขตรงหน้า

โดมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ถูกจัดเตรียมให้เป็นศูนย์รวมการปลดปล่อยพลังความเครียดผ่านทางเสียงดนตรีในเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้านหน้าเป็นเวทีการแสดงอยู่แล้วถูกปรับเปลี่ยนและตกแต่งให้เป็นมินิคอนเสิร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อโชว์พลังของชมรมดนตรีและนักร้องไอดอลของมาหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมกิจกรรมมากมาย

แดดร่มลมตกในช่วงเย็นการเทสแสงสีเสียงก็เริ่มขึ้นที่หน้าเวที พร้อมกับหนุ่มสาวนักศึกษาที่สลัดคราบเครื่องแบบของนิสิตออกแล้ว พร้อมเติมพลังสนุกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

เอวามาในลุคหวานแหววสดใส ส่วนจิวารียังคงเป็นสาวเซอร์หน้าสวยกับลุคเรียบง่ายเสื้อยืดสบายตา และกางเกงยีนแต่งขาดเหมือนหาร้านตัดประไม่ได้ ผมยาวถูกรวบขึ้นเกล้าหลวมอย่างง่าย ๆ เน้นใบหน้าสวยเก๋ให้โดดเด่น

ด้านหลังคือสี่บอดี้การ์ด อิทธิพล จิวากร ธีธัชและตะวัน คนหลังสุดที่หิ้วกระติกเก็บความเย็นแบบมินิบรรจุเครื่องดื่มมาอย่างฉ่ำ เพื่อสร้างบรรยากาศในการชมคอนเสิร์ต และเริ่มตั้งต้นดื่มตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางด้วยซ้ำ

ใบหน้าของสองสาวแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วตั้งแต่หัวค่ำที่ยังไม่ได้เข้างาน จิวากรที่ขี้เกียจจะเข้มงวดกับน้องสาว นาน ๆ จะได้ปล่อยผีก็ให้เธอเต็มที่ไปเลยก็แล้วกัน

พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าก็ได้เวลาของการปลดปล่อย หลังจากประธานกลุ่มโครงการออกมากล่าวเปิดงานและขอบคุณผู้สนับสนุนจบลง เอฟเฟคแสงสีเสียงตระการตาก็เริ่มขึ้น กลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นด้านหน้าเวที ตัดกับลำแสงหลากสีที่มาพร้อมกับไฟกะพริบวูบวาบสลับกัน เสียงเครื่องดนตรีที่กระหึ่มบีบหัวใจ มาพร้อมกับเสียงทักทายของหนุ่มนักร้องรูปหล่อและสาวสวยหน้าเวที เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟนคลับด้านล่างประสานกับเสียงดนตรีจนลั่นโดม

ตะวันทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการแจกความเมา แม้สองสาวจะเริ่มมึน ๆ แล้ว แต่บรรยากาศบนหน้าเวทีมันชวนดื่ม เพื่อเพิ่มความคึกคักให้อารมณ์กับจังหวะดนตรีมันกลมกลืนกันไปอย่างต่อเนื่อง กอดคอกันร้องเพลงและโยกตามจังหวะเหมือนได้ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหลายผ่านค่ำคืนแห่งความสนุกนี้

หนุ่ม ๆ ที่เน้นจิบเบียร์ไปเรื่อย ๆ และมองสาวสวยทั่วงานเป็นอาหารตา เพลงยังอยู่ในจังหวะเบา ๆ ผ่อนคลายอยู่ นักร้องหญิงและชายสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นมาสร้างความสุขให้ผู้คนในงาน

“พี่...ลีโอ” เอวามือป้องปากตะโกนพร้อมกับกระโดดลิงโลดเมื่อชายในดวงใจของเธอปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าเวที พร้อมน้ำเสียงนุ่มเสน่ห์ที่ทำให้เธอเคลิ้มแทบละลาย

“แก...” จับมือจิวารีเขย่าพร้อมกับกระทืบเท้าถี่อยู่กับที่อย่างตื่นเต้น ดีอกดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

“เออ...เห็นแล้ว”

เครื่องดื่มที่เติมลงไปตั้งแต่หัวค่ำ เริ่มออกฤทธิ์และทำงานเต็มประสิทธิภาพแล้วจนหมดเป้สะพายของตะวัน จนต้องออกไปขนใส่เป้เข้ามาใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางผู้คนที่ขยับโยกอยู่กับเสียงดนตรีอย่างต่อเนื่อง

หนุ่มสาวเริ่มปล่อยสเต็บทุกท่วงท่า เหวี่ยงสะบัดเหมือนเก็บกดมาเป็นปีกับจังหวะที่นักร้องเสิร์ฟให้บนเวที ทั้งเต้นทั้งร้องประสานเสียงกันไปทั้งโดมอย่างสนุกสนาน อิทธิพลลอบมองสองสาวที่แหกปากตะเบ็งร้องเหมือนเป็นเจ้าของเอมวีเสียเอง โยกสะบัดอย่างสุดเหวี่ยง เผลออมยิ้มคนเดียวให้กับความโก๊ะของสองสาว

แดนซ์กันกระจายจนเหงื่อชุ่ม นักร้องบนเวทีก็เปลี่ยนเป็นจังหวะเพลงช้าให้หนุ่มสาวด้านล่างได้พักเหนื่อย

“แก้ว...นั่นคู่อริแกนี่”

นุ่น เพื่อนสาวของ แก้วกาญ สะกิดเพื่อนและบุ้ยปากไปทางเอวาและจิวารี ก่อนจะหรี่ตามองชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอวา

“นั่นพี่แจ็คนี่นา อย่าบอกนะว่ามันคบกับผู้ชายของแก” หล่อนใส่เอฟเฟคในจริตเพื่อให้ฟังดูตื่นเต้น

เมื่อเอวายื่นหน้าเข้าใกล้จิวากรและพูดอยู่ข้างหูเพราะเสียงดังของดนตรีที่เป็นอุปสรรคของการได้ยินจนต้องคุยในระยะประชิด ไม่รอช้าแก้วกาญเดินปรี่เข้ามาหาทันที เธอคือลูกค้าประจำของร้านอาหารที่จิวากรเล่นดนตรีอยู่ และตามจีบชายหนุ่มไปนั่งเฝ้าดูเขาเล่นดนตรีอยู่เป็นประจำ

“พี่แจ็ค” แก้วกาญแตะมือที่แขนชายหนุ่มเป็นการสะกิดเรียก จิวากรหันมามองเจ้าของมือ

“แก้ว”

หญิงสาวคล้องแขนที่แขนแข็งแรงของจิวากรทันที แสดงความเป็นเจ้าของพร้อมรอยยิ้มหยาดเยิ้ม

“พี่แจ็คมากับใครเหรอคะ?”

“มากับเพื่อน ๆ” พร้อมแนะนำแบบได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างให้หล่อนได้รู้จักกับหนุ่ม ๆ ในกลุ่ม แก้วกาญจงใจชวนคุยหัวเราะต่อกระซิกกับจิวากรและหนุ่ม ๆ ในกลุ่มเพื่อรอให้เอวาหันมามอง พร้อมกับเพื่อนสาวของเธอที่ส่งยิ้มทอดสะพานให้อิทธิพลด้วยดวงตาหวานฉ่ำอยู่ข้าง ๆ

“เอวา” จิวารีกระซิบข้างหูเพื่อนสาว

“หือ”

“เจ้ากรรมนายเวรของแกมาถึงแล้ว...ด้านหลัง”

เอวาหันหลังกลับมามองทันที แก้วกาญที่มือยังคล้องแขนจิวากรอยู่เชิดหน้าขึ้นมองเธออย่างท้าทาย

“ยังไม่ไปผุดไปเกิดอีกเหรอเนี่ย”

พึมพำอย่างหัวเสียกะพริบตาหนัก ๆ เหลือบมองบนพร้อมถอนหายใจทิ้งและเลือกที่จะไม่สนใจหล่อน กำลังสนุกอยู่แท้ ๆ ยัยบ้านี่คงเป็นมารมาทำลายบรรยากาศอันสุนทรีของเธอเป็นแน่ ช่างมันไปเถอะ และหันกลับไปที่หน้าเวทีต่อ

เอวาและแก้วกาญคือคู่อริตั้งแต่สมัยมัธยม สองสาวที่เข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน และเขม่นกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ ไม่ว่าเอวาจะทำอะไรหล่อนจะคอยสาระแนไปเสียทุกเรื่อง และสร้างปัญหาอยู่ทุกครั้งประหนึ่งว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรเก่าติดตามมาตั้งแต่อดีตชาติ และเป็นอยู่อย่างนั้นจนเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังจะบังเอิญมาเรียนที่เดียวกันอีก

อย่าบอกนะว่าจะมาเป็นแฟนพี่แจ็คและจะมารวมกลุ่มกับเธอ เอวาคิดในใจได้ดังนั้นก็รู้สึกแสบจมูกคันไม้คันมือขึ้นมาทันที พลอยทำให้อารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น หันไปคว้าเครื่องดื่มจากตะวันมากระดกเข้าปากอึกใหญ่เพื่อข่มอารมณ์

“ดิน”

เสียงเรียกจากด้านหลัง เทวฤทธิ์แตะไหล่ทักทาย พร้อมกับชูแก้วเครื่องดื่มให้แต่อิทธิพลชูในมือให้ดูว่าเขามีแล้ว ก่อนจะชนแก้วกันและยกขึ้นดื่ม

“มาด้วยเหรอ?” เทวฤทธิ์เอ่ยถาม อิทธิพลพยักหน้าตอบรับ

เทวฤทธิ์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ขายบัตร สืบจากทะเบียนการจองซื้อจนรู้ว่าเอวากับจิวารีก็มาร่วมชมคอนเสิร์ตครั้งนี้เช่นกัน หลังจากเดินตามหาอยู่นานสองนาน ชายหนุ่มทักทายจิวากรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รวมทั้งตะวันและธีธัช แต่สายตามองเลยไปที่จิวารีที่กำลังกอดคอกับเอวาร้องเพลงโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด

อิทธิพลปรายตามองเทวฤทธิ์ที่เอาแต่มองจิวารีอยู่อย่างนั้น ความเศร้าที่ส่งผ่านออกมาทางสายตาของเขายังมีให้เห็นอยู่ แม้จะเก็บซ่อนไว้ก็เถอะ

ในระหว่างที่เพลงจังหวะซึ้ง ๆ จากนักร้องหน้าเวที ผู้ชมด้านล่างที่ชูมือขึ้นกลางอากาศและโบกไปมาตามจังหวะเบา ๆ หนุ่ม ๆ พูดคุยทักทายกันไปตามประสา จิวารีหันมามองสบสายตาเข้ากับเทวฤทธิ์โดยบังเอิญ ก่อนจะเมินหน้ากลับไปโดยไม่สนใจเขาเลยสักนิด พร้อมกับจังหวะเพลงที่เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเสียงกรี๊ดเกรียวกราวจากคนที่รอแดนซ์เพื่อปลดปล่อย

“เดี๋ยวกูมานะไปหาเพื่อนแป็บนึง” จิวากรพูดกับเพื่อนชาย และแกะมือแก้วกาญที่เกี่ยวแขนเขาออกอย่างสุภาพ

“เดี๋ยวพี่มา” และปลีกตัวออกไป

ท่ามกลางแสงสีเสียงที่กำลังกระหึ่มเร้าใจ แก้วกาญเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเอวา ยังไงเสียวันนี้หล่อนก็ต้องสั่งสอนยัยขี้แพ้นี้หน่อยเป็นไร กล้าดีจะเล่นกับผู้ชายของคุณหนูแก้วได้ละก็...อย่าหวังว่าจะสงบสุขเลย

เสียงจังหวะคึกคักประสานกับเสียงร้องด้านล่างเวทีที่ดังกระหึ่มกึกก้องไปทั้งโดม พร้อมกับการโยกสะบัดตามจังหวะอย่างสุดเหวี่ยงของหนุ่มสาวอีกครั้ง จึงไม่มีใครสนใจสองสาวที่จิกผมกันชุลมุนอยู่ท่ามกลางความสนุกสนาน แม้จะแหกปากกรีดร้องก็ไม่มีใครสน แม้แต่คนที่ยืนเต้นอยู่ข้าง ๆ หันมามองก็ขยับห่างออกไป กำลังมันส์ได้ที่อยู่แท้ ๆ จะมาจิกตบกันตอนนี้ก็แล้วแต่เธอ

ด้วยชุดเซ็กซี่ที่แก้วกาญสวมทำให้เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ของเธอ และพลาดท่าให้กับเอวาจนลงไปกองอยู่กับพื้น เพื่อนสาวที่มาด้วยปรี่จะเข้าไปช่วยแต่โดนมือไวของจิวารีหยุมหัวไว้และลากออกมาอยู่ห่าง ๆ

“อย่าเสือก” จิวารีกำกำปั้นแกล้งจะต่อย หล่อนหลับตาปี๋และห่อไหล่

“หนึ่งต่อหนึ่งไม่เล่นหมาหมู่ถ้าอยากสนุกมาเล่นกับฉัน” จิวารีขู่ด้วยใบหน้าชิว เพื่อนสาวของแก้วกาญลังเล ก่อนจะทำได้แค่ยืนลุ้นเอาใจช่วยเพื่อนด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

เอวาขึ้นนั่งคร่อมร่างแก้วกาญที่นอนราบอยู่กับพื้นบวกกับเสียงกรี๊ดของเธอที่ไม่มีใครได้ยิน มือเรียวบางของคุณหนูเอวาฟาดกระหน่ำลงใบหน้าที่ถูกแต่งเติมมาอย่างเซ็กซี่และจัดจ้านของแก้วกาญแบบไม่ยั้งเหมือนคนเก็บกด

“ปล่อยนะนังบ้า” แก้วกาญแหกปากแข่งกับเสียงดนตรีแต่คนที่นั่งทับร่างอยู่ดูเหมือนจะบ้าไปแล้วจริง ๆ

จิวารีที่โยกตามจังหวะเพลงพร้อมกับเชียร์เพื่อนไปด้วยเหมือนพวกโรคจิตที่ยินดีกับการใช้กำลัง จากที่รับรู้เรื่องราวของเอวากับแก้วกาญตามคำบอกเล่าของเพื่อนสาวมาโดยตลอด ก่อนที่ตัวเอวาจะปลิวขึ้นกลางอากาศจากมือหนาของจิวากรที่ลากออก

“เป็นบ้าอะไรกันนี่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status