공유

ต่างความคิด

last update 최신 업데이트: 2025-12-02 02:33:57

          ครั้นถึงเวลาอาหารเย็นสามคนพ่อแม่ลูกได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

          "ท่านแม่ หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือเจ้าคะ" นางถาม ยามเห็นมารดาเอาแต่จ้องหน้าไม่วางตา

          "เฮ้อ เจ้าน่ะไม่อยากออกเรือนข้ากับพ่อเจ้าหาได้บังคับ แต่เจ้าควรทำตัวเป็นสตรีอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนบ้างเถิด มีสตรีใดบ้างที่ทำเช่นเจ้า สองปีผ่านไปแล้วข้ายังไม่เห็นท่าทีว่ารองแม่ทัพ   โจวจะมีใจให้เจ้าสักนิด"

          "ฮูหยิน" ใต้เท้าเซียวเรียกน้ำเสียงนิ่งงันประดุจสายน้ำเงียบสงบ ดูเอาเถิดบุตรสาวคนเดียวของเขาน้ำตาแทบจะไหลร่วงลงบนชามข้าวอยู่แล้วยามได้ยินคำพูดนั้นของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดา แม้จะเป็นความจริงแต่เขามิอาจทนเห็นน้ำตาของนางได้

          "ท่านพี่ ที่ข้าพูดเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงนางนะเจ้าคะ ลูกสาวเราหาใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ บุรุษในเมืองหลวงต่างอยากแต่งนางเป็น     ฮูหยินด้วยกันทั้งนั้น แต่นางกลับไม่ไยดี มัวแต่สนใจบุรุษที่ไม่ได้รักตัวเอง"

          "เจ้าพูดเกินไปแล้ว"

          "ความทุ่มเทของข้าจะต้องสำเร็จในสักวันเจ้าค่ะ แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นข้าจะไม่ละความพยายามเป็นอันขาด"

          "แม้ว่าเจ้าจะแก่ชราจนผมกลายเป็นสีขาวอย่างนั้นรึ"

          "เจ้าค่ะ ท่านแม่ ข้ามั่นใจว่าความรู้สึกของข้าที่มีต่อท่านรองแม่ทัพจะไม่มีทางเลือนหายไป"

          “ความรักระหว่างบุรุษกับหญิงงามหาได้ยั่งยืน หากเจ้าไม่เชื่อก็ดูจากองค์ฮ่องเต้ ทั้ง ๆ ที่พระองค์มีฮองเฮาข้างกายอยู่แล้วแต่กลับมีนางสนมเพิ่มขึ้นทุกปี พวกนางต่างแก่งแย่งชิงดีและผลัดกันเป็นคนโปรดไม่เว้นแต่ละวัน”

          “แต่ท่านพ่อหาได้เป็นเช่นนั้น ข้าว่าเรื่องเช่นนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเสียมากกว่า” ม่านเหม่ยตอบทันควัน พร้อมกับยกบิดาของตนขึ้นมากล่าวอ้าง เพราะใต้เท้าเซียวมีฮูหยินเพียงหนึ่งเดียว มิได้มีอนุเฉกเช่นขุนนางคนอื่น

          “เอาเถิด แม้ข้าพูดอันใดไปในตอนนี้เจ้าคงไม่คิดเชื่อฟัง แต่จงฟังคำสอนแม่ไว้หากเจ้าผิดหวังจากรองแม่ทัพผู้นั้น อย่าได้เศร้าโศกมากนัก ตัวเจ้าเองหาใช่ว่าไม่มีผู้ใดต้องการ”

          “คำสอนของท่านแม่ ข้าย่อมจำใส่ใจ”

ตระกูลเยว่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เฉลิมฉลองการกลับมาเมืองหลวงในรอบสิบปีอย่างยิ่งใหญ่ แขกเหรื่อในงานล้วนเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักพร้อมด้วยคุณหนูคุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์ต่างได้รับเทียบเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ด้วยเช่นกัน

          ใต้เท้าเยว่ตงหมายมั่นใช้งานเลี้ยงครั้งนี้เปิดตัวบุตรสาวคนสำคัญแสนเพียบพร้อมในทุกด้าน โดยมีนัยแอบแฝงอีกประการคือหาลูกเขยที่สามารถสนับสนุนให้ตระกูลเยว่กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง

          “คุณหนู ฮูหยินเรียกท่านไปพบที่เรือนเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้หน้าห้องเอ่ยบอก

          “ข้ารู้แล้ว” เยว่อินจ้องมองตัวเองในกระจกครั้งสุดท้ายเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ค่ำคืนนี้นางจะต้องงดงามที่สุด

สองเท้าก้าวเดินไปยังเรือนใหญ่ที่บัดนี้เป็นที่อยู่อาศัยของบิดามารดาด้วยท่าทางสง่างามเพราะถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

          “บอกท่านแม่ทีว่าข้ามาถึงแล้ว”

          “เจ้าค่ะ ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”

          “ให้นางเข้ามาได้” สิ้นคำประตูบานใหญ่เปิดขึ้นทันที หลังจากได้รับอนุญาตจากนายหญิงของจวน

          “ท่านแม่ เรียกข้ามามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”

          “นี่หรือชุดที่เจ้าเลือกใส่ในงานเลี้ยงคราวนี้ ช่างดูจืดชืดไม่สมกับเป็นบุตรสาวจากสกุลเยว่สักนิด เครื่องประดับที่ข้าให้คนเอาไปให้เจ้าที่เรือนเหตุใดจึงไม่ใส่เล่า ไปเปลี่ยนเสีย” ฮูหยินเยว่ตำหนิ ยามเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวสวมอาภรณ์สีอ่อนราวกับจะไปบวชชีเสียอย่างนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

          “ชุดนี้ลูกเลือกเองกับมือเลยนะเจ้าคะ แม้สีอ่อนไปสักนิดแต่ดูแล้วสบายตา อีกอย่างหากลูกแข่งประโคมเครื่องประดับเกรงว่าอาจทำให้ภรรยาของขุนนางสูงศักดิ์เหล่านั้นไม่พอใจเอาได้”

          “เจ้ายังคิดว่าตัวเองอยู่บ้านนอกอยู่หรือถึงได้คิดเช่นนี้ ที่เมืองหลวงหากเจ้าแต่งตัวซอมซ่อย่อมไม่มีผู้ใดอยากข้องแวะด้วย หน้าตาถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชนชั้นสูง ยิ่งแต่งตัวด้วยอาภรณ์ราคาสูงลิ่วมากเท่าใดยิ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจและฐานะของตระกูลมากเท่านั้น เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ”

          “ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบมารดา ก่อนกลับเรือนของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดและเครื่องประดับใหม่ทั้งหมด

          “อีกไม่ถึงชั่วยามงานเลี้ยงจะเริ่มแล้วนะเจ้าคะ” เป็นชุนไฉเอ่ยบอกเจ้านายของตัวเอง นับตั้งแต่กลับจากเรือนใหญ่นางเห็นคุณหนูเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมเปลี่ยนชุดเสียทีจึงได้บอกด้วยความเป็นห่วง นี่หาใช่ครั้งแรกเสียที่ไหนที่หญิงสาวถูกผู้เป็นมารดาตำหนิ ฮูหยินเยว่มาจากตระกูลสูงศักดิ์ที่มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีกรมพิธีการ นางย่อมคาดหวังให้บุตรสาวคนเดียวเพียบพร้อมยิ่งกว่าสตรีใดในเมืองหลวง

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • มิหวนคืนรัก   ข้าไม่สนใจเสียงนกเสียงกาพวกนั้นหรอก

    “คุณชายหยวน ท่านอย่าพูดเพ้อเจ้อ ประเดี๋ยวจะทำให้นางเสียหาย” “เป็นห่วงเป็นใยนางเสียเหลือเกิน ข้าจะรอดูว่าในอนาคตสตรีที่ท่านแต่งเข้าจวนจะเป็นผู้ใดกันแน่” “เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว เพราะข้ายังไม่คิดแต่งฮูหยินเข้าจวน” “โบราณว่าเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้น ข้าว่าท่านระวังไว้หน่อยก็ดี หากผิดพลาดขึ้นมาได้แต่งกับสตรีอีกคนจะทำอย่างไร” “...” โจวเฟิ่งฉีขี้คร้านจะตอบโต้กับชายหนุ่มตรงหน้าจึงได้เดินหนีไปอีกทาง ทางฝั่งของโถงจื่อรุ่ยที่รวบรวมแขกสตรีทุกคนมาไว้ที่นี่ ทุกคนต่างคุยกันออกรสออกชาติราวกับว่ามิได้พานพบกันเสียนาน “แม่นางเซียว ท่านกับแม่นางเยว่แต่งตัวต่างกันราวฟ้ากับดินเลยนะเจ้าคะ” แม่นางอีกคนเอ่ยขึ้น พลันทำให้ทุกคนที่ได้ยินคำกล่าวเมื่อครู่หันมามองนางเป็นตาเดียว “จริงด้วย หรือว่าครอบครัวของนางถังแตก ทำให้แม้แต่เสื้อผ้าดี ๆ ยังไม่มีใส่ หากข้าเป็นนางข้าคงไม่กล้าก้าวเท้าออกจากจวนแน่” “ข้าว่าไม่น่าเป็นดังที่เจ้าพูด เมื่อไม่นานมานี้สกุลเซียวเพิ่งได้กำไรก้อนโตจากการขายเกลือให้พระราชวังมิใช่หรือ”

  • มิหวนคืนรัก   เทียบเชิญ

    “ช่วยหยิบชุดที่ท่านแม่ให้คนสั่งตัดเพื่อใช้ในงานเลี้ยงครั้งนี้มาที รวมทั้งเครื่องประดับด้วย” “เจ้าค่ะ” ท้ายที่สุดหญิงสาวไม่อาจทัดทานคำสั่งของมารดาจึงได้สวมอาภรณ์พร้อมเครื่องประดับราคาแพงเหล่านั้นอย่างจำยอม แม้ไม่พอใจอยู่บ้างแต่จะทำอันใดได้ เดิมทีนางหวังเพียงว่าจะไม่ถูกคนในงานเลี้ยงหาว่านางแต่งตัวโอ้อวดฐานะจนเกินหน้าเกินตาผู้อื่นถึงได้คิดแต่งตัวเรียบง่าย ในใจของนางย่อมรู้ดีกว่าผู้ใดว่ามารดาของนางเป็นคนทะเยอทะยานมากเพียงใด แม้ภายนอกดูสูงส่งแต่ภายในคนในสกุลเยว่และสกุลไห่ย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่ผู้คนมองเข้ามาบางทีอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เซียวม่านเหม่ยได้รับเทียบเชิญจากตระกูลเยว่ด้วยเช่นกัน คืนนี้นางเข้าร่วมงานเลี้ยงเพียงคนเดียว เหตุเพราะบิดาและมารดาเดินทางไปถือศีลที่วัดเพื่อขอพรให้ฮูหยินผู้เฒ่าหยวนหายป่วยในเร็ววัน “คุณหนู ท่านแต่งตัวเรียบง่ายเกินไปรึไม่” ฝูเยี่ยนถาม เมื่อเห็นการแต่งกายของเจ้านาย นางสวมเพียงอาภรณ์ธรรมดาที่ไม่ได้มีราคาแพงหากเทียบกับชุดของบรรดาสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงทั้งยังสวมใส่เครื่องประดับไม่กี่ชิ้น “ทำไมหรือ” นาง

  • มิหวนคืนรัก   ต่างความคิด

    ครั้นถึงเวลาอาหารเย็นสามคนพ่อแม่ลูกได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน "ท่านแม่ หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือเจ้าคะ" นางถาม ยามเห็นมารดาเอาแต่จ้องหน้าไม่วางตา "เฮ้อ เจ้าน่ะไม่อยากออกเรือนข้ากับพ่อเจ้าหาได้บังคับ แต่เจ้าควรทำตัวเป็นสตรีอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนบ้างเถิด มีสตรีใดบ้างที่ทำเช่นเจ้า สองปีผ่านไปแล้วข้ายังไม่เห็นท่าทีว่ารองแม่ทัพ โจวจะมีใจให้เจ้าสักนิด" "ฮูหยิน" ใต้เท้าเซียวเรียกน้ำเสียงนิ่งงันประดุจสายน้ำเงียบสงบ ดูเอาเถิดบุตรสาวคนเดียวของเขาน้ำตาแทบจะไหลร่วงลงบนชามข้าวอยู่แล้วยามได้ยินคำพูดนั้นของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดา แม้จะเป็นความจริงแต่เขามิอาจทนเห็นน้ำตาของนางได้ "ท่านพี่ ที่ข้าพูดเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงนางนะเจ้าคะ ลูกสาวเราหาใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ บุรุษในเมืองหลวงต่างอยากแต่งนางเป็น ฮูหยินด้วยกันทั้งนั้น แต่นางกลับไม่ไยดี มัวแต่สนใจบุรุษที่ไม่ได้รักตัวเอง" "เจ้าพูดเกินไปแล้ว" "ความทุ่มเทของข้าจะต้องสำเร็จในสักวันเจ้าค่ะ แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นข้าจะไม่ละความพยายามเป็นอันขาด" "แม้ว่าเจ้าจะแก่ชราจนผมกลาย

  • มิหวนคืนรัก   คำพูดร้ายกาจ

    “แม้ท่านจะพูดจาร้ายกาจกับข้า แต่ข้าไม่มีวันยอมแพ้หรอกเจ้าค่ะ แม้จะต้องใช้เวลานานเท่าใดก็ตามข้าจะทำให้ท่านมีใจให้ข้าให้ได้” “เช่นนั้นเจ้าก็จงฝันไปก่อนเถิด ข้าไม่มีวันคิดเช่นนั้นกับเจ้าแน่” “คุณหนู” บ่าวรับใช้จวนตระกูลโจววิ่งหน้าตั้งมาหาม่านเหม่ย “เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ” “ใต้เท้าให้บ่าวรับใช้เรียกท่านกลับจวนขอรับ” “ข้ารู้แล้ว ขอบใจเจ้ามาก ท่านแม่ทัพ เช่นนั้นข้าขอตัวกลับจวนก่อนนะเจ้าคะ” นางหันไปบอกชายหนุ่ม ทว่าไม่ได้รับคำตอบใดกลับมา “…” หลังจากที่เซียวม่านเหม่ยกลับไปแล้ว เยว่อินได้ซักไซ้เขาต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างปิดไม่มิด “ดูท่าแล้วนางคงชอบพอท่านน่าดู แล้วเหตุใดท่านถึงได้แสดงท่าทีหยาบคายใส่นางมากถึงเพียงนั้น” นางถาม เหตุเพราะตั้งแต่รู้จักเขา ไม่เคยมีสักคราที่ชายหนุ่มจะหยาบคายใส่ผู้ใดอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้มาก่อน “เป็นเพราะนางตามตอแยข้าไม่เลิก สตรีอื่นเพียงแค่ข้าเอ่ยปากไล่อ้อม ๆ พวกนางก็วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง แต่มิใช่กับเซียวม่านเหม่ย ข้าไล่นางนับครั้งไม่ถ้วน เคยบอกนางตามตรงตั้งหลายหนแ

  • มิหวนคืนรัก   ไม่ยินดีสักนิด

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะ" เสียงใสเอ่ยบอกบิดาและมารดา พร้อมกับก้าวขาลงจากเรือนไปโดยไม่ได้รอให้ทั้งคู่อนุญาต "ลูกสาวของพวกเรา นางรีบร้อนออกไปที่ใดรึ" "เฮ้อ จะที่ใดได้ล่ะเจ้าคะ ถ้าไม่ใช่จวนตระกูลโจว" ฮูหยินเซียวตอบสามี หลังถอนหายใจอย่างระอา นี่ก็เกือบสองปีแล้วนับตั้งแต่บุตรสาวของนางได้พบกับรองแม่ทัพโจวหรือคุณชายเฟิ่งฉีที่แม่นางทั้งหลายเคยเรียกบุรุษรูปงามเช่นเขา ก่อนจะเข้ารับราชการในตำแหน่งรองแม่ทัพ "ฮูหยิน เจ้าจะถอนใจไปไย หากม่านเหม่ยชอบพอรองแม่ทัพโจวมากถึงเพียงนี้พ่อแม่อย่างเราจะทำอันใดได้ นอกเสียจากคอยดูอยู่ห่าง ๆ" "แต่ลูกเราเป็นสตรีนะเจ้าคะ มีแต่จะเสียหาย วัน ๆ นางเอาแต่วิ่งตามท่านรองแม่ทัพ แม่อย่างข้าเห็นแล้วก็อดทุกข์ใจไม่ได้" "คอยดูอีกสักหน่อยเถิด หากรองแม่ทัพโจวมีใจให้ลูกสาวเราพอถึงตอนนั้นข้าจะออกหน้าขอเกี่ยวดองกับตระกูลโจวด้วยตัวเอง" "แล้วถ้าหากท่านแม่ทัพไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกับนาง ท่านพี่จะทำเช่นไร" "ข้าจะทำเช่นไรได้เล่า ถ้าเป็นดังที่เจ้าว่าก็ถือเสียว่าทั้งคู่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเคียงคู่กัน"

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status