Share

บทที่ 215

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
หานกวงคิดถึงการกระทำในก่อนหน้านี้ของจั๋วซือหราน และนางรู้สึกว่าอาจไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป

หานกวงเหลือบมองมือของจั๋วซือหราน นางรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“เมื่อครู่นี้แม่นางเก่งมากนัก แม่นางกล้าสัมผัสดาบด้วยมือเปล่าโดยไม่ได้รับบาดแผลใด ๆ แม้ว่าชายก่อนหน้านี้จะไม่ได้เก่งมากนัก แต่เขาก็ยังคงใช้วิชาดาบของลัทธิอู๋จี๋ ดังนั้นเขาแข็งแกร่งอย่างมาก"

“นั่นสินะ” จั๋วซือหรานลดสายตาลงและเหลือบมองที่ฝ่ามือของนาง ฝ่ามือของนางขาวและสะอาด มีเส้นฝ่ามือที่ชัดเจน

ทุกคนที่เห็นฉากของเมื่อครู่นี้มักจะเชื่อได้ยากว่า มือที่ดูนุ่มนวลมากและไร้พลังโจมตีใด ๆ นี้ได้ปะทะกับคมดาบของลัทธิอู๋จี๋ของจั๋วหยุนชิน

แม้แต่จั๋วซือหรานเองก็ไม่คาดคิดว่า วิชาสืบทอดของการแพทย์สายวิเศษของชาติที่แล้วถูกปลุกตื่นแล้วจริง ๆ

มือวิเศษเป็นทักษะชนิดหนึ่งของการแพทย์สายวิเศษ

ในความเป็นจริง แม้แต่จั๋วซือหรานในชาติที้แล้ว ต่อให้นางเก่งการแพทย์สายวิเศษ แต่นางมือวิเศษได้ไม่มาก

นางมักตกอยู่ในสภาพที่ว่า เกือบจะได้สัมผัสถึงทักษะนี้แล้ว แต่มันก็ยังขาดอีกนิดหนึ่ง

แต่สุดท้าย ก่อนที่นางได้ปลุกทักษะของมือวิเศษได้ นางก็เสียชีวิตและเดินทางมายังโลกที
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 216

    จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและเดินเข้าไป“ ฝูซู ” จั๋วซือหรานเรียกด้วยเสียงทุ้มลึกเดิมทีฝูซูยังยุ่งในห้องเก็บของ เมื่อเขาได้ยินเสียงนี้ เขารีบวิ่งออกมา “คุณหนู ในที่สุดคุณหนูก็กลับมาแล้ว”“เกิดอะไรขึ้น” จั๋วซือหรานถามฝูซูโบกมือแล้วพูดว่า "ข้ายังคิดอยู่ว่าหลังจากตระกูลเฟิงส่งของขวัญเหล่านี้มา พวกเขาก็ลักพาตัวคุณหนูไปขอรับ"จั๋วซือหรานจึงตระหนักได้ว่า นางลืมเลย และตอนนี้นางตระหนักได้ว่า สาเหตุที่ห้องเก็บของคึกคักก็เพราะตระกูลเฟิงเพิ่งส่งของขวัญเต็มรถมานี่เอง“หากคุณหนูไม่กลับมาอีกนะ ข้าต้องไปบอกฮูหยิน ฮูหยินคงเอาของขวัญเหล่านี้ไปตามหาคุณหนูที่จวนของตระกูลเฟิงแล้วขอรับ” ฝูซูพูดจั๋วซือหรานถาม "ของในห้องเก็บของ ตระกูลเฟิงส่งมาเนี่ยนะ"“ทั้งหมดเลยขอรับ” ฝูซูพยักหน้า “ไม่ใช่แค่ของที่พวกเขาส่งมาในเช้าวันนั้นนะ แต่ยังมีของขวัญอีกมากมายที่ถูกส่งมาในเมื่อเช้านี้ด้วย”ฝูซูไม่กล้าพูดเลยว่า เขาเห็นคุณหนูไปหาตระกูลเฟิง แล้วไม่กลับมา จากนั้นตระกูลเฟิงนำของขวัญมาให้อีก เขาเป็นห่วงมากจนต้องสงสัยว่านี่คือเงินที่คุณหนูแลกด้วยชีวิตหรือเปล่าเขาเกือบจะร้องไห้ฉวนคูนที่ถูกคุณหนูย้ายตำแหน่งงานจากลานนอกไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 217

    ฝูซูตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน“คุณชายหยุนชินกลับมาหรือขอรับ เขาอยู่ในลัทธิไม่ใช่หรือ…เขากลับมาที่นี่ต้องเพื่อคุณท่านลิ่วและคุณหนูหกใช่ไหมขอรับ ด้วยสถานะของเขาในลัทธิ หากเหล่าผู้อาวุโสอยากจัดการคุณท่านลิ่วและคุณหนูหก พวกท่านต้องคิดก่อน นั่นหมายความว่า พวกท่านจะไม่สามารถคืนความยุติธรรมกับคุณหนูหรือเปล่าขอรับ”จั๋วซือหรานมองชายหนุ่มคนนี้ที่มักจะทำอะไรใจร้อน แต่ดวงตาของเขาเฉียบคมในเวลาสำคัญ และเขาสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากจั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "เจ้าพูดถูก"แม้ว่าฝูซูจะเดาว่าเรื่องเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่ต้องที่ต้องโกรธเล็กน้อย "แต่ทำไม คุณหนูนอกจากจะอายุน้อยกว่าคุณชายหยุนชิน คุณหนูต้อยกว่าเขาอย่างไรล่ะ แถมตอนนี้คุณหนูยังมีชื่อเสียงมากด้วยซ้ำ"จั๋วซือหรานขดริมฝีปากของนางและจิบชาไปสองคำ นางพูดว่า "อาจเป็นเพราะจั๋วหยุนชินสอบติดแพทย์กลั่นยาแล้ว และเขายังบอกว่าในช่วงเวลาที่เขากลับมารเยี่ยมญาติ เขาจะตั้งใจกลั่นยาให้ตระกูลด้วย”ดวงตาฝูซูเกือบจะโผล่ออกมา เขากัดฟันและพูดอย่างขมขื่น "ก็แค่กลั่นยานี่นา คุณหนูของข้ากลั่นเป็นด้วย"“ใช่สิ แต่ทำไมข้าต้องทำงานหนักเพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 218

    ความหมายของคำถามนี้ชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย เหยียนฉี ถามอย่างไม่เชื่อ "เจ้าไม่อยากยึดร้านนั้นจริง ๆ หรือ"“ข้าแค่ต้องการเมื่อข้าต้องการยา ตระกูลเหยียนสามารถจัดหายาให้ข้าได้ สิ่งที่ข้าต้องการคือความสะดวกและผลประโยชน์ ข้าเอาร้านขายยาของบ้านเจ้าทำไม มันไม่เหนื่อยหรือ…” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วสีหน้าของเหยียนฉีดูทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย "พวกข้า...คิดเลวไปเองขอรับ "จั๋วซือหรานชี้ไปที่จานบนโต๊ะ “ตอนนี้กินข้าวกันได้ยังเจ้าคะ คงไม่กังวลขนาดนั้นแล้วนะ”เหยียนฉีจึงหยิบตะเกียบขึ้น สุ่มคีบแมกโนเลียขึ้นมาแล้วถามว่า “แล้ววันนี้แม่นางจิ่วหาข้าเพื่อเรื่องอันใด”เมื่อเหยียนฉีพูดจบ เขาเห็นจั๋วซือหรานวางตะเกียบลงด้วยแววตาที่เย็นชาเมื่อเห็นแววตาที่เย็นชาเช่นนี้ เหยียนฉีตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาคิดออกทันทีแม้แต่ต่อหน้าเขา คุณหนูจั๋วจิ่วผู้นี้ไม่เคยมีสายตาเย็นชาและไม่แยแสเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนของตระกูลเหยียนอย่าง ผู้อาวุโสสี่ เหยียนชางหรือคนอื่น ๆ นางมักจะมีแววตาเช่นนี้ทันใดนั้น เหยียนฉีเข้าใจว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่เคยนับเขาเป็นศัตรูเลย“จั๋วหยุนชินกลับมาแล้ว” จั๋วซือหรานเริ่มพ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 219

    เมื่อได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เหยียนฉีก็อดไม่ได้ที่ต้องตกตะลึงความจริงข้อนี้เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจได้อย่างกระจ่างแม้แต่เขา หลังจากการแข่งขันล่าสุดระหว่างตระกูลเหยียนกับจั๋วซือหราน ก็ไม่ยากที่จะเห็นได้ชัดว่าพันธมิตรหลายคนของเขาที่มีข้อตกลงที่ดีต่อกันกำลังหลบพวกเขา เมื่อนั้นเหยียนฉีจึงเข้าใจความจริงนี้เด็กผู้หญิงตรงหน้าเขามีอายุเพียงสิบหกปี แต่ดูเหมือนว่านางได้เผชิญกับหลายเรื่องแล้วและเข้าใจข้อนี้อย่างกระจ่างแล้ว“หากข้าเดมไม่ผิด ในเมื่องหลวง ตระกูลเหยียนควบคุมตลาดขายยาประมาณครึ่งหนึ่ง ” จั๋วซือหรานกล่าวเหยียนฉียิ้มเบา ๆ "พูดตามตรง เกือบเจ็ดส่วน แม้ว่าตระกูลจั๋ว เป็นพ่อค้าของราชสำนัก ในด้านการแพทย์ ตระกูลเรามีคุณสมบัติมากกว่าและสามารถได้ราคาที่ดีกว่า"“ด้วยเหตุนี้เองที่ ตระกูลจั๋วจึงไม่แย่งตลอดวัสดุยา ท้ายที่สุดแล้ว มีธุรกิจมากมาย ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทแย่งตลาดยากับบ้านข้า” เหยียนฉีกล่าวเขารู้ทั้งหมดนี้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจั๋วซือหรานมองออกเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นนางจึงมานัดเขาออกมา และเสนอความร่วมมือเหยียนฉี "หากข้าเข้าใจถูก แม่นางจิ่วหมายถึง..."แม้ว่าก่อนหน้านี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 220

    เหยียนฉีมองนางด้วยความประหลาดใจจากนั้น เขาเห็นดวงตาอันโต ๆ ที่สวยงามของนางบิดเบี้ยว นางวางศอกบนโต๊ะ นางเอามือรับคางของนางไว้ นางเอียงศีรษะและมองเหยียนฉี “คุณชายเหยียนอย่ามองข้าเช่นนี้สิ ข้าทำอะไรที่น่าตกใจและไม่น่าเชื่อ...”เหยียนฉีตะโกนในใจ มันไม่ใช่หรือ เรื่องที่เจ้าทำนั้นยังไม่เหลือเชื่อหรือน่าตกใจมากพอหรือ หากำไรกับตระกูลของตัวเอง และแบ่งกำไรกับศัตรูเช่นนั้นหรือ และอ้าปากเรียกกำไรตั้งหกส่วน...จั๋วซือหรานยังคงยิ้มและมองเหยียนฉี นางพูดว่า"ข้าไม่ชอบความยุ่งยาก เลยหาคุณชายเหยียนมาคุยเรื่องนี้ มิเช่นนั้น หากให้ข้าทำเอง คุณชายเหยียนจะไม่มีกำไรสักนิดเลยนะ"“เพราะตามข้อตกลงระหว่างตระกูลเหยียนกับข้า ร้านขายยา ตระกูลเหยียนต้องจัดหายาตามที่ข้าต้องการ”คำพูดของจั๋วซือหรานทำให้เหยียนฉีตกตะลึงเล็กน้อย และเขาก็เข้าใจความหมายของนางทันทีอย่างที่นางพูดจริง ๆ หากนางอยากกินกำไรเอง นางสามารถให้ ตระกูลเหยียนจัดหาวัสดุยาทั้งหมดได้นางหาคนกลางที่เป็นบุคคลที่สามเท่านั้น และนางก็สามารถเอากำไรส่วนใหญ่ได้แต่แค่เป็นเพราะนางกลัวความยุ่งยาก...เหยียนฉีมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเขา เขารู้สึกถึงความรู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 221

    ตระกูลฮั่วค่อนข้างมีความสามารถในด้านการค้นพบข้อมูลต่าง ๆ และผู้ที่สืบหาข้อมูลมักจะรู้หลบเป็นปีกพวกเขาไม่อยากรุกรานใคร อยากให้ทุกคนเป็นแหล่งข้อมูลของพวกเขา พวกเขาอยากขายข้อมูลให้กับทุกคนอย่างมากเพราะฉะนั้นตระกูลฮั่วจึงมีสุภาพบุรุษที่ดีเช่นฮั่วชิงหยวนดังนั้นจั๋วซือหรานจึงฟังออกได้ว่าการแจ้งเตือนนี้เป็นการตอบแทนของฮั่วจือโจวสำหรับเรื่องที่นางเตือนอย่าให้ฮั่วชิงหยวนถูกคนใช้เป็นแพะรับบาปในเครื่องก่อนจั๋วซือหรานยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางพูดว่า "เช่นนั้นข้าขอขอบคุณคุณชายสามฮั่วที่เตือนข้า ข้าขอถามได้ไหมว่าอ๋องชินยวี่จะวางแผนอะไร"ฮั่วจือโจวเม้มริมฝีปากอันบางของเขาเล็กน้อยและขมวดคิ้ว หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็กระซิบว่า "แค่กลอุบายสกปรก ไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ ลูกหลานบางคนของตระกูลขุนนางก็ใช้กลอุบายเหล่านี้ไปทำสิ่งเลวร้าย" ”จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเมื่อนางได้ยินคำพูดนี้ "เช่นนั้น... ขอบคุณ คุณชายสามฮั่วที่เตือนข้า ข้าเข้าใจแล้ว"ฮั่วจือโจวขมวดคิ้วและมองนาง เดิมทีเขายังคิดอยู่ว่านางจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงชาเมื่อนางทราบมีคนจะเล่นงานกับนาง ดังนั้นเขาจึงบอกนางเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 222

    “เจ้าพูดถูก โชคดีที่เจ้ากลับมาได้ ดังนั้นเจ้าสั่งสอนน้องดี ๆ ” คุณท่านจั๋วลิ่วถอนหายใจและพูดจั๋วหรูซินหดคอไว้ นางไม่กล้าพูดอะไรเลยคุณท่านจั๋วลิ่วถาม "จริงด้วย เรื่องกลั่นยาที่เจ้าพูดกับจั๋วจิ่วในก่อนหน้านี้ ตอนนั้นข้าหมดสติและได้ยินไม่ชัดนัก... เรื่องเป็นอย่างไรกันแน่"“ในการฝึกฝน ห้าหรูซินชนะจั๋วจิ่วมิได้ นางต้องรับการลงโทษด้วยแส้ที่ยังเหลือไว้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ข้าจะตั้งใจสอนหรู้ซิน นางจะได้ทำได้ดีกว่าจั๋วจิ่วในการฝึกฝน”หยุนชินกล่าวว่า "สำหรับจั๋วจิ่ว การเดิมพันนี้ไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจึงบอกว่าข้าจะกลั่นยาให้ตระกูล ซึ่งถือว่าเป็นการชดเชยอีกประเภทหนึ่ง"คุณท่านจั๋วลิ่วถอนหายใจ "เจ้าต้องรู้สึกน้อยใจแน่ ๆ"“ ข้าไม่น้อยใจ ข้ากลั่นยาเป็นจำนวนมาก ก็แค่เหนื่อยไปหน่อย แต่ประสบการณ์ที่ได้มาจากการกลั่นยานั้นก็มีค่ามากเช่นกัน เอาเป็นว่า ตระกูลจัดหาวัตถุดิบและให้ข้า เพื่อให้ข้าฝึกกลั่นยา ” จั๋วหยุนชินพูดคุณท่านจั๋วลิ่วขมวดคิ้วแน่นและพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า "จั๋วจิ่วไม่พอใจครอบครัวของเราอย่างสิ้นเชิง นางมีพรสวรรค์ที่เก่งกาจมาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อ นางอาจกลายเป็นปัญหาอันร้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 223

    คืนวันนั้น ในเมืองหลวง มีกระกระทำอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นห้องก็บของของตระกูลเหยียนสว่างไสว และรถม้ามาจอดหน้าประตูห้องเก็บของอย่างต่อเนื่องเหล่าคนงานตั้งใจกขนกระสอบวัสดุยา กระสอบนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของยา คนงานขนกระสอบลงจากรถม้าแล้วขนเข้าไปในห้องเก็บของในช่วงพักเป็นครั้งคราว คนงานหนุ่มก็ดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบคอออกและเช็ดเหงื่อออกจากศีรษะในระหว่างการสนทนา เขาถามว่า "ทำไมตระกูลเหยียนให้ทำงานดึกจัง ปกติพวกเขาจะให้มาตอนกลางวันมิใช่หรือขอรับ"คนงานที่มีอายุมากกว่า ซึ่งมีใบหน้าเปื้อนไปตามกาลเวลา หยิบไม้ไผ่ออกมาและดื่มน้ำเย็นแล้วขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "อย่างไรก็ตามเราควรตั้งใจทำงาน พยายามอย่าสอบถามเรื่องของผู้จ้างงาน ยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งมีอายุยืนยาว”คนงานหนุ่มนั้นรู้ว่านี่เป็นประสบการณ์เขาเลยเลิกถามต่อ แต่ยิ้มและเปลี่ยนหัวเรื่อง “จริงด้วย แต่การทำงานตอนกลางคืนก็ค่อนข้างดี เย็นสบายมาก ก็แค่มองไม่ชัด…”ทุกคนทำงานในห้องเก็บของของตระกูลเหยียนเกือบทั้งคืนเมื่อรุ่งสาง นักบัญชีในโกดังจึงรีบถือสมุดบัญชีและมุ่งไปที่จวนเหยียนในจวนเหยียน แสงไฟสว่างไสวเช่นกันผู้อาวุโสหลายท่านกำลังรออยู่ที่ห้อง

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status