แชร์

บทที่ 16 นางในดวงใจ 1.2

ผู้เขียน: เดลิล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-17 09:19:13

"สหาย เหตุใดเจ้าพูดเช่นนี้ เจ้าหวงน้องสาวเกินไปแล้ว เจียงเอ๋อร์เจ้าจำได้หรือไม่ยามเมื่อครั้งยังเด็ก ข้าฝากต้นไม้ต้นหนึ่งให้เจ้าดูแลไหนเจ้าพาข้าไปดูหน่อย ตอนนี้มันใหญ่โตขนาดไหนแล้ว" สวีเสวียนหนานตัดความรำคาญเลยชิงพูดทำให้ฮุ่ยเหอทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่มองตามหลังสหายกับน้องสาวไปเพียงเท่านั้น เจ้านี่มันจริง ๆ เลยนะเหตุใดถึงหลงใหลน้องสาวข้าถึงเพียงนี้

เฮ้อ!สงสัยข้าจะห้ามเจ้าไม่ได้ใส่กระมัง เอาเป็นว่าข้าไม่ห้ามเจ้าก็ได้ แต่เจ้าก็พยายามเข้าก็แล้วกัน ฮุ่ยเหอพูดตามหลังก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้านี่จะฝังใจกับน้องสาวเขาถึงเพียงนี้

ทางด้านฮุ่ยเจียง นางเดินนำสวีเสวียนหนานมาด้วยความประหม่าไม่น้อย นางรู้ถึงสายตาร้อนแรงที่มองตามหลัง ทำให้นางทำตัวไม่ถูกแต่ยังดีที่สาวใช้ยังเดินตามมาไม่ห่างคงเป็นพี่ชายนางเรียกมา ฮุ่ยเจียงเดินมาหยุดที่ต้นท้อหลวงต้นใหญ่ที่นางหมั่นดูแลรักษาและบำรุงอย่างดี นางก็ได้ยินเสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังก่อนที่นางจะหันกลับมาก็เห็นเขายืนอยู่ไม่ไกล

เหตุใดน้ำเสียงของเขาช่างคุ้นหูนัก ทำไมทุกอย่างที่เป็นเขาช่างคุ้นเคยไปหมด นางช้อนสายตามองบุรุษตรงหน้าด้วยความสงสัยแต่พวกเราเพิ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 16 นางในดวงใจ 1.2

    "สหาย เหตุใดเจ้าพูดเช่นนี้ เจ้าหวงน้องสาวเกินไปแล้ว เจียงเอ๋อร์เจ้าจำได้หรือไม่ยามเมื่อครั้งยังเด็ก ข้าฝากต้นไม้ต้นหนึ่งให้เจ้าดูแลไหนเจ้าพาข้าไปดูหน่อย ตอนนี้มันใหญ่โตขนาดไหนแล้ว" สวีเสวียนหนานตัดความรำคาญเลยชิงพูดทำให้ฮุ่ยเหอทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่มองตามหลังสหายกับน้องสาวไปเพียงเท่านั้น เจ้านี่มันจริง ๆ เลยนะเหตุใดถึงหลงใหลน้องสาวข้าถึงเพียงนี้ เฮ้อ!สงสัยข้าจะห้ามเจ้าไม่ได้ใส่กระมัง เอาเป็นว่าข้าไม่ห้ามเจ้าก็ได้ แต่เจ้าก็พยายามเข้าก็แล้วกัน ฮุ่ยเหอพูดตามหลังก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้านี่จะฝังใจกับน้องสาวเขาถึงเพียงนี้ทางด้านฮุ่ยเจียง นางเดินนำสวีเสวียนหนานมาด้วยความประหม่าไม่น้อย นางรู้ถึงสายตาร้อนแรงที่มองตามหลัง ทำให้นางทำตัวไม่ถูกแต่ยังดีที่สาวใช้ยังเดินตามมาไม่ห่างคงเป็นพี่ชายนางเรียกมา ฮุ่ยเจียงเดินมาหยุดที่ต้นท้อหลวงต้นใหญ่ที่นางหมั่นดูแลรักษาและบำรุงอย่างดี นางก็ได้ยินเสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลังก่อนที่นางจะหันกลับมาก็เห็นเขายืนอยู่ไม่ไกลเหตุใดน้ำเสียงของเขาช่างคุ้นหูนัก ทำไมทุกอย่างที่เป็นเขาช่างคุ้นเคยไปหมด นางช้อนสายตามองบุรุษตรงหน้าด้วยความสงสัยแต่พวกเราเพิ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 15 นางในดวงใจ 1.1

    ฮุ่ยเจียงที่ได้เห็นบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ถึงกับตะลึง ดวงตาของนางจับจ้องไปที่เขาอย่างไม่วางตา บุรุษร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม เขายืนด้วยท่วงท่าที่สง่างามและเต็มไปด้วยอำนาจ ทั้งยังให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เมื่อนางสบตาคู่นั้นนางจำได้ทันทีว่าเขาคือคนที่นางเห็นเมื่อวานนี้ ที่ทำให้หัวใจของนางเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมา ไม่น่าเชื่อว่าเขาคือสหายของพี่ชายที่เข้ามาเที่ยวเล่นในจวนเมื่อครั้งยังเด็ก และตอนนั้นนางก็ตามติดเขาแจ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนาน แต่ความหล่อเหลาของเขาก็ยังคงอยู่และดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วยการที่เขาเติบโต ความรู้สึกขัดเขินปะทุขึ้นในใจของนาง ใบหน้างามแดงระเรื่อพยายามหลบสายตาแต่ก็ไม่สามารถถอนสายตาจากออกจากเขาได้ ใครใช้ให้เขาโตมาหล่อเหลาขนาดนี้กันนางจำได้ถึงครั้งที่ยังเด็กยามที่ท่านอ๋องผู้นี้แวะเวียนเข้ามาในยังจวนบ่อยครั้งราวกับเป็นบ้านตัวเองแถมยังมาเล่นกับนางอยู่บ่อย ๆ และยังชอบนำขนมในวังมาฝากนางด้วย แต่เพราะท่านอ๋องต้องเดินทางไปร่ำเรียนยังที่ห่างไกล เหมือนตอนนั้นนางจะร้องไห้ด้วยนะ ที่รู้ว่าเขาจะไม่มาเล่นที่จวนอีก และจากนั้นนางก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ความทรงจำในวัยเยาว์ผุดขึ้

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 14 ครอบครัวพร้อมหน้า 1.3

    "เจ้านี่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้หรือหาเรื่องให้ข้า พวกท่านก็อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเจียงเอ๋อร์เลยนะขอรับ ข้ายังไม่อยากได้ภรรยาตอนนี้" ฮุ่ยเหอรีบปฏิเสธก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะของน้องสาวทำให้รู้ว่าโดนนางแกล้งเอาเสียแล้ว ฮุ่ยเจียงยิ้มกว้างหลังจากที่ได้แกล้งพี่ชายแล้วหันมาคีบอาหารให้พี่ชายอย่างเอาใจ"พี่ใหญ่เนื้อทอดที่ท่านชอบข้าหมักเองกับมือเลยนะเจ้าคะ" ฮุ่ยเจียงคีบอาหารให้พี่ชายด้วยท่าทางอ่อนช้อยถึงนางจะกระโดกกระเดกไปบ้างแต่ก็พึงรักษามารยาทได้ดีในยามที่อยู่ด้านนอกก็ไม่เคยทำให้ครอบครัวเสียหน้าเลยสักครั้งฮุ่ยเหอมองเนื้อในถ้วยด้วยสีหน้าหวาดหวั่น "เจียงเอ๋อร์เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าหมักเอง" เขาคีบเนื้อที่น้องสาวนำมาวางยกขึ้นยกพลางพิจารณาเนื้อชิ้นนั้นอย่างถี่ถ้วน"อย่าบอกนะว่าท่านแม่เป็นคนสอนให้ แล้วมันจะทานได้หรือไม่" เอ่ยถามด้วยใบหน้าสยดสยอง "พี่ใหญ่เหตุใดถึงทำหน้าแบบนั้นเล่าเนื้อหมักจานนี้ข้าได้รับการถ่ายทอดจากแม่รองนะเจ้าคะ พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลหากเป็นท่านแม่ท่านค่อยห่วง" ฮุ่ยเจียงเอ่ยเย้ามารดาทำเอาฮูหยินใหญ่หน้าแดง"เจ้าลูกคนนี้..มันน่าหยิกให้เนื้อเขียวเสียจริงเชียว""เอาเถอะ ทานข้าวกัน" ฮุ่ยหมิ่นพูดข

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 13 ครอบครัวพร้อมหน้า 1.2

    เขามองน้องสาวแล้วพูดขึ้น "ก็ดูเจ้าตอนนี้สิยังเด็กจริง ๆ นี่นาใครกันนะที่วิ่งแข่งกับน้อง ๆ มาหาข้าเมื่อกี้นี้แล้วตอนนี้เจ้าก็ยังกระโดดไปมาไม่หยุด" ฮุ่ยเจียงที่ได้ฟังก็ยิ้มแห้งแล้วแก้ตัวทันที"ก็ข้าคิดถึงพี่ใหญ่มากนี่นา แล้วที่นี่ก็ในจวนของเราจะมีผู้ใดมาเห็นกันเล่า ถ้าข้าออกไปพบปะผู้คนที่นอกจวน กิริยาของข้าอ่อนช้อยงดงามมาเลยนะเจ้าคะ การเดินของข้างดงามราวกับล่องลอยอยู่บนสายลม การพูดการจาราวกับเทพเซียนนุ่มนวลอ่อนหวานฟังละมุนหูยิ่งนัก" พูดจบก็ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากพี่ชายส่วนนางเองก็หัวเราะไม่ต่างกันเพราะที่พูดมานั้นล้วนตรงข้ามกับความจริงทุกอย่าง"เยี่ยงนั้นรึ!" ฮุ่ยเหอพูดพร้อมส่งเสียงหัวเราะดังลั่น ก็ใครใช้ให้นางกล่าวได้ตลกถึงเพียงนี้"โธ่ท่านพี่ก็ ข้าไม่พูดด้วยแล้วไปเถอะ ท่านแม่กับท่านแม่รองชะเง้อคอรอคอยท่านกันใหญ่แล้ว"ฮุ่ยเหอผลักหัวน้องสาวโยกไปมาด้วยความเอ็นดู "ก็ใครใช้ให้เจ้ามัวชวนข้าคุย"เด็กสาวส่งค้อนให้พี่ชาย "เหตุใดพี่ใหญ่ถึงเอาแต่ว่าข้าเล่าก็ท่านเองไม่ใช่หรือที่พูดต่อล้อต่อเถียงกับข้าอยู่แบบนี้" ฮุ่ยเจียงเถียงทันใดจนได้รับนิ้วมือที่เคาะมาที่หน้าผากจนเกิดเสียงดัง"โอ๊ย! พี่ใหญ่ข้าเ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 12 ครอบครัวพร้อมหน้า 1.1

    "จริงหรือเสด็จแม่" สวีเสวียนหนานพูดขึ้นด้วยความดีใจใบหน้าระรื่นคลายความหม่นหมองลงทันตา"เชื่อข้าสิ แต่เรื่องของท่านราชครูนั้นไม่น่ากลัวอย่างที่เจ้าคิด เจ้าลืมไปแล้วหรือ คนที่เจ้าจะเอาใจและทำคะแนนนั้นไม่ใช่ท่านราชครูแต่อย่างใด ในเมื่อเจ้ายังไม่เคยพบกับบุตรสาวท่านราชครูเลยตั้งแต่ตอนที่เจ้าจากไปคราวนั้น แล้วเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางจะยินยอมที่จะตบแต่งเป็นพระชายาของเจ้า ป่านนี้เด็กน้อยคงลืมเลือนเจ้าไปแล้วกระมัง" สนมกุ้ยเฟยเอ่ยเตือนเพราะคิดว่าบุตรชายยังไม่เคยเจอลูกสาวท่านราชครูในยามที่เด็กคนนั้นเติบโตเลยสักครั้งเดียวนอกจากตอนเป็นเด็กสวีเสวียนหนานที่ได้ยินมารดาพูดก็เพียงจุดยิ้มที่มุมปาก ไม่อาจบอกความจริงได้ว่า เขาได้พบกันนางชาติหนึ่งแล้ว ถึงจะเป็นเพียงการแอบมองอยู่ห่าง ๆ ก็ตาม ส่วนในชาตินี้เขายิ่งบอกไม่ได้ใหญ่เลยว่า ได้ตามติดบุตรสาวท่านราชครูมาตั้งแต่ตอนที่เขาย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง"แต่เสด็จแม่ลูกขอร้องท่านเรื่องหนึ่งได้หรือไม่" เจากุ้ยเฟยที่ได้ยินน้ำเสียงจริงจังของโอรสก็ตรัสถามด้วยความห่วงใย "มีเรื่องอันใดให้ข้าช่วยรึ" "เสด็จแม่ ตอนนี้แคว้นเราสงบสุขยิ่งนัก ลูกคงไม่ได้ออกไปทำสงครามอีกนานแ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้คลั่งรัก   บทที่ 11 รอรับพี่ใหญ่ 1.4

    "ลูกศิษย์ขอคารวะท่านอาจารย์ขอรับ" สวีเสวียนหนานค้อมกายด้วยท่าทางสง่างามสมกับเป็นโอรสฮ่องเต้ ท่านราชครูประสานมือรับการคารวะ ฮุ่ยเหอเองก็ทำความเคารพท่านอ๋องตามมารยาทที่ควรกระทำเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์ แต่อันที่จริงแล้วทั้งสวีเสวียนหนานและฮุ่ยเหอนั้นเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แก้ผ้ากระโดดเล่นน้ำด้วยกันก็เคยมาแล้ว"ท่านราชครู ท่านแม่ทัพเชิญนั่งก่อน" น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยขึ้น พร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" ทั้งสองคนตอบพร้อมกันก่อนจะนั่งลง"พระสนมให้คนไปตามกระหม่อมมีเรื่องอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ" ท่านราชครูเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา"ไม่มีเรื่องอันใดหรอกท่านราชครู เพียงแค่ข้าต้องการตกรางวัลเป็นพิเศษแก่ฮุ่ยเหอเท่านั้น เขาสร้างความดีความชอบตั้งมากมาย ท่านเองก็ยังช่วยดูแลบุตรชายข้าเป็นอย่างดี หากไม่ได้ท่านสั่งสอนและฮุ่ยเหอช่วยดูแลป่านนี้ไม่รู้ว่าบุตรชายข้าคงไปสำเหร่เทเมาอยู่ที่ไหน" พระสนมกุ้ยเฟยกล่าวหยอกเย้าบุตรชายตัวเองทั้งที่ไม่ได้เป็นสิ่งแท้จริงแต่เพราะว่าบุตรชายไม่ค่อยได้มาหานางเลยเกิดอาการแง่งอนอยากเอาคืนบ้างก็เท่านั้น"เสด็จแม่เหตุใดถึงพูดเช่นนั้นกันเล่าลูกมิได้เป็นอย่างท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status